ตอนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานนั่งรถไปพร้อมกับกวนฮุ่ยเอ๋อ
กระทรวงการต่างประเทศจองสถานที่จัดงานไว้เรียบร้อยแล้ว งานจะเริ่มต้นขึ้นตอนหนึ่งทุ่มครึ่ง เธอกับกวนฮุ่ยเอ๋อไม่จำเป็ต้องตอกบัตรเข้างานตรงเวลา ดังนั้นออกเดินทางตอนหนึ่งทุ่มตรงกำลังพอดีแล้ว
“เห็นใครอายุไล่เลี่ยกับฉัน ถ้าเป็ผู้หญิงให้เรียกคุณน้า เป็ผู้ชายก็เรียกคุณอา แค่ทานของว่างและพูดคุยกับคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่เธอคิดหรอก และแน่นอนว่าทำตามใจมากเกินไปคงไม่ได้”
ขณะนั่งรถ กวนฮุ่ยเอ๋อก็ไม่ลืมที่จะชี้แนะแก่เซี่ยเสี่ยวหลาน
เื่เหล่านี้เซี่ยเสี่ยวหลานย่อมรู้ดี ทว่ากวนฮุ่ยเอ๋อมีเจตนาดีเธอจึงตั้งใจฟัง และให้ความร่วมมือกับกวนฮุ่ยเอ๋ออย่างเต็มที่
เซี่ยเสี่ยวหลานถามกลับเป็ครั้งคราว ทำให้กวนฮุ่ยเอ๋อรู้สึกดีกับเธอยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เมื่อก่อนกวนฮุ่ยเอ๋อมีอคติ ตอนนี้พอได้ทำความรู้จักกับเซี่ยเสี่ยวหลานมากขึ้นก็รู้สึกว่า เด็กสาวคนนี้ช่างเป็คนฉลาดจริงๆ ไม่ว่าเื่ไหนแค่ชี้แนะเพียงเล็กน้อยก็เข้าใจได้โดยง่าย ไม่ได้โง่จนทำให้กวนฮุ่ยเอ๋อรับไม่ได้ เด็กใหม่ที่เพิ่งถูกจัดสรรให้มาทำงานในหน่วยงานของกวนฮุ่ยเอ๋อ แม้จะชาญฉลาด เรียนหนังสือเก่ง แต่ทำงานไม่ค่อยเป็สักเท่าไร ต่างจากปฏิกิริยาการตอบสนองและความสามารถในการทำความเข้าใจของเซี่ยเสี่ยวหลานเหลือเกิน เซี่ยเสี่ยวหลานผู้นี้ช่างไม่เสียแรงที่เป็นักศึกษาของหัวชิงจริงๆ
ผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เป็อันดับสามของประเทศ ช่างเหมาะสมกับเธอยิ่งนัก!
กวนฮุ่ยเอ๋อเกิดความรู้สึกว่า ไม่ว่าตระกูลโจว้าลูกสะใภ้แบบไหน เซี่ยเสี่ยวหลานก็สามารถทำให้ได้ แต่นั่นขึ้นอยู่กับว่าเซี่ยเสี่ยวหลาน้าหรือเปล่า
เซี่ยเสี่ยวหลานยังจะพูดอะไรได้อีก
ทั้งหมดล้วนเป็ความเข้าใจผิดที่สวยงามของคุณน้ากวน ความจริงแล้วเธอไม่มีทางฉลาดเฉลียวอย่างกะทันหัน แต่เป็เพราะเมื่อก่อนความคาดหวังของกวนฮุ่ยเอ๋อที่มีต่อตัวเธอนั้นต่ำเกินไป พอพบว่าเธอไม่ได้โง่อย่างที่คาดไว้จึงรู้สึกประหลาดใจเท่านั้นเอง
อยู่ร่วมกับกวนฮุ่ยเอ๋อได้อย่างสงบสุข เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็รู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง
