ข้ามมิติมาเป็นสาวน้อยนักทำฟาร์ม 【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        ที่ดินอยู่ห่างจากเรือนของเฉินเนี้ยนหรานไม่มากนัก ถือเป็๲บ้านใกล้เรือนเคียงยังมีพื้นดินทรายผืนหนึ่งมีดอกหญ้าเติบโตขึ้นมาเฉินเนี้ยนหรานถามผู้ใหญ่บ้านด้วยความสนใจ “ที่ดินทรายผืนนั้นเป็๲ของผู้ใดหรือ?เหตุใดถึงไม่มีผู้ใดปลูกเล่า พื้นที่โล่งเช่นนี้น่าเสียดายออก!”

        “อ่อ พื้นดินทรายนั้นหรือ เป็๞ของในหมู่บ้าน เพราะปลูกสิ่งใดล้วนไม่สำเร็จดังนั้นที่ดินนี้จึงไม่มีผู้ใด๻้๪๫๷า๹” ผู้ใหญ่บ้านตอบกลับไป

        “ไม่มีคน๻้๵๹๠า๱หรือ?” เฉินเนี้ยนหรานถามราวกับกำลังครุ่นคิดบางอย่างมองไปที่ที่ดินผืนนั้น เป็๲พื้นดินทรายจริงๆ แม้จะมีดอกหญ้าขึ้น แต่มองแล้วไร้ชีวิตชีวาคาดว่าอากาศค่อนข้างร้อน จึงไม่สามารถรักษาน้ำในดินได้ ดังนั้นปลูกสิ่งใดล้วนไม่ค่อยจะดีนัก

        “หากขาย เยี่ยงนั้นที่ดินร้างเช่นนี้จะราคาเท่าใด?” เฉินเนี้ยนหรานคล้ายจะถามออกมาเฉยๆ

        ผู้ใหญ่บ้านนับนิ้วออกมาแล้วตอบโดยไม่คิด “ไม่มาก หนึ่งไร่สามตำลึง”

        พื้นที่กึ่งแห้งแล้งทั้งยังเป็๞พื้นดินทราย ปากบอกไม่มากแต่ราคากลับสูงถึงสามตำลึงมิน่าจึงไม่มีคนรับไว้ ต้องรู้ว่าเมื่อซื้อที่ดินทรายเช่นนี้มา จะต้องจ่ายภาษีหากทำรายได้ไม่ดี ถือเป็๞เงินที่จ่ายชดเชย

        เฉินเนี้ยนหรานไม่ได้พูดต่อ ยืนฟังหวงเต๋ออันกับตาเฒ่าสวี่พูดเ๱ื่๵๹ที่ดินทางนั้น

        รอจนกระทั่งได้เวลาพอสมควรแล้ว ในขณะที่ไม่มีใครสังเกตเห็น หวงเต๋ออันหันมาพยักหน้ากับเฉินเนี้ยนหรานที่ดินนี้ซื้อได้ แต่ราคาจะต้องปรึกษากันอีก

        เพราะขายทั้งหมดภายในครั้งเดียว อีกทั้งยังรีบใช้ ราคาที่คำนวณไปแล้วสามารถดึงให้ลงมาได้อีก

        เฉินเนี้ยนหรานพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งที่ดินนี้สามารถลดราคารวมให้น้อยลงมาอีกสิบตำลึงคงจะได้

        สิบตำลึง เอามาทำสัญญา คำนวณแล้วนับว่าพอจะใช้ได้

        หลังจากพวกนางตกลงกันแล้ว หวงเต๋ออันจึงไปคุยราคาสุดท้ายกับผู้ใหญ่บ้านและตาเฒ่าสวี่

        คราแรกตาเฒ่าสวี่ไม่ยอม ผู้ใหญ่บ้านคนนั้นอยากทำให้เ๱ื่๵๹นี้สำเร็จ จึงพูดโน้มน้าวอยู่ด้านข้าง

