เว่ยิ่ทดลองงานที่บาร์อยู่หลายวัน หลังจากที่ผ่านความเพียรพยายามของตนเองก็ได้รับอนุญาตจากเ้าของร้านให้เข้าทำงานที่นี่ชั่วคราว
หร่านซวี่จือ: “สองสามสาม ความคืบหน้าเป็อย่างไรบ้าง? ”
ระบบ: “สองเปอร์เซ็นต์ เป็ไปตามเกณฑ์ครับ ขอให้คุณรันพยายามต่อไปนะครับ”
หร่านซวี่จือ: “….”
หร่านซวี่จือ: “ตามเกณฑ์กับผีน่ะสิ!! นายล้อฉันเล่นหรือเปล่า? นี่มันจะอาทิตย์หนึ่งแล้ว เพิ่งสองเปอร์เซ็นต์? อุปกรณ์เก็บสถิติของพวกนายขัดข้องหรือเปล่า? ”
ระบบ: “อุปกรณ์ระบบของสถานีอวกาศมิติของเรานั้นอยู่ชั้นแนวหน้าระดับโลกมาตลอด คุณรันไม่ต้องห่วงครับ เพราะว่าโฮสต์ทุกท่านที่เพิ่งเข้าสู่โลกใหม่นั้นล้วนมี่เวลาหนึ่งของการปรับตัว ดังนั้นในระหว่างนี้ ความคืบหน้าของภารกิจจะเป็ไปค่อนข้างช้าครับ”
หร่านซวี่จือ: “มีหนทางทำให้ฉันเห็นเงื่อนไขความคืบหน้าของภารกิจได้หรือ? ”
ระบบ: “ได้ครับ ขอเพียงคุณรันเปิดโหมดซ่อนความคืบหน้าก็ใช้ได้แล้วครับ”
หร่านซวี่จือ: …ที่แท้ก็มีลูกเล่นแบบนี้ด้วย?
หร่านซวี่จือ: “่ปรับตัวของฉันผ่านไปหรือยัง? ”
ระบบ: “ผ่านพ้นไปเมื่อวานแล้วครับ จากนี้ไป โลกนี้จะเริ่มเข้าสู่่เนื้อเื่หลักอย่างรวดเร็วครับ ขอให้คุณรันเตรียมตัวให้ดี”
สิ้นเสียงของระบบในสมอง หร่านซวี่จือก็ได้ยินเสียงดัง “ตุ้บ” จากข้างห้อง ถัดจากนั้นก็มีเสียงคล้ายกับสะอื้นไห้ของไป๋เสี่ยวอวิ๋น
หร่านซวี่จือ: …เหลือเชื่อ ประสิทธิผลจะสูงเกินไปแล้ว?
หร่านซวี่จือรีบลุกขึ้นจากพื้นและเปิดประตูห้องตนเอง แล้วไปเคาะประตูเหล็กบ้านของไป๋เสี่ยวอวิ๋น
“ไป๋เสี่ยวอวิ๋น! เกิดอะไรขึ้น? พวกนายทะเลาะกันหรือ? ” หร่านซวี่จือเคาะประตูไปพลางพร้อมกับะโไปพลาง เ้าบ้าเว่ยิ่ตัวโต อย่าทับไป๋เสี่ยวอวิ๋นร่างเล็กนั่นจนแบนนะ ไม่อย่างนั้นเขาจะทำภารกิจให้สำเร็จได้อย่างไร?
หร่านซวี่จือะโจนคนได้ยินทั้งชั้นแต่กลับไม่เห็นใครมาเปิด
หร่านซวี่จือ: “สองสามสาม ฉันเข้าไปไม่ได้ ทำอย่างไรดี? ”
ระบบ: “คุณรันสามารถลองใช้ส่วนอื่นในร่างกายดูได้นะครับ”
หร่านซวี่จือนึกขึ้นได้ทันใด “มีเหตุผล”
วินาทีถัดมา หร่านซวี่จือยกขายาวของตนเองขึ้นแล้วออกแรงถีบไปยังประตูเหล็กที่ดูแข็งแรงหนึ่งที ประตูเหล็กเปิดออกแล้วกระแทกอัดกับผนังห้องจนเกิดเสียงดัง “ปัง”
หร่านซวี่จือ “…”
นี่มันการก่อสร้างห่วยแตกอะไรกัน!
