วันต่อมาหิมะก็ดูเหมือนว่าจะยังตกไม่หยุดหลี่เซวียนขังลู่ลู่เอาไว้ในกรงตามคำแนะนำของข้อความในกระดาษ ในตอนนี้เขาอยากจะรู้ว่าคนที่เขียนข้อความในกระดาษคนนั้นเป็ใคร
สามวันต่อมาหิมะได้หยุดลงหลี่เซวียนปล่อยลู่ลู่ ออกมาจากกรง มันกระพือปีกทำท่าทางเหมือนจะรีบไปที่ไหนสักแห่งแต่หลี่เซวียนหยุดมันเอาไว้ก่อน เขาเขียนข้อความบางอย่างลงในกระดาษแล้วผูกไว้ที่ขาของมันก่อนที่จะปล่อยมันไป
ลู่ลู่ไม่ได้มาที่ห้องของเสิ่นเยว่สามวันแล้วนางเอาแต่คอยมองไปที่หน้าต่างว่าเมื่อไหร่เ้านกน้อยจะกลับมา วันนี้หิมะหยุดตกมันจะต้องมาแน่ๆ เสิ่นเยว่รู้สึกเหงาและคิดถึงมันมาก เสียงกระพือปีกเบาๆ ดังขึ้นที่หน้าต่างดึงดูดความสนใจของนางทันที นางรีบลุกขึ้นไปดูและเห็นว่าเป็เ้านกน้อยที่นางรออยู่ทุกวันเสิ่นเยว่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“ แกกลับมาแล้วเ้านกน้อย หายไปเสียหลายวันเป็อย่างไรบ้างสบายดีหรือไม่ ชิงจู๋รีบเอาขนมมาให้เ้านกน้อยเร็ว”
ชิงจู๋รีบทำตามคำสั่งของเสิ่นเยว่ทันที คุณหนูของนางมีท่าทางเหงาหงอยหลังจากที่ไม่เห็นเ้านกน้อย วันนี้เ้านกน้อยกลับมาแล้วชิงจู๋ดีใจ คุณหนูของนางจะกลับมาร่าเริงอีกครั้ง เสิ่นเยว่สังเกตุเห็นกระดาษที่ผูกมาที่ขาของเ้านกน้อยนางแกะมันออกแล้วอ่านดู
ขอบคุณที่ดูแล ลู่ลู่ หวังว่ามันจะไม่ทำให้ท่านต้องลำบาก
เสิ่นเยว่ มองข้อความในกระดาษแผ่นนั้นแล้วหันไปมองเ้านกน้อยที่กำลังกินขนมที่ชิงจู๋เอามาวางไว้ให้มัน ข้อความนั้นเขียนได้งดงามและดู ทรงพลังดูแล้วท่าทางเ้าของลู่ลู่จะเป็บุรุษ เสิ่นเยว่มองลู่ลู่ที่กำลังกินขนมอยู่
“ เ้านายของแกเป็ใครกันนะลู่ลู่”
หลังจากวันนั้นเสิ่นเยว่ก็เขียนข้อความฝากลู่ลู่ไปทุกวัน บางครั้งนางก็เขียนเป็ข้อความธรรมดาคุยเื่ธรรมดาทั่วไป บางครั้งก็เขียนเป็กวีหรือบทกลอน นางอยากจะทดสอบว่าคนที่คุยกับนางอยู่ตอนนี้เป็คนลักษณะเช่นไร ทุกครั้งเขาจะสามารถตอบนางกลับมาเหมือนกับที่นางส่งข้อความหาเขา
เช่นนางส่งข้อความเป็บทกวีไปข้อความที่เขาตอบกลับมาก็จะเป็บทกวีเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนเขียนจดหมายหากันเช่นนี้อยู่หลายเดือนจนกระทั่งเสิ่นเยว่ได้รู้ว่า ตนเองกำลังจะต้องแต่งงานกับบุรุษที่นางไม่เคยเห็นหน้าและอีกอย่างนางพึ่งจะรู้ว่าตนเองมีคู่หมั้นก็วันนี้
เสิ่นเยว่ ้าจะปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้แต่นางจะทำอย่างไรได้เมื่อท่านแม่ของนางเป็ผู้จัดการทั้งหมด ใครเล่าในตระกูลเสิ่นจะกล้าแข็งข้อกับนาง สิ่งที่เสิ่นเยว่เสียใจที่สุดคือนางยังไม่เคยพบหน้าเพื่อนทางจดหมายของนางคนนั้น นางไม่กล้าเล่าเื่ที่นางกำลังจะแต่งงานให้เขาฟัง
หลายเดือนมานี้เสิ่ยเยว่ได้มีประสบการณ์มีเพื่อนทางจดหมายนางรู้สึกดีกับสหายคนนี้ที่ยังไม่เคยพบหน้า และดูเหมือนเขาก็ดูจะมีใจให้นางเช่นเดียวกัน ทุกครั้งที่ลู่ลู่ บินมาหานางที่ห้องเสิ่นเยว่อยากหนีออกไปจากที่นี่ตามลู่ลู่ไป เพื่อไปหาเขาคนนั้นคนที่นางยังไม่เคยพบหน้า
หลี่เซวียนก็มีอาการเช่นเดียวกันกับเสิ่นเยว่เมื่อเขารู้ว่าตนเองกำลังจะต้องแต่งงานกับสตรีที่เขาไม่เคยพบและนางยังเป็คู่หมั้นที่เขาพึ่งจะเคยได้ยินครั้งแรก
“ท่านแม่ ข้ายังไม่พร้อมที่จะแต่งงานในตอนนี้ ข้าอยากพุ่งความสนใจของข้าไปที่กองทัพเพียงอย่างเดียว”
หลี่ฮูหยินมารดาของหลี่เซวียนมองบุตรชายด้วยสีหน้าเอือมระอา
“เ้าแต่งงานก็ไม่ได้หมายความว่าเ้าจะต้องพานางไปที่ค่ายทหารด้วยซะหน่อย มีอันใดให้ต้องหนักใจท่านพ่อของเ้าแต่งงานกับข้าก็เอาแต่ขลุกอยู่ที่ชายแดน เ้าดูซิว่าตอนนี้ตระกูลหลี่มีทายาทกี่คน
ให้เขารับอนุก็เอาแต่บ่ายเบี่ยง เ้านี่มันลูกพ่อเสียจริงข้าเลี้ยงดูเ้ามาด้วยความยากลำบากแต่เ้ากลับมีนิสัยเหมือนพ่อของเ้าทุกประการ เช่นนี้จะไม่ให้ข้าหนักใจได้อย่างไร เเค่แต่งงานแล้วมีทายาทจากนั้นแม่จะไม่ยุ่งวุ่นวายกับชีวิตของเ้าอีก อยากไปกินนอนที่ค่ายทหารทั้งชีวิตก็ตามใจแต่ถึงอย่างไรเ้าก็ต้องแต่งงาน”
หลี่ฮูหยินรัวออกมาเป็ชุด เมื่อพูดเสร็จนางก็เดินเชิดหน้าออกจากเรือนของหลี่เซวียนไป ทิ้งให้เขายืนสติหลุดอยู่คนเดียวภายในห้อง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้