จวินเหยียนคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มขณะมองสตรีตรงหน้า พูดเรียบๆ “ถ้ายึดตามคำของเปิ่นหวาง แม้แต่คำว่า หนิงอ๋อง เ้าก็ไม่มีสิทธิ์เรียก” ประโยคนี้เขาพูดตรงๆ ด้วยท่าทีที่ราวกับเป็คำพูดธรรมดา
ถึงกระนั้นหลินหลานซินที่ได้ฟังก็ไม่แม้แต่จะโกรธ นางรู้อยู่ตลอดว่า เขาเป็คนจำพวกกระดูกกลืนยาก นางจึงไม่เคยคิดว่าเขาจะมีเมตตากับตนมากเท่าไร แต่หากรู้ว่า นางกุมความลับของเขาเอาไว้ในกำมือละก็ เขาย่อมต้องยอมอ่อนข้อให้แน่
ขอแค่นางได้บุรุษผู้นี้มาครอง และให้เขาได้ลิ้มลองความดีงามของตน อวิ๋นซีที่อายุมากแล้วนางนั้นก็ไม่นับเป็อะไรทั้งนั้น อย่างไรเสีย บุรุษก็เหมือนกันหมด ทุกคนล้วนชอบของใหม่ รังเกียจของเก่าดังเช่นบิดาของนางที่ฉากหน้าแสดงออกชัดว่า รักใคร่เพียงมารดา แต่ในความเป็จริง ด้านนอกนั่นเขามีสาวงามผู้รู้ใจอยู่ไม่น้อย
ต่อให้จวินเหยียนจะยึดมั่นในรักเพียงใด แต่เมื่อได้ลิ้มลองสตรีอื่นแล้ว นางก็ไม่เชื่อว่า เขาจะยังยึดมั่นในรักเดียวได้อยู่อีก
นางก้าวเข้าใกล้จวินเหยียน รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งกดลึกในทุกๆ ก้าวที่เหยียบย่าง “เช่นนั้นข้าก็จะไม่เรียกท่านว่าหนิงอ๋องแล้ว ให้พูดก็พูดเถอะ คำเรียกนี้มีคนเรียกท่านอยู่เยอะแล้ว ตัวข้านี้ไม่ได้อยากเรียกซ้ำกับใคร ข้าแค่้าจะเรียกท่านว่าจวินเหยียนเหมือนอวิ๋นซี หรือ หากให้ข้าพูดตรงไปตรงมากว่านี้หน่อยก็คือ เรียกท่านว่าสามี”
จวินเหยียนมองหลินหลานซินอย่างนึกสนุก สตรีที่หลินหรงเว่ยเลี้ยงดูผู้นี้ช่างมีจิตใจซับซ้อนจริงๆ แม้แต่ความลับที่ว่า ตัวเขาคือฉินเหยียน นางก็ยังรู้ ดูท่าเื่ราวเหล่านี้คงเป็เหมือนกับที่ภรรยาตัวน้อยของเขาพูด สองพ่อลูกคู่นี้ไม่ธรรมดา
“อันที่จริงตัวข้านี้ยังเรียกว่างามยิ่งกว่าอวิ๋นซีอยู่หลายส่วน สิ่งที่นางมี ตัวข้าเองก็มี สิ่งที่นางสามารถทำให้ท่านได้ ตัวข้าเองก็ทำได้เช่นกัน” ถึงแม้นางจะยังไม่ปักปิ่น แต่เรือนร่างยามนี้ก็ไม่ใช่สตรีทั่วไปจะสามารถเปรียบได้ ั้แ่ที่ได้พบเขาคราวนั้น นางก็คิดจะมอบกายที่ดูดีที่สุดแก่เขา ดังนั้น ปีกว่ามานี้นางต้องดื่มยาบำรุงร่างกายอยู่ตลอด แน่นอนว่า นางยังตั้งใจดื่มยาที่จะช่วยบำรุงให้กระต่ายน้อยของนางเติบโต
นางมองไปยังเขาด้วยดวงตาราวจิ้งจอกสาวที่ทำให้จวินเหยียนอดไม่ได้ให้ขมวดคิ้ว ในใจยิ่งสงสัย หลินหลานซินผู้นี้ถึงกับรู้เคล็ดวิชายั่วยวนนี้ด้วย
หากไม่ใช่เพราะเขาจิตใจหนักแน่นกล้าแข็ง ไม่แน่ว่า อาจถูกนางทำให้ลุ่มหลงไปแล้วก็เป็ได้ ถึงกระนั้นเขาก็อยากจะดูเสียหน่อยว่า สตรีนางนี้จะพูดอะไรต่อ เขาได้แต่ปิดปากเงียบ ใช้วิชาตัวเบาเคลื่อนกายไปด้านหลังอย่างช้าๆ ก่อนจะหยุดลงบนหินก้อนใหญ่อย่างมั่นคง “เปิ่นหวางไม่ชอบให้ผู้อื่นเข้าใกล้มากเกินไป ดังนั้น เ้ามีเื่อันใดก็พูดออกมาตรงๆ เลยเถอะ”
