หนานกงเยวี่ยกำมือแน่นใต้แขนเสื้อ หากทำได้ นางจะต้องเข้าไปตบจ้าวอิ้งเสวี่ยอย่างแน่นอนทำให้นางรู้ว่า ''ลูกสาว'' ของ ''หนานกงเยวี่ย''ไม่อนุญาตให้ผู้ใดมาเอ่ยถึงเช่นนี้ทว่าฐานะของจ้าวอิ้งเสวี่ยกลับกดดันนางอย่างมาก
หนานกงเยวี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆและเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า "อีหลานของข้าดีที่สุดในบรรดาคุณหนูในเมืองชุ่นเทียนนางเพียงาเ็ที่มือ ทว่ามันเป็แค่อุบัติเหตุ อธิบายอะไรไม่ได้มาก"
พวกนางอยากดูเื่ตลกอย่างนั้นหรือ? นางหนานกงเยวี่ยไม่มีทางยอมให้พวกนางได้ขบขันแน่!
“จริงหรือ? แผลที่มือนี่จะเล็กหรือใหญ่ก็ไม่ควรประมาทสักนิด เช่นนั้นแผลเป็ก็จะตามมาหากมือพัง คนคนนั้นก็พังไม่ต่างจากมือ หึ ถึงตอนนั้นเกรงว่าคิดอยากจะไต่เต้าหาผู้ใดก็คงไต่เต้าไม่รอด” จ้าวอิ้งเสวี่ยหัวเราะเบาๆสายตามองทะลุผ่านผ้าคลุมหน้า จ้องตอบดวงตาของหนานกงเยวี่ย นึกถึงความคิดของอีหลาน ดวงตาก็ฉายแววดูถูกเหยียดหยาม
นางหนานกงเยวี่ยมิใช่ว่าปกป้องเหนียนเฉิงเท่าชีวิตหรอกหรือ? มิใช่ว่ามองเหนียนอีหลานเป็สมบัติหรอกหรือ?
นางอยากจะเห็นชีวิตและสมบัติของหนานกงเยวี่ยจะกลายมาเป็สิ่งที่น่าภาคภูมิใจของนางได้เยี่ยงไร!
จ้าวอิ้งเสวี่ยชะงักไปครู่หนึ่งในดวงตาฉายแววเย้ยหยันอย่างรุนแรง “มู่อ๋องเปี่ยวเกอของข้าไม่มีทางแต่งงานกับชายาที่พิการ”
"เ้า..."ดูเหมือนหนานกงเยวี่ยจะอดรนทนไม่ไหว ก้าวเดินไปตรงหน้าของจ้าวอิ้งเสวี่ย เงื้อมือจะตบลงบนหน้านาง
ทุกคนที่มองฉากนี้ ในใจต่างพากันตัวแน่นเกร็งถ้าหนานกงเยวี่ยลงมือกับท่านหญิงอิ้งเสวี่ยขึ้นมาจริงๆเกรงว่าเื่นี้จะกลายเป็เื่ใหญ่แน่...
เหนียนเย่าและฮูหยินผู้เฒ่าเหนียนก็ตระหนักได้ถึงจุดนี้เช่นกันฮูหยินผู้เฒ่าเหนียนยืนขึ้นด้วยความใส่วนเหนียนเย่าก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดยั้ง ทว่ามือที่กำลังจะคว้ามือหนานกงเยวี่ยกลับคว้าได้เพียงความว่างเปล่า
ได้ยินแค่เสียงดัง ''เพี๊ยะ'' อากาศราวกับหยุดนิ่ง ไม่เพียงแค่คนรอบข้างที่ตกตะลึงแม้แต่หนานกงเยวี่ยเองก็ตกตะลึงไปด้วย
"เ้า..."หนานกงเยวี่ยมองจ้าวอิ้งเสวี่ย นางหลบได้ชัดๆ แต่เหตุใดถึง...
เมื่อตระหนักอะไรบางอย่างได้ ร่างกายของหนานกงเยวี่ยก็สั่นสะท้าน จ้าวอิ้งเสวี่ย นาง...ตั้งใจ!
นางตั้งใจไม่หลบ...จ้าวอิ้งเสวี่ยจงใจกระตุ้นให้นางพลั้งมือตอนนี้...
แม้ว่านางจะเป็แม่สามี แม้จะได้รับการหนุนหลังจากตระกูลหนานกง ทว่าจ้าวอิ้งเสวี่ยท้ายที่สุดอย่างไรนางก็เป็ถึงท่านหญิงนางตบจ้าวอิ้งเสวี่ยเยี่ยงนี้ เกรงว่าจ้าวอิ้งเสวี่ยคงไม่ยอมปล่อยนางไปเช่นนี้แน่
"โง่เง่า!"
จ้าวอิ้งเสวี่ยยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เหนียนเย่าก็ะโขึ้นมาอย่างโกรธเคืองเมื่อตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของเื่นี้ หากจวนจิ้นอ๋องสอบสวนเื่นี้ละก็เกรงว่า...
