เพราะได้ผ่านการใช้ชีวิตในชาติก่อน นี่ทำให้นางเข้าใจหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นดี
คนเหล่านี้ดูเหมือนจะยอมจำนนศิโรราบ แต่อาจไม่ได้จริงใจ ดังนั้นยิ่งยืนสูงก็ต้องยิ่งระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ตกลงมาร่างแหลกกระดูกสลายเป็ผุยผง
“คุณหนู ท่านคิดว่าครั้งนี้นางแซ่หลี่จะยังมีโอกาสฟื้นตัวกี่ส่วนเ้าคะ?” คิดถึงครั้งที่แล้ว ซูเฟยซื่อเพิ่งแย่งชิงสิทธิ์อำนาจปกครองครอบครัวมาก็ถูกนางแซ่หลี่ใช้การตั้งครรภ์เท็จบีบคั้นเอาคืนไป คิดได้ดังนั้นซางจื่อก็อดมุ่นคิ้วไม่ได้ ด้วยเกรงว่านางแซ่หลี่จะเล่นลวดลายอะไรอีก
ซูเฟยซื่อหยักมุมปากเบาๆ หัวเราะอย่างภาคภูมิใจแกมบ้าคลั่ง “ครั้งนี้ข้าไม่ให้นางมีโอกาสฟื้นตัวอีกแล้ว”
“ถ้าบังเอิญนางแซ่หลี่กลับยังออกอุบาย บังคับให้ท่านยอมมอบสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีกลับคืนไป แล้วคุณหนูจะทำอย่างไรล่ะเ้าคะ?”
สัญญาขายตัวควบคุมชะตาชีวิตของเหล่าบ่าวไพร่ เมื่อสัญญาถูกฉีกหรือขายทอดต่อ การกระทำเล็กๆ คราหนึ่งก็สามารถชี้เป็ชี้ตายแก่บุคคลได้ แต่กุญแจห้องบัญชีควบคุมค่าใช้จ่ายภาวะเศรษฐกิจในจวนอัครมหาเสนาบดี แค่มีเงินก็ถึงกับสามารถใช้ผีโม่แป้งได้ หากได้ควบคุมห้องบัญชีแล้ว จะยังมีอะไรที่ทำไม่ได้อีก?
เพียงได้สองสิ่งนี้ ซูเฟยซื่อจึงนับว่าเป็ผู้ปกครองครอบครัวที่แท้จริงแล้ว!
ซูเฟยซื่อยิ้มมุมปากอย่างดูถูก “นางกล้า? ซางจื่อ เ้าให้จือฉีไปหานางแซ่หลี่ที่นั่นรอบหนึ่ง บอกว่าข้าส่งไปรับสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชี”
“จือฉี?” ซางจื่อย้ำรอบหนึ่งด้วยความประหลาดใจ การแสดงออกของจือฉีครั้งที่แล้ว ล้วนอยู่ในสายตาของนาง
จึงสงสัยว่าทำไมสาวรับใช้ที่ไม่จงรักภักดีไร้คุณธรรมนางนี้ วันๆ ฝันเฟื่องเื่ไก่ป่าแปลงเป็พญาหงส์ ทำไมซูเฟยซื่อยังจะใช้ประโยชน์อีก
ตามความคิดของนาง สาวรับใช้ประเภทนี้ควรขับไล่ออกจากจวนอัครมหาเสนาบดีหรือขายให้หอคณิกาไป
ในเมื่อรักการประจบสอพลอ เช่นนั้นก็ไปประจบสอพลอในหอคณิกาเสียให้พอ
“คาดว่าตอนนี้อารมณ์ของนางแซ่หลี่น่าจะไม่คงที่ ถ้าข้าส่งคนไปเอาสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีในเวลานี้ เ้าคิดว่านางจะตอบสนองอย่างไร?” รอยยิ้มเย็นที่ประดับอยู่บนใบหน้างาม แม้จะน่าหลงใหล ทว่าก็ให้ความรู้สึกอันตรายสุดจะพรรณนา
ซางจื่อไม่ได้โง่ ถูกซูเฟยซื่อชี้แนะแบบนี้ ก็เข้าใจความตั้งใจของนางแล้ว
นางคิดยืมมือนางแซ่หลี่ตีกดดันจือฉี ถ้าแผนการนี้เป็ไปได้ดีอย่างที่คิดละก็ เช่นนั้นจือฉีจะยังอยากเอาวจนางแซ่หลี่อีกหรือ?
คิดได้แบบนั้นแล้ว ก็ส่งสุนัขไปกัดกับสุนัขเองเถิด!
