เดิมทีพวกของซูอี้หรานคิดว่าคงเป็ผู้กล้าที่แข็งแกร่งอย่างมาก เพราะพวกเขานั้นมีด้วยกันสี่คน สองคนมีขอบเขตอมฤตขั้นที่สาม อีกสองคนมีขอบเขตอมฤตขั้นที่สองระดับสูงสุด คนที่มาอย่างน้อยก็น่าจะเป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สาม ถึงจะมีสิทธิมายืนอยู่ตรงนี้
แต่ว่าคนที่มายืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขาตอนนี้ ความสามารถยังไม่ถึงขอบเขตอมฤตขั้นที่สามเลย
เขาเป็แค่ชายหนุ่มคนหนึ่ง
แสงไฟสีส้มส่องบนใบหน้าของเขา เขาสวมชุดธรรมดา สายตามั่นใจ อกผายไหล่ผึ่ง เป็เหมือนตัวตลกในสายตาของทุกคน มันน่าตลกมาก
ชายหนุ่มคนนี้ พวกเขาทั้งสี่คนเคยเห็นหน้าทั้งหมดแล้ว เขาคือิอวี่!
ิอวี่กวาดสายตามองไปทุกคน และก็เห็นเิหยูเยียนที่เหลือแค่ผ้าพันหน้าอกอยู่ที่มุมหนึ่งของผนังถ้ำ เขาคิดเอาไว้ไม่ผิดเลย!
คราวนี้เขาเร่งตามมาจากซากปรักหักพังที่ทะเลทราย จากตำแหน่งที่หยกนำทางมายังใกล้บริเวณนี้นั้นมันผิดปกติ เพราะที่นี่ไม่มีใครเลย ไม่มีลมปราณของสิ่งมีชีวิตอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว เิหยูเยียนไม่มีทางมาเสียเวลาค้นหาสมบัติล้ำค่าอะไรที่นี่คนเดียวแน่
ถ้าอย่างนั้น การที่นางมาอยู่แถวนี้ได้ แสดงว่าจะต้องเจอใครจับตัวมาหรือว่ามีอันตรายอย่างอื่นแน่
ดังนั้น เขาจึงรีบตามหยกมาจนมาที่ถ้ำใต้ดินแห่งนี้ พอมาถึงที่นี่ เขารู้สึกดีใจมากที่เิหยูเยียนยังมีชีวิตอยู่ ิอวี่รู้สึกโชคดีมากกับการตัดสินใจออกมา “ตามหาเิหยูเยียน” ก่อนหน้านี้
ถ้าช้าอีกแค่นิดเดียว เิหยูเยียนจะต้องตกอยู่ในฝันร้ายไปชั่วชีวิตเลย
“เป็เ้าเองหรือ ... ”
เิหยูเยียนเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปที่ิอวี่ด้วยความตะลึง นางคิดไม่ถึงจริงๆ เลยว่าิอวี่จะปรากฏตัวขึ้นในเวลาคับขันแบบนี้!
ก่อนหน้านี้น้ำตาของนางก็ไหลอาบหน้าอยู่แล้ว ในเวลานี้เมื่อได้เห็นิอวี่ สิ่งแรกที่เิหยูเยียนรู้สึกนั้นคือซาบซึ้งใจ!
ั้แ่ต้นจนจบ ิอวี่ไม่เคยบอกเิหยูเยียนเลยว่าเขาจะมาช่วยนางในเวลาคับขันหรือว่ามีอันตราย เิหยูเยียนรู้ตัวทันทีเลยว่าสิ่งที่นางพูดกับเขาไปก่อนหน้านี้มันไร้สาระและเหลวไหลแค่ไหน
แต่ิอวี่ก็ยังเลือกที่จะมายืนอยู่ตรงนี้ ในสถานการณ์แบบนี้ ...
เดิมทีเิหยูเยียนก็ร้องไห้อยู่แล้ว ในเวลานี้น้ำตาของนางไหลหนักกว่าเดิม นางซาบซึ้งใจจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว หลายครั้งคำหวานของผู้ชายก็สู้การกระทำของเขาไม่ได้เลย และการกระทำของิอวี่มันเหนือกว่าคำหวานเ่าั้มาก มันะเืไปถึงจิตใจและจิติญญาของนางเลยทีเดียว!
