เล่มที่ 9 บทที่ 249 มนต์สะกดเทียนกังปลอม
เพียงเวลาสั้นๆ แค่วันเดียวหลังจากปล้นฟางจวิ้นและเฉิงหัวสำเร็จ ภายในคัมภีร์โครงกระดูกก็มีสิ่งวิเศษมากมายเป็ูเาขนาดย่อมเลยทีเดียว…
ทว่าหลินเฟยกลับไม่คิดจะหยุดมือลงเท่านี้
วันรุ่งขึ้นก็เดินหน้าปล้นชิงสำนักกระบี่หลี่ซานอีกสามครั้ง สำนักโยวิสี่ครั้ง ส่วนสำนักเชียนซานถือว่าซวยที่สุด เพราะตอนเช้าโดนไปสองครั้ง ตกบ่ายก็โดนไปอีกสองครั้ง แถมยังตบท้ายด้วยยามค่ำคืนอีกหนึ่งครั้ง หลินเฟยถึงกับขนเอาจุดชีพจรหินิญญาไปได้ทั้งหมดเลยทีเดียว…
ส่วนสำนักเล็กๆเอง ก็ไม่รอดเช่นกัน เพียงเผชิญหน้ากับหลินเฟย ก็ล้วนต้องจากไปทั้งน้ำตา…
แน่นอนว่าคนที่น่าสงสารที่สุด ย่อมหนีไม่พ้นเวินโหว…
เพราะหลินเฟยได้แอบอ้างชื่อเวินโหวแล้วเที่ยวปล้นชิงไปทั่ว เพียงวันเดียวชื่อเสียงของเวินโหก็เหม็นโฉ่ไปทั่วแล้ว…
เวินโหวรู้สึกอยากตายเหลือเกิน…
‘ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!’
ตอนแรกเวินโหวยังพยายามอธิบายให้คนอื่นเข้าใจ บอกว่าตนเองต่างหากที่เป็เวินโหวตัวจริง ตัวเขาเป็คนดี ไม่เคยปล้นชิงใคร แค่ถูกแอบอ้างชื่อเท่านั้น…
แต่ปัญหาก็คือผู้บำเพ็ญมากมายล้วนโกรธแค้นเป็ฟืนเป็ไฟ มีหรือจะยอมเชื่อง่ายๆ?
หากเจอคนที่อารมณ์เย็นหน่อยยังพอไหว เพียงถูกสาปแช่งให้ไม่ตายดีเท่านั้น แต่หากโชคร้ายเจอคนหัวรุนแรงละก็ แค่พูดไม่เข้าหู ก็ถูกลงไม้ลงมือทันที แถมยังมีครั้งหนึ่ง ถึงกับถูกผู้บำเพ็ญขั้นจิงตันไล่ล่าเลยทีเดียว หากไม่ใช่เพราะเ้าปลาั์ที่มีสายเืซวีคงเหยาสามารถหายตัวได้ละก็ มีหวังเวินโหวอาจจะไม่มีชีวิตรอดกลับมาแล้วก็ได้…
หลังจากพยายามอยู่หลายครั้งแต่ไม่เป็ผล สุดท้ายเวินโหวจึงยอมแพ้…
‘ไม่สนมันแล้ว ปล้นบ้างแล้วกัน!’
