เย่วฝึกปรุงยา ไปหลายหม้อจนถึง่บ่าย นางออกมาเก็บไม้แห้งไว้ทำฟืนแล้วขนไปกองไว้หน้าถ้ำ ถือห่อผ้าเดินออกมาอาบน้ำที่น้ำตก
“เ้าเทาไปทำอะไรมาเนื้อตัวสะอาดสะอ้าน อย่าบอกน่ะว่าเ้าลงไปอาบน้ำเรียบร้อยแล้วทำไมถึงไม่รอข้าล่ะ”ม้าเทาหันมามองหน้า แค่เื่อาบน้ำทำไมต้องรอ
เย่วซิงว่ายน้ำไปมาอยู่ หน้าน้ำตก“ กำลังว่ายสนุกแต่อยู่ในน้ำนานก็เริ่มหนาวแล้ว กลับไปเรียนปรุงยาต่อดีกว่า เอ๊ะ! ใต้น้ำดูเหมือนจะมี แสงวิบวับแวววาวสะท้อนออกมาหรือว่าจะเป็เพชรและอัญมณีลองดำน้ำไปก่อนดีกว่า”
“ซ่าาา!” เสียงน้ำตกที่ดังไม่ขาดสายอยู่ข้างบน เย่วซิงที่ดำดิ่งลงไปใต้น้ำเหมือนจะตื้น แต่ยิ่งดำน้ำลงไปเหมือนยิ่งลึก น้ำที่ใสสะอาดมองเห็นหินก้อนเล็กที่มี หลายหลากสีใต้น้ำตกได้อย่างชัดเจน
“ โอ๊ย เหนื่อยขนาดมีพลังเพิ่มขึ้นมาตั้งเยอะภาพลวงตาชัดๆ ดูเหมือนจะไม่ลึกถ้าเป็แต่ก่อนคงหมดแรง อยู่ใต้น้ำเป็แน่ แต่หินสีพวกนี้ก็สวยน่าจะเป็อัญมณีต้องเก็บไว้ให้ิญญาพี่สาวดู”
“ หินสีพวกนี้คืออัญมณี เ้าเก็บไว้ทำเครื่องประดับหรือว่าขายก็ได้ราคา ดูเหมือนใต้น้ำตกจะมีเยอะเ้ามีเวลาก็ลงไปเก็บมาได้ เป็การฝึกพลังไปในตัว ยิ่งเ้าพลังแข็งแกร่งก็อยู่ใต้น้ำได้นานเท่านั้น”
“ อืม! แบบนี้หลังจากฝึกปรุงยาเสร็จ่กลางวันต้องไปฝึกว่ายน้ำที่น้ำตกเสียแล้ว ได้ทั้งพลังและหินอัญมณีแม้ไม่ขายเอามาเก็บรวมกันก็ยังสวยงามดี”
เย่วซิงอยู่เรียนวิชากับิญญาสาวอยู่ในป่าร่วมสองเดือน ถึงแม้จะไม่เก่งแต่ก็มีความรู้พื้นฐานระดับหนึ่งแล้ว ที่ทำให้ล่าช้าคือวิชาฝังเข็ม ที่ต้องฝังกับท่อนไม้แต่มีจุดต่างๆของร่างกายที่ิญญาเคยเตรียมไว้
“ พี่สาวแล้วยานี่จะช่วยทายาทของท่านได้ใช่หรือไม่ หรือต้องเป็ยาตัวอื่นอีกแล้วข้าต้องเดินทางไปจวนที่ท่านเคยอยู่ใช่ไหม”
“ ตระกูลของข้าใกล้จะล่มสลายแล้ว ข้าก็ไม่ได้ออกไปเยี่ยมนานแล้ว ยานี้น่าจะช่วยพวกเขาได้ แต่ว่าิญญาข้า ที่อยู่มานานไม่สามารถอยู่ใต้แสงอาทิตย์ได้”
“ ถ้าเราเดินทางตอนกลางคืนล่ะเ้าค่ะจะทันไหม แล้วในตระกูลอาจจะมีที่ ให้ิญญาของท่านหลบได้”
