เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วดั่งสายน้ำไหล ชั่วพริบตาเดียวผ่านไปครึ่งปีแล้ว
เย่ชิงหานตอนนี้กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนกองหินศิลาภายในห้องโถงใหญ่ ห้องโถงใหญ่เดิมทีที่เต็มไปด้วยเสาหินศิลาระเกะระกะเกลื่อนกลาดถึงตอนนี้ถูกเย่ชิงหานพังทำลายไปกว่าครึ่ง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ตั้งตระหง่านอยู่อย่างสมบูรณ์ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงยังคงเหมือนกับครั้งแรกที่ปรากฏออกมา
ทีแรกเย่ชิงหานยังคิดว่าขอเพียงตนเองสามารถจับทิศทางได้สักหน่อยก็คงพังเสาหินศิลาไปได้อย่างรวดเร็วเป็แน่แท้
จากเดิมที่คิดเอาไว้ว่าใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนก็น่าจะทะลวงผ่านด่านนี้ไปได้ เพียงแต่ตอนนี้ผ่านไปครึ่งปีแล้วเขาเพิ่งทำลายไปได้เพียงแค่สองในสามส่วนเท่านั้นเอง
เคล็ดลับในการเล่นเกม “กู้ะเิ” มีอยู่อย่างแน่นอน และความจริงสามารถใช้ระดับความเร็วที่รวดเร็วยิ่งกว่านี้ในการทำลายเสาหินศิลาได้ แต่เมื่อเริ่มลงมือปฏิบัติเข้าจริงๆ มันไม่ได้เป็ไปดั่งที่คิดเอาไว้ เพราะนี่ไม่ใช่เกมที่จะให้โอกาสในการเลือกผิดได้ เพราะเมื่อเลือกเดินผิดแค่เพียงครั้งเดียวนั่นหมายถึงชีวิตที่ต้องชดใช้ต่อความผิดพลาดนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมกระดานนี้ทั้งใหญ่และมีจำนวนที่มากมายมหาศาลจนเกินไป จึงจำเป็จะต้องคิดคำนวณอย่างระมัดระวังรอบครอบที่สุดถึงค่อยกล้าลงมือทำลายเสาหินศิลาแต่ละต้น
เนื่องด้วยสภาพการณ์เช่นนี้จึงทำให้ระดับความเร็วในการทะลวงผ่านด่านของเขาลดช้าลงไปมาก อีกทั้งไม่มีเครื่องมืออุปกรณ์ใดๆ ที่สามารถใช้ในการทำสัญลักษณ์เครื่องหมายไว้ได้ จึงทำได้เพียงแค่นึกคิดคำนวณอยู่ภายในหัวเท่านั้น ทำให้สมองทำงานหนักมากยิ่งขึ้นหลายเท่าตัวทั้งคิดคำนวณและต้องจดจำเสาหินศิลาที่อยู่โดยรอบ...
ดังนั้นสภาพจิตใจของเขาจึงอ่อนล้าเป็อย่างมาก ทุกครั้งที่ทำลายเสาหินศิลาไปได้บางส่วนจึงจำเป็จะต้องหยุดพักผ่อนหลับนอนสักตื่นเพื่อฟื้นฟูสภาพกำลังวังชาของจิตใจให้กลับคืนมา
“เฮ้อ...” ผ่านไปเนิ่นนานเย่ชิงหานตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทำการบีบนวดขมับและต้นคอเตรียมพร้อมที่จะเริ่มเก็บกู้ะเิชุดใหม่ขึ้น มองดูบริเวณโดยรอบที่ยังมีเสาอยู่หลายหมื่นต้นและที่ถูกทำลายไปแล้วจำนวนหลายหมื่นต้น เขาอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจออกมา...
“เ้าหนู ข้าขอเตือนเ้าเื่เวลา จนถึงตอนนี้เ้าใช้เวลาไปทั้งหมดครึ่งปีแล้ว ถ้าหากเ้ายังไม่รีบทำเวลาให้รวดเร็วยิ่งกว่านี้ละก็ อีกครึ่งปีเส้นทาง์ก็จะเปิดออกแล้ว ข้างหน้ายังมีอีกสองด่านย่อย! แต่แน่นอนว่าเ้าควรจะทำเวลาในสถานการณ์ที่แน่ใจที่สุดแล้วว่าปลอดภัยอย่างแน่นอนเพียงเท่านั้น!” ลู่ซีที่นั่งขัดสมาธิอยู่มุมห้องของห้องโถงใหญ่ เมื่อเห็นว่าเย่ชิงหานตื่นขึ้นมาแล้วจึงรีบพูดบอกเตือนออกมา
“อืม! ขอบคุณผู้าุโ ข้าจะระมัดระวัง!” เย่ชิงหานพยักหน้าตอบรับแล้วนวดไปที่ขมับอีกครั้ง ดวงตาหรี่ลงก้าวเท้าออกไปเริ่มการเก็บกู้ะเิขึ้นต่อ
.................................