แต่ถ้า… บังเอิญจือฉีกลับไปสมรู้ร่วมคิดกับนางแซ่หลี่ เล่า คุณหนูจะทำอย่างไรเ้าคะ?” ซางจื่อยังคงมีความกังวลอยู่บ้าง
ทั้งนี้สัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีล้วนเป็ของสำคัญ ถ้านางแซ่หลี่สมรู้ร่วมคิดกับจือฉี พวกนางคงไม่ส่งของให้ แล้วยังได้ใส่ความว่าเป็ซูเฟยซื่อที่ทำหายไม่ผิดแน่ ถ้าเช่นนั้นซูเฟยซื่อไยมิใช่ขโมยไก่ไม่สำเร็จ ยังเสียข้าวไปหนึ่งกำมือหรือ
ซูเฟยซื่อส่ายหน้ากล่าว “ไม่เป็เช่นนั้นแน่ จือฉีคนนั้น กระทั่งข้ายังไม่จงรักภักดี ไหนเลยจะจงรักภักดีต่อนางแซ่หลี่ผู้จนตรอกได้อีกเล่า แค่นางไม่ใช้บารมีของข้าไปทำกร่างยังเรือนของนางแซ่หลี่ ก็นับว่าดีแค่ไหนแล้ว”
“กลัวก็แต่นางแซ่หลี่จะใช้เงินซื้อนาง” ซางจื่อกล่าว
“ทุกคนต่างรู้ว่าอำนาจปกครองครอบครัวอยู่ในมือข้า ต่อให้นางแซ่หลี่ถือกุญแจห้องบัญชีไว้ ก็ไม่อาจเบิกจ่ายเงินออกมาได้ แม้ในชีวิตประจําวันนางจะมีเงินเก็บส่วนตัว จือฉีก็จะนำเื่ที่นางแซ่หลี่ติดสินบนนางมาขอผลงานที่ข้านี่ อย่างคำกล่าวที่ว่า อำนาจอยู่ในมือใคร นางก็จงรักภักดีกับคนนั้น ไม่เพียงแต่นาง บ่าวไพร่ในจวนอัครมหาเสนาบดีนี้ก็เป็แบบนี้ทั้งหมด”
ซางจื่อค่อนข้างประหลาดใจแกมใที่ซูเฟยซื่อมองทุกสิ่งได้ทะลุปรุโปร่ง ยิ่งท่าทางของซูเฟยซื่อ กลับทำให้นางประหลาดใจมากกว่าเดิม
เฉยเมย เหมือนนางกำลังพูดเื่ปกติธรรมดาเื่หนึ่งเท่านั้น
ถ้าไม่ใช่เพราะมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันตลอด่เวลาที่ผ่านมาละก็ นางคงเชื่อไม่ลงแน่ว่า ตนกำลังพูดกับเด็กอายุสิบสามจริงๆ
แต่ในเมื่อซูเฟยซื่อมีวิสัยทัศน์ไกลดังกล่าว เช่นนั้นนางก็วางใจลงได้ ซางจื่อตอบรับแล้วรีบไปหาจือฉี
ซูเฟยซื่อมองดูเงาหลังที่จากไปไกลของนาง ไม่ได้คาดหวังต่อผลลัพธ์ใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น
ถ้านางแซ่หลี่ยอมมอบสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีมาแต่โดยดี นางกลับรู้สึกว่ามันช่างง่ายดาย ไม่สนุกเอาเสียเลย
นางคิดอยากเห็นนางแซ่หลี่ต่อสู้ดิ้นรนสุดชีวิต เล่นลูกไม้น้อยๆ จนโดนนางตลบหลังให้อับอายจนไม่อาจเอาหน้าไปไว้ที่ไหนได้ เมื่อความตายมาเยือน ก็ต้องไปอย่างสิ้นหวังจนไร้เรี่ยวแรงจะขึ้น์
ก็เหมือนแมวจับหนู ไม่ช้าก็เร็วต้องจับได้ แต่ก่อนที่จะกินทิ้งก็ต้องเล่นหยอกกับเหยื่อสักหน่อย
เป็ดั่งที่ซูเฟยซื่อคาดไว้ จือฉีเข้าไปไม่เพียงแต่ไม่ได้รับสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีเท่านั้น ทว่ายังถูกนางแซ่หลี่ยกเหตุผลข้างๆ คูๆ ฟาดตีอย่างเ็ปตั้งหนึ่ง
เมื่อกลับมาหานาง ใบหน้าทั้งดวงก็บวมเป่งไม่ต่างจากหัวหมู กระทั่งเท้าก็พลิกาเ็สาหัส
เมื่อเห็นซูเฟยซื่อก็รีบแสดงท่าทางคล้ายจือฉินในวันนั้น ร้องไห้คุกเข่าลง “คุณหนู บ่าวไม่สามารถทำเื่ที่ท่านมอบหมายไว้ให้เรียบร้อย บ่าวพลาดจากความรับผิดชอบ ยังขอให้คุณหนูลงโทษเ้าค่ะ”
หลังจากกล่าวจบก็ไม่ลืมสะอึกสะอื้น มือปาดเช็ดน้ำตาด้วยความเศร้าโศก ทว่ารอยยิ้มที่มุมปากของนังบ่าวคนนี้ ก็ไม่อาจรอดจากสายตาของซูเฟยซื่อไปได้ นางหรี่ตาลงกล่าว “อ้อ? เกิดเื่อะไรขึ้น?”
