ในเมื่อเป็การลอบโจมตี ดังนั้นจำเป็ต้องว่องไวดุจสายลมและรวดเร็วดุจเปลวไฟ
ทันทีที่หลี่เสวียนเหวี่ยงหมัดวายุออกมา เฉินฮุยกำลังะโ และเหล่าศิษย์ของตำหนักไท่จี๋กำลังตื่นใ การโจมตีของเย่เฟิงก็ปรากฏขึ้นราวกับพายุคลั่ง พุ่งใส่ชายชุดขาวอย่างหลี่เสวียน
ศรฝังดวงดาวของหลงหว่านเอ๋อร์ราวกับดาวอุกกาบาตพุ่งใส่หลี่เสวียนราวกับอสนีบาต!
ด้วยระดับพลังยี่สิบห้าปี เธอสามารถใช้ศรฝังดวงดาวได้ชำนาญมากขึ้น แม้เป็เพียงศรที่ใช้เวลารวบรวมพลังไม่นาน แต่ความเร็วของมันก็เทียบได้กับปืนลำแสงสีฟ้าของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ อีกทั้งพลังของมันยังแข็งแกร่งกว่าหลายเท่าตัว
ด้านซูเมิ่งหานที่ระดับพลังยังไม่สามารถสร้างศรฝังดวงดาวขึ้นมา แต่ก็สามารถสร้างเปลวสุริยะได้ เป็ลูกไฟที่มีอุณหภูมิสูงอย่างยิ่ง แล้วใช้มันโจมตีหลี่เสวียน ลูกไฟของเธอเป็สิ่งที่ไม่อาจประมาณได้
นอกจากนี้ยังมีอีกคนที่ยังไม่เปิดเผยตัวตน นั่นก็คือจ้าวอี้เปย พลังิญญาระดับสิบปีแข็งแกร่งกว่าระดับพลังสิบปีของการฝึกวิถีเซียนอย่างมหาศาล
“อ๊าก”
จ้าวอี้เป้ยที่อยู่ในสภาวะไร้รูปร่างปรากฏบนหัวของหลี่เสวียน ก่อนที่ ‘เสียงนรกครวญ’ จะปรากฏออกมา!
นี่เป็เทคนิคหนึ่งของเคล็ดควบคุมิญญาที่ใช้การโจมตีด้วยเสียงและส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้คน หากคนขี้ขลาดสักหน่อยถูกใช้เทคนิคนี้เข้าก็จะทำให้หวาดระแวงและเสียขวัญและอาจกลายเป็คนปัญญาอ่อนได้ ซึ่งผลกระทบของมันแตกต่างกับคลื่นเสียงคุมิญญาซิวหลัวที่เย่เฟิงใช้อย่างสิ้นเชิง
คลื่นเสียงคุมิญญาซิวหลัวเป็การโจมตีจากภายนอกสู่ภายใน! ส่วนเสียงนรกครวญเป็การกระตุ้นความกลัวที่อยู่ในใจของผู้คน ส่งผลกระทบต่อจิตใจ ความหวาดกลัวที่ไม่สามารถเอาชนะได้ที่อยู่ในใจจะเผยออกมา
เมื่อสิ้นเสียง หลี่เสวียนที่มีความแข็งแกร่งของระดับวรยุทธ์เก้าสิบห้าปีตกอยู่ในอาการตะลึง ไม่รอให้เขามีปฏิกิริยาตอบสนอง จ้าวอี้เปยก็โจมตีใส่เขาอีกครั้ง
หอกกระดูกมวลพิษ!
นี่เป็อีกหนึ่งเทคนิคการโจมตีของเคล็ดควบคุมิญญาที่ผู้มีพลังิญญาระดับสิบปีสามารถใช้ได้ ทั้งยังต้องเค้นพลังทั้งหมดในการใช้มันออกมา เป็การรวมมวลพิษจากอากาศที่อยู่โดยรอบให้เป็หอกกระดูกอันแหลมคม ซึ่งสามารถเพิ่มความรุนแรงของอาการาเ็ภายในแก่อีกฝ่ายได้เป็สองเท่า!
