ตอนที่ 4
่บ่ายของวันฟิชเปิดประตูห้องพักแพทย์เข้ามาตามปกติอย่างเช่นทุกวัน แต่ทว่าวันนี้เขากลับได้เห็นภาพบาดตาบาดใจเข้าพอดี ร่างบางนั่งอยู่บนตักแกร่งกำลังหยอกล้อกันอย่างน่ารัก ใบหน้าสวยที่เปื้อนยิ้มดูมีความสุข บรรยากาศภายในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรักโดยมีทั้งคู่เป็จุดศูนย์กลาง
เขาไม่ถูกเลือกสินะ แต่มันคงไม่ใช่เพราะเขาไม่ได้อยู่ในตัวเลือกของพายั้แ่แรก ตอนนี้หัวใจของเขามันชาไปหมด
พายพยายามลุกออกจากตักแกร่งแต่กลับถูกมือหนารั้งเอวเอาไว้ไม่ให้ขยับหนี
“คิมปล่อยพายก่อน” พายเอ่ยเสียงดุ พยายามแกะมือหนาออกจากเอว ั์ตาคู่สวยช้อนขึ้นมองสบตากับเขาอย่างรู้สึกผิด
ฟิชได้แต่ยืนนิ่งๆ มุมปากหนายกยิ้มบางๆ อย่างยินดี แต่ทว่าั์ตากลับฉาดชัดถึงความเศร้าแม้เพียงชั่วครู่ก็ตาม
“ไม่ปล่อย !”
คิมปฏิเสธอย่างไว ทั้งยังเพิ่มแรงกอดรัดร่างบางเอาไว้แน่นอย่างแสดงความเป็เ้าของ
“ถ้ายังดื้อไม่ฟังกัน คืนนี้พายจะให้คิมกลับไปนอนคอนโดตัวเองและอาจจะให้นอนคนเดียวทั้งสัปดาห์”
คำพูดของพายคือสิ่งที่ตอกย้ำว่าเขาคนนี้แพ้แล้วจริงๆ ต่อให้แสนดีแค่ไหน คนไม่รักคือคนไม่รัก
“ก็ได้ครับ คิมยอมแล้วครับ ให้ทำอะไรก็ยอมแค่ได้กอดพายทุกคืนก็พอ”
คิมเอ่ยเสียงทุ้มอย่างออดอ้อนก่อนจะปล่อยพายให้เป็อิสระ
“เอ่อ พายขอโทษนะครับฟิช” พายส่งยิ้มเจื่อนๆ มาให้เขาด้วยความรู้สึกผิด
“ไปขอโทษมันทำไม ?” คิมพูดสวนด้วยความหงุดหงิดใจเมื่อคนรักพูดอย่างนั้น
“คิม” ั์ตาคู่สวยตวัดมองทำให้คิมต้องเงียบปากอย่างไว
“คิมนั่งรอในห้องก่อน พายขอตัวออกไปคุยกับฟิชที่ร้านกาแฟข้างโรงพยาบาลสักครู่ แล้วอย่าให้พายรู้ว่าคิมตามไปนะ ไม่อย่างนั้นคิมได้กลับไปอยู่คอนโดตัวเองยาวเลย”
“แต่..” คิมอ้าปากจะเถียงกลับ แต่กลับต้องรีบหุบปากอย่างไว
“ไม่มีแต่ครับ” พายพูดเสียงดุ สบตากับคิมอย่างจริงจัง เขาอยากเคลียร์กับฟิชให้ชัดเจน คือถ้ายังปล่อยไว้แบบนี้มันจะยิ่งทำให้ฟิชต้องเสียใจ
“ก็ได้ครับ อย่าดุสิ”
ฟิชวางขนมที่ซื้อมาลงบนโต๊ะ ก่อนจะเดินตามร่างบางออกจากห้องพักแพทย์
“ถึงเวลาแล้วสินะครับ”
ฟิชเอ่ยขึ้นในขณะที่เราเดินเคียงคู่กันไปที่ร้านกาแฟข้างโรงพยาบาล เขาไม่คิดว่าพายจะตัดสินใจเร็วแบบนี้ ถึงขั้นย้ายไปอยู่ด้วยกันแล้วนั่นหมายความว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ลึกซึ้งกว่าที่เขาคิด
“พายขอโทษ”
พายเอ่ยเสียงเศร้ามองสบสายตาคู่คมอย่างรู้สึกผิดต่อคนตรงหน้า เพราะเขาเลือกคิมั้แ่แรก ไม่ว่าจะให้เลือกใหม่สักกี่ครั้งคำตอบก็ยังเป็คิม
“ขอโทษทำไม ฟิชต่างหากที่ต้องเป็ฝ่ายขอโทษ ที่ผ่านมาคงทำให้พายอึดอัดใจมากเลยใช่ไหม ?”
“ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรเลยครับ พายรู้สึกดีและมีความสุขมากๆ กับทุกอย่างที่ฟิชทำให้ พายเหมือนได้พี่ชายมาเพิ่มอีกหนึ่งคน ขอบคุณนะครับที่ดูแลเอาใจใส่พายตลอดเลย”
“แค่พี่ชายสินะครับ” ฟิชเอ่ยย้ำสถานะด้วยน้ำเสียงแ่เบาพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ
“หรือว่าฟิชอยากเป็แค่เพื่อนละครับ ?”
พายพูดหยอกล้อเพื่อลดความตึงเครียด เขาอยากบรรยากาศระหว่างเรามันดีขึ้น
“ก็ต้องเป็พี่ชายอยู่แล้วสิครับ เพราะมีความสำคัญมากกว่า แล้วแบบนี้พี่ชายอย่างฟิชจะยังมาหาพายได้อยู่ใช่ไหม ?”
