"ตอนที่ท่านจ้าวให้คนมาส่งข่าว ข้าเพิ่งรับทาสใหม่เข้ามาหนึ่งกลุ่ม ท่านอยากจะดูหรือไม่? ทาสเหล่านี้ล้วนดียิ่งนัก บางคนถึงขั้นมีฝีมือเล็กน้อย ดังนั้นราคาจึงค่อนข้างแพง พวกเขาล้วนรอเอาสัญญาซื้อทาสไปซื้อข้าวปลาอาหาร หวังว่าท่านจ้าวจะอภัย" หญิงค้าทาสเดินมาต้อนรับ เชิญพวกเขานั่ง
ชายหญิงตรงหน้ายืนเป็สองแถวซ้ายขวาอย่างรู้ตัว ชายยืนอยู่ฝั่งซ้าย หญิงยืนอยู่ฝั่งขวา ใบหน้าสะอาดสะอ้าน
ซ่งอวี้ยิ้ม สายตากวาดมองไปที่พวกเขา "ในเมื่อล้วนรอเอาเงินไปซื้อข้าวปลาอาหาร เช่นนั้นก็เริ่มกันเถอะ แพงหรือไม่แพงเป็เื่รอง ขอเพียงท่านป้าแนะนำคนเก่งๆ ให้ข้าก็พอแล้ว" ซ่งอวี้ยอมรับในตัวหญิงค้าทาสแล้ว เพียงแค่ตนเดินเข้ามาแล้วนางช่วยบรรดาทาสพูด แค่นี้ก็ดูออกแล้ว
หญิงค้าทาสพยักหน้าติดๆ กัน "แม้คุณหนูไม่พูด ข้าก็รู้ดี หากปล่อยให้คุณหนูซื้อทาสแย่ๆ ไป วันข้างหน้าเกิดเื่ขึ้นมา คุณหนูก็ไม่มาซื้อทาสกับข้าแล้ว"
เป็คนเฉลียวฉลาด รู้จักวางตัว สิ่งเหล่านี้อธิบายได้ว่าการที่หญิงค้าทาสกลายเป็คนค้าทาสที่มีชื่อเสียงในอำเภอเพราะมีความสามารถจริงๆ อย่างน้อยก็ไม่ลุ่มหลงกับผลประโยชน์ตรงหน้า
"ไม่ทราบว่าคุณหนูอยากได้ทาสที่มีความสามารถด้านใด? คุณหนูบอกข้า ข้าจะได้ช่วยคุณหนูเลือกได้"
ซ่งอวี้ครุ่นคิด แล้วเอ่ยบอกความ้าของตัวเอง "นี่เป็การซื้อทาสครั้งแรกของข้า แน่นอนว่างานบ้านเป็อันดับหนึ่ง ทางที่ดีที่สุดต้องเป็คนซื่อสัตย์ ทำงานเร็ว ทำอาหารอร่อย มีหรือไม่?"
เื่เหล่านี้เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิต ซ่งอวี้ย่อมพูดเป็อันดับแรก ถึงแม้ว่าแท้จริงแล้วนางอยากจะซื้อทาสที่มีความรู้ด้านวิชาการแพทย์ อย่างแย่ที่สุดมีความรู้ด้านสมุนไพรเล็กน้อยก็ได้ แต่คนที่มีความสามารถด้านนี้ ระหว่างเดินทางมาที่นี่ท่านจ้าวก็บอกกับนางแล้วว่ายากที่จะเจอทาสเช่นนี้ ให้นางถอดใจเสีย ดังนั้นซ่งอวี้จึงไม่มีความหวัง ยิ่งไปกว่านั้นไม่แม้แต่จะพูดถึง
ความเป็จริง สิ่งที่ซ่งอวี้้าเป็เื่พื้นฐาน หญิงชราได้ฟังถึงกับยิ้มกว้าง "คนที่คุณหนู้า ย่อมมีเป็ธรรมดา" ขณะพูด นางเดินเข้าไปในกลุ่มคน แล้วเลือกทาสออกมาสี่ห้าคนให้พวกนางยืนด้านหน้าสุด
"ทาสเหล่านี้เป็คนที่ข้ามองแล้วเหมาะสมกับความ้าของคุณหนู คุณหนูจะเลือกเองหรือว่าจะให้ข้าแนะนำให้ท่าน?"
