ภรรยานายพรานตัวน้อยกับระบบร้านค้ามือสอง [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        ตอนนั้นหลินกุ้ยฮวาร้องเสียงดังมาก ต่อสู้ดิ้นรนเสียงโครมคราม หลินฉินไม่เชื่อว่าพวกหลินซย่าจื้อจะไม่ได้ยิน กระนั้นกลับไม่มีผู้ใดออกมาขัดขวางแม้แต่คนเดียว

        นี่หมายความว่าอย่างไร?

        หมายความว่าพวกหลินซย่าจื้อกับหลินฮั่วอาจรู้เ๱ื่๵๹นี้อยู่ก่อนแล้ว

        หลินฉินรู้สึกเย็นยะเยียบไปถึงขั้วกระดูก

        นี่ใช่ครอบครัวหรือ บอกว่าเป็๲ศัตรูยังไม่เกินจริง

        จริงอยู่ที่หลินกุ้ยฮวาเห็นแก่ตัวและปากร้ายไปหน่อย ๻ั้๫แ๻่กลับมาอยู่บ้านหลินก็ควรต้องทำงานอยู่แล้ว ทว่าท่านปู่ท่านย่าบอกว่าจะกรอกยาใบ้ให้นางก็กรอก บอกว่าจะขายก็ขาย

        ไม่รู้ว่านางถูกขายไปที่ใด

        หลินฉินใจลอยทั้งวันเพราะเอาแค่คิดเ๹ื่๪๫พวกนี้

        งานที่ทำจึงเกิดข้อผิดพลาด ถูกหลินซย่าจื้อกับสวี่ซื่อด่าไม่น้อย

        ปั่ก…

        หลินฉินไม่ทันระวัง เดินสะดุดธรณีประตูไปข้างหน้า กะละมังน้ำร้อนสาดใส่หลินซย่าจื้อพอดี

        หลินซย่าจื้อโมโหทันที วันนี้นางว่าจะไปหาสวีเทา ตั้งใจใส่เสื้อผ้าสวยๆ แต่ผลลัพธ์…

        เพี้ยะ…

        หลินฉินเพิ่งลุกขึ้นยืนก็ถูกหลินซย่าจื้อที่ตัวเปียกโชกตบหน้า

        “โง่เง่า! ทำกระไรก็ไม่ได้เ๱ื่๵๹ ควรขายเ๽้าไปด้วยกัน๻ั้๹แ๻่เมื่อวาน!”

        “ท่านแม่…” หลินฉินมองหลินซย่าจื้อด้วยตาแดงก่ำ น้ำตาไหลพรั่งพรู

        แม้ภายในใจจะเย็นยะเยียบเพียงใด แต่ภายในส่วนลึกก็มีความหวัง

        ทว่าตอนนี้ความหวังที่เหลือเพียงน้อยนิดได้ถูกหลินซย่าทำลายลงด้วยตัวเอง

        เดิมทีหลินฉินยังรู้สึกผิดต่อเ๱ื่๵๹ที่ตัวเองจะทำ แต่ตอนนี้ความรู้สึกผิดทั้งหมดถูกความเกลียดชังเข้าแทนที่

        “เหตุใดจึงร้องไห้ ไม่ได้เ๹ื่๪๫ ขโมยขนจิ้งจอกของนังนั่นแต่ไม่รู้จักเอากลับมาให้ข้า จะแอบเอาไปขายในตำบลด้วยตัวเอง ไม่มีสมองยังจะกล้าสู้กับนังแพศยานั่น…ทีนี้เป็๞อย่างไร ลูกสาวบริสุทธิ์ถูกย่ำยีตั้งนาน หากเอาไปขายให้ซ่องก็ยังพอทำเงินให้ที่บ้านได้ แต่สุดท้ายเล่า? ได้ยินว่าตอนอยู่ด้านใน เ๯้าทำเงินได้ไม่น้อยแต่เป็๞ของพวกนักการหมด โง่เง่าเอ้ย! เหตุใดข้าไม่จับเ๯้ากดน้ำตายในโถฉี่๻ั้๫แ๻่แรกก็ไม่รู้!”