แต่ว่าเิหยูเยียนก็ไม่ได้ซาบซึ้งใจนาน นางเริ่มขมวดคิ้วหนัก แล้วมองไปที่ิอวี่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความกังวล
“คิดไม่ถึงจริงๆ ิอวี่ ว่าเ้าจะเลือกมารนหาที่ตายเอง!”
อวี่ชงยิ้มแล้วเดินก้าวมาข้างหน้า สายตาของเขามองไปที่ิอวี่อย่างอาฆาตและจิตสังหารแรงกล้า!
ที่จริงก่อนหน้านี้ตอนที่รู้ว่าฟางหลิงจวินสั่งให้พวกเขามาฆ่าิอวี่ พวกเขาก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เพราะคิดว่าคดีฆ่าคนที่เกิดขึ้นในสายเลี่ยนเหยียนนั้นมันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับิอวี่
ิอวี่มีพร์แน่ แต่มันก็เป็พร์ที่สมเหตุสมผล ในสำนักเทพอัคคีใครบ้างไม่มีความสามารถ ิอวี่สามารถติดหนึ่งในสิบศึกหอคอยเลี่ยนถ่า มีผลงานไม่เลว แต่อยู่ท่ามกลางคนที่มีความสามารถกลุ่มใหญ่แล้ว ความสามารถของเขาก็ยังธรรมดาอยู่ดี
คนที่มีความสามารถต่ำกว่าเขา ฟางหลิงจวินกลับสั่งให้เขากับข่งหลินเฟิงมาจัดการ
ถึงแม้ฟางหลิงจวินจะเป็คนที่ขี้สงสัย และอวี่ชงก็รู้ว่าอาจารย์ของตนนั้นมีนิสัยอย่างไร แต่เขาก็ยังคิดว่าอาจารย์ดูถูกพวกเขาอยู่ดี ก็เลยรู้สึกไม่ค่อยพอใจ
และเมื่อสามวันก่อน ตอนที่เขากำลังจะฆ่าิอวี่เพื่อระบายอารมณ์ กลับมาเจอเิหยูเยียนก่อน
เดิมทีคิดว่าเขากับข่งหลินเฟิงจะสามารถจัดการเิหยูเยียนได้ แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนเดียวจะทำให้พวกเขาหนีหัวซุกหัวซุน อับอายเป็ที่สุด ในเวลานั้นอวี่ชงนั้นหัวเสียอย่างมาก!
ดังนั้น วันนี้อวี่ชงก็เลยหลอกเิหยูเยียนมาเพื่อระบายอารมณ์ที่นี่ ในสถานการณ์ที่ไม่มีใครรู้ ตอบสนองต่อความ้าอันชั่วร้ายของตัวเอง!
แต่ที่น่าเสียดายนั้นก็คือ เขายังไม่ทันได้ถอดเสื้อผ้าของเิหยูเยียนและเชยชมเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของนางเลย ก็ถูกิอวี่มาขัดเสียก่อน
อวี่ชงนั้นเห็นิอวี่ขัดหูขัดตาอยู่แล้ว ในเวลานี้เขาเลยยิ่งโกรธเป็ฟืนเป็ไฟกว่าเดิม!
ข่งหลินเฟิงเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน เขาปล่อยลมปราณออกมาเพื่อกดดันไปที่ิอวี่
ส่วนซูอี้หรานก็ยิ้มอย่างจนใจ ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าพวกอวี่ชงนั้นมีปัญหาอะไรกับิอวี่ แต่ตอนนี้ดูไปแล้ว เหมือนจะไม่จำเป็ต้องให้เขาต้องลงมือเลย หรือพูดอีกอย่างว่า เขาเองก็ไม่ได้อยากลงมือกับิอวี่ด้วยตัวเอง
“เ้ามีขอบเขตอมฤตขั้นที่สองแล้วหรือ?”
ในเวลานี้อวี่ชงก็พบว่า ในร่างกายของิอวี่นั้นเหมือนจะมีเทวะเพิ่มมาอีกหนึ่งดวง เขาตะลึงมาก แต่ไม่นานเขาก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “หากเ้าคิดว่าเป็แบบนี้แล้วจะสู้เราได้ ข้าก็ยอมรับในความฉลาดแล้วก็ความกล้าของเ้านะ”
“ทำไม เ้าคิดว่าเป็วีรบุรุษช่วยสาวงามมันมีเกียรติมากเลยใช่ไหม? มันก็ใช่อยู่นะ คนสวยๆ อย่างเิหยูเยียนจะทำให้เ้าคลั่งได้ก็ไม่แปลก”
ข่งหลินเฟิงเองใช้นิ้วชี้หน้าิอวี่แล้วพูดว่า “แต่เราจะทำลายพลังฝีมือของเ้า แล้วให้เ้าเห็นกับตาว่าเรานั้นข่มเหงเทพธิดาในใจของเ้าอย่างไร!”
