“เช่นนั้นก็จัดการดังนี้ลูกออกไปก็จะสั่งให้นายกองเฉินและองครักษ์จำนวนหนึ่งเข้ามาอยู่ในจวน ทางแจ้งนั้น เป็การให้พวกเขาเข้ามาดูแลความปลอดภัยแก่ทุกคนภายในจวนเนื่องจากอีกครึ่งเดือนจะเป็วันเกิดของท่านแม่ซึ่งเวลานั้นจะมีคนนอกเข้าออกจวนเป็จำนวนมาก
ส่วนในทางลับ พวกเขาก็จะแอบสืบหาเบาะแสเมื่อมีเื่งานวันเกิดมาอ้างหน้า คิดว่าพวกบ่าวในจวนก็จะไม่เกิดความสงสัย ถึงยามนั้นขอเพียงท่านแม่ทราบเื่นี้เอาไว้เป็พอแล้วขอรับก่อนจะหาพวกโจรพบ ขอให้ท่านแม่อย่าเอ่ยเื่นี้กับผู้ใดแม้แต่บ่าวชราที่คอยดูแลข้างกายเ่าั้ก็ห้ามแพร่งพรายแม้แต่น้อยขอรับ”
หั่วอี้กำหมัดแน่น เมื่อคิดว่าคนพวกนี้ถึงกับละโมบประสงค์ในความงามขององค์หญิงหากวันใดตกถึงมือเขา เขาจะฆ่าเวลากับพวกมันเช่นใดดีเขาจะไม่มีวันให้พวกมันตายอย่างง่ายดายเกินไปแต่จะให้พวกมันแม้จะร้องขอความตายก็ยังรู้สึกว่าเปล่าประโยชน์
“ท่านแม่ขอรับ ยังมีอีกเื่หนึ่งที่ลูกอยากหารือกับท่านแม่”เมื่อพูดธุระสำคัญจบ หั่วอี้ก็รู้สึกว่าจิตใจผ่อนคลายลงมาก จึงอยากเอ่ยเื่การจัดงานวันเกิดกับฮูหยินผู้เฒ่าต่อ
“อี้เอ๋อร์ยังมีเื่ใดอีก?” เมื่อครู่หั่วอี้เอ่ยเื่มีไส้ศึกอยู่ในจวนทำให้นางใจไม่ดีเอาเสียเลยนึกไม่ถึงว่าพวกโจรถึงขั้นเข้ามาแฝงตัวอยู่ในจวนแต่กลับไม่มีใครรู้เห็นใดๆ
ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้สนทนาเื่ทั่วไปกับหั่วอี้อย่างสงบเช่นนี้มานานแล้วเมื่อพูดเื่สาระสำคัญต่างๆ จบ ไม่บ่อยครั้งนักที่หั่วอี้จะอดทนนั่งคุยกับนางต่อเช่นในวันนี้นางย่อมรู้สึกยินดีเสียอย่างยิ่ง ความกังวลเมื่อครู่จึงลดน้อยลง
หั่วอี้มองรอยยิ้มบนใบหน้าฮูหยินผู้เฒ่าเขารำพึงอยู่ในใจว่าละอายใจนัก เขารู้ดีว่าฮูหยินผู้เฒ่าคิดถึงเขายิ่งแต่จนใจเหลือเกินที่เมื่อเกิดศึก ยามเขาไปก็ต้องไปเป็ปีครึ่งปีทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าต้องเป็ทุกข์คอยนับวันรออย่างจดจ่อ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสียงของหั่วอี้ก็ยิ่งเบาลงไปอีก “ท่านแม่ขอรับงานวันเกิดของท่านในปีนี้อยากให้จัดการอย่างไรขอรับ ท่านแม่มีความคิดใหม่ๆจะลองเปลี่ยนการจัดงานหรือไม่ขอรับ”