ูเาด้านหลังตระกูลเย่
เย่เทียนหลงกลัดกลุ้มเป็อย่างมาก ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้าง หนวดเคราใต้คางที่มีอย่างเบาบางปลิวลอยขึ้นมาด้วยอารมณ์โกรธเดือดดาล ในฐานะที่เป็หัวหน้าตระกูลเขาไม่ได้อารมณ์เสียเช่นนี้นานแล้ว ครั้งก่อนที่อารมณ์เสียคือเมื่อหลายปีก่อนที่เย่ชิงหานอาละวาดภายในสวนเมามาย ครั้งนี้เขาไม่เพียงแค่โกรธเดือดดาลยิ่งกว่ามากแต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่สามารถจะระบายออกมาได้อีกด้วย ดังนั้นเขาจึงกลัดกลุ้มจนแทบจะคลั่งออกมา
ภายในตระกูลเย่ผู้ที่สามารถทำให้เขาโกรธแต่ไม่กล้าระบายออกมามีเพียงผู้เดียวคือเย่รั่วสุ่ย แน่นอนว่าหลังจากที่เย่ชิงหานอาละวาดที่สวนเมามายเขาก็มีคุณสมบัตินี้เช่นเดียวกัน แต่ตอนนี้กลับเพิ่มมาอีกหนึ่งคนคือ เย่ชิงอวี่
ถูกต้อง! ครั้งนี้ที่ทำให้เย่เทียนหลงเดือดดาลจนแทบจะบ้าคลั่งก็คือเย่ชิงอวี่
ความเป็มาของเื่ราวเริ่มขึ้นเมื่อหลายวันก่อนที่ตระกูลเย่ถ่ายทอดคำสั่งเรียกรวมพลเพื่อเปิดประชุม เย่ชิงหานถูกดูดเข้าไปภายในูเาจนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปสี่ปีครึ่งแล้ว ยังเหลือเวลาอีกครึ่งปีเส้นทาง์ก็จะเปิดออกแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงกระแสเสียงของท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่ที่ส่งมาบอกว่าจะมีสมบัติล้ำค่าระดับสูงสุดปรากฏออกมา เอาแค่เย่ชิงหานที่อยู่ภายในจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้เป็ตาย เื่ราวของูเาสุสานทวยเทพในครั้งนี้เย่เทียนหลงจึงจัดให้เป็เื่ราวที่สำคัญที่สุดอันดับหนึ่งของตระกูล
จากนั้นคำสั่งเรียกระดมพลลูกหลานตระกูลเย่ที่มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิจึงถูกประกาศออกไป อีกทั้งยังได้ประกาศรับสมัครผู้มีพลังฝีมือขั้นสูงสุดขอบเขตาาจักรพรรดิจำนวนมากในเขตปกครองเทพา โดยให้ค่าตอบแทนอย่างงามแก่ผู้ที่เข้าร่วมเตรียมตัวไปรับและช่วยเย่ชิงหานกลับมา
เขาถามเย่รั่วสุ่ยมาแล้ว เย่รั่วสุ่ยบอกกับเขาว่าเย่ชิงหานในตอนนี้เป็ไปได้อย่างมากที่จะยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ลังเลรีบเตรียมการจัดเตรียมกำลังพลที่แข็งแกร่งที่สุดส่งไปเข้าร่วมยังูเาสุสานทวยเทพที่จะเปิดขึ้นเพื่อช่วยเย่ชิงหานกลับออกมาให้ได้
เขายังจำคำที่เย่รั่วสุ่ยพูดออกมาได้ดี เย่ชิงหานเป็ความหวังของตระกูลเย่ ถ้าหากเย่ชิงหานเติบโตขึ้นมาได้ละก็ ความแข็งแกร่งของเขาที่มีนั้นเหนือชั้นกว่าเย่รั่วสุ่ยเป็อย่างมาก และผลดีที่ตระกูลจะได้รับก็จะมีมากกว่าเขาอีกด้วยเช่นเดียวกัน...