“ท่านหญิง...” ผิงเอ๋อร์กลับมาได้สติทันทีเมื่อครู่เดิมทีนาง้าจะเข้าไปปกป้องท่านหญิง ทว่านางเองก็มาช้าไปก้าวหนึ่งยามนี้คุณหนูที่ถูกหนานกงเยวี่ยตบหน้า แน่นอนว่านางไม่อาจปล่อยไปได้ปรายตาจ้องหนานกงเยวี่ยอย่างดุร้าย “ตระกูลเหนียนรังแกคนเช่นนี้หรือ?”
"ท่านหญิง..."เหนียนเย่าร้องเรียกด้วยน้ำเสียงกังวล แต่ทันทีที่เขาเรียกจ้าวอิ้งเสวี่ยกลับหันหลังกลับไป เสียงแหบแห้งเอ่ยกับผิงเอ๋อร์ว่า"กลับเรือนหรูอี้"
"เ้าค่ะท่านหญิง" ผิงเอ๋อร์เข้ามาประคองจ้าวอิ้งเสวี่ยอย่างระมัดระวังทันทีทิ้งคนที่มึนงงไว้เื้ั ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
ทันทีที่ไปถึงประตูเสียงของจ้าวอิ้งเสวี่ยก็ดังขึ้นอีกครั้งอย่างแ่เบา...
"พรุ่งนี้ควรจะมีคนจากจวนจิ้นอ๋องมาส่งยาใช่หรือไม่?"
"เ้าค่ะท่านหญิง"
“วันนี้ท่านพ่อเข้าวังไปเล่นหมากล้อมกับฝ่าางานฉีเฉี่ยวเมื่อวาน ฝ่าาน่าจะทรงไม่มีเวลา ทว่าฉีเฉี่ยวก็ผ่านไปแล้วท่านพ่อจะต้องเข้าวังไปอีกหรือไม่?"
ผู้คนภายในห้องโถงอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านจนทั้งเ้านายและสาวใช้ลับหายไปจากสายตา ผ่านไปนาน ก็ยังไม่มีผู้ใดกลับมารู้สึกตัว
จ้าวอิ้งเสวี่ย นาง...หมายความว่าอย่างไร?
จิ้นอ๋องเข้าวังหลวงเพื่อไปเล่นหมากล้อมกับฝ่าา...เช่นนั้นเื่ที่หนานกงเยวี่ยตบนางหากถูกจวนจิ้นอ๋องรู้ เยี่ยงนั้นผลที่ตามมาก็...
ภัยคุกคาม!
จ้าวอิ้งเสวี่ยผู้นี้กำลังบอกหนานกงเยวี่ยทางอ้อมว่าที่ตบนี้นางไปเมื่อครู่นางไม่มีทางลืม!
"ดูเื่งามหน้าของเ้า"เหนียนเย่าะโด้วยความโกรธ หนานกงเยวี่ยผู้นี้กลายเป็คนโง่เขลามากขึ้นเรื่อยๆ"ท่านหญิงอิ้งเสวี่ย ใช่คนที่เ้าจะตบตีได้หรือไร"
ความคับข้องใจระหว่างตระกูลเหนียนและจวนจิ้นอ๋องนั้นมากพออยู่แล้วจะมีเื่ใดให้เลวร้ายไปกว่านี้อีก?
ร่างกายของหนานกงเยวี่ยสั่นสะท้าน ดวงตาเป็ประกายนางรู้ว่าตนหุนหันพลันแล่น แต่นางถูกเหนียนเย่าตำหนิต่อหน้าเหล่าอนุ ทว่านางยังคงเย่อหยิ่ง ไม่ยอมก้มหัวให้ผู้ใด“ทุกคนเป็พยาน เป็จ้าวอิ้งเสวี่ยที่ใส่ร้ายลูกสาวข้าก่อน..."
“ใส่ร้ายงั้นหรือ? สิ่งที่ท่านหญิงอิ้งเสวี่ยกล่าวคือเื่จริง…”อนุสี่สวีหว่านเอ๋อร์บ่นพึมพำ ทันทีที่เอ่ยจบ นางถูกหนานกงเยวี่ยจ้องมองเขม็งทำให้ไม่กล้าเอ่ยอะไรอีก
ความโกรธเกรี้ยวในใจหนานกงเยวี่ยปะทุมากขึ้นเรื่อยๆคนเหล่านี้ ทุกคนกำลังมองเื่ตลกของนางกับอีหลาน!
จุดเริ่มต้นของเื่ทั้งหมดและที่มันเป็แบบนี้ก็เพราะเหนียนยวี่!
"เ้าต้องไปขอโทษท่านหญิงอิ้งเสวี่ย" หลังจากเงียบไปนาน เหนียนเย่าก็กล่าวขึ้นมาอย่างเ็าน้ำเสียงเฉียบขาดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ขอโทษหรือ?
จะให้หนานกงเยวี่ยขอโทษผู้อื่นงั้นหรือ?