ิอวี่เอียงคอ คำพูดพวกนั้นเขาได้ยินชัดเจนทุกคำ และจดจำในใจทุกคำเช่นกัน!
“ิอวี่ หนีไป! เ้าสู้พวกเขาไม่ได้หรอกนะ รีบหนีไป! หนีไปไกลเท่าไรยิ่งดี ... ” เิหยูเยียนะโขึ้นมาด้วยเสียงสะอื้น
เิหยูเยียนเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าิอวี่จะสามารถไปถึงขอบเขตอมฤตขั้นที่สอง หากิอวี่ยังมีขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งระดับสูงสุดเหมือนก่อนหน้านี้โอกาสจะชนะพวกอวี่ชงนั้นเท่ากับติดลบ ถ้าอย่างนั้นโอกาสชนะในเวลานี้ก็เท่ากับศูนย์
เิหยูเยียนรู้ดี เพราะนางมีพลังดวงตาเวทถึงสามารถวางแผนเอาชนะพวกเขาสองคนได้ภายในสามนาที พูดตามตรง อวี่ชงกับข่งหลินเฟิงนั้นแทบจะไม่ได้แสดงความสามารถออกมาเลย
หากเิหยูเยียนไม่มีดวงตาเวท แล้วอาศัยแค่ทักษะความสามารถของนางก็ไม่มีทางเอาชนะพวกเขาได้เหมือนกัน
เพราะผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สองสู้กับขอบเขตอมฤตขั้นที่สองระดับสูงสุดก็กินแรงมากอยู่แล้ว แล้วต้องสู้ถึงสองคนมันยิ่งยากกว่าเดิมอีก
ในสถานการณ์แบบนี้ จะต้องหาทางเล่นตุกติกเท่านั้น หากสู้ซึ่งหน้ามีแต่ตายกับตาย!
ถึงแม้มือซ้ายของข่งหลินเฟิงยังคงาเ็อยู่ แต่เขาก็ยังมีความสามารถเหลืออีกเจ็ดส่วน ส่วนอวี่ชงที่ฟื้นตัวเต็มกำลังแล้ว ิอวี่แทบไม่มีโอกาสชนะ
“ข้าไม่มีทางหนีไปโดยยังไม่ได้ทำอะไรแน่” ิอวี่มองไปที่เิหยูเยียนด้วยสายตาที่มั่นใจ
เิหยูเยียนร้องไห้และส่ายหน้า ในเวลานางไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรเพื่อแสดงความรู้สึกผิดและเสียใจของนาง นางทำได้แค่สะอื้นแล้วพูดง่ายๆ ออกมาหนึ่งประโยค
“ ... ขอโทษนะ ... ิอวี่ ... ข้าเป็คนทำร้ายเ้าเอง ... ”
ระหว่างที่พูดนางก็แทบคุมอารมณ์เสียใจไว้ไม่อยู่ น้ำตาไหลออกมาราวกับสายฝน
หากไม่ใช่เพราะนางเอาแต่ใจ ิอวี่จะมาตายไปพร้อมกับนางได้อย่างไร?
“ฮึฮึ ฟังพวกเ้าพูดจาลึกซึ้งแบบนี้ ข้ารู้สึกเห็นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเลย”
ข่งหลินเฟิงเอามือจับไปที่หน้าอกบริเวณหัวใจ แล้วก็ทำท่าทางเหมือนเ็ป แต่ปากกลับยิ้มหัวเราะแล้วมองไปที่อวี่ชง
อวี่ชงเองก็ตั้งใจทำท่าทางเหมือนเครียด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกวน “แต่ไม่รู้ทำไมข้าถึงได้รู้สึกตื่นเต้นจังเลย ข้าตัดสินใจแล้วว่า ข้าจะข่มเหงนางให้หนักกว่าดิม เ้าคิดว่าเราสองคนใช้ท่าไหนดีล่ะ? เหอะๆ ”
ทั้งสองคนรับส่งกันอย่างเข้าขา ตอนนี้พวกเขาเห็นิอวี่เหมือนเนื้อที่อยู่บนเขียง ก่อนที่ิอวี่จะตาย พวกเขาก็จะข่มเขงนางให้เขาได้เห็นและสะใจก่อนเพื่อเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขา
ิอวี่ยิ้ม กระบี่ปรากฏขึ้นในมือของเขาและชี้ไปที่หน้าของอวี่ชง แล้วพูดอย่างเรียบง่ายว่า
“ข้าขอแนะนำให้พวกเ้าเลือกวิธีการตายของตัวเองก่อนเลย อยากจะถูกตัดหัว แทงทะลุหัวใจ หรือว่าตัดเอวให้ขาดสองท่อนไปเลยดี?”
