ชายชราหลังค่อมรีบออกเดินต่อ
เด็กหนุ่มที่เมื่อครู่ราวกับตกอยู่ในภวังค์ใเล็กน้อย ก่อนจะเร่งเดินตามไปเช่นกัน
ทุกครั้งที่ชายชราผ่านเส้นทางนี้ เขาก็อดได้ที่จะหยุดมองทิวทัศน์ตรงนี้เสียหน่อย จากตรงนี้เขามองเห็นเมืองที่แสนคึกคัก ทางใต้ของเมืองมีหอสุราที่งดงาม บนหอนั้นมีแม่นางน้อยหน้าตาหมดจดกำลังอุ้มทารกน้อยที่มีเขาสองข้างบนศีรษะยืนอยู่ ซ้ำทารกน้อยนั้นยังกำลังโบกมือให้กับตน
กลิ่นเมรัยจากหอสุราอวลตลบ ราวกับว่าแค่ได้กลิ่นก็เมามายเสียแล้ว
“นับแต่นี้พวกเ้าก็อยู่ที่นี่เสีย ครั้งนี้เ้าเพิ่งขึ้นเขามาครั้งแรก อาหารนี่ข้ายกให้เ้า ทว่าต่อไปเ้าจะต้องหาเอง” เหล่าปาพาเด็กหนุ่มเข้ามาในกระท่อมไม้ผุพังหลังหนึ่ง แล้วโยนหมั่นโถวแข็งๆ ให้เขา
หมั่นโถวลูกนี้ก็ไม่รู้ว่าชายชราเก็บไว้นานเท่าไรแล้ว ทั้งลูกดำมอมแมมดูคล้ายกับหินก้อนหนึ่ง ยามตกลงพื้นก็กระดอนขึ้นมาทันที
กระท่อมไม้หลังนี้ดูเหมือนจะเคยมีคนอาศัยอยู่ ฟางกองหนึ่งที่น่าจะปูไว้เพื่อนอนยังคงกองอยู่มุมห้อง
อาลู่อดไม่ไหวจึงออกปากถาม “ให้ข้าอยู่ที่นี่หรือ”
ชายชราไม่ตอบอะไรไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวขึ้นมา “คนดูแลม้าที่อยู่มาก่อนเ้าไม่อยู่เสียแล้ว นับแต่นี้เ้าต้องดูแลงานที่เขาเคยทำ ส่วนเื่ดูแลม้า เ้าต้องดูแลมันให้ดี อย่าให้ม้าลงไปในสระกระดูกเด็ดขาด มิเช่นนั้นเ้าก็จะมีสภาพไม่ต่างจากม้าที่ขึ้นมาจากสระนั่นแน่”
เมื่อพูดจบ ชายชราเหล่าปาก็เอามือไพล่หลังแล้วเดินจากไป
ครั้งนี้เงาหลังคุดคู้ของชายชรานั้นดูไม่สูงเท่าใดนัก
พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า
เด็กหนุ่มยืนมองกระท่อมไม้
ด้านหน้ามีทุ่งหญ้าที่นับได้ว่ายังคงเขียวอยู่ ส่วนด้านหลังคือสระที่เขาไม่ทันระวังเกือบจะตกลงไป สระนี้ก็คือสระกระดูกที่เหล่าปาว่า รอบๆ มีไม้ที่สูงกว่าเขาเสียด้วยซ้ำกั้นเอาไว้ เด็กหนุ่มสงสัยนักว่าเ้าพวกม้านั้นะโลงไปในสระนี้ได้อย่างไร
ในมือของเด็กหนุ่มมีหมั่นโถวลูกดำเพิ่มมาอีกลูก บนหลังก็ยังคงมีน้องสาวตัวดำอยู่อีกคน
เด็กหนุ่มไม่ได้มองตามชายชราหลังค่อมต่อ
เพียงหมุนกายเดินกลับเข้ากระท่อมไป
บัดนี้อาลู่กลับรู้สึกดีใจเสียด้วยซ้ำ อย่างน้อยคืนนี้ก็ไม่ต้องนอนกลางป่า ซ้ำยังมีกระท่อม มีอาหารให้กิน
สำหรับเขาเพียงเท่านี้ก็ไม่เลว
อาลู่นั้นเป็คนขยันขันแข็ง
เขายังคงแบกทารกน้อยไว้พร้อมทั้งทำความสะอาดกระท่อมไปด้วย จากนั้นจึงออกไปเก็บหญ้าแห้งด้านนอก เพียงครู่เดียวก็ได้หญ้าแห้งกลับมากำใหญ่
เขาเอาหญ้าแห้งเ่าั้มาทำเป็โพรงหญ้านุ่มๆ จากนั้นจึงค่อยๆ คลายผ้าที่ผูกไว้เพื่อแบกทารกน้อยออก แล้ววางนางลงบนโพรงหญ้าแห้ง
