ภายในพระราชวังบนยอดเขาของอาจารย์ เจียง หยุน ได้พบกับอาจารย์ของเขา หลิน ชิงอี้ และผู้าุโหลัก ๆ หลายคนที่รอคอยอยู่ เขาทำความเคารพอย่างนอบน้อม อาจารย์ของเขาเพียงพยักหน้ารับ แต่ภายในใจของนางกลับเต็มไปด้วยความสงสัยและอารมณ์งุนงง
หลิน ชิงอี้คิดในใจว่า "เจียง หยุนดูเปลี่ยนไปมาก ปกติเขาเป็คนร่าเริงเสมอ แต่ตอนนี้กลับเ็าและเงียบขรึม บรรยากาศระหว่างศิษย์ของข้าก็แปลกไป ไม่มีใครเข้าใกล้ หรือ ทักทาย เจียง หยุนเลย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"
นางเพิ่งออกจากการเข้าสู่ความสันโดษเมื่อสามเดือนที่แล้ว และใน่เวลานั้น นางได้ทิ้งร่องรอยจิติญญาไว้ให้ศิษย์ทั้งเจ็ดคน สามในเจ็ดคนได้เปิดใช้งานร่องรอยจิติญญา นางจึงค้นหาตำแหน่งทันที เมื่อพบแล้วนางรีบไปยังทวีปทางใต้ของเทียนหยวนทันที
เมื่อ หลิน ชิงอี้ มาถึงที่นั่น นางพบว่าผู้าุโภายในและศิษย์ส่วนใหญ่เสียชีวิต เจียง หยุนาเ็สาหัส เย่ เฉิน และหลี่ หยูตงก็าเ็และอยู่ในสภาพหวาดกลัว นางช่วยเหลือทุกคนกลับมาที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์และให้ยารักษาระดับสูงสุดเท่าที่จะเป็ไปได้แก่พวกเขา จากนั้นก็ปล่อยให้ทุกคนไปรักษาตัวในที่พักของตนเอง
นางกำลังคิดว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี แต่เมื่อเช้านี้ เย่ เฉิน และหลี่ หยูตงก็เดินเข้ามารายงานว่าสาเหตุที่เกิดความสูญเสียใหญ่ขนาดนี้เป็เพราะเจียง หยุนตัดสินใจหนีและทิ้งพวกเขาให้เผชิญหน้ากับผู้ฝึกฝนปีศาจระดับนิพพาน
ในตอนแรกหลิน ชิงอี้ ไม่เชื่อ แต่เย่ เฉินได้แสดงหินบันทึกภาพที่เก็บไว้ให้ดู ซึ่งแสดงถึงการต่อสู้ของเขากับผู้าุโและศิษย์ที่ถูกสังหาร โดยไร้เงาของเจียง หยุน ทำให้นางโกรธ แต่ก็ยังควบคุมสติอารมณ์ไว้และสั่งให้คนตามเจียง หยุน เพื่อถามคำถามมาในทันที
หลิน ชิงอี้ถามต่อว่า "ระหว่างการต่อสู้กับผู้ฝึกตนปีศาจ เ้าหายไปไหน?"
เจียง หยุนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ข้าถูกโจมตีโดยผู้ฝึกปีศาจระดับนักบุญ"
หลิน ชิงอีขมวดคิ้วคิด
"แล้วเ้ารอดมาได้อย่างไร? เ้ามีระดับการเพาะปลูกเพียงขั้นก่อตั้งิญญาระดับ 6 เท่านั้น"
แต่นางกลับพบว่าในตอนนี้การเพาะปลูกของเจียง หยุนอยู่เพียงแค่ขั้นแรกของขั้นก่อตั้งิญญาเนื่องจากระบบซ่อนเอาไว้แล้วสร้างการาเ็หลอกๆ ไว้อีกด้วย นางเห็นว่าการฝึกฝนของเขาล้มสลายเลยรู้สึกลำบากใจที่จะถามต่อ
หลิน ชิงอี้ ก็ถามเขาว่า " อาการาเ็เ้ายังไม่หายดีเหรอ"
" ขอรับท่านผู้าุโที่สูงสุด "
หลิน ชิงอี้ ใเพราะ เจียง หยุนจะเรียก นางว่าอาจารย์เสมอแต่ตอนนี้ไม่ใช่ประเด็น
ในขณะนั้น เย่ เฉิน เห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดี เขามองไปที่หลี่ หยูตงและกวน เิเหยา จากนั้นพวกเขาก็คุกเข่าลงพร้อมกับศิษย์ภายในและภายนอกบางส่วนและ ะโ
“ขอให้าุโที่สูงสุด ปลด เจียง หยุน ออกจากตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ด้วย”
หลิน ชิงอี ใและนิ่งเงียบก่อนจะถามว่า "ทำไม?"