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หากใช้หอกกระดูกมวลพิษนี้โจมตีกำแพง บางครั้งอาจไม่เห็นผลอะไร แต่หากใช้มันโจมตีสิ่งมีชีวิต พลังในการทะลุทะลวงของมันจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
มีสถานที่ใดไม่เคยมีมนุษย์ตายบ้าง? หอกกระดูกมวลพิษเป็การรวบรวมมวลพิษจากเศษซากกระดูกที่เคยล่องลอยตามอากาศ เป็พลังประหลาดอย่างหนึ่งที่มีเพียงในคนหรือสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้ว และนอกจากผู้ฝึกพลังิญญาก็ไม่มีใครสามารถใช้มันได้
หอกกระดูกสีเทาเข้ม ดิ่งลงจากฟากฟ้าราวกับโผล่ขึ้นมากลางอากาศพุ่งลงมาที่หัวของหลี่เสวียน ความเร็วระดับนี้ต่อให้เปลี่ยนเป็เย่เฟิงก็เกรงว่าจะโต้ตอบได้ไม่ทันกาล แต่หลี่เสวียนไม่เหมือนกัน
เขาเป็ผู้ฝึกวรยุทธ์ที่มีระดับพลังถึงเก้าสิบห้าปี ย่อมแข็งแกร่งกว่าฉีหลินจือที่เย่เฟิงเคยสังหารห้าถึงหกเท่า! สัญชาตญาณและความสามารถในการต่อสู้ของเขาเหนือชั้นกว่าหลงโม่หรานและฉีหลินจือมาก ขณะหอกกระดูกมวลพิษอยู่ห่างจากหลี่เสวียนเพียงหนึ่งนิ้ว ทันใดนั้นเสียงนรกครวญก็แผลงฤทธิ์ขึ้นมาอีกครั้ง
อึก! อ๊าก!
หลี่เสวียนกางมือออก วาดวงกลมที่หน้าอกของตนอย่างรวดเร็ว ฉับพลันคลื่นพลังภายในสีขาวก็ล้อมรอบตัวเขาไว้ กลายเป็โล่กำบังที่แข็งแกร่งกว่าของหลงโม่หรานและฉีหลินจือเสียอีก
พลังไทจี๋!
แน่นอนว่าผู้าุโของตำหนักไท่จี๋ย่อมใช้พลังไท่จี๋เป็เกราะกำบังได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะนี่เป็เคล็ดวิชาเลื่องชื่อของตำหนักไท่จี๋
หลี่เสวียนยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัว ก่อนฟาดลงมาอย่างรวดเร็ว พลังภายในอันแข็งแกร่งแผ่ออกจากผิวกายด้วยความดุดัน เตรียมพร้อมรับมือหอกกระดูกมวลพิษของจ้าวอี้เปย ศรฝังดวงดาวของหลงหว่านเอ๋อร์ และลูกไฟเปลวสุริยะของซูเมิ่งหาน คลื่นพลังภายในแผ่ออกไปเป็วงกว้าง รอบตัวหลี่เสวียนได้รับการป้องกันอย่างแ่า!
ไม่เพียงแต่จ้าวอี้เปยผู้ลอบโจมตีจะถูกคลื่นพลังผลักออกไป แม้แต่เฉินฮุยและศิษย์ตำหนักไท่จี๋คนอื่นๆ ก็ถูกคลื่นพลังสีขาวซัดปลิวไปไกล เหมือนว่าวที่ถูกตัดเชือกแล้วปลิวหายไป
หอกกระดูกมวลพิษ!
ด้านหลิงเฉินเองก็ใช้หอกกระดูกมวลพิษออกมาโจมตีหลี่เสวียนเช่นกัน ทว่ากลับถูกโล่กำบังของคลื่นพลังภายในสีขาวกลืนกินจนสลายหายไป ถึงอย่างนั้นเย่เฟิงก็ยังรู้สึกพอใจทั้งยังไม่เข้าใจ หลิงเฉินกล้าลงมือกับหลี่เสวียน สิ่งนี้ดูเหมือนไม่สมเหตุสมผลเกินไปหรือเปล่า? แน่นอนว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะคิดหาคำตอบ สิ่งสำคัญกว่าคือรีบกำจัดหลี่เสวียนทิ้งเสีย
พลังภายในของหลี่เสวียนแข็งแกร่งกว่าฉีหลินจือห้าถึงหกเท่า มันจะได้ผลหรือเปล่านะ?
เย่เฟิงเองก็ไม่รู้ แต่ไม่ว่าผลจะเป็อย่างไร เขาก็ต้องลองทำดูสักครั้ง ตอนนี้อานุภาพของรำกระบี่ไร้ตัวตนแข็งแกร่งกว่าตอนที่เขาใช้มันสังหารฉีหลินจือถึงสองเท่า ตอนนั้นเขาสามารถสังหารฉีหลินจือโดยที่ไม่ต้องเปลืองแรงมากนัก หวังว่าการสังการหลี่เสวียนในครั้งนี้จะเป็แบบนั้นเช่นกัน แม้หลี่เสวียนจะมีระดับวรยุทธ์ถึงเก้าสิบห้าปี แต่ความแข็งแกร่งยังเทียบราชันหั่วยวินเยาที่มีระดับพลังห้าสิบปีไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เย่เฟิงจึงมั่นใจมากว่าตนจะทำสำเร็จ
รำกระบี่ไร้ตัวตน!
