ในที่สุดทั้งเถียนโหย่วเลี่ยง พ่อของเขา และพี่เถี่ยก็ถูกส่งต่อให้ชายหน้าบากจัดการ จากนิสัยของชายหน้าบาก หากทั้งสามคนไม่โดนฆ่าก็คงถูกทรมานด้วยการถลกหนัง
เย่เฟิงมองทั้งสามคนโดนลากออกไปอย่างไม่ใส่ใจมากนัก และนึกได้ว่าตัวเองไม่มีเงินติดตัวจึงหันไปถามชายหน้าบาก “จะว่าไปขอยืมเงินหน่อยได้ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายหน้าบากมึนงงเล็กน้อยพลางคิดในใจ ด้วยความสามารถของเย่เฟิง เขาจะไม่มีเงินติดตัวได้อย่างไร? แต่พอคิดได้เขาก็พยักหน้า “ตามผมมาสิครับ”
เย่เฟิงมองด้านหลังของอีกฝ่ายและคิดในใจว่าขอเงินแค่ไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น ทำไมถึงต้องให้ตามไปด้วย หลังจากคิดเื่นี้แล้วเดาว่าชายหน้าบากคงมีเื่อยากจะพูด จึงได้แต่เดินตามไป เหลือเพียงกลุ่มอันธพาลที่ยังตกตะลึงและแขกคนที่กระซิบกระซาบถึงเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
ในอนาคต พี่เถี่ยแห่งแก๊งอสรพิษ์ถูกปลด หลายคนจำรูปลักษณ์ของเย่เฟิงได้ ชายหนุ่มถูกระบุว่าเป็บุคคลอันตรายที่ไม่สามารถล่วงเกินได้โดยเด็ดขาด!
เย่เฟิงก็ไม่ถือสา
ไม่นานเขาก็เดินตามชายหน้าบากไปห้องที่ซ่อนอยู่ซึ่งเป็โกดังขนาดเล็ก แก๊งอสรพิษ์เป็หนึ่งในสามแก๊งมาเฟียใหญ่ที่มั่งคั่งที่สุดในเมืองเยี่ยนจิง โดยปกติห้องเก็บของเล็กนี้จะถูกใช้เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินเช่น้าค่าประกันตัวของสมาชิกแก๊ง
ชายหน้าบากเปิดประตูที่มี่กลไกซับซ้อนและพาเย่เฟิงเข้าไป ในห้องมีตู้เก็บของสิบตู้ฝังอยู่กับกำแพง เพียงดูผ่านๆ ก็เดาได้ว่าที่นี่เพิ่งถูกสร้างขึ้น ชายหน้าบากเดินไปหน้าตู้เซฟอย่างไม่ลังเลแล้วสแกนลายนิ้วมือพร้อมใส่รหัสผ่าน จากนั้นเปิดประตู สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเย่เฟิงคือตู้ที่อัดแน่นไปด้วยเงิน เขาประมาณคร่าวๆ ว่ามันมีถึงหนึ่งล้าน!
“พี่เย่ เท่านี้พอไหม?” เขาถาม เงินสดหนึ่งล้านเป็จำนวนไม่น้อย อย่างไรเย่เฟิงก็เอาไปไม่หมด เขาคิดว่าใเท่านี้น่าจะเพียงพอ
“อืม พอแล้วล่ะ” เย่เฟิงยังคงใจเย็นและหยิบเงินสองปึกอย่างลวกๆ จากนั้นเก็บเงินสองหมื่นไว้กับตัว ตอนนี้เขาไม่มีแหวนเก็บของ พกเงินสดจำนวนมากไม่ค่อยสะดวก
ชายหน้าบากเห็นดังนั้นก็ลอบพยักหน้า เย่เฟิงไม่ใช่คนธรรมดาแน่ แม้แต่ตายังไม่กะพริบเมื่อเห็นเงินมากขนาดนี้ หลังจากลอบสังเกตท่าทีของอีกฝ่าย ในที่สุดก็รวบรวมความกล้ากัดฟันกล่าว “ถ้าพี่เย่้ามากกว่านี้ก็ไม่มีปัญหา ขอแค่รับปากผมเพียงข้อเดียว”
“ข้อเสนออะไร” เย่เฟิงถามอย่างเฉยชา เขาคาดแล้วว่าอีกฝ่ายต้องคิดอะไรอยู่ในใจ ไม่เช่นนั้นคนเป็หัวหน้าแก๊งไม่ว่าจะกลัวตายแค่ไหนก็ไม่มีทางเชื่อฟังเขาง่ายๆ แบบนี้
“ช่วยสอนวรยุทธ์ให้ผมด้วยครับ!” ชายหน้าบากกล่าวอย่างหนักแน่นราวกับมีไฟลุกโชนในดวงตาของเขา
เย่เฟิงประหลาดใจกับคำขอของอีกฝ่าย สอนวรยุทธ์ให้เนี่ยนะ? หลังจากลังเลสักพัก เย่เฟิงไม่ได้ตอบรับแต่ถามกลับ “นายรู้เกี่ยวกับยุทธจักรมากเเค่ไหน”
เขาจำเป็ต้องทราบสถานการณ์และภาพโดยรวมของยุทธจักร
น่าเสียดายที่ชายหน้าบากไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย เขาเพียงพูดว่า “ไม่มากนัก แผลเป็บนหน้าผมเกิดจากผู้ฝึกวรยุทธ์ที่ใช้มีด…”
ขณะเล่าเหตุการณ์ ดวงตาของเขาแสดงชัดถึงความอิจฉาว่าตน้าฝึกวรยุทธ์มากแค่ไหน
……......
