แน่นอนสำหรับสายตายุ่งยากของเสี่ยวเอ้อร์ ไม่มีทางที่เฉินเนี้ยนหรานจะไม่รู้
นางในตอนนี้เอาแต่คอยื่นคอยาวมองไปที่ถนน
ทุกครั้งที่มีรถม้าแล่นผ่านนางจะตั้งความหวังอยู่ครู่หนึ่ง
ทว่ารถม้าที่วิ่งผ่านไปจำนวนมากมายกลับไม่เห็นคนที่นางรอคอยปรากฏตัวเลย
เพราะเหตุนี้เสี่ยวเอ้อร์จึงยิ่งมั่นใจว่าฮูหยินท่านนี้เกรงว่าจะหนีตามคนอื่นไปอย่างผิดศีลธรรมแล้ว
อย่างไรสตรีตัวคนเดียวไม่ควรจะมาปรากฏตัวอยู่บนถนนเช่นนี้
โดยเฉพาะสตรีคนนั้นยังแบกสัมภาระใบใหญ่อยู่ที่หลังด้วย
ข้างในนั้นจะต้องมีเสื้อผ้าสำหรับเตรียมหนีตามบุรุษไปเป็แน่
น่าเสียดายเสี่ยวเอ้อร์เ้าเข้าใจผิดแล้ว นี่คือเสื้อผ้าของลูกชายนางต่างหาก
หลังจากที่รถม้าของโม่เต้าจื่อและหนิงเซียงมาถึงตามๆกัน ความคิดของเสี่ยวเอ้อร์จึงยิ่งเพิ่มระดับขึ้น
“ฮูหยินท่านรีบไปเถิด” ฮูหยินของเขาไล่ตามมาแล้ว อีกทั้งยังอุ้มเด็กมาด้วย ์สตรีคนนี้นิสัยแย่มาก เหตุใดถึงได้ไปเป็อนุเช่นนี้!
เสี่ยวเอ้อร์หนุ่มโกรธมากบนโลกใบนี้ เหตุใดถึงได้มีสตรีใบหน้างดงามราวดอกไม้ แต่จิตใจราวกับงูพิษ!
บุรุษคนนั้นชั่วร้ายเดิมทีหน้าตางดงามสะกดใจคนเช่นนี้ เหตุใดยังมายั่วยวนสตรีคนอื่นที่ด้านนอกด้วย!
หนิงเซียงอุ้มเด็กด้วยใบหน้าขมขื่น
“แม่นางรีบมาอุ้มลูกเ้าไป ์ เด็กคนนี้ช่างทำร้ายคนอื่นเกินไปแล้ว”
หนิงเซียงร้องโหยหวนขึ้นมาแต่ไกล
ช่วยไม่ได้นางเป็สตรีที่ไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อนนี่นา
เพราะความแปลกใหม่นางจึงไม่ได้ให้สาวใช้สีอุ้ม
เด็กคนนี้ตัวเล็กก็เล็กน่ารักก็น่ารักอยู่หรอก แต่เขาดื้อนัก!
ตอนนี้เพิ่งจะลงจากรถม้าถวนถวนก็ปล่อยทั้งมือและตัวโถมไปให้หนิงเซียงอุ้ม
หนิงเซียงผู้น่าสงสารไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน
ผู้ใดจะรู้ว่าการเลี้ยงเด็กจะยากถึงเพียงนี้
ตอนนี้ทำได้แค่อดกลั้นต่อกลิ่นปัสสาวะน่าแขยงทำให้นางอยากจะโยนเ้าเด็กนี่ทิ้งไป
เฉินเนี้ยนหรานเมื่อเห็นถวนถวนก็ดีใจจนทนไม่ไหว
แต่เมื่อเห็นหนิงเซียงตัวเปียกไปทั้งตัว
นางกลับยิ่งมีความสุขมากเข้าไปใหญ่
“ฮ่าๆดูสิ นี่คือผลตอบแทนของเ้าแล้ว ผู้ใดให้เ้าไม่สนิทชิดเชื้อกับถวนถวนของข้าเล่า”
นางหัวเราะอย่างได้ใจตอนนี้จึงยังไม่สังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายมีอาการอดกลั้นความกรุ่นโกรธ
หนิงเซียงขมขื่น
เดินไปไม่กี่ก้าวก็จับชายเสื้อของโม่เต้าจื่อและโวยวาย
“โม่ต้มตุ๋นเป็เพราะเ้า เป็เพราะเ้าคนเดียว เด็กนี่ควรจะเป็เ้าที่ต้องเลี้ยงดู อ๊าก…”