“อี้เอ๋อร์ จะพูดเื่นี้หรอกหรือ อี้เอ๋อร์อุตส่าห์มีน้ำใจแม่ก็อายุมากแล้ว ทั้งไม่ชอบออกไปข้างนอก มิสู้เชิญคณะงิ้วมาร้องแสดงในจวนสักท่อนสองท่อนเหมือนก่อนมาก็ไม่เลวแล้วจัดเหมือนปีก่อนๆ ก็พอ”
ฮูหยินผู้เฒ่ามองหั่วอี้ด้วยความรักเมตตาเขาเป็ชายในวัยผู้ใหญ่คนหนึ่งแต่ยังคงจดจำวันเกิดของนางได้ทุกปีนับเป็เื่ที่หาได้ยากจริงๆ ทุกปีล้วนมาขอความเห็นจากนาง อี้เอ๋อร์มีน้ำใจเช่นนี้นางก็พอใจมากแล้ว
“ใช่แล้ว อี้เอ๋อร์ปีนี้เ้าให้ใครเป็คนรับผิดชอบเื่งานวันเกิด?” ฮูหยินผู้เฒ่าจับจ้องยังหั่วอี้ด้วยดวงตาแวววาวดั่งประกายไฟเป็ท่าทีประหนึ่งว่าหากหั่วอี้พูดในสิ่งที่นางไม่อยากได้ยิน นางก็จะชักสีหน้า
หั่วอี้แอบยิ้มเจื่อนอยู่ในใจ องค์หญิงเป็คนงดงามน่ารักทั้งคนเหตุใดมารดาของเขาจึงไม่ชอบนางกัน? เื่นี้ทำให้เขาถูกบีบอยู่ระหว่างกลางหนักใจเป็ที่สุด
“ท่านแม่ ลูกคิดว่าทุกปีล้วนเป็จ้าวไฉ่เอ๋อร์จัดการนางย่อมคุ้นเคยกับอุปนิสัยของท่าน แม้ปีนี้ร่างกายนางจะไม่สะดวกนักความจริงก็ไม่จำเป็ต้องให้นางเป็คนลงมือเพื่อนางจะได้ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยแต่ลูกคิดว่าปีนี้ก็ยังมอบให้นางเป็คนจัดการเป็ดีไม่ทราบว่าท่านแม่มีความเห็นใดหรือไม่ขอรับ?”
ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้ารับน้อยๆหั่วอี้ตัดสินตามความประสงค์ของนางอย่างยิ่ง นางย่อมไม่พูดสิ่งใดอีก
หั่วอี้อยู่สนทนาเื่นานากับฮูหยินผู้เฒ่าอีกสักพักจึงขอตัวลากลับไป
สภาพอากาศในหลายวันมานี้เปลี่ยนแปลงไปต่างๆ นานาดั่งอารมณ์ของเด็กเล็กๆยามเที่ยงยังมีเมฆดำปกคลุมอยู่เลย เวลานี้กลับมีแดดสว่างสดใสแล้ว
ลมอุ่นโชยเข้ามา หั่วอี้ก็รู้สึกสบายใจตามไปด้วยเขาจัดการเื่ใหญ่ในจวนทั้งสองเื่เรียบร้อยแล้วยามเดินไปคล้ายรู้สึกว่าตัวเบานัก
เขาคิดว่าฮูหยินช่างเป็คนที่พูดจาง่ายดายจริงๆเรียกว่าเกินจากที่เขาคาดเอาไว้มากเดิมทีเขาคิดว่ายังต้องสิ้นเปลืองวาทศิลป์อีกหน่อยจึงจะสำเร็จเสียอีก นึกไม่ถึงว่าเพียงเอ่ยปากก็สำเร็จฮูหยินไม่ได้ทำให้เขาลำบากใจ กลับตอบรับเขาอย่างง่ายดาย
ตอนนี้ก็เหลือเพียงบอกกล่าวกับไฉ่เอ๋อร์สักคำเป็พอแล้วนึกถึงตรงนี้หั่วอี้จึงเร่งฝีเท้า เขาอยากกลับไปทานอาหารเย็นกับหลิ่วจิ้งแม้เมื่อครู่ดูไปแล้วคล้ายเขากำลังกระเซ้าหลิ่วจิ้งเล่นแต่ความจริงเขาเองก็หมายมั่นปั้นมือว่าคืนนี้จะได้ค้างคืนในห้องของหลิ่วจิ้ง