แม้เธอจะชอบโจวเฉิง และอยากเป็แฟนสาวที่ยอดเยี่ยมให้กับเขา แต่หากคนตระกูลโจวรับมือด้วยยาก เซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่รู้เช่นกันว่าควรทำอย่างไรดี
ไม่นานนัก เธอกับกวนฮุ่ยเอ๋อก็มาถึงสถานที่จัดงาน
มันคือบ้านเดี่ยวทรงยุโรปขนาดเล็ก ประตูใหญ่เปิดไว้ครึ่งหนึ่ง ไม่ได้ดูลึกลับอย่างที่เซี่ยเสี่ยวหลานคิด มีทั้งคนที่นั่งรถ และคนที่ขี่จักรยานมา บรรยากาศหรูหราเต็มไปด้วยเพชรพลอยประดับนั้นไม่มีให้เห็นแม้แต่น้อย เพราะอากาศหนาวเกินไป เพื่อต่อสู้กับความหนาวเย็นหลายคนจึงสวมเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ สุภาพบุรุษสวมเสื้อโค้ทบุฝ้ายสีเขียวเข้มแบบทหาร ด้านในคือเสื้อคอจีนหรือไม่ก็เสื้อสูท หากหนุ่มหน่อยก็จะสวมเสื้อไหมพรม
ส่วนสุภาพสตรีจะแต่งกายอย่างมีลวดลาย คนที่นั่งรถมาสวมเสื้อคลุมขนสัตว์ตัวบางหลากหลายสีสัน
ไม่ว่าอย่างไร ที่นี่ก็ดูเรียบง่ายกว่าที่เซี่ยเสี่ยวหลานคาดการณ์ไว้เสียอีก
หลังเข้าประตูบ้าน เธอไม่ได้ชะเง้อมองรอบกายด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอแค่เดินตามกวนฮุ่ยเอ๋อไปเท่านั้น
เซี่ยเสี่ยวหลานดูออกว่าบ้านหลังนี้ไม่เลวเลยทีเดียว ภายในบ้านประดับด้วยโคมไฟคริสตัลเหนือศีรษะแบบโบราณ มีบันไดเวียน มีประติมากรรมนูนต่ำตกแต่งอยู่ โต๊ะตัวยาวถูกจัดวางไว้กลางตัวบ้าน ปูทับด้วยผ้าสีขาว ้าจัดวางของว่าง อาทิเช่น ขนมเปี๊ยะสไตล์จีน เค้กครีมสไตล์ยุโรป และของว่างอย่างอื่นอีกมากมาย
เซี่ยเสี่ยวหลานเห็นสหายหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังพูดคุยกับแขกคนอื่น มือหนึ่งถือขนมเปี๊ยะ อีกมือถือเค้กครีม เป็อย่างที่กวนฮุ่ยเอ๋อว่าไว้จริงๆ แค่มาดื่มกินเท่านั้น!
กระทรวงการต่างประเทศร่ำรวยมาก ทุกปีจัดงานเลี้ยงเชื่อมสัมพันธ์ลักษณะนี้อยู่หลายครั้ง ผู้เข้าร่วมงานมีไม่ต่ำกว่าสามถึงสี่ร้อยคน สถานที่จัดงานสามารถหยิบยืมได้ แต่ของว่างและเครื่องดื่มปริมาณไม่จำกัดล้วนมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น
กวนฮุ่ยเอ๋อกดเสียงต่ำ
“ค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งได้มาจากการหาผู้สนับสนุน อีกส่วนคือพวกเขาแอบขายบัตรเข้างาน คนที่ไม่ได้รับเชิญแต่อยากมาร่วมงานจะต้องจ่ายเงินซื้อบัตรเ่าั้”
บัตรราคาสิบหยวนต่อหนึ่งใบ หากขายได้หลายสิบใบก็จะได้เงินหลายร้อยหยวน จากนั้นก็นำเงินมาซื้อของว่างกับเครื่องดื่ม ความ้าซื้อบัตรช่างเป็ที่น่าใจริงๆ
มีคนซื้อจริงหรือนี่?