แม้คำสั่งเรียกระดมพลจะถูกถ่ายทอดออกไปอย่างลับๆ แต่กลับคิดไม่ถึงว่ายังรู้ไปถึงหูของเย่ชิงอู่จนได้ สุดท้ายเย่ชิงอู่งอแงอาละวาดไม่ว่าอย่างไรก็จะไปยังูเาสุสานทวยเทพให้ได้ แม้ว่าพลังฝีมือของนางในตอนนี้จะอยู่แค่ระดับขั้นที่สองขอบเขตจ้าวนักรบแล้วก็ตาม แต่นางพันตูพูดกรอกหูเย่ชิงหนิวอยู่ทุกวันว่าจะไปให้ได้ แม้จะไม่สามารถเข้าไปภายในได้ก็จะขอรอฟังผลอยู่ข้างนอกูเาสุสานทวยเทพ
ก็ได้! เย่ชิงอู่งอแงเย่เทียนหลงอดกลั้นเอาไว้ แต่ทำไมตอนที่เย่ชิงอู่และเย่ชิงหนิวเถียงกันอยู่นั้นเย่ชิงอวี่ถึงต้องมาได้ยินเข้าด้วย?
เย่เทียนหลงมองดูเด็กสาวที่ใบหน้าอ่อนโยนดูน่าสงสารแต่ดวงตาเด็ดเดี่ยวเป็พิเศษที่อยู่ตรงหน้า เขาถลึงตามองอย่างเกรี้ยวกราดไปทางเย่ชิงหนิวและเย่ชิงอู่ที่อยู่ข้างๆ จากนั้นโบกมือปฏิเสธขึ้นอย่างเด็ดขาดเช่นกัน “ไม่มีอะไรให้ต่อรองทั้งนั้น เ้าไปยังูเาสุสานทวยเทพไม่ได้เป็อันขาด จะขอร้องอย่างไรก็ไม่ได้! เย่ชิงอู่ เ้ากลับไปอยู่ภายในห้องเดี๋ยวนี้!”
“ข้าจะไป!” เวลาผ่านไปสี่ปีเย่ชิงอวี่เติบโตสูงขึ้นมากและสวยขึ้นมากอีกด้วย แต่คุณสมบัติพิเศษประจำตัวที่ใครเห็นก็อดสงสารเห็นใจไม่ได้นั้นยังคงเด่นชัดอยู่เช่นเคย ตอนนี้นางจ้องมองไปยังเย่เทียนหลง ริมฝีปากบางเผยอขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงด้วยความเด็ดเดี่ยวอย่างเต็มที่
“ข้ารับทราบแล้วท่านปู่ใหญ่!” เย่ชิงอู่หลายปีผ่านไปแต่กลับยังคงมีสภาพเหมือนเดิม ใบหน้าเด็กของนางราวกับว่าไม่รู้จักแก่ขึ้นฉันนั้น นางบุ้ยปากเล็กๆ ขึ้นไม่กล้าพูดอะไรออกมามาก จากนั้นหมุนตัวเดินออกไป
“หนูน้อยถือว่าข้าขอร้องเ้าอย่างอแงเอาแต่ใจก่อเื่อีกเลย เพื่อที่จะไปช่วยพี่ชายของเ้า ทางตระกูลได้จัดเตรียมกำลังพลผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิไว้ถึงหกสิบกว่าคนแล้ว เ้าไปจะสามารถช่วยอะไรได้?” เย่ชิงหนิวเห็นเย่เทียนหลงอดทนจนจะถึงขีดสุดแล้วจึงรีบช่วยพูดโน้มน้าวขึ้นเพื่อทำผลงานชดใช้ความผิด “เ้าไปช่วยอะไรไม่ได้ยังไม่พอ มิหนำซ้ำพวกเรายังต้องแบ่งคนออกมาคอยคุ้มกันให้เ้าอีก หากเป็เช่นนั้นจะเป็การเพิ่มภาระให้แก่พวกเขาเสียเปล่าๆ”
เย่ไป๋หู่ก็รีบเข้ามาพูดโน้มน้าวขึ้นด้วยอีกแรงเช่นกัน “ถูกต้อง เด็กน้อยเ้าอย่างอแงเอาแต่ใจอีกเลย เ้าต้องเข้าใจว่าฐานะที่แท้จริงของเ้าในตอนนี้ยังเป็ความลับอยู่ ถ้าหากเ้าไปยังูเาสุสานทวยเทพคงไม่รอดพ้นสายตาของพวกเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนเป็แน่ ถึงเวลานั้นพวกนั้นคงจะต้องทำการลอบสังหารเ้าให้ได้โดยไม่สนใจต่อราคาที่ต้องจ่ายออกมาอย่างแน่นอน!”