ดีชั่วอย่างไรเขาก็รับคนเข้ามาในจวนเกือบเดือนแล้ว หากยังไม่ได้ตัวก็คงไม่มีหน้าไปพบเจอผู้คนเมื่อนึกถึงภาพตนถูกอาเหมิ่งต๋าหัวเราะเยาะ เขาก็บันดาลโทสะขึ้นมาเขาไม่คิดจะรอต่อไปอีกแล้ว
ทุกครั้งที่เขาไปที่เรือนของสตรีเ่าั้สตรีทุกคนล้วนมีท่าทีดีอกดีใจวันนี้เขาไม่ได้มอบหมายเื่การจัดงานวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าแก่องค์หญิงองค์หญิงคงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจกระมัง เป็จังหวะเหมาะที่เขาจะได้ใช้เวลาในค่ำคืนนี้อยู่เป็เพื่อนนางและจะได้ปลอบโยนนางให้ดีๆ มิใช่หรอกหรือ?
หั่วอี้เดินไปทางเรือนเฉินจื่อเมื่อคิดถึงเื่ดีงามที่จะเกิดในค่ำคืนนี้เขาก็ยิ่งเดินเร็วกว่าเดิมอีกมากเขารอกลับไปทานอาหารเย็นแทบไม่ไหวแล้ว อยากได้พบกับองค์หญิงเสียเดี๋ยวนี้เลย
ณ เรือนหลักในเรือนเฉินจื่อ นางจ้าวกำลังนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงท้องของนางใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้นางเคลื่อนไหวไม่สะดวกมากขึ้นตามไปด้วยนางจึงไม่ยอมออกไปข้างนอกเลย
เหมยเซียงกำลังนั่งพัดให้จ้าวไฉ่เอ๋อร์ที่ข้างเตียง เนื่องจากวันนี้ฝนไม่ตกจึงทำให้อากาศอบอ้าวอึมครึมอีกทั้งนางจ้าวกำลังตั้งครรภ์ นางจึงขี้ร้อนขึ้นมาอย่างมาก
“บ่าวคารวะท่านแม่ทัพเ้าค่ะ”เสียงเอ่ยคำทักทายของจือเซี่ยดังมาจากนอกห้อง
“ท่านแม่ทัพมา” นางจ้าวไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ท่านแม่ทัพไม่ได้มาที่เรือนเฉินจื่อนานเท่าใดนางก็จำไม่ได้แล้วั้แ่ครั้งก่อนที่เกิดเื่ใหญ่ในเรือนเฉินจื่อท่านแม่ทัพก็เพียงบังเอิญพบกับเหมยเซียงที่สวนดอกไม้และให้เหมยเซียงนำคำกลับมาบอกเท่านั้น ว่าเมื่อไม่มีเห็ดหลินจือเืแล้วก็แล้วไปให้นางไม่ต้องร้อนใจจะทำให้เสียสุขภาพ ดูแลตัวเองและลูกในครรภ์ให้ดีๆ เป็สำคัญ
นางยังโมโหโกรธาไปหลายวันเพราะคำพูดนี้ของท่านแม่ทัพหากท่านแม่ทัพจะมาเยี่ยมดูนางสักหน่อยจะยากเย็นเพียงนั้นเชียวหรือเรือนเฉินจื่อแห่งนี้ห่างจากหอหั่วเยี่ยนแค่สะพานเก้าโค้งสองสะพานเท่านั้นตามระยะก้าวเท้าของท่านแม่ทัพก็ห่างกันเพียงสิบกว่าก้าว แต่แม้จะเป็เช่นนี้ท่านแม่ทัพก็ยังไม่ยอมมาเยี่ยมนางสักหน