กวนฮุ่ยเอ๋อไม่ได้อธิบายอย่างละเอียดนัก เซี่ยเสี่ยวหลานคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วพบว่า หากเธอรู้ว่ามีสถานที่แบบนี้ อย่าว่าแต่บัตรใบละสิบหยวนเลย ต่อให้ราคาร้อยหยวนหรือพันหยวนเธอก็ยินดีจ่าย แน่นอนว่าเธอไม่ได้มาเพื่อหาคู่ครอง แต่ภายในงานเต็มไปด้วยเส้นสายต่างๆ คุณน้าที่กินของว่างอย่างอิ่มหนำสำราญ ดีไม่ดีอาจจะเป็คุณนายของข้าราชการสักคนก็เป็ได้ ถ้าเซี่ยเสี่ยวหลานอยากสร้างเส้นสาย ไม่มีที่ไหนเหมาะสมไปกว่าที่นี่อีกแล้ว!
เธอมาปักกิ่งครึ่งปีแล้ว หากไม่ได้กวนฮุ่ยเอ๋อเธอคงไม่รู้เลยว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วย
นักศึกษาธรรมดาคนหนึ่งจะล่วงรู้เื่นี้ได้อย่างไร
บุคคลที่ทะเยอทะยานอยากก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และมีแหล่งข่าวที่ยอดเยี่ยมเท่านั้นจึงจะรู้เื่เหล่านี้
บางคนเห็นที่นี่เป็งานดูตัว บางคนก็เห็นมันเป็สถานที่สำหรับใช้สร้างเส้นสาย ขึ้นอยู่กับว่าจะนิยามมันว่าอย่างไร!
“สหายฮุ่ยเอ๋อ เธอเป็แขกหายากนะนี่!”
กวนฮุ่ยเอ๋อเพิ่งเข้ามาในงานไม่ถึงสองนาทีก็ถูกคนทักทันที
เธอสวมเสื้อขนเป็ดที่เซี่ยเสี่ยวหลานนำมาให้ สตรีที่เข้ามาทักพอเจอหน้าก็เอ่ยปากชมเสื้อผ้าของกวนฮุ่ยเอ๋อไม่หยุด กวนฮุ่ยเอ๋อจึงรีบถือโอกาสแนะนำ “นี่คือเสื้อที่คู่ครองของโจวเฉิงให้ฉันมาน่ะ เด็กคนนี้เป็คนกตัญญูยิ่งนัก ฉันเลยขอรับไว้ เสี่ยวหลาน นี่คือคุณน้าจาน น้าจานรับราชการอยู่ที่ฝ่ายอุดมศึกษา”
คุณน้าจานมองเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างพิจารณาอยู่ก่อนแล้ว สนิทสนมกับกวนฮุ่ยเอ๋อเช่นนี้คงไม่ใช่คนแปลกหน้าสินะ
เธอไม่เคยเจอเซี่ยเสี่ยวหลานมาก่อน พอได้ยินกวนฮุ่ยเอ๋อบอกว่าเป็คู่ครองของโจวเฉิง เธอจึงใช้สายตากวาดมองเซี่ยเสี่ยวหลานั้แ่หัวจรดเท้า ก่อนจะเอ่ยปากชม
“โจวเฉิงของเธอไปหาคู่ครองมาจากที่ไหนกัน ถึงได้สวยขนาดนี้!”
“สวัสดีค่ะคุณน้าจาน ฉันชื่อเซี่ยเสี่ยวหลานค่ะ”
“สวัสดีจ๊ะ สวัสดี...”
เสียงพูดก็ไพเราะเหลือเกิน ผู้หญิงฟังแล้วยังรู้สึกจั๊กจี้หู เธอไม่ได้เจอโจวเฉิงมานานหลายปี พริบตาเดียวก็กลายเป็หนุ่มเสียแล้ว แถมยังมีแฟนสวยขนาดนี้อีกด้วย หากตระกูลโจวไม่ยอมรับในตัวเด็กสาวคนนี้ กวนฮุ่ยเอ๋อคงไม่พามาออกงานอย่างแน่นอน
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ว่าเวลาแบบนี้ไม่ควรทำตัวให้โดดเด่นเกินไป จึงเอ่ยทักทายตามมารยาท และคงรอยยิ้มบนใบหน้าไว้ก็พอ
กลับกลายเป็กวนฮุ่ยเอ๋อที่ไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานมีแค่ความสวยเท่านั้น เธอจึงกระแอมเล็กน้อยก่อนจะพูดแนะนำเซี่ยเสี่ยวหลานต่อ “เสี่ยวหลานเรียนอยู่ที่หัวชิง เพิ่งสอบติดปีนี้เอง คนจากมณฑลอื่นสอบเข้าหัวชิงได้เช่นนี้ไม่ง่ายเลย คงต้องฝากคุณน้าอย่างเธอช่วยดูแลแล้ว”
กวนฮุ่ยเอ๋อไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าแฟนสาวของโจวเฉิงมีดีแค่ใบหน้าเท่านั้น!