ไม่ใช่แค่เหล่าบรรดาอนุทว่าแม้กระทั่งฮูหยินผู้เฒ่าเหนียนเองก็รู้สึกว่าเป็ไปไม่ได้
หนานกงเยวี่ยเป็คนเย่อหยิ่งมาั้แ่ไหนแต่ไรจนติดเป็นิสัยไปแล้วนางจะเคยก้มหัวให้ผู้ใดได้อย่างไร?
เป็ไปตามที่คาด...
"ไม่มีทาง!" หนานกงเยวี่ยพ่นลมหายใจออกมาอย่างเ็า สูดลมหายใจลึกๆเฮือกหนึ่ง ปรับสภาพจิตใจให้มั่นคง ปราดตามองเหนียนเย่าแล้วก็ก้าวออกจากห้องโถงไปอย่างฉับไว
หนานกงเยวี่ยก้าวเดินอย่างรีบเร่งไปตลอดทางแทนที่จะกลับไปที่ห้องตนเอง นางกลับไปเยือนลานเซียนหลาน
ณ ลานเซียนหลาน เหนียนอีหลานกำลังร้องฮัมเพลง ดูคล้ายจะอารมณ์ดี
ทันทีที่หนานกงเยวี่ยเข้าไปในลานเรือนเห็นเพียงหญิงสาวในชุดสีฟ้ากำลังตัดแต่งกิ่งดอกไม้นางที่เดิมทีรู้สึกเก็บกดจนหายใจไม่ออก สีหน้าก็ยิ่งดูย่ำแย่ขึ้นก้าวเดินไปข้างหน้าและคว้ากรรไกรจากมือของเหนียนอีหลาน ะโออกมาอย่างรุนแรงว่า"เ้ารู้หรือไม่รู้กันแน่ว่ามือของตัวเองาเ็อยู่ ยังมาจับของมีคมพวกนี้อีกมือก็ยังมามีตำหนิ เป็เช่นนี้จะออกเรือนเป็พระชายามู่อ๋องได้หรือ!”
เมื่อคิดถึงคำพูดเมื่อครู่ของจ้าวอิ้งเสวี่ย หนานกงเยวี่ยก็ยิ่งอดกลั้นความโกรธเกรี้ยวของตนไม่ไหว
จะไปเป็พระชายามู่อ๋องได้อย่างไรงั้นหรือ? นึกอะไรบางอย่างได้ เหนียนอีหลานก็เหลือบมองหนานกงเยวี่ย ทว่ากลับไม่คิดสนใจ รอยยิ้มเบ่งบานพร่างพราวบนใบหน้า
"ท่านแม่หมอหลวงก็บอกแล้วว่ามือข้าแค่ดูแลรักษาให้ดีก็หาย ไม่มีอะไรหรอก อีกอย่างข้าไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเช่นนี้นานแล้ว จึงออกมาดูแลดอกไม้ในลานเสียหน่อย"
ั้แ่ที่กลับมาจวนเหนียนเมื่อวานนางก็รู้สึกสุขใจเหลือเกิน เมื่อคืนนี้ยังฝันเห็นท่านอ๋องมู่ด้วย
วันนี้ตื่นมาตอนฟ้าสางนางก็ไปที่ห้องของเหนียนยวี่ นางเห็นกับตาชัดๆ ว่าเหนียนยวี่เข้าไปในสวนร้อยสัตว์แล้วและนางยังเป็คนสั่งให้ฟางเหอปิดประตูสวนร้อยสัตว์ด้วยตัวเองยิ่งมั่นใจเลยว่าเหนียนยวี่จะไม่มีทางได้ออกมาอย่างแน่นอนทว่านางยังคงกังวลว่าเหนียนยวี่จะมาโผล่ตรงหน้าเหมือนเมื่อยามเช้าของเมื่อวานนี้
โชคดีที่ห้องของเหนียนยวี่ว่างเปล่าไร้ผู้ใดแล้วจริงๆจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา
ยามนี้เกรงว่านางคงถูกขังอยู่ในสวนร้อยสัตว์นั่นแล้วล่ะ!
หรือบางทีอาจจะตายไปแล้วก็ได้!
"เ้าเอาแต่ครุ่นคิดอะไรอยู่" หนานกงเยวี่ยเหลือบมองนางแล้วโยนกรรไกรทิ้งไป
"หึๆ ท่านแม่ อีหลานมีความสุขท่านไม่ดีใจหน่อยหรือ?" เหนียนอีหลานลูบมือหนานกงเยวี่ยอย่างใกล้ชิดสนิทสนมพินิจนางอย่างละเอียดด้วยความระมัดระวัง "ผู้ใดทำให้ท่านแม่ผู้งดงามของข้าไม่พอใจ"
เมื่อนึกถึงเื่ที่เกิดขึ้นในห้องโถงเมื่อครู่นี้หนานกงเยวี่ยก็ไม่มีอารมณ์กับการหยอกล้อของเหนียนอีหลาน และเอ่ยออกมาอย่างจริงจังว่า“ข้าถามเ้า เ้าสอนเหนียนยวี่บรรเลงฉินทำไม?”