ถึงแม้น้ำเสียงของเขาจะดูอ่อนโยน แต่ก็อ่อนนอกแข็งใน แอบมีความคบกริบอยู่เล็กๆ !
“อวดดี!”
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของอวี่ชง เขาเองก็เอาดาบออกมา ลมปราณขอบเขตอมฤตขั้นที่สองพุ่งล้อมไปบนดาบและตะคอกไปว่า “ต่อให้ตอนนี้เ้าจะบีบหยกหนีเอาตัวรอด ข้าจะก็จะต้องฆ่าเ้าให้ตายได้ก่อนจะถึงสิบวินาที”
ระหว่างที่พูด ข่งหลินเฟิงเองก็เอาหอกของเขาชี้มาที่ิอวี่ จิตสังหารของเขาก็พลุ่งพล่านเช่นเดียวกัน!
“อย่างนั้นหรือ?”
ิอวี่ยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าแนะนำให้ท่านทั้งสองเอาหยกออกมาบีบให้แตกจะดีกว่า เพราะข้ากลัวว่าถ้าออกกระบี่เร็วเกินไป พวกท่านยังไม่เอาหยกออกมา ก็ถูกกระบี่ของข้า ... ฆ่าตายซะก่อน”
พูดจนถึงตอนสุดท้าย น้ำเสียงของิอวี่ก็ไม่อ่อนโยนแล้ว
คำว่า “ฆ่า” ออกมาจากปาก จิตกระบี่มันก็เริ่มพลุ่งพล่านขึ้นมา!
ในเวลานี้ิอวี่เปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่ได้นิ่งเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่ดูดุดันเหมือนกับเทพกระบี่มรณะ ดวงตาของเขานิ่งเรียบราวกับคมกระบี่ที่พุ่งแทงออกมาให้คนต้องล่าถอย!
นี่คือิอวี่ คนที่ดูเหมือนคนโง่ ตัวตลกที่ไม่เอาไหนอย่างนั้นหรือ?
อวี่ชงเหมือนจะอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้สติ ข่งหลินเฟิงนั้นพุ่งโจมตีเข้าใส่ิอวี่ในทันที หอกของเขาพุ่งตรงมาจากระยะห่างกว่าสิบเมตร ลมปราณอันแข็งแกร่งพุ่งสังหารออกมาอย่างรวดเร็วราวกับั!
แต่วินาทีนั้น ิอวี่เองก็ไม่ได้รอช้า เขาเหลือแค่เงาทิ้งเอาไว้ที่เดิม ส่วนร่างของเขาพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว กระบี่ในมือของเขาเต็มไปด้วยความเ็าและไร้ความปรานี
ไร้ความยินดี ไร้ความรัก ไร้ความสุข ไร้ความเศร้า ไร้ความกลัว ไร้ความชั่ว และไร้ความโกรธแค้น!
ออกกระบี่กระบวนท่าแรก เขาก็ใช้กระบี่เจ็ดมรณาเลย!
ข่งหลินเฟิงตะลึงมาก ทำไมเขาถึงััไม่เจอคมกระบี่เลยนะ เขาจึงพูดขึ้นมาว่า “เมฆาเดือดพุ่งแทง!”
เมฆาเดือดพุ่งแทง เป็ทักษะเสวียนระดับต้น!
หอกนั้นรวดเร็วมาก และยังมีอานุภาพที่รุนแรงพุ่งเข้าปะทะกับกระบี่ของิอวี่
แต่ในสายตาของเขานั้น กระบี่ของิอวี่มันขยายใหญ่ขึ้น และแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกได้ว่าลมปราณมหาศาลของิอวี่นั้นมันกำลังรวมตัวเล็กลง มันเหมือนเป็แค่แสงไฟดวงเล็กๆ ที่พุ่งแทงมา
“กระบี่เจ็ดมรณา สมาธิสังหาร!”