เย่ เฉินตอบ "เมื่อสามวันที่แล้ว ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้เปิดอาณาจักรลับให้ศิษย์เข้าไปล่าสมบัติและค้นหาโอกาส แต่เมื่อพวกเราได้สมบัติและกำลังจะออกจากอาณาจักรลับ มีกลุ่มบุคคลปิดหน้าปิดตาที่บอกว่าเป็ผู้ติดตามบุตรแห่งศักดิ์สิทธิ์ให้ทุกคนมอบสมบัติมาให้พวกเขาทั้งหมด และเมื่อพวกมัน ก็ หันมาเห็น ข้า พี่สาวหลี่ หยูตง และ พี่สาวกวน เิเหยา พวกเขาบอก ว่าพวกเราเป็ศิษย์น้องของบุตรศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นจงส่งสมบัติมาแค่ครึ่งหนึ่งที่พวกเ้าได้รับก็พอแล้ว"
เมื่อทุกคนในพระราชวังได้ยินเช่นนั้นก็ไม่เชื่อ แต่ เย่ เฉิน ยิ้มและก็ได้เปิดหินบันทึกภาพที่บันทึกเหตุการณ์ ั้แ่การปล้น และ การต่อสู้ของเขากับติดตามพรบุตร ที่อยู่ในขั้นก่อตั้งิญญาระดับ 1 ถึง 3 คน และได้รับชัยชนะ เมื่อหลิน ชิงอีเห็นเช่นนั้น นางก็โกรธขึ้นไปอีก เพราะนางเห็นคนพวกนั้นใช้ วิชาดาบสายหมอก เป็วิชาที่มีเพียงบุคคลสำคัญเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนได้ มันเป็วิชาระดับ์ที่ทัดเทียมกับวิชาระดับาา
นางถามเจียง หยุน "นั่นใช่คนของเ้าหรือไม่?"
เจียง หยุนตอบด้วยความมั่นใจ "ข้าเคยมีผู้ติดตามที่ไหน บนยอดเขาข้าไม่มีแม้แต่คนรับใช้ด้วยซ้ำ"
หลิน ชิงอีฟังเช่นนั้นก็ถามต่อ "แล้ววิชาดาบสายหมอกล่ะ พวกเขาสามารถใช้ได้อย่างไร?"
เจียง หยุนตอบอย่างไม่แยแส "ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน"
คำตอบนี้ทำให้นางโกรธมากขึ้นไปอีก แต่ก่อนที่นางจะพูดอะไร เย่ เฉิน เห็นว่าบรรยากาศกำลังเทมาทางเขาจากนั้นเขาก็เดินเข้ามาต่อหน้าเจียง หยุนและถามด้วยน้ำเสียงเ็า
"ท่านกล้ารับการท้าทายจากข้าหรือไม่? หากข้าชนะ ท่านต้องละทิ้งตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ แต่หากข้าแพ้ ข้าจะไม่สนใจเื่ใดๆที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เลย"
เจียง หยุนมองไปที่อาจารย์ของเขา นางนิ่งเงียบ และศิษย์พี่ศิษย์น้องของเขา พวกนางหลบสายตา และบางคนมองด้วยใบหน้าเ็า เขาจึงตอบว่า
"ตกลง ได้ 1 วันหลังจากวันนี้เจอกันที่สนามประลอง แต่หากข้าชนะ ข้า้าแหวนบนมือของเ้า"
หลังจากได้ยินอย่างงั้น เย่ เฉิน ก็ตอบอย่างไม่ลังเล
" ตกลง "
หลังจากนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในจิตใจ เย่ เฉิน
" ขอโทษท่านอาจารย์แต่ท่านมั่นใจได้เลยว่าข้าไม่แพ้แน่นอน "
" ข้าก็หวังว่าจะเป็เช่นนั้น "
หลังจากกำหนดข้อตกลง กันเสร็จแล้ว เย่ เฉิน ก็ยิ้มในใจและคิด
“ข้าจะไปแพ้คนพิการอย่างเ้าได้อย่างไร กระดูกศักดิ์สิทธิ์ เ้าก็ถูกข้าดึงออก รากฐานของเ้าพังทลาย ที่เ้ารอดมาได้เพราะข้าบอกให้ผู้าุโนักบุญ ปล่อยเ้าไป เพื่อเป็ก้าวย่าง สำคัญในการเพิ่มชื่อเสียง และ ความน่าเชื่อถือให้ตัวข้าตั้งหากละ ฮาฮาฮา”
หลังจากนั้นศิษย์พี่ศิษย์น้องไม่ว่าจะเป็ทั้งภายในและภายนอก รวมถึง หลี่ หยูตง กวน เิเหยา ต่างก็เข้าไปพูดคุยกับเย่ เฉิน เมื่อเจียง หยุนเห็นเช่นนั้น เขาก็ไม่สนใจและเดินออกไปคนเดียว และยิ้มเยาะภายในใจ
“ข้าผู้ที่การเพาะปลูกระดับนิพพานและนักจัดรูปแบบ ระดับ 9 ภายใต้นักบุญข้าอยู่ยงคงกระพัน ต่อให้เป็บุตรแห่งโชคชะตาต่อหน้าข้าก็ตายได้”
เมื่อเห็นว่า เจียงหยุน จากไปอย่าง โดดเดี่ยว จาง ซินเย่ มู่ ชูหยวน หลิน ชิงอี้เห็นเช่นนั้น นางรู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง... มู ชูหยวนก็จากไปทันทีเหมือนกันส่วน จาง ซินเย่ ก็เดินเข้าไปคุยกับศิษย์น้องของนาง และ หลิน ชิงอี้ ไม่เข้าใจว่าเกิดเื่อะไรขึ้น นางได้ยินข่าวลือเสียหายมากมายจาก ตัวเจียง หยุน ใน 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งการลวนลามสาวกหญิง การปล้น การติดสินบน และทำร้ายคนธรรมดา และอีกมากมาย นางไม่เชื่อและปล่อยผ่านไป จนมาถึงวันนี้นางรู้สึกไม่ดีอย่างมากในใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้