“ สำหรับข้าหนึ่งคืนเดินทางไปทันแต่ถ้าเป็เ้าคงต้องใช้เวลานาน”
“ ม้าก็วิ่งไม่ทันหรือเ้าค่ะ ถ้าเราไปั้แ่พระอาทิตย์ตกดินยันพระอาทิตย์ขึ้น”
“ หรือว่า มีอย่างอื่นให้ท่านอาศัยอยู่ได้ในแสงอาทิตย์ แล้วข้าก็นำสิ่งนั้นเดินทางตอนกลางวันได้ หรือไม่อย่างนั้นท่านก็เดินทางไปรออยู่ที่โน่นก่อนเลย แค่เขียนแผนที่มา” ิญญาสาวมองหน้าเย่วซิง
“ เด็กน้อยเ้ายังไม่รู้จักนิสัยตัวเองอีกรึ ข้ากลัวว่าถ้าไปรอเ้าที่โน่นอาจจะใช้เวลานาน กว่าเ้าจะเดินทางไปถึงเพราะเจอเหตุการณ์อะไรที่อยู่ตรงหน้าเ้าก็ต้องแวะ ทำสิ่งนั้นก่อน”
“ ก็จริงของท่าน ถ้าเกิดเจอคนกำลังาเ็ล้มป่วยหรือกำลังจะตายข้าก็ต้องช่วยอยู่ดี ถ้าเป็หม้อแบบหนาสีดำทึบล่ะท่านสามารถเข้าไปอาศัยอยู่ได้ไหม”
“ ถ้าหนาจนต้านแสงอาทิตย์ได้แล้วมืดทึบแบบเ้าบอก ก็ต้องลองดูว่าได้ไหมแล้วเ้าจะเอาสิ่งนั้นมาจากไหน”
“ ไม่ยากเ้าค่ะเดี๋ยวข้าจะไปหาดินแถวใกล้ๆกับน้ำตกมาลองปั้นดู ต้องมีวิธีสิ”เย่วซิงเดินไปข้างน้ำตกขุดหาดินเหนียวเพื่อเอามาปั้นเป็หม้อดิน
“ นี่แหละต้องดินสีออกขาวเหนียวลื่น ปั้นหม้อให้ิญญาพี่สาวอยู่ สมัยเป็เด็กยังเคยได้ยินเื่เล่าเลยว่า จับผีขังอยู่ในหม้อแล้วโยนลงน้ำ ก็ต้องใส่ิญญาได้สิ”
เย่วซิงนำดินเหนียวสีขาวที่ขุดได้ มานวดไปมาจนได้ที่จึงลงมือปั้นหม้อออกหนึ่งใบ ที่บิดเบี้ยวไม่เหมือนภาพในหัว แล้ววางไว้รอให้แห้ง นางจะเขียนลวดลายลงไปด้วยก่อนจะอบแห้ง
“ ถ้าเขียนลวดลาย เป็ยันต์ไม่ได้เป็รูปพระจันทร์มืดก็แล้วกัน แต่ที่สำคัญในหม้อต้องมีพลังหยินอยู่ด้วย ไม่งั้นิญญาจะอาศัยอยู่ไม่ได้ กระดูกของพี่สาวล่ะ”เย่วซิงเดินกลับเข้าไปในถ้ำ
“ พี่สาวท่านพอจะมีกระดูกของท่านเหลือบ้างไหม เพื่อใส่เข้าไปในหม้อให้มีพลังหยิน ตัวท่านจะได้อาศัยอยู่ในนั้นได้สบายหน่อยให้มีบรรยากาศคล้ายกับในถ้ำตอนนี้”
“ ข้าตายไปนานแล้วกระดูก ไม่น่าจะเหลือแล้วเ้าใช้เป็กระดูกของสัตว์ก็ได้”เย่วซิงขี่ม้าเทาไปยังถ้ำที่เสือโคร่งพาไปเอาแก่น ิญญาเพื่อเอากระดูกมาไว้ใส่ในหม้อ