“ข้าไม่จำเป็ต้องให้พวกเขามาคอยคุ้มครอง ข้าสามารถดูแลตัวเองได้!” เย่ชิงอวี่ส่ายหัวไปมาและยังคงพูดขึ้นอย่างราบเรียบเช่นเดิม ลักษณะราวกับว่าไม่ได้มาพูดคุยปรึกษาขอความเห็นแต่อย่างใด แต่เป็การมาบอกให้ทราบเพียงเท่านั้น
เย่เทียนหลงเมื่อได้ฟังก็กระแทกเสียงออกมาครั้งหนึ่ง หันหน้ากลับมาแล้วพูดขึ้นด้วยความโกรธอย่างไม่เกรงใจ “เ้าดูแลตัวเองได้? เ้าอย่าคิดว่าตอนนี้พลังฝีมือของตนเองบรรลุถึงระดับขั้นที่สองขอบเขตาาจักรพรรดิแล้วจะเก่งกาจมากมายอะไร? ข้าจะบอกเ้าให้ว่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ไปยังูเาสุสานทวยเทพในครั้งนี้ที่เก่งกาจมีมากมายจนนับไม่ถ้วน แทบจะทุกคนล้วนสามารถสังหารเ้าได้ในพริบตา ไม่ต้องพูดไปไหนไกล เอาแค่ผู้มีพลังฝีมือระดับขั้นสูงสุดขอบเขตาาจักรพรรดิของตระกูลเย่ที่ส่งไปในครั้งนี้ก็มีจำนวนถึงสิบกว่าคนแล้ว คนเหล่านี้เลือกออกมาสักคนใครก็ได้สามารถสังหารเ้าได้ในพริบตาเช่นกัน!”
ระดับความเร็วในการฝึกฝนของเย่ชิงอวี่รวดเร็วจนน่าใ สองปีก่อนพลังฝีมือของนางยังอยู่ในระดับขั้นสูงสุดขอบเขตจ้าวนักรบอยู่เลย เย่เทียนหลงยังคิดอยู่เลยว่าต่อไประดับความเร็วในการฝึกฝนของเย่ชิงอวี่จะต้องช้าลงอย่างแน่นอน เพราะว่าระดับขอบเขตาาจักรพรรดิจะต้องทำการฝึกฝนเพื่อััรับรู้พลังกฎเกณฑ์ให้ได้ ของสิ่งนี้ไม่ใช่ว่าอาศัยการนั่งฝึกฝนเพียงอย่างเดียวก็สามารถรับรู้ได้เสมอไป
ในตอนที่พวกเย่เทียนหลงเตรียมตัวที่จะไปพูดอธิบายให้เย่ชิงอวี่ฟังเกี่ยวกับข้อมูลพลังกฎเกณฑ์พลังฟ้าดินนั้น แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่เดือนเย่ชิงอวี่กลับบรรลุถึงระดับขอบเขตาาจักรพรรดิอย่างไม่คาดคิด ราวกับว่านางไม่จำเป็จะต้องพยายามทำความเข้าใจเลยสักนิด แค่ฝึกฝนไปเรื่อยๆ ก็เข้าใจได้เองฉันนั้น...
ตอนนี้พลังฝีมือของนางเลื่อนขึ้นมาถึงระดับขั้นที่สองขอบเขตาาจักรพรรดิแล้ว แม้การไปยังูเาสุสานทวยเทพในครั้งนี้ทางตระกูลจะส่งผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิทั้งหมดไปแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่คิดที่จะให้นางไปด้วยอย่างแน่นอน แม้ระดับพลังฝีมือของนางจะสูงแต่พวกเขายังสงสัยอยู่ว่าพลังฝีมือที่แท้จริงของนางกับระดับพลังฝีมือนั้นสอดคล้องกันหรือไม่ เพราะว่านางไม่เคยได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาต่อสู้ใดๆ เลย และไม่เคยได้ต่อสู้จริงๆ สักครั้ง
“ข้าดูแลตัวเองได้ ถ้าไม่เชื่อละก็...พวกท่านสามารถทำการทดสอบดูได้!” เย่ชิงอวี่ยังคงพูดขึ้นราบเรียบอย่างดื้อรั้นอยู่เช่นเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งดูจากลักษณะแล้วนางค่อนข้างจะมีความมั่นใจในพลังฝีมือของตนเองอยู่มากเลยทีเดียว ถึงกับเอ่ยปากท้าทายต่อพวกเขาขึ้นมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้