หากไม่ใช่เพื่อการรับชมละครสนุกๆ และเพื่อรอฟังว่านางจะพูดอะไรต่อ เขาคงไม่อดทนอยู่ที่นี่หรอก และตามนิสัยของเขา ป่านนี้นางคงจะโดนเตะจนปลิวไปแล้ว
หลินหลานซินเห็นว่าเขาไม่ถูกเคล็ดวิชายั่วยวนของนางทำให้ลุ่มหลง แม้ในใจจะไม่พอใจ แต่ก็รู้ดีว่า เื่บางเื่เกินพอดีมากไปก็ไม่ดี นางมองเขา ในแววตามีความลุ่มหลงวาบผ่าน “พี่จวินเหยียน ข้าชอบท่านจริงๆ นับแต่ครั้งนั้นที่ไปหานโจวกับท่านพ่อ แม้ข้าจะได้เห็นท่านแค่ครู่เดียวด้วยกำลังรีบร้อนอยู่ แต่ตัวข้านี้ก็ตกหลุมรักท่านั้แ่แรกเห็น”
เมื่อพูดจบ นางก็เอื้อมมือไปแก้ผ้ารัดเอวของตนออก เพียงไม่นานกระต่ายน้อยสองตัวที่ถูกบีบรัดไว้ก็ะโโลดออกมา ทว่า ตอนที่จวินเหยียนเห็นว่า นางกำลังจะแก้ผ้ารัดเอวนั้นก็รีบปิดตาลงก่อนแล้วพร้อมๆ กับซัดฝ่ามือออกไปโดยแรงหนึ่งฝ่ามือ ทำให้หลินหลานซินที่ปล่อยกระต่ายน้อยทั้งสองออกมาถูกกำลังภายในของบุรุษซัดเข้าจนบินถลาออกไป
นางกระแทกเข้ากับต้นไม้ แล้วร่วงหล่นกระทบพื้นอย่างรุนแรง กระต่ายน้อยตัวโตทั้งสองถูกกดไว้กับพื้น สีหน้าซีดขาว นางมองไปยังบุรุษที่อยู่ไม่ไกลด้วยสายตาพร่ามัวเล็กน้อยในสภาพอเนจอนาถ “โอวหยางจวินเหยียน ท่านโเี้นัก ข้ารักท่านถึงเพียงนี้ แต่ท่านก็ยังทำกับข้าเช่นนี้ ท่านไม่กลัวหรือไรว่าข้าจะพูดเื่ที่ท่านเป็ผู้นำตระกูลฉินออกไปให้ผู้อื่นรับรู้ เื่ที่ตอนนี้เพียงยื่นมือเข้าใกล้ก็ร้อนลวกมือ [1] ”
จวินเหยียนหัวเราะหึหึอย่างเ็า “เ้าอยากพูดก็พูดไป”
“งั้นหรือ? ข้ารู้ เื่นี้ท่านไม่กลัว เพราะอย่างไรก็สามารถให้คนปลอมตัวได้ แต่ว่า ท่านไม่กลัวหรือว่าข้าจะเปิดโปงเื่ที่ท่านไม่ใช่พระโอรสของฮองเฮา ท่านควรต้องรู้ ตัวท่านเป็แค่สิ่งที่ฮองเฮานำมาใช้เพื่อให้ตำแหน่งของนางมั่นคงขึ้น และเพื่อแย่งชิงอำนาจก็เท่านั้น ท่านไม่ใช่โอรสแท้ๆ ของฝ่าาด้วยซ้ำ ด้วยเื่นี้ หากข้าแพร่งพรายออกไป ตัวท่านจะเป็เช่นไร ท่านน่าจะรู้ดี หากเื่นี้ถูกคนรู้เข้า ท่านจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร”
เมื่อจวินเหยียนได้ยิน ในสายตาปรากฏความดุร้ายขึ้นหลายส่วน แต่ในตอนที่เขาคิดจะลงมือ เงาร่างสีแดงร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากความมืดมิด และกว่าหลินหลานซินจะดึงสติกลับมาได้ก็ถูกอวิ๋นซีบีบคอกดไว้กับต้นไม้แล้ว นางมองอวิ๋นซีด้วยสายตาตกตะลึง สตรีผู้นี้มาั้แ่เมื่อไร? เหตุใดนางถึงได้ไม่รู้ตัวเลยสักนิด
อวิ๋นซีมองหลินหลานซินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเ็า สายตานี้ราวกับมองคนที่ตายแล้ว “นี่เ้าข่มขู่เขา? ” ผู้ชายของนางถูกคนอื่นข่มขู่ มิหนำซ้ำหญิงผู้นี้ก็ยังหน้าไม่อายถึงขนาดกล้าเปลื้องผ้ากลางป่าเขา