“ กลับมาดินแห้งพอดีวาดลวดลายเสร็จ ตอนเผาจะลองใช้ข่ายอาคมเผาดู เคยแต่ทดสอบน้ำยังไม่เคยทดสอบกับไฟเลย”
เย่วซิงเอาหม้อที่มีลวดลายพระจันทร์สีดำ วางไว้บนก้อนหิน แล้วใช้พู่กันมาวาดข่ายอาคมขนาดเล็กเพื่อที่จะกำหนดให้เป็ไฟเผา
“ พอๆ ไฟดับก่อนเดี๋ยวหม้อจะกลายเป็เถ้าถ่าน ไม่คิดว่าไฟจะรุนแรงขนาดนี้ขนาดใส่พลังไปแค่นิดเดียว ก้อนหินก็ยังกลายเป็สีดำ”
“ ลวดลายพระจันทร์ของข้าหายไปแล้วเหลือแต่หม้อสีดำ ต้องเอาไปวางไว้ในถ้ำเพื่อรับพลังสักสองสามวันก่อนค่อยออกเดินทาง ให้ิญญาพี่สาวได้คุ้นชินกับการอยู่ในหม้อ”
“ สิ่งนี้หรือเด็กน้อยที่เ้าจะให้ข้าอาศัยอยู่ ทำไมมันถึงเป็หม้อสีดำที่บิดเบี้ยวขนาดนี้เล่า ถึงข้าจะเป็ิญญาก็ยังรักสวยรักงามอยู่”
“ พี่สาวอย่าคิดมากเลยเ้าค่ะขอแค่อยู่อาศัยได้ก็พอแล้ว ข้าก็วาดลวดลายไว้อยู่ท่านสังเกตให้ดีเป็รูปพระจันทร์สีดำแต่พอหม้อสีดำมันแค่กลมกลืนกันเท่านั้น ต่อไปสองวันนี้พี่สาวต้องเข้าไปนอนอยู่ในหม้อเพื่อที่จะได้คุ้นชินเวลาเดินทางจะได้ไม่ลำบาก”
สองวันที่เหลือเย่วซิงเข้าป่าหา สมุนไพรและผลไม้ที่มีพลัง ในป่าที่เคยมาตอนกลางคืนกับิญญาสาว
“ เอ๊ะ! ทำไมตรงนั้นถึงมีแต่ิญญาสัตว์อสูรเต็มไปหมด ตอนมาหาสมุนไพรเวลากลางคืนยังไม่เห็นเลยนี่หรือว่าิญญาพวกนี้มาจากที่อื่น”
“ ิญญาทั้งหลาย มาจากที่ไหนกันทำไมอยู่กันเต็มไปหมด พวกเ้าตายพร้อมกันหรือ”
“ มนุษย์ เป็เพราะมนุษย์อย่างเ้ายังไงล่ะที่ฆ่าพวกเราที่เป็สัตว์อสูริญญามีตบะอยู่ขั้นสูงกันแล้ว แต่มนุษย์อย่างเ้าที่ส่งคนมานับร้อย สังหารพวกข้าและนำแก่นิญญาของพวกเราไปเพื่อเสริมพลังของตัวเอง”
“ แต่!!เ้าเป็มนุษย์ทำไมสื่อสารกับิญญา อย่างพวกเราได้กันล่ะหรือว่าเ้าไม่ใช่มนุษย์คนนั้นที่สังหารพวกเรา”
“ ข้าจะใช่มนุษย์ที่สังหารพวกเ้าได้ยังไงกัน พวกเ้าไม่เห็นหรือว่าข้าเป็เด็กผู้หญิงตัวเท่านี้ จะมีพละกำลังไปสังหารพวกเ้าได้ยังไงกัน”