        หลินกุ้ยฮวาเปลี่ยนเสื้อผ้าไปด้วย ก่นด่าไปด้วย

        “ท่านแม่…หลินฮั่วเป็๞คนเสนอให้เอาไปขายในตำบล” หลินฉินไม่ยอมใจ เถียงกลับ

        “ถุย นังโสเภณีเด็ก น้องสาวเ๽้าบอกข้าว่านางห้ามเ๽้าไม่ทันต่างหาก! คิดจะใส่ร้ายน้องสาวตัวเองเช่นนั้นหรือ ฝันไปเถิด!” หลินซย่าจื้อพ่นเสมหะใส่หน้าหลินฉิน หลินฉินใช้มือเช็ด ใช้แขนเสื้อบดบังความเกลียดแค้นอันรุนแรงในดวงตา

        “ยังไม่รีบไปตักน้ำอีก! ไม่รู้จักคิดเอาเอง!” หลินซย่าจื้อแค่เห็นหน้าหลินฉินก็โมโห

        เพราะต้องบอกก่อนว่า ตอนที่หลินหวั่นชิวยังอยู่ นางเลี้ยงดูหลินฉินกับหลินฮั่วอย่างดีตามที่สวีเทาสั่ง รอให้โตแล้วจะยกให้แต่งงานกับพ่อค้าหรือไม่ก็ให้เป็๲อนุของขุนนางตำแหน่งเล็กๆ หนึ่งคือจะได้สินสอดเยอะหน่อย สองคือจะได้ช่วยสนับสนุนจินเป่าในอนาคต เป็๲ประโยชน์ต่อครอบครัว

        และก็ด้วยเหตุนี้ แม้หลินหวั่นชิวจะไม่อยู่แล้ว เด็กสาวทั้งสองต้องทำงานก็จริง แต่งานของทั้งคู่รวมกันก็ยังน้อยกว่าที่หลินหวั่นชิวเคยทำอยู่ดี

        ยิ่งไปกว่านั้นหลินฉินก็กำลังจะอายุครบสิบห้า ใกล้จะได้เห็นเงินและผูกความสัมพันธ์อยู่แล้ว…สุดท้ายกลับหาเ๱ื่๵๹ไปขโมยขนจิ้งจอกของนังแพศยานั่นไปขาย

        ไม่รู้จักเอากลับมาให้นาง!

        ขอแค่เอาไปซ่อนก่อน นังแพศยานั่นจะหาเจอหรือ?

        ไม่มีหลักฐานจะเอาผิดกระไรได้

        รอให้เหตุการณ์ผ่านไปก่อน นางค่อยให้สวีเทาเอาขนจิ้งจอกไปจัดการ เปลี่ยนเป็๲เงินได้แบบไม่มีผู้ใดรู้

        ไม่นึกเลยว่าลูกสาวที่ปีกกล้าขาแข็งมีความทะเยอทะยานคนนี้จะแอบขโมยโดยไม่บอกและทำตัวเองเดือดร้อนเช่นนี้

        ทีนี้ดีล่ะ เสียทั้งขนจิ้งจอก เงินกับลูกเขยผู้ร่ำรวยก็หายไป

        ผู้ใดจะไปอยากได้สตรีที่มั่วบุรุษกันเล่า

        ขายให้ซ่องยังพอได้เงินนิดหน่อย แต่จินเป่าจะมีพี่สาวเป็๲หญิงคณิกาไม่ได้

        เช่นนั้นก็เหลือแต่ขายราคาถูกเท่านั้น

        หลินซย่าจื้อแค่คิดก็ปวดร้าวในใจ

        หลินฉินหยุดร้องไห้แล้ว ไปตักน้ำอย่างเชื่อฟัง

        หลินซย่าจื้อล้างหน้าแต่งตัวเสร็จก็ออกจากบ้าน

        หลินฉินยุ่งอยู่กับงาน เห็นว่าไม่มีผู้ใดสนใจตัวเองก็แอบเข้าห้องหลินซย่าจื้อ ควานหาช่องกำแพงที่อีกฝ่ายใช้ซ่อนของ เอื้อมมือไปดึงก้อนอิฐออก

        มือนางสั่นด้วยความประหม่า

        ในใจลนลานมากเช่นกัน กลัวหลินซย่าจื้อย้อนกลับมา

        ยิ่งเป็๲เช่นนี้นางก็ยิ่งดึงก้อนอิฐไม่ออก หลินฉินร้อนใจ คิดไปคิดมาแล้วออกไปหยิบมีดปอกเปลือกมางัด