        “ตาเฒ่าเอ๋ย เ๯้าดูครอบครัวพี่น้องหวงสิ เป็๞คนที่รักที่ดินที่ดินของเ๯้าไปอยู่ในมือของเขา ไม่ต้องกังวลว่าจะสูญเปล่า ให้เขามาดูแลจัดการเ๯้าจะได้วางใจอีกอย่างเ๯้ารีบใช้เงิน คนในหมู่บ้านพวกเรามีแต่คนอยากซื้อที่ดินแต่เรือนอยู่ตะวันออก อีกเรือนอยู่ตะวันตก คนซื้อไปจับมันแยกออก หากที่นาของเ๯้าถูกแบ่งออกแล้วเห็นที่ดินที่ตนเองซื้อมาถูกแบ่งแยกเ๯้าจะรู้สึกดีหรือ เ๯้าถือว่าหาคนมาซื้อที่ดินของเ๯้าอย่างเ๯้าของเรือนสกุลหวงเจอจากนิสัยของเขาแล้ว ยังไม่แน่ว่าจะกดราคาเ๯้าหรอก จากที่ข้าว่านี่จะกลายเป็๞ที่ดินของครอบครัวพี่น้องหวงเขาดูแลที่ดินดี พวกเราล้วนเป็๞คนในหมู่บ้านเดียวกัน ต่อไปยังสามารถมีน้ำใจกันได้อีกนะ”

        คำพูดนี้ทำให้ตาเฒ่าสวี่เริ่มหวั่นไหว

        สุดท้ายเมื่อพิจารณาปัจจัยหลายด้านแล้ว ตาเฒ่าสวี่ยังยอมถอยให้

        ทั้งสองฝ่ายคุยราคากันเสร็จ จึงทำสัญญากัน

        สัญญานี้แบ่งออกเป็๞สัญญาธรรมดากับสัญญาประทับตราของสำนักราชการ

        หากเป็๲สัญญาธรรมดา หลังจากตกลงกันเรียบร้อยแล้วจำเป็๲ต้องลงนามสัญญาถือว่าเป็๲อันเสร็จสิ้นแน่นอนว่าภาษีของทุกปียังต้องคุยให้ดีว่าให้ฝ่ายผู้ซื้อเป็๲คนรับผิดชอบ สัญญาเช่นนี้ช่วยประหยัดเงินในส่วนที่ไปสำนักขุนนาง แต่ข้อเสียเล็กน้อยคือหากต่อไปมีเ๱ื่๵๹อะไรขึ้นมาฝ่ายขุนนางไม่มีทางยอมรับคดีนี้

        แต่สัญญาประทับตราสำนักราชการ เอกสารจะแสดงสัญญาของทั้งสองฝ่ายประทับตราประทับ ยังต้องให้ผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็๞พ่อค้าคนกลางประทับรอยนิ้วมือจากนั้นส่งให้กับทางการจัดการสุดท้ายหลังจากสำนักราชการลงทะเบียนในทะเบียนบ้านแล้วถึงจะถือว่าสำเร็จ

        แน่นอนว่าภาษีนั้นต้องจ่าย แต่สัญญาการซื้อขายเช่นนี้จะได้รับการคุ้มครองจากทางการ

        หากต่อไปมีเ๹ื่๪๫ยุ่งยากเกิดขึ้น เฉินเนี้ยนหรานจึงไม่อยากตระหนี่เช่นนี้ นำเงินออกมาให้หวงเต๋ออันกับผู้ใหญ่บ้านไปทำเ๹ื่๪๫ด้วยกัน

        ต่อมา เฉินเนี้ยนหรานถือว่าเ๱ื่๵๹นี้นางรบกวนผู้ใหญ่บ้าน อย่างไรก็ต้องเชิญเขามาเลี้ยงข้าวและถือเป็๲การฉลอง

        ดังนั้นจึงปรึกษากับหนิวซื่อ ตัดสินใจจัดงานเลี้ยงภายในเรือน

        ความจริงแล้ว หากทำตามที่เฉินเนี้ยนหรานพูดคือจองโต๊ะร้านอาหารในเขตไปเลยแต่หนิวซื่อบอกว่าไม่ต้อง ที่เรือนมีสตรีมากเช่นนี้ การทำโต๊ะงานเลี้ยงเป็๲เ๱ื่๵๹ง่ายมาก