ทารกน้อยดูราวกับว่าพอใจมาก ร่างน้อยพิงโพรงหญ้าแห้ง ริมฝีปากน้อยๆ ก็พลันฉีกยิ้มให้กับตนเอง แล้วจึงยื่นมือไปจับเท้าขึ้นมาพยายามจะเอาเท้าเข้าปาก แล้วส่งเสียง “อ้อแอ้” ออกมา
อาลู่ยืนมองทารกน้อยอยู่ครู่หนึ่งก็เห็นว่านางดูอารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย คงมีเพียงใบหน้านางที่ยังคล้ำอยู่ ซ้ำยังดูหมองลงกว่าตอนแรกที่เจออยู่สักหน่อย
“หยุดกัดเท้าได้แล้ว ประเดี๋ยวพี่ชายจะทำของอร่อยให้เ้ากิน” อาลู่หยิกแก้มน้องสาวทีหนึ่งก่อนจะยันกายลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงเริ่มเก็บเศษฟางที่มีอยู่แล้วในกระท่อมมากองรวมกัน แล้วจึงใช้หินเหล็กไฟจุดไฟ จากนั้นจึงตักน้ำขึ้นจากเหยือกดินใส่ลงไปในหม้อหินสีดำๆ ตรงหน้า ต่อมาจึงใช้หินก้อนหนึ่งทุบหมั่นโถวสีดำให้แตกออก อาลู่ค่อยๆ ทุบหมั่นโถวให้แตกออก ในใจกลัวว่าเศษหมั่นโถวจะปลิวไปกับลม หากเป็เช่นนั้นก็ช่างสิ้นเปลืองเหลือเกิน ทว่าหมั่นโถวลูกนี้ก็ช่างแข็งเหลือเกิน
อาลู่ก็นับว่ามีแรงไม่น้อย แต่กระนั้นแม้จะใช้แรงทุบหมั่นโถวนี้ไปตั้งหลายรอบ มันก็ยังคงมีสภาพเดียวกันกับก้อนหิน ไม่มีทีท่าว่าจะแตกออกแม้แต่น้อย
อาลู่ราวกับเป็ตัวโง่งม
หันกลับไปมองทารกน้อย นางหัวเราะชอบใจราวกับกำลังชมเื่สนุก
อาลู่ใช้ก่อนหินทุบหมั่นโถวอีกครั้งจนเกิดเสียงดัง “ปัง” ทารกน้อยก็หัวเราะขึ้นอีกครั้ง “ปัง!”
“ปึกๆ!”
“ปัง!”
“ปึกๆ!”
เสียงเบิกบานใจยังคงแว่วดังมาจากกระท่อมน้อยไม่ขาดสาย
ไม่ไกลกันนั้นชายชราหลังค่อมยังคงยืนอยู่ริมสระกระดูก เมื่อได้ยินเสียงนั้นก็พลันแสดงสีหน้าประหลาด ใบหน้ามีแววรำลึกถึงอดีต ทว่าก็ยังดูแล้วเ็าอยู่หลายส่วน
สุดท้ายจึงรีบไปจากกระท่อมหลังน้อย และสระกระดูกแห่งนี้
อาลู่จุดไฟติดแล้ว น้ำก็เริ่มเดือดแล้วเช่นกัน ทว่าหมั่นโถวเ้ากรรมยังมีสภาพไม่ต่างจากตอนแรก อาลู่จนปัญญาได้แต่โยนหมั่นโถวทั้งลูกเข้าไปในหม้อ
โชคดีที่เมื่อต้มไปไม่นาน เ้าหมั่นโถวที่แข็งราวกับหินนี้ก็ค่อยๆ แตกออก ไอน้ำลอยคลุ้งไปทั้งกระท่อมน้อย มีกลิ่นหมั่นโถวจางๆ อวลหอมอยู่ในอากาศ แม้หม้อหินจะมีสภาพดำกรังไม่น่ากินไปทั้งใบ ทว่าอาลู่ก็อดกลืนน้ำลายด้วยความหิวไม่ได้
ทารกน้อยเองก็นอนหลับอย่างว่าง่าย เสียงหายใจสม่ำเสมอดังมาเป็ระยะ
ด้านซ้ายของอาลู่คือทารกน้อยที่กำลังหลับใหล ด้านขวาคือหม้อที่ต้มหมั่นโถวจนได้ที่ อาลู่เมื่อเห็นดังนั้นใจก็พลันรู้สึกสงบลง
ที่นอกหน้าต่าง พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปนานแล้ว
จวบจนพระจันทร์ค่อยๆ ลอยเด่นกลางนภา
ม้าอ้วนสีนิลที่มีตุ่มห้อเืบนศีรษะค่อยๆ เดินเหยาะๆ เข้ามาใกล้กระท่อม