“ได้สิครับ ก็ฟิชเป็พี่ชาย ฟิชจะมาหาพายเมื่อไหร่ก็ได้ ห้องพักแพทย์พร้อมต้อนรับเสมอ”
“แต่คุณคิมคงไม่พอใจเท่าไหร่ ดูเหมือนจะหึงมาก ๆ เลยด้วย” ฟิชพูดอย่างขำขันเพื่อให้ร่างบางสบายใจ เพราะเขาไม่ชอบเห็นความเศร้าบนใบหน้าสวย
“คิคิ ให้หึงบ่อย ๆ ก็ดีครับ พายชอบเวลาเขาหงุดหงิด” พายหัวเราะร่า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี
“ขี้แกล้งเหมือนกันนะเรา” ฟิชว่าพร้อมใช้มือหนาขยี้หัวพายเบาๆ
“นิดหน่อยครับ” พายเงยหน้าขึ้นฉีกยิ้มจนตาหยี่ ในสายตาของเขาคืออีกฝ่ายน่ารักมากๆ
“ฟิชขอกอดพายหน่อยได้ไหม ในฐานะพี่ชายคนหนึ่ง ?”
“ได้สิครับ” พายพยักหน้ารับอย่างยินดี เขามองออกว่าร่างสูงกำลังเสียใจ
“ขอบคุณนะครับ / อื้อ พายก็ขอบคุณเหมือนกัน”
อ้อมแขนแกร่งโอบกอดพายเอาไว้ทั้งตัว ใบหน้าสวยแทบจมไปกับอกกำยำ ร่างบางยืนนิ่งๆ ให้ฟิชกอดหลายนาทีก่อนที่เราจะผละออกจากกัน
“หลังจากนี้ถ้าพี่ชายคนนี้จะชวนไปทานข้าวกันบ้างคงได้ใช่ไหมครับ ?”
“ได้สิครับ พายยินดีเสมอ”
“แต่คุณคิมจะยินดีด้วยไหมละครับ ?”
“คิคิ อันนั้นเป็ปัญหาของเขาแล้วละครับ พายไม่เกี่ยวสักหน่อย”
หลังจากที่เคลียร์กันเข้าใจกันดีแล้วเขาจึงเดินมาส่งพายที่ห้องพักแพทย์ ร่างบางกลับเข้าห้องไปหาคนรักอย่างคิม ในขณะที่เขายืนนิ่งไม่ไหวติ่งอยู่หน้าประตู พยาบาลที่เดินผ่านไปมาต่างยิ้มให้กำลังใจ มุมปากหนายกขึ้นเล็กน้อยก่อนเดินกลับไปขึ้นรถ
เขาหลับตาลงด้วยความหนื่อยอ่อนฟุบใบหน้าหล่อลงไปกับพวงมาลัยทันทีที่เข้ามานั่งในรถ
“ก๊อก ! ก๊อก !”
เสียงเคาะดังขึ้นทำให้เขาหลุดจากภวังค์ความคิด เมื่อหันมองตรงบริเวณกระจกด้านข้างปรากฏว่าเป็กันต์ลูกน้องคนสนิทของพายที่ยืนอยู่
“ครับคุณกันต์ มีอะไรให้ผมช่วย ?”
ฟิชเปิดประตูรถลงไปพูดคุยกับอีกฝ่าย สายตาของเขาสังเกตเห็นครามที่ยืนห่างออกไปไม่มากนัก
“เปล่าหรอกครับ แค่จะถามคุณฟิชว่านั่งในรถทำไมไม่สตาร์ทเครื่องยนต์ละครับ ?”
“ผมคงลืมนะครับ เผลอคิดอะไรเพลินไปหน่อย”
ฟิชส่งยิ้มบางๆ ให้กับคนตรงหน้า ยกมือขึ้นลูบต้นคอแก้เขินกับคำตอบนั้น
“อย่าลืมบ่อยละ เห็นคุณขึ้นรถนานแล้วแต่ยังไม่สตาร์ทเครื่องยนต์เสียที ผมเป็ห่วงเลยเดินมาดูกลัวว่าคุณจะไม่สบาย”
“ขอบคุณมากครับแต่ผมยังสบายดี ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับบริษัทก่อนนะครับ พอดีเลขาให้เข้าไปเซ็นเอกสารด่วน”
“ครับ”
กันต์พยักหน้ารับเบาๆ มองอีกฝ่ายอย่างห่วงใยก่อนเดินกลับไปหาครามที่ยืนรออยู่ พอไปถึงก็โดนอีกฝ่ายขยี้ผมจนเสียทรง
ฟิชมองกันต์กับครามที่สวีทหวานไม่แพ้คู่เ้านายด้วยความอิจฉา ทำไมเขาไม่เคยสมหวังในรักเลยสักครั้ง หลังจากทั้งคู่เดินเข้าลิฟต์ไป เขาจึงขับรถกลับบริษัททันที
“เห้อออออ !”
ฟิชถอนหายใจอย่างปลงๆ คือพวกมันไม่คิดจะปล่อยให้เขาเสียใจบ้างเลยหรือไง คนกำลังอกหักนะเว้ย
พอเขาขับเข้าทางลัดพวกมันก็ขับมอเตอร์ไซค์ตามประกบทันที ั์ตาคู่คมจับจ้องไปยังชายฉกรรจ์อย่างสังเกต พวกมันมากันแค่สองคนสวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้าและชุดสีดำ ในขณะที่สมองกำลังคิดหาวิธีหลุดพ้นจากสถานการณ์ตรงหน้า
“ถ้ากูตาย พวกมึงจะตามกูไปนรกไหม ไอ้พวกเวร ?!” ฟิชสบถออกมาเมื่อพวกมันกัดไม่ปล่อย
“โครม !”
………………………………………………….