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เย่เฟิงออกจากคาสิโนเทียนหัวพร้อมกับเงินสองหมื่น เขาไม่รู้เกี่ยวกับยุทธจักรเพิ่มขึ้นนัก แต่เข้าใจความเร็วและความแข็งแกร่งของนักดาบจากปากของชายหน้าบาก
นักดาบผู้นั้นมีระดับพลังลมปราณประมาณสิบปี เพลงดาบยอดเยี่ยม ท่าร่างล้ำเลิศ!
ในตอนนั้นถ้าไม่มีลูกน้องช่วยปกป้อง ดาบนั่นคงปลิดชีวิตชายหน้าบากไปแล้ว ่ชั่วโมงเร่งด่วนตอนเย็น นักดาบฆ่าพวกเขาเพียงเพราะรำคาญ พอลงมือก็ฆ่าไปสิบกว่าคน หลังจากคืนนั้น แผลเป็ที่เกิดขึ้นทำให้เขาได้ฉายาว่า ‘ชายหน้าบาก’ และไม่มีใครจำชื่อจริงของเขาได้อีก
“ถ้าเจอนักดาบคนนั้น เราคงสู้ไม่ได้แน่ อีกอย่างศัตรูมีระดับพลังถึงสิบปี ถ้าตอนนี้มันยังมีชีวิตอยู่ล่ะก็ระดับพลังต้องเกือบถึงยี่สิบปี” เย่เฟิงระมัดระวังตัวกว่าเก่าเมื่อรู้แล้วว่าในโลกนี้ยังมีผู้ฝึกวรยุทธ์ที่มีฝีมือไม่ธรรมดาอยู่อีกมากมาย
หลังเย่เฟิงฟังที่อีกฝ่ายเล่าก็ตอบกลับไปว่าตราบใดที่ชายหน้าบากยังเชื่อฟัง เขาจะสอนวรยุทธ์ให้ ทำให้ชายหน้าบากดีใจมาก หลังจากผ่านไปกว่าสิบปี ในที่สุดโอกาสนี้ก็มาถึงข้าเสียที!
ก่อนจากไปเย่เฟิงสั่งให้เขาเตรียมเงินสามล้านให้ตนตอนเช้าพรุ่งนี้และรวบรวมวัตถุดิบยาจีนภายในครึ่งเดือน เตรียมพร้อมไปเมืองหลางฝางเพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้า
เมื่อชายหน้าบากรับปาก เย่เฟิงก็ให้เบอร์โทรศัพท์แล้วเดินจากไป
………...