“ พวกเ้าเหลือแค่ิญญาแล้ว ไม่้าไปปรโลกของสัตว์ิญญาหรือ เผื่อจะได้ไปเกิดใหม่เป็มนุษย์จะได้ไปเตือนพวกเขาว่าอย่าได้มาฆ่าแย่งชิงเอาแก่นิญญาของพวกเ้าไป”
“ กว่าจะถึงเวลานั้นลูกหลานที่เติบโตขึ้นมาภายหลังจะไม่ถูกฆ่าหมดเลยรึ ทำไมถึงไม่ให้ตัวเองมีพลังโดยวิธีอื่น เหตุใดต้องมาฆ่าแย่งชิงเอาแก่นพลัง ที่อสูริญญาทั้งหลายสะสมกันมานาน”
“ เื่นี้ข้าตอบพวกเ้าไม่ได้หรอก ข้าขอถามพวกเ้าเท่านั้นว่าทำไมพวกเ้า ไม่หาอาหารกินเองโดยที่ไม่ต้องฆ่าสัตว์เ่าั้ที่ต้องกินอาหารเพื่อให้ตัวเองเติบโตมา มีชีวิตอยู่รอดแต่สัตว์อย่างพวกนั้นก็ถูกพวกเ้ากิน เป็อาหารตอบข้ามาก่อนเพราะเหตุใด”
“ พวกเขาเป็อาหารของพวกเราอยู่แล้วั้แ่ต้น นอกจากสัตว์พวกนั้นแล้วพวกเราก็ไม่สามารถกินอย่างอื่นได้”
“ แล้วถ้ามนุษย์ที่ล่าแก่นิญญาของพวกเ้าไปตอบแบบเดียวกันล่ะ คือพวกเ้าเป็แหล่งเพิ่มพลังเดียว และั้แ่ต้นพวกเ้ามีชีวิตอยู่ก็เพื่อให้พวกเขาล่าเอาแก่นพลังไป” ิญญาของเราสัตว์ทั้งหลายเงียบไม่มีคำตอบ
“ ข้าถามอีกครั้งพวกเ้าจะยอมไปแต่โดยดีไหม ข้าจะส่งพวกเ้าไปในปรโลกที่ิญญาสัตว์ทั้งหลายอยู่ พวกเ้ารวมตัวกันด้วยความโกรธแค้นอยู่ตรงนี้ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะถ้าสามารถแก้แค้นได้ สัตว์ทั้งหลายที่โดนพวกเ้ากินป่านนี้มันก็คงแก้แค้นพวกเ้าไปแล้ว”
“ ไม่ตอบถือว่าไม่ปฏิเสธนะข้าจะท่องมนต์คาถาส่งพวกเ้าไปเดี๋ยวนี้”เย่วซิง ไม่ฟังคำตอบหรือคำอธิบายท่องมนต์คาถาให้พวกเขาไปยังปรโลกทันที
“ เป็กลุ่มไหนกันนะที่้าแก่นิญญาของสัตว์พวกนี้ไปนับร้อย ความจริงิญญาพวกนี้ก็น่าสงสารสะสมตบะมาหลายร้อยปีถูกแย่งชิงไปไม่ว่า คร่าชีวิตไปด้วย”เย่วซิงกลับขึ้นมาบนหลังม้าสีเทา
“ เข้าไปในป่าลึกต่อข้าไม่เจอผลไม้และสมุนไพรเลย เอ๊ะดูเหมือนเส้นด้ายจะมีโลหะสีเขียวเพิ่มมาอีกเล็กน้อยแล้ว ส่งิญญาไปตั้งเยอะมีสีเขียวขึ้นมานิดเดียว แสดงว่าเป็การช่วยเหลือแค่เล็กน้อยเท่านั้น ต้องช่วยชีวิตสินะถึงจะได้เยอะ”