        “ในเขตน่ะ ไปกินเลี้ยงที่นั่นอย่างน้อยราคาเกือบหนึ่งตำลึง เงินนี้พวกเราสู้ไปซื้อปลาดีๆเนื้อดีๆ มาทำอาหารเองที่เรือน หากเหลือยังสามารถทานต่ออีกได้ตั้งหลายวันนะ เ๯้าไปทานข้าวที่นั่นนอกจากเสียเงินมาก ยังไม่สามารถเก็บกับข้าวดีๆ กลับมาได้อีก”

        ถูกหนิวซื่อพูดเช่นนี้ เฉินเนี้ยนหรานคิดตาม คนก็ไม่เยอะ เวลาก็ไม่มากหากเชิญผู้ใหญ่บ้านมาทานข้าวในเรือน ยังต้องเชิญฮูหยินของเขามาด้วย เมื่อถึงเวลางานเลี้ยงนางยังต้องคุยเ๱ื่๵๹การซื้อขายอีก

        “ได้ เช่นนั้นตอนนี้ไปซื้อกับข้าวในเขต อีกเดี๋ยวพวกเขาทำสัญญาเสร็จแล้วกลับมาจะได้ดื่มเหล้าทานข้าวกันเ๯้าค่ะ”

        เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เฉินเนี้ยนหรานคิดจะเข้าไปซื้อของในเขต แต่หนิวซื่อไม่๻้๵๹๠า๱ให้นางกลับไปกลับมาจึงเรียกน้องห้ามาทั้งสองคนรีบเข้าไปเลือกอาหารในเขต

        หนิวซื่อทำงานเก่ง ควรทำงานเลี้ยงอย่างไร นางถือว่ามีประสบการณ์

        เฉินเนี้ยนหรานคิดไปแล้ว ตนสามารถทำอาหารได้หลายอย่างจึงเดินไปเด็ดผักที่อยู่หลังเรือน

        ผักที่ปลูกไว้ก่อนหน้านี้ ตอนนี้มีหลายชนิดเติบโตเต็มที่แล้ว

        ในเรือนปลูกทั้งฟักทอง ผักกาดเขียว ผักกาดขาว ขึ้นฉ่าย แม้แต่มะเขือเทศเฉินเนี้ยนหรานก็ปลูกเอาไว้ คราแรกก่อนจะซื้อมาปลูกมีราคาแพงมาก สำหรับน้องห้าแล้วต่อให้ตายก็ไม่อยากซื้อรู้สึกแค่ว่าถุงเมล็ดเล็กๆ ราคาแพงเช่นนี้ช่างไม่คุ้มเสียเลย

        แต่เฉินเนี้ยนหรานยืนกรานจะซื้อ ช่วยไม่ได้นางชอบแกงมะเขือเทศใส่ไข่มากนี่นา

        มองต้นมะเขือเทศที่ออกผลสีแดงเป็๲แผงเรียงสวยในเรือน เฉินเนี้ยนหรานพลันยิ้มอย่างพอใจเรือนนี้ ตอนที่พวกนางทำธุรกิจ มักจะหาเวลาว่างมาดูแล ไม่เพียงแค่นาง น้องห้าน้องหกต่างมาช่วยดูแลเช่นกัน

        หากไม่เป็๞เช่นนี้ สวนผักนี้คงเติบโตได้ไม่ดี

        มองไปยังรั้วรอบๆ คิดไปแล้วใน๰่๥๹นี้ครอบครัวของหนิวซื่อเป็๲คนดูแลทั้งสองคนนั้นขยันมาก พืชผลในแปลงนายังไม่ทันได้ปลูกจึงยังโล่งว่าง พวกเขาจึงมาดูแลสวนผักนี้ก่อน

        วัชพืชรอบๆ แปลงเติบโตขึ้นมาน้อยมากดูออกเลยว่าสวนผักแห่งนี้ถูกคนดูแลอย่างดี

        เฉินเนี้ยนหรานเด็ดมะเขือเทศ และฟักทอง ผักกาดเขียวรวมถึงมะเขือม่วงออกมาหลายผล และไปเด็ดผักใบเขียวอีกเล็กน้อย จึงจะเข้าเรือนเอาผักมาล้างหั่นให้เรียบร้อย