เย่เฟิงกลับถึงบ้านในวิลล่าชิงเฟิงหลังจากพักผ่อนทั้งคืน พลังของเขาก็เต็มเปี่ยมอีกครั้ง เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น เขาบิดตัวพลางลุกจากเตียงเตรียมไปโรงเรียน
“เย่เฟิง นายรีบหน่อยสิ ไม่งั้นเดี๋ยวจะไปโรงเรียนสายนะ” เมื่อออกจากบ้านก็ได้ยินเสียงสดใสรื่นหู ซึ่งเป็เสียงของซูเมิ่งหานนั่นเอง
“ฉันไปสายแล้วเกี่ยวอะไรกับเธองั้นเหรอ?” เย่เฟิงพูดจาหยาบกระด้าง เขาเงยหน้าแล้วพบว่ารูปร่างของเธอภายใต้แสงพระอาทิตย์แสดงถึงความสวยและมีเสน่ห์เป็พิเศษ รอยยิ้มหวานของเธอทำให้เขาชะงักไปครู่หนึ่ง
ดอกไม้สีขาวที่ถูกพับอย่างสวยงามบนคอเสื้อของเธอ เรียวขาเนียนสวยใต้กระโปรงสีขาวยาวระดับเข่า ทำให้รูปร่างของเธอชัดเจนมากขึ้น ภายใต้แสงอาทิตย์นี้ ใบหน้ารูปไข่เต็มไปด้วยรอบยิ้ม เธอมีความสุขมากที่ได้เจอเย่เฟิง
“มาเถอะ ไปโรงเรียนด้วยกัน” เมื่อเห็นเขาตกตะลึง ซูเมิ่งหานรีบยื่นมือไปโบกตรงหน้าเขาสองครั้ง เธอแอบดีใจ ดูเหมือนฉันคนนี้ก็มีเสน่ห์ไม่เบาเลยทีเดียว
“ทำไมต้องไปด้วยกันล่ะ?” เย่เฟิงกลับมามีสติอีกครั้ง เขาไม่รู้ว่าเธอวางแผนชั่วร้ายอะไรอยู่ จึงโพล่งถามทื่อๆ
“พ่อของฉันไม่ยอมให้คนมารับฉัน เลยต้องไปกับนายนี่แหละ” ซูเมิ่งหานพูดหน้างอ “นี่ฉันรอนายตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วนะ”
หญิงสาวคิดในใจ ในที่สุดเย่เฟิงก็ยอมตกลงพาเธอไปเมืองหลางฝาง ่เวลานี้เธอจะต้องทำตัวดีกับเขาเพื่อไม่ให้เขาเสียใจ ไม่งั้นอีกฝ่ายอาจกลับคำพูดได้ ด้วยเหตุนี้เธอจึงตั้งใจยืนรอหน้าประตูบ้านของเย่เฟิงเพื่อรอให้เขาไปโรงเรียนพร้อมกับเธอ
“ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ไปกันได้แล้ว” เย่เฟิงส่ายหัวแล้วเดินไปทางออกของวิลล่าชิงเฟิง
“นายรอฉันด้วยสิ ทำไมต้องเดินเร็วขนาดนั้นด้วย?” ซูเมิ่งหานรีบวิ่งตาม เรือนร่างที่สวยงามและบริสุทธิ์ของเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์ ขณะเธอเดินผ่านประตูทางออก รปภ.หนุ่มแทบละสายตาจากเธอไม่ได้และน้ำลายเกือบไหลออกมา
เมื่อพวกเขาออกจากวิลล่าชิงเฟิงก็พบชายร่างกำยำสี่คนยืนอยู่ ทุกคนล้วนมีสัญลักษณ์งูขาวบนแขนเสื้อ แสดงถึงสัญลักษณ์ของเเก๊งอสรพิษ์ เมื่อพวกมันเห็นเย่เฟิงก็รีบเดินมาหา
“แย่แล้ว หนีกันเถอะ!” ซูเมิ่งหานเห็นพวกเขาเดินมาก็รู้สึกใจไม่ดี จึงรีบดึงแขนคนข้างตัวเพื่อพาเขาหนี เย่เฟิงมีเื่กับคนกลุ่มนี้หลายรอบแล้ว อันธพานสี่คนนี้ดูอย่างไรก็ไม่ควรมีเื่ด้วย ถ้าไม่รีบหนีไป พวกเธอต้องไม่รอดแน่!
“เธอจะกลัวทำไม?” แน่นอนว่าเป็ไปไม่ได้ที่ซูเมิ่งหานจะลากเขาวิ่งหนีไป แต่เมื่อเห็นเธอเป็ห่วงตนขนาดนี้ ใจของเขาก็สั่นไหวอีกครั้ง “ไม่ต้องห่วง คนพวกนั้นไม่ได้มาหาเื่เราหรอก”
ถึงเย่เฟิงจะพูดแบบนั้น แต่คิดหรือว่าซูเมิ่งหานจะเชื่อ เย่เฟิงมีเื่กับแก๊งนี้มาหลายครั้ง คนพวกนี้ไม่ทำให้เขาตายก็แปลก! ซ้ำยังมาเฝ้าตั้งเเต่เช้าอีก นอกจากมาหาเื่แล้วยังจะมีอะไรอีก
ขณะนี้ ซูเมิ่งหานกระวนกระวายสุดขีด เมื่อเธอเห็นว่าเย่เฟิงไม่มีท่าทีจะหลบหนีแม้แต่น้อย จึงได้แต่หลบอยู่ด้านหลัง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้