จุนห่าวทั้งสื่อสารกับเสี่ยวไป๋และสนทนากับทุกคนไปพลางในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็ข้อดีของจิติญญาอันทรงพลังที่สามารถทำสองสิ่งในเวลาเดียวกันได้ โดยไม่มีปัญหา
“ยาบำรุงพลังัอย่างนั้นหรือ? ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย” จุนเช่อพึมพำกับตนเอง เขาเชื่อว่าที่จุนห่าวพูดเป็ความจริง ทว่าเขาไม่เคยได้ยินว่า มียาิญญาชนิดนี้มาก่อน อาจเป็ไปได้ว่า เขามีความรู้แค่ระดับงู ๆ ปลา ๆ ในแผ่นดินชางหลานที่กว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ เขาอยู่แค่ในละแวกเมืองอวี้หวา ไกลที่สุดที่เคยไปก็คือ เมืองซวงหวา เขาจึงไม่เคยได้ยิน แต่ถึงจะไม่เคยได้มาก่อน ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง
เมื่อได้ยินจุนเช่อบ่นพึมพำกับตัวเอง หานรุ่ยจึงอธิบายขึ้นว่า “มันคือตำรายาสมัยโบราณ แต่เป็ตำรายาที่ตกหล่น ขาดหายไปครึ่งหนึ่ง ในนั้นมีบันทึกการปรุงยาหญ้าิญญาที่ยังไม่สมบูรณ์ และไม่รู้ว่าหายไปกี่ชนิด ครานั้นข้าไม่ยอมให้จุนห่าวซื้อตำรานี้ แต่จุนห่าวก็ดึงดันที่จะซื้อ เขาบอกว่าหากปรุงยาชนิดนี้ออกมาได้ ยานี้จะเป็ที่้าอย่างมากแน่ และจะต้องเกิดการแย่งชิงยานี้อย่างบ้าคลั่งด้วย”
“ถูกต้อง หากได้ผลตามที่ใบสั่งยาบอก จะต้องมีการแย่งชิงอย่างบ้าคลั่งแน่นอน” จุนฟานพูดต่อ ท่าทางที่หม่นหมองก่อนหน้านี้ ได้แปรเปลี่ยนเป็กระปรี้กระเปร่าและมีชีวิตชีวา ยามนี้เขามีหวังแล้ว ตราบใดที่ปรุงยานี้ออกมาได้ แล้วใช้ยาิญญานี้ แลกเปลี่ยนจางหนิงกับเซ่าเจี้ยนหลิ่น ก็คงเหมือนกับการตอกตะปูบนกระดานที่สามารถทำสำเร็จได้แน่ ๆ เมื่อเทียบระหว่างอนุภรรยาของหลานชายกับยารักษาโรคเรื้อรังของตนเองให้หาย สิ่งใดสำคัญกว่าก็ย่อมรู้กัน เซ่าเจี้ยนหลิ่นคงรู้ว่า ควรจะทำอย่างไร บัดนี้การช่วยจางหนิงออกมา คงจะสำเร็จในอีกไม่ช้า จุนฟานคิดในใจ เป็เพราะน้องสี่มีความสามารถ สำหรับเขาแล้ว การแก้ปัญหาเื่นี้ช่างยากยิ่งนัก ทว่าน้องสี่กลับแก้ได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าเื่ราวจะเปลี่ยนทิศทางไป แต่จุนฟานแน่ใจว่า จุนห่าวจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน
แม้ว่าจะมีหวัง แต่เมื่อจุนฟานนึกถึงจางหนิงที่ติดอยู่ในถ้ำหมาป่า ความเ็ปในใจก็พลันปะทุขึ้น และยิ่งทำให้เขาเกลียดความอ่อนแอของตัวเอง ยามนี้เขาได้แต่ฝากความหวังไว้ที่จุนห่าว นี่คือความหวังสุดท้ายของเขาแล้ว ถ้าหาก.... เมื่อคิดถึงความเป็ไปได้ จุนห่าวจะต้องเ็ปเป็แน่ หากเป็เช่นนั้น เขาคงทำได้แค่ไปปรโลกกับจางหนิง อย่างน้อยการที่พวกเขาสองคนไปด้วยกัน ก็ถือเป็ความสุขอีกรูปแบบหนึ่งแล้ว ย่อมดีกว่าต้องทิ้งอีกคนให้มีชีวิตอยู่ โดยปราศจากความรัก เขารู้ว่าหากเขาตายไป ถ้าพี่รองและน้องสี่มีความสามารถเพียงพอ จะต้องล้างแค้นให้เขาแน่ จุนฟานหวนคิดกลับมา เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเศร้าใจ เื่ราวกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี จุนฟานสะกดอารมณ์ของเขา แล้วเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง พร้อมั์ตาที่เปี่ยมไปด้วยความปิติยินดี
หานรุ่ยสังเกตเห็นความแปรเปลี่ยนของสีหน้าจุนฟาน จากท่าทางประหลาดใจกลายเป็เศร้าหมอง และก็กลับมาดีใจ หานรุ่ยเข้าใจความเศร้าปนความสุขนั้นของจุนฟานดี คงไม่ดีแน่ หากจะโจมตีเขา ทว่าขอพูดอย่างตรงไปตรงมาก่อนแล้วกัน “หากปรุงยาตามวิธีที่ใบสั่งยาพรรณนาไว้ ผลที่ได้ก็น่าจะดี แต่อย่างไรก็ตามใบสั่งยานี้ไม่ได้สมบูรณ์ อีกทั้งหญ้าิญญามากมายได้ถูกใช้ในการทดลองปรุงโดยจุนห่าว ข้าไม่แน่ใจว่า ในท้ายที่สุดจะปรุงได้สำเร็จหรือไม่นะ”
จุนห่าวมองดูทั้งสามคน และพูดด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มว่า “เสี่ยวรุ่ยกล่าวถูกแล้ว จากการกลั่นกรองขัดเกลามากว่าสองปี ข้าพบแล้วว่า หญ้าิญญาที่หายไปจากใบสั่งยานั้นคือชนิดใด แต่ข้าไม่มีหญ้าิญญาชนิดนั้น แต่พอมีชนิดอื่นที่ใช้ทดแทนได้ ข้าขอเวลาสักสองสามวัน ข้าคิดว่าข้าต้องปรุงยานี้ออกมาได้แน่” เขาศึกษายานี้มากว่าสองปี เสี่ยวไป๋เคยเอ่ยอยู่ข้าง ๆ เขาว่า ไม่เห็นจะดีเลย ยาสมุนไพรมีบันทึกเอาไว้มากมาย แม้ยามนี้จะยังไม่ได้สูญหาย แต่เพียงเปลี่ยนชื่อเท่านั้น ดังนั้นใบสั่งยานี้ จึงกลายเป็ใบสั่งยาใหม่ แต่ฤทธิ์ของยาคงไม่ได้แย่จากเดิมเท่าไหร่นัก
“น้องสี่ เ้าช่างเก่งกาจจริง ๆ ขนาดตำรายาโบราณที่ตกหล่นยังสามารถค้นคว้าได้ เ้าเป็อัจฉริยะ!” จุนฟานกล่าวอย่างเลื่อมใส จากนี้ไปสิ่งที่เขาศรัทธาจะเปลี่ยนเป็จุนห่าว น้องสี่ของเขามากความสามารถ เขารู้สึกภาคภูมิใจยิ่งนัก
จุนห่าวยอมรับคำชมของจุนฟานอย่างตรงไปตรงมา พร้อมเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ขนาดนั้นหรอก ก็แค่ตำรายาโบราณที่ตกหล่น ไม่ได้ยากเลย”
หานรุ่ยคิดในใจ ‘จุนห่าวถูกชมจนตัวลอยแล้ว แค่ตำรายาโบราณที่ตกหล่น แต่เขาก็ไม่เคยได้ยินว่า มีผู้ใดสามารถเติมแต่งตำรายาโบราณที่ตกหล่นบนแผ่นดินชางหลานได้มาก่อน จุนห่าวก็สมควรที่จะได้รับคำชมน่ะนะ อัจฉริยะอย่างนั้นหรือ? ให้เขาลอยสักนิดก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่อย่าลอยสูงมากเกินก็พอ’