“ นกฮูกเ้ามีอะไรรึทำไมไม่พักผ่อนกลางวันอีก แล้วเหลือเวลาพรุ่งนี้อีกวันหนึ่ง ข้าและิญญาพี่สาวจะเดินทางเข้าไปในเมือง เ้าจะไปด้วยไหมหรือถ้าเ้าเหงาก็ไปอยู่ที่บ้านของข้าได้ ยังมีพี่สาวสองคนอยู่อย่างน้อยก็มีเสียงบ่นให้เ้าฟังแหละ”
“ ข้าย่อมไปด้วยอยู่แล้ว ข้าจะบินล่วงหน้าไปดักรอเป็จุด ตามที่เ้าต้องเดินทางผ่านไปกับิญญาสาวต้นนั้น”
“ เ้าจะไม่ถูกจับไปก่อนใช่หรือไม่ ถ้าบินล่วงหน้าไปไกลขนาดนั้น”
“ กลางคืนข้าก็บินตามพวกเ้าไป ตอนไหนที่จะใกล้สว่าง ข้าก็รีบบินไปดักรอพวกเ้ายังไงล่ะ”
“ แล้วแต่เ้าเถอะ ถ้ามีป่าให้เดินทางข้าอาจจะชวนิญญาพี่สาวเดินทางผ่านป่า หรือใกล้กับป่าหน่อยจะได้ไม่ลำบากพวกเ้า”
“ นกฮูกเ้าชอบบินอยู่แถวนี้ ไม่เห็นผลไม้ที่มีพลังบ้างรึข้ากำลังหาอยู่ จะเก็บไปฝากพี่สาวทั้งสองคน หน้าถ้ำก็เก็บจนจะไม่เหลือแล้วปล่อยให้นกได้กินบ้าง”
“ มีอยู่ในป่าอีกด้านหนึ่ง มีหลายต้นเลยตามข้ามา ข้าจะบินนำทางไป”ม้าเทาวิ่งตามนกฮูกไปยังป่าอีกด้านหนึ่ง
“ โอ้มีเยอะหลายต้นเลย เ้าเทาถ้าให้เ้าวิ่งเอาผลไม้พวกนี้ไปเก็บที่บ้านก่อนได้ไหม เพราะถ้าขนไปพร้อมกับของที่พะรุงพะรังเ้าจะขนไหวไหม”
“ ข้าวิ่งเอาไปเก็บก่อนได้ ใช้เวลาไม่นาน แต่เ้าจะเอาอะไรใส่ผลไม้พวกนี้กันล่ะ”
“ เก็บผลไม้ลงมาก่อน ต้องหาเถาวัลย์มาสานทำถุงใบใหญ่ น่าจะไม่ยากเพราะตอนเด็ก ตาเคยสอนข้าสานตะกร้าจากไม้ไผ่ได้เลย” ผลไม้ต้นไหนเตี้ยไม่สูงมากเย่วซิงใช้วิธียืนบนหลังม้า นอกจากต้นสูงที่ต้องปีนไปเก็บเอง
“ ผลไม้น่าจะพอแล้ว หาเถาวัลย์มาสานทำคล้อยกับถุงใส่ผลไม้ก่อน โอ้! นกฮูกเ้าขนเถาวัลย์มาจากไหนกัน ดีมากข้าจะได้นั่งสานเลยไม่ต้องเสียเวลาหา”เย่วซิงนั่งสานเถาวัลย์ที่นกฮูกคาบมา กองไว้จำนวนมากน่าจะขนหลายรอบ แต่นางมัวแต่เก็บผลไม้ไม่ได้สังเกต
“ ผลไม้เยอะขนาดนี้ต้องสานเป็สองถุงยาว วางไว้บนหลังม้าต้องออกไปตอนกลางคืนถ้าไปกลางวัน กลัวคนอื่นจะเห็นเสียก่อนไปถึงบ้าน”
เย่วซิงขนผลไม้ใส่ไว้ในถุงเถาวัลย์ที่สานขึ้นมา เป็ถุงยาวความสูงถึงเอวของนางได้และเอาพาดไว้บนหลังม้า กลับถ้ำโดยที่ไม่ได้สมุนไพรสักต้น