เช่นนั้นเวินโหวจึงยืมคัมภีร์โครงกระดูกจากหลินเฟยไป จากนั้นก็พาเ้าปลาั์ออกตระเวนปล้นชิงไปทั่ว โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมอะไรทั้งนั้น เจอใครก็ปล้นชิงทันที แถมเวินโหวยังปล้นดุกว่าหลินเฟยเสียอีก หากวันไหนโชคดีก็ปล้นมาได้ทั้งสามสำนักใหญ่ ภายในวันเดียวเลยด้วยซ้ำ…
เพียงห้าวันสิ่งวิเศษในคัมภีร์ก็ใกล้จะครบแล้ว…
เช้าวันที่หกหลินเฟยจึงหาสถานที่แห่งหนึ่ง ก่อนจะปลดปล่อยคัมภีร์โครงกระดูกออกมา จากนั้นก็โคจรเคล็ดวิชาจูเทียนฝูถู ทันใดนั้นเจดีย์โครงกระดูกหกชั้นก็กลายสภาพเป็จานโม่ขนาดใหญ่ เพียงพริบตาเดียวก็บดขยี้เหล่าสิ่งวิเศษให้แตกสลาย
บัดนี้คัมภีร์สีดำมีไอิญญามากมายรายล้อมไว้ แถมยังมีอักขระพวยพุ่งออกมาไม่ขาดสาย ครู่เดียวไอิญญาก็รวมตัวกันจนกลายเป็ก้อนกลมหดขยายสลับไปมาลอยอยู่บริเวณเหนือคัมภีร์ อักขระจำนวนมากที่รายล้อมอยู่ ก็โคจรไปกลับระหว่างคัมภีร์กับก้อนควันดำ
“การปล้นนี่แหละ เยี่ยมยอดที่สุดแล้ว…” หลินเฟยพยักหน้ายกยิ้มด้วยความพอใจ หากใช้วิธีปกติละก็ เกรงว่ากว่าจะสะสมของวิเศษได้ครบ จะต้องใช้เวลายาวนานเกือบสิบปีเลยทีเดียว ทว่าตอนนี้กลับใช้เวลาเพียงห้าวันเท่านั้น…
ภายใต้พลังอันรุนแรงที่กดทับลงมาของเจดีย์หกชั้น เพียงไม่นานสิ่งวิเศษทั้งหลาย ก็แตกสลายกลายเป็ไอิญญา จากนั้นหลินเฟยก็ใช้เคล็ดวิชาจูเทียนฝูถูหลอมรวมจนเกิดเป็อักขระจำนวนมาก เมื่อกวาดตามองไปก็พบว่าอักขระที่รวมตัวกันแล้ว ก็จะจมหายเข้าไปในเจดีย์โครงกระดูกหกชั้น ในตอนแรกอักขระยังมีแสงกะพริบเบาบางราวกับหิ่งห้อยอยู่ ทว่ายิ่งหลอมด้วยเคล็ดวิชาจูเทียนฝูถูก็ยิ่งมีอักขระใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งบัดนี้ที่เหนือเจดีย์หกชั้นก็เริ่มมีแสงเบาบางเรืองรองเพิ่มขึ้น…
จากนั้นแสงก็เริ่มเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ…
สุดท้ายก็หลอมรวมเข้ากับมนต์สะกดสามสิบแปดสายที่มี ทันใดนั้นก็มีลำแสงสามสิบแปดสายพวยพุ่งขึ้น ลำแสงมากมายพลันสว่างเรืองรอง และเวลาก็ค่อยๆผ่านไปเรื่อยๆ หน้าผากของหลินเฟยก็มีเม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่อาจหยุดโคจรเคล็ดวิชาจูเทียนฝูถูแม้แต่น้อย หลินเฟยรู้ดีว่านี่เป็่เวลาที่สำคัญที่สุด การจะเข้าไปในช่องว่างระหว่างมิติเพื่อจับเหล็กเซียนอัสนีเหล่ยยวี่ได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับแสงทั้งสามสิบแปดสายนี้แล้วว่าจะสามารถเกิดเป็มนต์สะกดเทียนกังได้หรือไม่…
หรือจะพูดให้ถูกก็คือ “มนต์สะกดเทียนกังปลอม… “
มนต์สะกดเทียนกังปลอมคืออะไร?
มันก็คือมนต์สะกดเทียนกังที่สร้างขึ้นมาเท่านั้น…
เพราะคัมภีร์โครงกระดูกไม่สมบูรณ์ อีกทั้งยังถูกเ้าอสุรกาย่ชิงสิงสู่มาเป็เวลานาน เกรงว่าจะเป็เื่ที่ยากมาก หากปล่อยให้มันเกิดมนต์สะกดเทียนกังขึ้นเอง
ดังนั้นหลินเฟยที่มีเคล็ดวิชาจูเทียนฝูถูในมือ แถมในชาติที่แล้วก็ยังเป็ช่างหลอมที่มีชื่อเสียงในพิภพหลัวฝูอีกด้วย บัดนี้ยิ่งมีคัมภีร์โครงกระดูกที่มีมนต์สะกดสามสิบแปดสายในมือ แถมยังมีของวิเศษมากมายมหาศาล ต่อให้ไม่มีมนต์สะกดเทียนกังจริงๆ แต่การจะปลอมขึ้นมาสักสายนั้น ก็ไม่ใช่เื่ยากอะไร