นี่ต่างหากเป็สิ่งที่เย่เฟิงจะใช้สังหารเขาอย่างแท้จริง ขณะที่หลี่เสวียนกำลังวุ่นวายอยู่กับการรับมือคนอื่น ร่างของเย่เฟิงก็พลันหายไปเหลือเพียงความว่างเปล่า
กระบี่ที่หนึ่ง
ลำแสงสีเขียวของกระบี่ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า กระบี่แรกฟาดฟันโล่กำบังของหลี่เสวียน โล่จากพลังภายในถูกฟันจนยุบตัวลงไป ทว่าก็ยังไม่สามารถทำให้มันปริแตกได้
โล่พลังไท่จี๋มีความยืดหยุ่นสูง แม้ดูเหมือนถูกทำให้แตกหัก แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอันตรายกลับยิ่งยืดหยุ่นเพื่อให้คงสภาพต่อไปได้
กระบี่ที่สอง!
ลำแสงสีเขียวของกระบี่ปรากฏอีกครั้ง ห่างจากกระบี่แรกไม่ถึงหนึ่งวินาที ทั้งยังฟันลงตำแหน่งเดียวกัน
กระบี่เคลื่อนไหวรวดเร็วดุจสายฟ้า อีกทั้งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทำให้หลี่เสวียนแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา เขาไม่มีทางรู้เลยว่าตอนนี้เย่เฟิงกำลังใช้เคล็ดวิชาอะไรอยู่
ในโลกเทวะ กระบี่ไร้ตัวตนถือเป็สุดยอดเคล็ดวิชา นับประสาอะไรกับโลกนี้
ตอนนี้ร่างของเย่เฟิงอยู่อีกมิติหนึ่ง ไม่ว่าใครก็โจมตีเขาไม่ได้ มีเพียงชายหนุ่มเท่านั้นที่สามารถโจมตีใส่คนอื่นได้ ในเมื่ออยู่ในสภาวะปลอดภัยแล้ว เขาก็สามารถวางใจและโจมตีอีกฝ่ายได้อย่างดุเดือด
กระบี่ที่สาม กระบี่ที่สี่ กระบี่ที่ห้า!
เขาฟาดกระบี่เข้าใส่อย่างต่อเนื่องถึงสามกระบี่ ทั้งยังรวดเร็วดุจสายฟ้า ฟันโล่กำบังจนเป็หลุมลึกทั้งซ้ายขวา แต่โล่พลังภายในทั้งทนทานและแข็งแกร่งเกินไป แม้กระบี่จากแหวนกระบี่ัโบราณจะคมกริบ แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่ามันจะถูกทำลายลงง่ายๆ
เขาฟาดฟันกระบี่อีกห้าครั้ง มันดูราวกับห่าฝนกระหน่ำใส่โล่กำบังในตำแหน่งเดียวกัน ยิ่งฟาดฟันก็ยิ่งดุดันรวดเร็ว
ขณะที่ฟันกระบี่ครั้งที่สิบเอ็ด โล่กำบังของหลี่เสวียนก็หลงเหลือเพียงชั้นบางๆ รำกระบี่ไร้ตัวตนของเย่เฟิงมีขีดจำกัดอยู่ที่สิบสามครั้ง ตอนนี้เขาเหลือเพียงสองครั้งสุดท้าย
“สลายไปซะ!”
เย่เฟิงคำราม พร้อมกับฟาดกระบี่ที่สิบสองต่อเนื่องลงตำแหน่งเดิม ในที่สุดโล่ของหลี่เสวียนก็ไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป พลังภายในของเขาหมดลงพร้อมกับโล่กำบังถูกกระบี่ของเย่เฟิงทำลาย
“นี่มันอะไรกัน?!”
หลี่เสวียนไม่รู้เลยว่าลำแสงกระบี่ที่โจมตีเขานั้นมาจากไหน เขามองไม่เห็นแม้แต่เงาของเย่เฟิงเลยด้วยซ้ำ!
เมื่อเห็นว่ากระบี่ครั้งที่สิบสองทำลายโล่กำบังของเขาได้ ในใจหลี่เสวียนก็รู้สึกหวาดกลัว หากมีกระบี่ฟาดลงมาอีกเพียงครั้งเดียว เขาคงไม่อาจต้านทานมันได้และคงต้องตาย!
กระบี่ที่สิบสาม!
ในที่สุดเย่เฟิงก็ฟาดกระบี่สุดท้ายเพื่อสังหาร