        เนื่องจากตื่นเต้นมาก มือนางโดนบาด

        แต่ตอนนี้หลินฉินไม่มีเวลามาสนใจความเจ็บ หลังจากงัดก้อนอิฐออกมาได้ก็นำตลับไม้ด้านในออกมา เปิดตลับออก กวาดของด้านในจนเกลี้ยง เก็บตลับและก้อนอิฐกลับเข้าที่เดิม

        นางวิ่งกลับห้องตัวเองอย่างร้อนตัว ไม่กล้าชักช้าแม้แต่นาทีเดียว นำป้ายหยกออกมาห้อยที่คอตัวเองก่อน

        ต่อให้เป็๲คนที่ไม่เคยเห็นของดีอย่างนางก็ยังรู้ว่าป้ายหยกน้ำดีเช่นนี้ราคาไม่น้อย

        นางไม่คิดจะนำไปขายทันที เพราะในตลับไม้ของหลินซย่าจื้อมีตั๋วเงินสิบตำลึงสองสามใบกับเศษเงินอีกเล็กน้อย

        หลินฉินลองนับดูคร่าวๆ มีประมาณแปดสิบกว่าตำลึง

        นี่น่าจะเป็๞เงินทั้งหมดของหลินซย่าจื้อ

        หลินฉินซ่อนเงินไว้กับตัวให้เรียบร้อย ห่อเครื่องประดับเงินกับต่างหูเงินหนึ่งคู่ในผ้าเช็ดหน้าแล้วเก็บเข้าอกเสื้อ จากนั้นสะพายตะกร้าแบกหลังออกจากบ้าน

        สวี่ซื่อเห็นหลินฉินออกจากบ้านก็ไม่ว่ากระไร กลายเป็๞หลินฉินเองที่เกือบออกวิ่งเพราะใจฝ่อ

        นางออกเดินไกลมากก่อนที่จะเดินไปตามทางสายเล็กๆ ที่มุ่งออกจากหมู่บ้าน

        เมื่อพ้นหมู่บ้าน นางเริ่มวิ่งเหยาะๆ คอยหันกลับไปมองหมู่บ้านที่ห่างออกไปเรื่อยๆ เป็๞ครั้งคราว หลินฉินหัวเราะคำโต

        ลมหนาวพัดเข้าลำคอนาง เหงื่อที่เกิดจากการวิ่งถูกลมหนาวพัด…หลินฉินวิ่งได้ไม่นานก็จาม

        นางกัดฟันมุ่งไปทางตำบล วางแผนไว้ว่าถึงตำบลแล้วจะหาห้องอยู่ที่โรงเตี๊ยมเสียก่อนแล้วค่อยไปหาหมอ

        แต่ยิ่งใกล้ถึงตำบล ศีรษะนางก็ยิ่งหนักอึ้ง บวกกับเช้านี้นางยังไม่ได้กินกระไร ตอนหนีออกมาก็ประหม่า เพียงไม่นานก็ล้มหมดสติข้างทาง

        พ่อค้าหาบเร่คนหนึ่งเดินทางผ่านมา ตอนแรกเห็นหลินฉินก็ไม่สนใจเพราะกลัวมีปัญหา

        แต่เขาผ่านไปเพียงไม่กี่ก้าวก็ย้อนกลับมา เริ่มจากตรวจสอบลมหายใจหลินฉินก่อน แตะหน้าผากนาง พบว่านางล้มอยู่ข้างทางเพราะป่วยก็แบกนางจากไป

        เขาอายุสามสิบแล้วแต่ยังไม่แต่งภรรยาพอดี ที่บ้านไม่มีผู้ใดให้เป็๞ห่วง สามารถพาสตรีนางนี้ออกเดินทางไกลไปด้วยกันได้ เป็๞สามีภรรยากับเขาไปตราบนานเท่านาน

        ครั้งก่อนที่ไปลงสินค้า ได้ยินว่านำของไปขายที่หย่าโจวได้เงินดี ยิ่งเดินทางลงใต้ อากาศก็ยิ่งอุ่น…ถ้าเช่นนั้น เขาไปหย่าโจวเลยก็แล้วกัน


        


นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้