โม่เต้าจื่อยักไหล่อย่างคนที่ไม่ได้ทำสิ่งใดผิดแต่กลับได้รับสายตากรุ่นโกรธของเสี่ยวเอ้อร์ที่อยู่ไม่ไกล
เสี่ยวเอ้อร์หนุ่มโกรธมากจริงๆเขามายืนอยู่ตรงหน้าหนิงเซียง
“ฮูหยินท่านไม่ต้องกลัว บุรุษใจร้ายเช่นนี้ พวกเราไม่ต้องรักษาไว้ก็ได้ขอรับดูทั้งตัวของเขาเต็มไปด้วยภาพลักษณ์ของเซียน ทั้งยังปลอมตัวเป็นักบุญหลอกเงินคนอื่นบุรุษเช่นนี้ เราอย่าไปเอาเขาเลย”
หนิงเซียงชะงักไป
เฉินเนี้ยนหรานถึงกับเบิกตากว้างทำหน้างุนงง
โม่เต้าจื่อถลึงตามองอีกฝ่ายด้วยความโมโหจนตาโต
มีเพียงชิงเฟิงและสาวใช้สีที่ตกตะลึงไปเสียก่อน
จากนั้นจึงพากันหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
เพราะทั้งสองคนต่างตามเ้านายของตนเองมานานจึงเข้าใจว่าพวกเขามักจะถูกเข้าใจผิดเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง
ชัดเจนเลยว่าเสี่ยวเอ้อร์ในร้านน้ำชาวันนี้ ก็เข้าใจผิดเื่ของหนิงเซียงและโม่เต้าจื่อ…
“เอ่อเขาไม่ใช่บุรุษของข้า” หนิงเซียงได้สติกลับมาก็พูดปฏิเสธ
โม่เต้าจื่อกลับเลิกคิ้วขึ้น“สตรีที่เผ็ดร้อนไม่รักษากริยาสตรีผู้นี้ ข้าไม่้าหรอก”
เฉินเนี้ยนหรานหลังจากเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกชายเสร็จมองทั้งสองคนด้วยความสนใจ
“เหตุใดพวกเ้าสองคนถึงได้มาคู่กันได้เล่า? เอ๋ความจริงแล้วหากไม่พูด ข้าก็พบว่าพวกเ้าสองคนเหมาะสมกันเสียจริง”
“เชอะ…”
ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยความรังเกียจก่อนจะร้องเหอะออกมาเสียงเย็น
กลับเป็ชิงเฟิงกับสาวใช้สีที่ส่ายหน้าพร้อมกันชิงเฟิงเดินเข้าไปถือห่อสัมภาระให้เฉินเนี้ยนหรานสาวใช้สีก็เอาผ้าอ้อมเปียกปัสสาวะไปเก็บแยกโดยเฉพาะ แล้วเริ่มออกเดินทาง
ตอนที่เดินทางมาได้ครึ่งทางก็มีสตรีรูปร่างอวบอ้วนขึ้นรถมา
“คุณหนูหนิงเซียง”
“อืมจัดการเื่ราวที่เรือนไว้เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่” หนิงเซียงถามเสียงเรียบ
“จัดการเรียบร้อยแล้วเ้าค่ะบุรุษของข้าพอเห็นหนึ่งร้อยตำลึง ก็รีบไล่ข้าให้มาทันที” สตรีคนนั้นยิ้มสดใส
สายตามองไปยังถวนถวนนางก็ตาเริ่มแดง
“เด็กคนนี้ดูแล้วคงอายุพอๆ กับลูกสาวของข้า ข้าจะตั้งใจให้นมเขาเ้าค่ะ”
ถึงตอนนั้นเฉินเนี้ยนหรานมีหรือจะไม่รู้ว่าหนิงเซียงได้หาแม่นมมาให้ตนเอง
นางยังกังวลอยู่ว่าจะหาแม่นมจากที่ใดไม่คาดคิดเลยว่าหนิงเซียงจะจัดการเื่นี้ได้ดีทุกอย่าง
ในตอนนั้นเฉินเนี้ยนหรานรู้สึกซึ้งใจมาก
“เ้า…”
หนิงเซียงพิงหลังไปที่พนักด้านหลังเผยรอยยิ้มเ้าชู้ “แม่นาง หากรู้สึกขอบคุณข้าก็มอบกายให้ข้าเป็การตอบแทนเถิด”