หลินหลานซินหัวเราะหึหึ “ญาติผู้พี่คนดีของข้า หากท่านคิดว่า สังหารข้าแล้วจะปิดปากคนได้ ท่านคิดผิดแล้วล่ะ หากข้าตายอยู่ที่นี่ วันพรุ่งนี้คนทั่วหล้าก็จะรู้ว่าหนิงอ๋องผู้ยิ่งใหญ่ตรงหน้าข้านี้ไม่ใช่โอรสของเสี้ยวเหวินตี้ เขาเป็แค่ลูกนอกคอกที่ไม่รู้ชัดว่าบิดาคือใคร”
อวิ๋นซีตบหน้าหลินหลานซินโดยแรง “เ้าวางใจเถิด เปิ่นเฟยจะไม่ทำกระทั่งสังหารเ้า แต่จะดูแลเ้าเป็อย่างดี” พูดจบ นางก็หยิบยาขวดหนึ่งออกมาจากข้างเอว ใช้ปากเปิดฝาออก จากนั้นจึงนำขวดนั้นไปวางไว้ข้างปากหลินหลานซิน บีบคางเด็กสาวไร้ยางอาย ก่อนจะเฝ้ามองสิ่งเล็กๆ ที่มีขนาดใหญ่เพียงเล็บมือค่อยๆ คลานเข้าไปในปาก แล้วรีบปิดปากคนในทันที รอจนอีกฝ่ายกลืนเ้าตัวน้อยนั่นลงไปถึงได้พูดขึ้นเรียบๆ “สิ่งนี้จะช่วยให้เ้าปิดปากได้อย่างดีแน่”
“เ้าให้ข้ากินสิ่งใด” หลินหลานซินถามด้วยความบ้าคลั่ง เป็ครั้งแรกที่นางนึกเสียใจภายหลังกับความมุทะลุของตนเอง หากวันนี้นางอดทนไว้ ไม่มารนหาที่เช่นนี้ หากตนไม่พูดเื่เหล่านี้ออกมา เื่ราวก็คงไม่พลิกผันอย่างยากจะควบคุมใช่หรือไม่
อวิ๋นซียิ้มเ็า สายตามีแววกระหายเืและเย็นเยียบ “แน่นอนว่าต้องเป็สิ่งที่จะช่วยให้เ้าเป็เด็กดีที่แสนเชื่องเชื่อ หากเปิ่นเฟยรู้ว่า ภายนอกมีเื่ที่เปิ่นเฟยไม่ชอบฟังลือออกมาแม้แต่ประโยคเดียว เปิ่นเฟยก็จะให้เ้าอยู่ไม่สู้ตาย”
ผู้หญิงเยี่ยงหลินหลานซินย่อมต้องรักชีวิตของตัวเองมากแน่ ดังนั้นเพื่อรักษาชีวิต ไม่ว่าจะทำเื่ใดนับแต่นี้คงต้องระวังแล้วระวังอีก
หลังจากให้หลินหลานซินกลืนเ้าตัวน้อยนั่นลงไปแล้ว อวิ๋นซีก็โยนคนทิ้งไปทางหนึ่ง นางไม่แม้แต่จะมองบุรุษที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองนางอยู่แม้แต่นิด และไปจากที่นี่เดี๋ยวนั้น
ก่อนจากไปนางยังหันมองหลินหลานซิน “จริงสิ เ้าตัวน้อยนี้เป็สิ่งมหัศจรรย์ที่เปิ่นเฟยใช้เวลาเลี้ยงดูมาตั้งสามปีด้วยแมลงพิษนับร้อยเชียวนะ นอกเสียจากเป็เปิ่นเฟยที่กำจัดมันให้เ้าด้วยตนเอง หากเ้ายังฝืนดึงดันให้ผู้อื่นช่วยจัดการให้ละก็ เมื่อถึงตอนนั้น หากเ้าทำให้ชีวิตตนต้องเข้าไปเสี่ยงอันตรายก็อย่าได้มากล่าวโทษเปิ่นเฟยก็แล้วกัน” กู่ที่นางเลี้ยงมาเองกับมือไม่ใช่คนธรรมดาจะแก้ได้
จวินเหยียนเห็นว่าอวิ๋นซีเดินไปแล้วก็รีบตามไปติดๆ เมื่อเดินไปถึงข้างกายนางก็คิดจะโอบบ่าไว้ แต่นางกลับหลบเลี่ยงเสียได้ อวิ๋นซีมองจวินเหยียน พูดเรียบๆ ไม่กี่คำ “ไสหัวไป”
เ้าสารเลวนี่อาศัยจังหวะที่นางหลับอยู่หนีออกมาพบหลินหลานซินผู้มีเป้าหมายซุกซ่อนอย่างลับๆ น่าตายนัก หลินหลานซินผู้นั้นยังเปลือยกายให้เขาดูด้วย
————————————————————————————————
เชิงอรรถ
[1] เพียงยื่นมือเข้าใกล้ก็ร้อนลวกมือ(炙手可热)อุปมาว่ามีอำนาจบารมีมาก