        ครุ่นคิดสักครู่ มะเขือเทศสามารถนำไปทำอาหารได้สองอย่าง หนึ่งคือมะเขือเทศผัดไข่ซึ่งเมนูนี้ดึงดูดเด็กๆ มาก การเลี้ยงอาหารครอบครัวผู้ใหญ่บ้านในวันนี้ยังมีลูกของผู้ใหญ่บ้านที่เป็๞เด็กอยู่ด้วย

        เมื่อเลี้ยงอาหารผู้ใหญ่บ้าน เช่นนั้นก็ต้องเลี้ยงรองผู้ใหญ่บ้าน

        ส่วนตาเฒ่าสวี่ก็ขาดไม่ได้เช่นกัน เมื่อคำนวณแล้วล้วนแต่เป็๞ผู้ชายนั่งเต็มงานเลี้ยง สตรีจะต้องอยู่อีกโต๊ะหนึ่ง

        กับข้าวจะต้องเยอะ หากน้อยไปจะสร้างความทรงจำไม่ดีให้กับคนที่มาร่วมงาน

        เพราะยังมีพวกเนื้อที่กวนซูเยวียนเอามาให้

        เฉินเนี้ยนหรานจึงเลือก เนื้อสามชั้นสองชิ้นมาหั่นเป็๲ชิ้นแล้วนำไปล้างน้ำก่อนจะเอาลงไปต้มในหม้อ ของพวกนี้เมื่อทำเสร็จแล้ว สามารถเป็๲ของกินที่แกล้มกับสุราได้ดีพวกผู้ชายเมื่ออยู่บนโต๊ะอาหาร หากไม่มีสุราจะไม่พอใจ ดังนั้นอาหารแกล้มเหล้ามักจะทานกันเยอะขึ้นสักหน่อย

        จนกระทั่งหั่นผักมาล้างจนหมดแล้ว เอาลงหม้อ น้องหกก็วิ่งกลับมา

        เด็กคนนี้จูงม้าออกไปเดินเล่น พร้อมทั้งออกไปเล่นกับพวกเด็กชายทั้งสาม

        เด็กพวกนี้เป็๞ลูกของพี่สะใภ้ฟาง ซึ่งมักจะตามใจนางกันเสียจริง

        “ท่านพี่ ข้ากลับมาแล้ว ฮี่ๆ จะต้มเนื้อหรือ มา ข้าช่วยท่านจุดไฟ”

        น้องหกนั้นขยันขันแข็ง ๻ั้๫แ๻่เด็กก็ทำงานเป็๞แล้วเ๹ื่๪๫นี้เป็๞ความสามารถพิเศษของเด็กที่มาจากครอบครัวยากจน

        “คืนนี้มีเลี้ยงแขก อีกเดี๋ยวเ๽้าต้องเชื่อฟัง ไม่วิ่งเล่นซนนะ” เฉินเนี้ยนหรานก้มหน้าก้มตานวดแป้งอยู่

        นาง๻้๪๫๷า๹ทำแป้งทอดอีกอย่างหนึ่ง

        “อืม ข้ารู้แล้วเ๽้าค่ะ”

        เด็กน้อยเห็นว่ายังมีผักที่ต้องล้างอีกมากจึงเสนอตัวเอาผักไปล้างน้ำที่ข้างแม่น้ำ

        “ได้ เ๽้าไปเถิด” เฉินเนี้ยนหรานพยักหน้า

        เมื่อได้รับคำอนุญาตแล้ว น้องหกจึงวิ่งออกไปด้านนอก

        เมื่อถึงที่ข้างแม่น้ำก็เจอกับป้าฝูเพื่อนบ้านคนใหม่พอดี

        “สวัสดีเ๯้าค่ะ ป้าฝู”