"ข้าเลือกเองเถอะ" ซ่งอวี้ตอบ ถึงอย่างไรก็เป็คนที่ต้องอยู่ร่วมกันในวันข้างหน้า นางจึงอยากจะเป็คนเลือกเอง
ซ่งอวี้เดินไปตรงหน้าสาวใช้ มองพวกนางทีละคน สาวใช้บางคนเงยหน้าขึ้นด้วยความดื้อรั้นจ้องมองมาที่นาง บางคนก้มหน้าลงวางตัวเป็สาวใช้ที่ถูกต้อง
พูดตามตรง เมื่อมองเช่นนี้แล้วซ่งอวี้รู้สึกไม่สบายใจนัก แต่เวลานี้นางยืนอยู่จุดนี้แล้วไม่อาจถอยหลัง ทำได้เพียงกัดฟันมองไป สุดท้ายก็เลือกหญิงวัยกลางคนที่มองดูแล้วอายุใกล้สามสิบ
ดูเหมือนว่าหญิงวัยกลางคนคนนี้คิดไม่ถึงว่าตนจะถูกเลือก นางเงยหน้าขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา เพิ่งสบตากับซ่งอวี้ก็รีบก้มหน้างุด คุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพ
"เ้าชื่ออะไร ยังมีญาติมิตรหรือไม่?" การมีคนคุกเข่าตรงหน้าเช่นนี้ทำให้ซ่งอวี้กระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย แต่เวลานี้นางก็ไม่อาจเดินหนีจึงทำได้เพียงย่อตัวลง แล้วถามด้วยความอ่อนโยน
หญิงวัยกลางคนก้มหน้าต่ำยิ่งกว่าเดิม ก้มจนหน้าผากเกือบแตะพื้น นางตอบเสียงอู้อี้ "บ่าวชื่ออาฝู มีลูกเล็กหนึ่งคน อายุยังไม่ถึงสิบสองเ้าค่ะ"
หญิงค้าทาสเดินเข้ามาหา "อาฝูเป็สาวใช้ที่ดีคนหนึ่ง ทำงานคล่องแคล่วว่องไว ทั้งยังซื่อสัตย์ สิ่งสำคัญที่สุดคือฝีมือการทำอาหารเป็เลิศ แค่ว่าเป็เพราะนางมีลูก ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดซื้อตัวนางไป คุณหนูทำบุญเล็กน้อยดีหรือไม่ รับพวกนางสองคนแม่ลูกไปอยู่ด้วย เด็กคนนั้นข้าเคยเห็นแล้ว เป็เด็กดีและเชื่อฟัง ไม่ทำให้คุณหนูเดือดร้อนแน่นอนเ้าค่ะ"
อาฝูลงชื่อในร้านค้าทาสมาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว มักมีคนเลือกนาง แต่เมื่อรู้ว่านางยังมีลูกอีกหนึ่งคน ทุกคนต่างส่ายหน้า มีลูกอายุไม่ถึงสิบสอง ที่บ้านไม่มีคนคอยดูแล ซึ่งก็หมายความว่าผู้ซื้อต้องเป็คนเลี้ยงเด็กคนนั้นด้วย ซื้อทาสหนึ่งคนเป็เื่จริง แต่กลับต้องเลี้ยงสองคน เห็นชัดว่าเป็การซื้อขายที่ขาดทุน เมื่อเป็เช่นนี้สุดท้ายจึงไม่มีคนเลือกอาฝู
หญิงค้าทาสสงสารอาฝู หวังว่านางจะขายออกจึงช่วยนางพูด
ซ่งอวี้กำลังจะพูด หางตาของนางชำเลืองมองไปทางหญิงค้าทาส เห็นหญิงค้าทาสกำลังมองอาฝูด้วยแววตาสงสาร
คนค้าทาสก็สงสารผู้อื่นด้วยหรือ?
ซ่งอวี้ยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า ภายใต้สีหน้าซีดขาวของอีกฝ่าย นางพูดอย่างอ่อนโยน "เช่นนั้นก็เ้าแล้วกัน ข้าไม่รังเกียจที่เ้าจะพาเด็กคนหนึ่งมาอยู่ด้วย ทว่าข้ามิใช่คนร่ำรวย แต่งานที่เ้าต้องทำกลับเหมือนงานบ้านในตระกูลอื่นๆ เ้ายินยอมหรือไม่"
อาฝูจะไม่ยินยอมได้อย่างไร รีบคำนับสามครั้ง ตอนนางเงยหน้าขึ้นมาก็มีน้ำตาคลอเบ้าแล้ว
ซ่งอวี้ให้อาฝูยืนอยู่ข้างๆ จากนั้นก็เลือกสาวใช้ที่แรงเยอะและกินเก่งชื่อเสี่ยวหมาน ซ่งอวี้เลือกเสี่ยวหมานเพราะนางเป็คนแรงเยอะ เสี่ยวหมานไม่ได้มีชาติกำเนิดที่น่าสงสารเหมือนอาฝู นางมาค้าตัวเป็ทาสเพราะที่บ้านไม่อาจเลี้ยงนางที่กินจุได้ แม้นางจะแรงเยอะ แรงของเสี่ยวหมานเพียงคนเดียวเทียบกับแรงสองคนได้ แต่ในขณะเดียวกันนางก็กินอาหารปริมาณเทียบเท่าคนสองคนเช่นเดียวกัน บางครั้งมากกว่านั้นเสียอีก บิดามารดาของนางกลัวการกินจุเช่นนี้จึงไล่นางออกไป
หลังจากซ่งอวี้ฟังแล้วไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แต่ซ่งอวี้ก็้าคนแรงเยอะอย่างเสี่ยวหมาน หากมีโจรบุกเข้ามาในเรือนเสี่ยวหมานยังคอยดูแลเรือนได้ ในเรือนมีแต่ผู้หญิงนางไม่อาจซื้อผู้ชายกลับมาได้ เพราะถึงอย่างไรชายหญิงก็แตกต่างกัน
ท่านจ้าวพยักหน้า เชื่อมั่นในสายตาของลูกศิษย์ตนเอง ไม่ได้ไถ่ถามใดๆ อีก รับคนขึ้นรถม้าแล้วพากลับหมู่บ้านเสี่ยวหนิวด้วยกัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้