“ไปตายซะ”
สตรีนางนี้นี่เ้าจะไม่ให้ข้ามีความรู้สึกขอบคุณเลยหรืออย่างไร
“ฮ่าๆ…ดูท่าทางเขินอายของเ้าสิข้ามีประโยชน์มากใช่หรือไม่”
“หนิงเซียง…เ้ายังกล้าพูดเหลวไหลต่อไปสิ…”
“แม่นางน้อยแม่นางน้อย…เฉินเนี้ยนหราน เ้าคือแม่นางน้อยของข้า…”
…
ยิ่งห้ามสตรีนางนี้ก็เหมือนจะยิ่งยุขึ้น
จนสุดท้ายเฉินเนี้ยนหรานจึงหลับตาไม่ฟังนางพูดอีก
แต่ในใจของนางกลับมีความรู้สึกอบอุ่น
หลังจากที่มาโลกใบนี้นางที่ไม่มีเพื่อนกลับรู้สึกได้ถึงประโยชน์ของการมีสหายสนิท
“เฉินเนี้ยนหรานแต่ก่อนข้ามีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง นางนิสัยเหมือนเ้าอยู่เล็กน้อย”
หลังจากเงียบไปหนิงเซียงก็เปล่งเสียงออกมา
เสียงล้อรถกึกกักเสียงแหบพร่าทว่าน่าฟังของหนิงเซียงบางครั้งพูดถึงเื่ราวของชาติก่อน
“นางโง่เขลามากเพราะข้าเคยช่วยนางไว้ในยามที่นางลำบากที่สุด ต่อมานางจึงดีกับข้ามาตลอดตอนที่ข้าถูกผู้คนรังเกียจ นางกลับยังยืนอยู่ข้างกายข้า”
“ตอนที่ข้าถูกคนทำร้ายนางก็เข้ามากอดข้าเอาไว้ อยู่ที่นั่น ข้าไม่มีครอบครัวคนอื่นให้คิดถึง และไม่มีเพื่อนคนอื่นให้คิดถึงแต่มีแค่นางคนเดียวที่ข้าอดคิดถึงไม่ได้”
“สตรีที่เหมือนคนโง่คนนั้นนางมักจะแนะนำข้าว่า เซียงเซียง เ้าอย่าอยู่ในร้านเหล้าต่อไปได้หรือไม่”
“เซียงเซียงเ้าฉลาดมากเ้าออกไปกับข้า พวกเราทำการค้าเล็กๆ ก็สามารถใช้ชีวิตได้แล้ว”
“เซียงเซียงเ้าดูสิ วันนี้ข้าขายโรตีทอดได้ห้าสิบหยวนเชียวนะหากเ้าไปจะต้องขายได้มากกว่านี้แน่”
“เซียงเซียงข้าจะแต่งงานแล้ว เ้ามีลูกไม่ได้อีก เช่นนั้นข้าจะช่วยเ้าคลอดลูกชาย”
“เซียงเซียงบุรุษคนนั้นปฏิบัติต่อข้าไม่ถึงกับดีเท่าใด แต่เขาซื่อสัตย์ เซียงเซียง…”
พอพูดขึ้นมาหนิงเซียงก็เอาแต่หัวเราะอยู่ตลอด ทว่าเสียงหัวเราะนี้กลับทำให้เฉินเนี้ยนหรานที่ฟังอยู่แสบจมูกขึ้นมา
บางทีนางอาจจะโชคดีแล้ว
เป็เพราะแม่สาวผู้โง่เขลาในชาติก่อนดังนั้นนางจึงได้รับอานิสงส์มาจากแม่สาวโรตีทอดผู้โง่เขลาคนนั้นด้วย
หนิงเซียงในชาตินี้จึงดีกับนางโดยไร้เงื่อนไข
“หนิงเซียงเ้าไม่ต้องเอาความดีของนาง มาไว้ที่ตัวข้า”
“ข้าดีกับเ้าหรือ? ไม่คิดว่าข้าแค่กำลังลงทุนแม่นางโง่เขลา เ้าคิดว่าข้าหนิงเซียงคนนี้คือคนโง่หรือ? ข้าจะบอกเ้าให้นะหญิงเต้นระบำไร้จิตใจ หญิงขายเรือนร่างไร้มนุษยธรรม ไม่ว่าข้าจะกลับชาติมาเกิดหลายสิบครั้งในสายตาของข้าล้วนมีเพียงตัวเลือกที่คุ้มค่าหรือไม่คุ้มค่า เ้า ในสายตาของข้า คือสตรีที่มีค่าให้ลงทุน”