ตามคาด คุณน้าจานไม่สนว่าเซี่ยเสี่ยวหลานมาจากต่างมณฑลหรือไม่ แต่การที่คนต่างมณฑลจะสอบติดหัวชิงได้ แสดงว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเป็คนฉลาดแน่นอน
ท่าทีของคุณน้าจานดูเป็มิตรกับเซี่ยเสี่ยวหลานขึ้นมาก
นี่เป็เพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
กวนฮุ่ยเอ๋อมีคนสนิทอยู่จำนวนไม่น้อย
การแนะนำลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้แสดงสีหน้าอย่างขอไปที เธอทำตัวมีมารยาทและอัธยาศัยดีตลอดเวลา ทำให้ได้รับคำชื่นชมจากเหล่าสหายวัยกลางคนอย่างเป็ที่ประจักษ์
เธอเงยศีรษะขึ้นทว่ากลับไม่เห็นคนตระกูลจี้แม้แต่คนเดียว และที่เหนือความคาดหมายคือ เธอพบกับใบหน้าซีดขาวของใครบางคน
อีกฝ่ายคงคาดไม่ถึงสินะว่าจะเจอเธอที่นี่ สีหน้าถึงได้ดูประหลาดใจจนปิดไว้ไม่มิดเช่นนั้น
—----------------------------------------------
เซี่ยเสี่ยวหลานมาที่นี่ได้อย่างไร?!
หร่านซูอวี้มางานเชื่อมสัมพันธ์เพื่อพบปะกับบรรดาเพื่อนเก่า และเรียกหวังเจี้ยนหัวมาด้วยกัน
เมื่อหวังเจี้ยนหัวมาร่วมงาน เซี่ยจื่ออวี้ย่อมมาด้วยอย่างแน่นอน
งานเชื่อมสัมพันธ์บ้าบออะไรกัน อย่าคิดว่าเธอไม่รู้นะว่ามันคืองานดูตัว!
แม้เซี่ยจื่ออวี้จะได้หมั้นหมายกับหวังเจี้ยนหัว ทว่าเธอก็ไม่ได้รู้สึกอุ่นใจขึ้นแต่อย่างใด เพราะเธอถูกคนในวิทยาลัยรังเกียจ ตอนนี้เธอจึงกลัวถูกหวังเจี้ยนหัวทอดทิ้ง และค่อนข้างหวาดวิตกเกินกว่าเหตุ
เื่วุ่นวายที่ชั้นเรียนกวดวิชาเหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี ดังนั้นเซี่ยจื่ออวี้จึงเกิดความคิดอยากหาเงินอีกครั้ง
เธอยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำธุรกิจอะไร หร่านซูอวี้ก็บอกว่าจะพาหวังเจี้ยนหัวมางานเชื่อมสัมพันธ์ สัญญาณเตือนภัยของเซี่ยจื่ออวี้กรีดร้องขึ้นมาทันที หลังตามสองแม่ลูกมาที่งานเธอก็พบว่า ‘งานเชื่อมสัมพันธ์’ มันก็แค่นี้
ว่ากันว่าที่นี่มีแต่ข้าราชการในกระทรวงกับญาติสนิท ดูแล้วช่างเรียบง่ายเหลือเกิน เพราะหลายคนถึงกับขี่จักรยานมาด้วยซ้ำ
พอเห็นเซี่ยเสี่ยวหลานโดยบังเอิญ เซี่ยจื่ออวี้ก็ใจตกไปที่ตาตุ่มในบัดดล เซี่ยเสี่ยวหลานมากับใคร ผู้ชายจากหัวชิงผู้ร่ำรวยคนนั้น หรือว่า... เซี่ยเสี่ยวหลานจ่ายเงินซื้อบัตรเข้างาน?!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้