ท่าทีของซูเฟยซื่อไม่กระตือรือร้นอย่างที่จินตนาการไว้ นี่ทำให้จือฉีค่อนข้างผิดหวัง แต่ผิดหวังก็ส่วนผิดหวัง ละครยังต้องเล่นต่อไป “บ่าวไปหานายหญิงเอาสัญญาขายตัวกับกุญแจห้องบัญชีตามคำสั่งของท่าน แต่ไม่คิดว่านายหญิงไม่เพียงไม่ให้ ยังตีบ่าวไปยกหนึ่ง คุณหนู บ่าวถูกตีไม่ว่า แต่เื่ที่ท่านสั่งไว้...”
ซูเฟยซื่อเดาได้แต่แรกว่าจุดจบที่จือฉีเข้าไปต้องไม่ดี แต่รอยยิ้มบนมุมปากของจือฉีเมื่อครู่กลับทำให้นางเกิดความสงสัยอยู่หลายส่วน นางแกล้งใกล่าวต่อ “อะไร? คิดไม่ถึงว่าแม่ใหญ่จะตีเ้า เพราะอะไร? ไป ข้าจะพาเ้าไปหาท่านพ่อถกเหตุผลกัน!”
พอฟังว่าจะไปหาซูเต๋อเหยียน ท่าทางของจือฉีกลับกลายเป็หวั่นไหว รีบสั่นศีรษะ “ไม่ต้องหรอกเ้าค่ะ อย่าให้เื่ยุ่งยากแบบนั้นเลย บ่าวเพียงสาวรับใช้เล็กๆ คนหนึ่ง ไหนเลยสามารถรบกวนนายท่านได้? นอกจากนี้… นอกจากนี้บ่าวก็มีส่วนที่ไม่ถูก บ่าวไม่ควรล่วงเกินนายหญิงใน่เวลานี้ด้วยเ้าค่ะ” พูดจบ จือฉีก็รู้สึกละอายใจบ้าง หลบสายตาไม่กล้ามองซูเฟยซื่อตรงๆ
เห็นเช่นนี้ ซูเฟยซื่อก็เลิกคิ้วมองอีกฝ่าย ดูไปแล้วจือฉีคนนี้ยังมีฝีไม้ลายมือมากกว่าที่นางคิด
ถ้านางเดาได้ถูกต้อง ทั้งหมดนี้ก็เป็เพียงจือฉีหาเื่เองแสดงเองทั้งสิ้น
เกรงว่าเพราะครั้งที่แล้ว จือฉีเห็นนางให้รางวัลผงไข่มุกแก่จือฉิน ในใจนึกอิจฉา จึงจงใจใช้โอกาสนี้ยั่วโมโหนางแซ่หลี่ แล้วแสดงละครแผนทรมานกายชุดหนึ่งออกมา
แต่น่าเสียดายที่การกระทำของนางคราวนี้ ก็ราวกับไก่เห็นตีนงู กลับทำให้ซูเฟยซื่อมองนางทะลุปรุโปร่ง
“ในเมื่อเป็เ้าออกปากกล่าวล่วงเกินแม่ใหญ่ ถ้าเช่นนั้นถูกตีก็สมควร ออกไปเถิด” พบลูกไม้น้อยๆ ของจือฉี ซูเฟยซื่อก็ยิ่งรังเกียจนางมากขึ้นอีกหลายส่วน เพียงโบกมือให้นางออกไปเท่านั้น ถึงอย่างไรนางก็ได้รับบทเรียนอันสมควรแล้ว
จือฉีถึงกับตะลึงงันทำอะไรไม่ถูก นี่ไม่ถูกต้อง เื่ไม่ควรเป็เช่นนี้
ตอนนี้ซูเฟยซื่อกับนางแซ่หลี่ เปรียบได้กับน้ำไฟไม่เข้ากัน หากนางแซ่หลี่ตีทำร้ายคนรับใช้ของนางจริง เช่นนั้นซูเฟยซื่อจะใจเย็นได้อีกหรือ?
ต่อให้ไม่กรุ่นโกรธ แล้วคิดว่านางจะนิ่งเฉย ปล่อยให้อีกฝ่ายสบายใจได้หรือ?
ความคิดของจื่อฉี เหตุการณ์ควรดำเนินไปในรูปแบบนี้
ควรจะเป็ซูเฟยซื่อที่เห็นนางถูกตีแบบนี้ ก็รีบพยุงขึ้นมา ระลึกถึงความจงรักภักดีของนาง แล้วมอบรางวัลสิ่งที่ดีๆ หลายอย่างให้อีก
ทว่าตอนนี้แตกต่างกับสิ่งที่นางคิดไว้อย่างสิ้นเชิง นางพลาดตรงไหนไปแล้ว?
ซางจื่อปรายตามองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง “ทำไม? หูถูกตีจนหนวกไปหมดแล้วหรือ? ไม่ได้ยินหรือว่าคุณหนูให้เ้าออกไปน่ะ?”
“นี่...” จือฉีมองซูเฟยซื่ออย่างคับข้องใจคราหนึ่ง แต่ก็ละอายใจ ไม่มีหน้าจะขอรางวัลให้ตนเอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้