การมาของท่านแม่ทัพครานี้นางจ้าวจึงไม่ได้เตรียมใจไว้เลยแม้แต่น้อย นางขยับเอียงตัวโดยมีเหมยเซียงคอยประคองให้ลุกขึ้นนั่งอย่างยากเย็น
นางยังไม่ทันลุกขึ้นนั่งดีๆ หั่วอี้ก็เข้ามาถึงในห้องแล้ว
“ไฉ่เอ๋อร์ ระยะนี้สบายดีหรือไม่ ความอยากอาหารเป็เช่นใดบ้าง”
“เรียนท่านแม่ทัพ มีเพียงไม่ค่อยอยากอาหาร นอกนั้นยังดีเ้าค่ะ” นางจ้าวไม่ค่อยคุ้นเคยกับความห่วงใยของหั่วอี้จึงตอบเขาช้าไปสักหน่อย
“เหมยเซียงเ้าออกไปก่อน ข้ามีเื่จะสนทนากับฮูหยินใหญ่”หั่วอี้ยังคงมองนางจ้าวและเอ่ยคำโดยไม่เงยหน้าขึ้นแม้แต่น้อย
เหมยเซียงรับคำแล้วออกไป แต่ก็กลับไม่ได้เดินไปไกลเพียงยืนเฝ้าอยู่ที่ลานบ้าน นางเป็คนมีไหวพริบ รู้ว่าท่านแม่ทัพ้าแยกนางออกไปย่อมไม่้าให้ผู้อื่นเข้ามารบกวนพวกเขาสนทนาด้วยเช่นกัน
“ไฉ่เอ๋อร์ จวนจะถึงวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว ปีก่อนๆ ล้วนเป็ไฉ่เอ๋อร์จัดการเื่นี้ข้าคิดว่าปีนี้ก็ยังควรเป็เ้ารับผิดชอบต่อเพียงแต่ไม่รู้ว่าด้วยร่างกายของเ้าในยามนี้จะสะดวกหรือไม่และไม่รู้ว่าเ้ายังอยากจะทำงานที่ใช้เรี่ยวแรงมากเช่นนี้หรือไม่”
ไม่บ่อยครั้งที่จะเห็นหั่วอี้ช่วยขยับหมอนอิงข้างหลังตัวนางจ้าวให้เข้าที่เพื่อให้นางนั่งพิงได้สบายขึ้น
“ทำ ทำเ้าค่ะเดิมทีนี่ก็เป็หนึ่งในงานที่ข้าต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว จะไม่ทำได้อย่างไรไฉ่เอ๋อร์ขอบคุณท่านแม่ทัพที่ให้ความเชื่อมั่นเ้าค่ะ”
นางจ้าวพูดพลางคารวะหั่วอี้ทั้งที่นั่งอยู่บนเตียงข่าวนี้มาอย่างฉับพลันเหลือ นางยินดีเสียจนมีน้ำตามาคลอทั้งสองตา
นางรอเกียรตินี้มาเนิ่นนานนัก ก่อนองค์หญิงจะมาอาหนูก็อาศัยว่าเป็ที่รักหลงของท่านแม่ทัพ ยามเห็นนางก็เอาแต่มองอยู่สูงๆด้วยท่าทีราวกับจะเหยียบหัวนางขึ้นไป
พอองค์หญิงเข้าจวนมาท่านแม่ทัพก็ประกาศว่าให้องค์หญิงรับตำแหน่งฮูหยิน นางรู้ว่าบ่าวไพร่ในจวนล้วนหัวเราะเยาะนางหากมิใช่เพราะครานี้ตั้งครรภ์บุตรของท่านแม่ทัพทั้งที่รุกเร้ากันเพียงครั้งเดียวนางคิดว่านางคงไม่มีวันได้มีหน้ามีตาขึ้นมาเป็แน่
_____________________________