และหลินเฟยก็ทำขึ้นมาได้จริงๆ…
จริงๆ นับว่าเป็เื่ที่ง่ายมากทีเดียว
ขอเพียงมีสิ่งวิเศษมากพอ จากนั้นก็บดทำลายให้กลายเป็ไอิญญาเสีย และหลอมรวมไอิญญาให้กลายเป็อักขระ สุดท้ายก็จะเกิดเป็มนต์สะกดเทียนกังปลอมขึ้นมาเอง…
บัดนี้อักขระมากมายได้กลายเป็ลำแสงเจิดจ้า ลำแสงทั้งสามสิบแปดสายนี้กำลังระยิบระยับไปมา หลินเฟยยังคงโคจรเคล็ดวิชาจูเทียนฝูถูไม่หยุด เขาคอยบงการให้อักขระจำนวนมากนี้พุ่งปะทะเข้ากับลำแสงทั้งสามสิบแปดสาย…
ในที่สุดในคืนวันที่หก ลำแสงทั้งสามสิบแปดสายก็หลอมรวมเข้าด้วยกัน จากนั้นก็เกิดเป็ลำแสงสายหนึ่งพวยพุ่งขึ้นฟ้า พอกวาดตามองไปก็พบว่าลำแสงสายนั้นพวยพุ่งสูงถึงพันจ้างเลยทีเดียว มันส่องสว่างท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด จากนั้นทั่วทั้งรัศมีร้อยจ้าง ต่างก็ถูกลำแสงนี้ปกคลุม แม้แต่ดวงดาวบนฟ้าก็ยังถูกลำแสงนี้บดบังจนอับแสง…
กระทั่งหนึ่งเค่อผ่านไป ลำแสงที่สูงนับพันจ้างก็สลายหายกลับเข้าไปในคัมภีร์โครงกระดูกเช่นเดิม ก่อนจะรวมตัวเกิดกันจนเกิดเป็ลำแสงโปร่งใสสายหนึ่งขึ้นในคัมภีร์ และลำแสงทั้งสามสิบแปดสายได้รวมตัวกลายเป็หนึ่งเดียว เพียงมองแวบเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าจะต้องร้ายกาจกว่าเดิมเป็สิบเท่า!
“สำเร็จ!” เพียงหลินเฟยโบกมือ ลำแสงมากมายก็จางหายไปทันที ครู่เดียวผ่านไป คัมภีร์ก็ลอยกลับลงสู่มือหลินเฟย…
และก็เป็อย่างที่คิดไว้ หลังจากคัมภีร์โครงกระดูกมีมนต์สะกดเทียนกัง มันก็มีพลังร้ายกาจขึ้นมาก แม้แต่ตัวหลินเฟยเองก็ไม่อาจกดข่มคัมภีร์ได้อย่างง่ายดายเช่นที่ผ่านมา...
“เดี๋ยวก่อนนะ...” ทว่าเมื่อกวาดตามอง หลินเฟยก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นทันที ‘ทำไมคัมภีร์ยังดูแน่นิ่งเหมือนปลาตายเช่นนี้ล่ะ?’
เมื่อใดที่อาวุธเกิดมนต์สะกดเทียนกัง เช่นนั้นก็จะพัฒนากลายเป็ศาสตราวุธ แถมยังจะมีหยวนหลิงถือกำเนิดขึ้นมาอีกด้วย แล้วจะมีสภาพเหมือนปลาตายได้อย่างไร?
‘จริงสิ..’.
ทันใดนั้นก็มีความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัวหลินเฟย ‘ใช่จริงๆ แม้คัมภีร์จะเกิดมนต์สะกดเทียนกังปลอม แต่หยวนหลิงกลับยังไม่เกิดขึ้น...’
ส่วนเหตุผลที่เป็เช่นนี้ ก็เดาได้ไม่ยาก...
เพราะคัมภีร์เล่มนี้ยังไม่สมบูรณ์ ภายหลังยังถูกเ้าอสุรกาย่ชิงเข้าสิงมานาน คาดว่าหยวนหลิงที่แท้จริงคงสลายหายไปแล้ว บัดนี้ต่อให้สร้างมนต์สะกดเทียนกังปลอมขึ้นมา สุดท้ายก็ยังเป็ของปลอมอยู่ดี ไม่อาจเทียบกับมนต์สะกดเทียนกังจริงได้ จึงเป็ธรรมดาที่จะไม่เกิดหยวนหลิง
‘คราวนี้คงลำบากขึ้นมาแล้วสิ...’
เพราะศาสตราวุธที่แท้จริงจะต้องมีทั้งมนต์สะกดเทียนกังและหยวนหลิงของอาวุธ จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้ บัดนี้แม้คัมภีร์จะมีมนต์กดสะกดเทียนกังปลอม แต่กลับไม่มีหยวนหลิง เช่นนั้นการเข้าไปในช่องระหว่างมิติจึงไม่ใช่เื่ง่าย...
-----------------------------------------------------------------------------------------------------