หรือพวกนายไม่ได้ปิดประตูอยู่แล้วั้แ่แรก!
หร่านซวี่จือไม่แม้แต่จะปิดประตู เขาก็วิ่งพรวดผ่านโถงทางเดินไปยังห้องรับแขกพร้อมกับะโเรียก ขณะที่กำลังวิ่งอยู่นั้นเสียงก็หยุดกลางคัน
บนโซฟาในห้องรับแขกมีคนนอนอยู่สองคน ด้านล่างคือไป๋เสี่ยวอวิ๋นที่มีคราบน้ำตาบนใบหน้า ส่วน้าคือเว่ยิ่ที่ กำลังใช้สายตาเหี้ยมโหดถลึงตามองหร่านซวี่จือ เหนือศีรษะมีระดับความคืบหน้าปรากฏขึ้นว่าติดลบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์
หร่านซวี่จือ หืม! ความคืบหน้าที่สองสามสาม เคยพูด!
หร่านซวี่จือกัดฟันและเมินเฉยต่อการโจมตีทางสายตาจากเว่ยิ่ “ทำไมทะเลาะกันล่ะ มีเื่อะไรก็พูดคุยกันดีๆ สิ เสี่ยวไป๋อวิ๋นบอบบางจะตาย นายก็อ่อนโยนหน่อยสิ…”
ไป๋เสี่ยวอวิ๋นดิ้นรนแล้วลุกขึ้นนั่งบนโซฟา น้ำตาไหลพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “ทำไมนายต้องโกหกฉันด้วย? ”
เว่ยิ่ก็พูดขึ้นว่า “ฉันก็แค่ไม่อยากให้นายลำบากเกินไป”
“ฉันไม่้าการกุศลจากนาย! ” ไป๋เสี่ยวอวิ๋นร้องไห้กระซิกและกล่าวว่า “นายดูถูกฉันใช่ไหม? ”
หร่านซวี่จือ: …อ่อ ที่แท้ก็รู้เื่ที่แอบทำงานข้างนอกแล้ว? เห็นทีจะไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร ตนเองก็กลับไปได้แล้วใช่ไหม?
ตัวเอกก็จริงๆ เลย มีคนช่วยตนเองทำงานหาเงินมันเป็เื่ดีไม่ใช่หรือไง? จะเสียใจขนาดนั้นทำไมกัน?
“นายออกไปเลย! ” ไป๋เสี่ยวอวิ๋นลุกพรวดขึ้นจากโซฟา ไม่รู้ว่าไปเอาแรงมาจากไหน พลันใช้ขาถีบทั้งหร่านซวี่จือและเว่ยิ่ออกมานอกประตูพร้อมกัน “อย่ามาให้ฉันเห็นหน้านายอีก! ”
ระเบียงทางเดินสองฟากมีเงาหัวสีดำผุดขึ้นมานับไม่ถ้วน สายตาชอบยุ่งเื่ชาวบ้านกำลังเป็ประกาย และสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความใคร่รู้และกระหายเ่าั้ก็มองมาที่หร่านซวี่จือกับเว่ยิ่
หร่านซวี่จือตกตะลึง “ฉันแค่มาห้ามเฉยๆ นะ”
เว่ยิ่นิ่งงันเป็ไก่ไม้มองดูพื้น หร่านซวี่จือพูดกับเขาอยู่ครึ่งค่อนวัน แต่พอเห็นว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาอะไรก็ได้แต่ยอมแพ้ เขาจึงเดินกลับห้องพร้อมกับหาวและกล่าวว่า “ก็ได้ นายยืนอยู่ตรงนี้ไปนะ ฉันจะกลับไปนอนแล้ว”
หร่านซวี่จือกำลังเดินถึงหน้าประตู เว่ยิ่ก็ยื่นมือมาคว้าแขนเขาไว้ พอเขาหันมา ก็เห็นเพียงระดับความคืบหน้าของภารกิจปรากฏเหนือศีรษะเว่ยิ่ ติดลบหนึ่งพันเปอร์เซ็นต์ เขาจ้องมองหร่านซวี่จือด้วยใบหน้ามืดมนแล้วถามว่า “ให้ฉันพักกับนายสักคืนจะได้ไหม? ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้