ปลายกระบี่กับปลายหอกปะทะกัน จนเกิดเสียงะเิของโลหะ ข่งหลินเฟิงรู้สึกว่าแขนขวาของเขานั้นมันมีกำลังมหาศาลพุ่งเข้าใส่ เขาพยายามใช้กำลังลมปราณในการต้าน แต่ก็พบว่าหอกยาวที่เหยียดตรงนั้นมันกำลังโค้งงอ
ไม่ ... ไม่นะ!
ข่งหลินเฟิงรู้สึกว่ากำลังบนแขนขวาของเขานั้นมันกำลังถดถอย เขาไม่สามารถต้านกระบี่ที่ิอวี่พุ่งแทงมาได้ เมื่อใช้กำลังไม่ได้ผล จิตใจก็เริ่มเกิดความหวาดกลัว หลังจากนั้นมือขวาของเขาก็เริ่มผ่อนกำลัง แล้วหอกยาวในมือของเขานั้นก็หลุดออกจากมือ
“จึก!”
วินาทีที่ิอวี่เข้าใกล้ กระบี่ก็แทงเข้าที่หน้าอกของข่งหลินเฟิงพอดี!
“เอ่อ ... ” ข่งหลินเฟิงตาโต สายตาตกตะลึงอย่างมาก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะแพ้เร็วขนาดนี้ แต่การเคลื่อนไหวของิอวี่ ... มันไม่ได้หยุดแค่นั้น
เขาไม่ได้ชักกระบี่ออกมาจากหน้าอก แต่ดันเข้าไปในร่างกายอย่างแรงอีก!
“เ้าจะทำอะไร!”
อวี่ชงที่อยู่ด้านหลังของข่งหลินเฟิงรู้สึกแข้งขาอ่อนไปหมด ิอวี่น่ากลัวเกินไปแล้ว! วินาทีที่พุ่งตัวสังหารเข้ามามันก็ทำให้จิตใจของเขานั้นะเืไปหมด เมื่อเห็นกระบี่ของิอวี่แทงเข้าหน้าอกของข่งหลินเฟิง เขาก็ตื่นตระหนกไปหมด ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
อวี่ชงปาดเหงื่อเม็ดใหญ่ที่ไหลออกมาจากหน้าผาก เขาถือดาบเอาไว้ในมือแล้วตะคอกว่า “ิอวี่เ้าไสหัวไปนะ!”
“จึก ... ”
เขายังไม่ได้ออกดาบ กระบี่ของิอวี่ที่แทงอยู่บนตัวของข่งหลินเฟิงก็ทะลุแทงไปที่หน้าอกของอวี่ชงด้วย กระบี่หวงฉวนแทงทะลุร่างกายของคนสองคน และตอกพวกเขาสองคนเอาไว้บนผนังหิน!
ั้แ่ต้นจนจบ เขาใช้ไปแค่กระบวนท่าเดียวเท่านั้น!
กระบวนท่าเดียวแทงทะลุ วิธีการเรียบง่ายมาก แต่ก็ดุดันรุนแรงมาก ทำให้คนใจสั่นไปหมด!
“รู้ไหมว่าทำไมข้าถึงไม่แทงทะลุหัวใจของพวกเ้า”
ิอวี่จ้องไปที่พวกของอวี่ชงที่เือาบและมีสีหน้าท่าทางหวาดกลัวที่ถูกกระบี่หวงฉวนแทงปักเอาไว้บนผนัง แล้วพูดออกมาทีละคำเหมือนมีดกรีดว่า “ข้าจะให้พวกเ้าได้เห็นเืของตัวเองนั้นไหลทีละหยด เห็นตัวเองถูกข้าปักเอาไว้บนผนังด้วยความอัปยศ แล้วนึกย้อนกลับไปถึงความโเี้ที่ข้าข่มเหงเ้าเมื่อครู่! นี่คือค่าตอบแทน ... ที่ข้ามอบให้กับพวกเ้า โทษฐานที่เ้ารังแกผู้หญิงอย่างหน้าไม่อาย”
พูดจบเขาก็ดึงกระบี่หวงฉวนออก เืที่บริเวณหน้าอกของอวี่ชงและข่งหลินเฟิงพุ่งกระฉูดออกมา!
ิอวี่หันหน้ากลับมา ใช้กระบี่ที่เปื้อนเืชี้ไปที่ชายหนุ่มหน้าตาดีที่อยู่อีกทางหนึ่ง!