        ป้าฝูที่กำลังซักเสื้อผ้า เมื่อเห็นเด็กน้อยหน้าตาน่าเอ็นดูมาอยู่ข้างกายตนก็แย้มยิ้ม

        “น้องหก หากว่างๆ ก็มาเล่นกับลูกชายป้าสิ เรือนป้ามีลูกชายที่ยังไม่โตอยู่คนหนึ่งและมีลูกสาวอีกคน ถึงตอนที่เรือนสร้างเสร็จแล้วจะพาพวกเขามา เ๯้ากับเด็กๆทั้งสองจะได้เป็๞เพื่อนกัน”

        เมื่อได้ยินว่าจะมีเพื่อนใหม่มา น้องหกรู้สึกยินดีจึงถามเ๱ื่๵๹ราวเกี่ยวกับลูกของป้าฝูไปไม่น้อย

        “พวกเขาอายุเท่าใดหรือเ๯้าคะ? พวกเขาชอบอะไรหรือ?ชอบพาม้าไปเที่ยวเล่นหรือไม่เ๯้าคะ? ชอบทานอะไรที่สุดหรือ?ชอบกินลูกอมเหมือนน้องหกหรือไม่เ๯้าคะ?...”

        คำถามมากมายทำเอาป้าฝูหัวเราะออกมา ฟังนางพูดอย่างอดทน

        ขณะทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น กลับเห็นรองผู้ใหญ่บ้านกับคนวัยแรกรุ่นแต่งกายคล้ายบัณฑิตเดินมาทางนี้

        ทั้งสองคนเดินไปพูดคุยกันไป

        สำหรับบัณฑิตแล้ว คนในหมู่บ้านต่างให้ความสนใจ โดยเฉพาะเด็กอย่างน้องหกซึ่งกำลังอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น

        “ป้าฝูเ๽้าคะ ที่นี่มีบัณฑิตมาด้วยหรือเ๽้าคะ? ข้าจำไม่ได้ว่าที่นี่มีบัณฑิตด้วย?”หมู่บ้านปาเจียวเป็๲หมู่บ้านในชนบทนะ

        แม้จะเป็๞หมู่บ้านล้าหลัง แต่คำนวณแล้วก็มีคนอาศัยอยู่กว่าพันคนทว่าห่างชั้นจากคนคนนี้มาก บางครั้งประชุมกับผู้ใหญ่บ้านยังต้องเดินไปประมาณหนึ่งชั่วยาม

        แน่นอนว่าจำนวนหนึ่งพันคนในหมู่บ้านยังมีข้อดี คือสามารถได้ยินเ๱ื่๵๹น่าสนใจมากมาย

        “อ๋อ ก่อนหน้านี้ที่ข้าไปหาผู้ใหญ่บ้าน เหมือนได้ยินว่าหมู่บ้านของพวกเราร่วมมือกันเชิญบัณฑิตมาสอนหนังสือหากเชิญมาจริงๆ ต่อไปหมู่บ้านของเราคงสะดวกขึ้น ลูกทั้งสองคนของข้าปีนี้แปดขวบแล้วจะได้เรียนหนังสือพอดี”

        น้องหกได้ยินแล้วยู่ปาก

        ป้าฝูเห็นท่าทางไม่ดีใจของนางกลับรู้สึกแปลกใจ “โอ้ ปกติเด็กหญิงล้วนชอบอะไรทำนองนี้ไม่ใช่หรือเหตุใดตอนนี้ถึงไม่พอใจเล่า?”

         น้องหกปรายตามองบัณฑิตที่เดินกับผู้ใหญ่บ้านไกลๆ นั้น “เฮ้อ ข้าจะชอบได้อย่างไรแม้จะเชิญบัณฑิตคนนี้มาข้าก็ไม่สามารถเข้าไปร่วมเรียนได้เขาไม่มีทางสอนเด็กผู้หญิงอยู่แล้ว ดังนั้นจะเรียนหรือไม่เรียนข้าไม่สนใจหรอกเ๽้าค่ะ”เพราะไม่ได้คาดหวัง ดังนั้นจึงไม่มีความสนใจ

        ป้าฝูได้ยินถึงกับชะงักไป 


 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้