เฉินเนี้ยนหรานยิ้มจริงใจไม่ได้โกรธเลยสักนิด
“ได้ข้าจะทำให้เ้ารู้สึกว่า การลงทุนของเ้าคุ้มค่า”
สตรีคลุ้มคลั่งสองคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะเสียงหัวเราะมีความสุขนั้นทำให้เด็กน้อยอีกคนที่ยังคอยลูบคลำแม่นมคนใหม่
“อาอ้อ…” เสี่ยวถวนถวนเมินแม่นมคนใหม่ ก่อนดวงตาสีดำจะต้องไปยังสตรีสองคนที่กำลังหัวเราะอยู่
มืออ้วนๆตบกันไปมา “ฮ่าๆ…” เสียงหัวเราะดีใจดังออกมา
ภายใต้เสียงของล้อรถเสียงหัวเราะของสองผู้ใหญ่หนึ่งเด็ก ฟังดูแล้วเข้ากันได้ดีเหลือเกิน
โม่เต้าจื่อที่นั่งอยู่ด้านหน้าทำหน้าที่เป็คนขับรถม้าชั่วคราวบ่นออกมา“สตรีล้วนเป็คนประสาท ดังนั้นชาตินี้ของข้าจะทำเพียงหยอกเย้าสตรี ไม่มีทางคิดจริงจัง”
ชิงเฟิงเบ้ปาก
“ท่านอาจารย์ทำร้ายสตรีเช่นนี้ไม่ได้หรอกขอรับทำเช่นนี้ต่อไป ท่านศาสดาไม่มีทางรับท่านกลับไปอีกครั้ง”
การเดินทางมีเสี่ยวถวนถวนที่กลับมาอยู่ด้วยเฉินเนี้ยนหรานคิดว่าแม้การเดินทางจะลำบากเพียงใด นางล้วนไม่มีความรู้สึกนั้น
ได้ดูแลเด็กน้อยทุกวันเห็นมือเล็กๆ ของเขายกมาทางตนเอง
เด็กคนหนึ่งที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากสามารถทำให้จิตใจของนางราวกับถูกมอมเมาด้วยน้ำผึ้ง
หนิงเซียงรู้สึกเบื่อแล้ว
ตอนแรกยังหยอกเสี่ยวถวนถวนกับเฉินเนี้ยนหราน
แต่นานวันเข้านางรู้สึกว่าวันเวลาช่างน่าเบื่อ
ดังนั้นสตรีผู้บ้าคลั่งจึงมีความคิดอย่างหนึ่งผุดขึ้นมานั่นคือแต่งตัวเป็บุรุษ!
พูดกันอย่างจริงใจนางที่แต่งตัวเป็บุรุษ จะมองอย่างไรก็ไม่เหมือน
แต่ยามที่สตรีคนนี้สวมชุดที่คลุมคอตนเองเอาไว้
บนใบหน้ายังติดหนวดเอาไว้และตอนที่ปรากฏตัวออกมาด้วยใบหน้าสีเหลือง…
“เ้าเ้า…คือหนิงเซียงจริงๆ หรือ?” แม้แต่เฉินเนี้ยนหรานที่คุ้นเคยกันดียังสงสัยคนคนนี้อย่างมาก นี่ควรจะเป็บุรุษ
แน่นอนว่า เป็บุรุษที่ดูขี้โรคสักหน่อย…
แต่เมื่อรวมกับรูปร่าง“ผอมบาง” ของหนิงเซียง ภาพลักษณ์บุรุษขี้โรคมีหนวดเครา ก็เหมาะสมจริงๆ
สาวใช้ฝูที่อยู่ด้านข้างเชิดหน้าอย่างภูมิใจ“ให้ข้าลงมือใช้วิชาปลอมตัว ย่อมต้องไม่มีอะไรที่สามารถพูดได้”
เฉินเนี้ยนหรานมองไปยังสาวใช้ที่ไม่ค่อยสะดุดตาคนนั้น“เ้า เ้ายังมีวิชาปลอมตัว?”
สาวใช้ข้างกายของหนิงเซียงไม่เบาเลยนะ
“แน่นอนเ้าค่ะตอนแรกเพราะความสามารถนี้ คุณหนูถึงได้เก็บข้ามา” สาวใช้ฝูได้ใจมาก
เหมือนกับเ้านายของนางนักพอถูกชมเข้าหน่อยมักจะหางชี้ฟ้าขึ้นมา
“แค่กแม่นางน้อย ร่างกายของสามีไม่ดี ใน่นี้คงอยู่กับเ้าไม่ได้ข้าจะไปสืบหาข้างหน้าสักหน่อยนะ”
เมื่อพูดประโยคนี้เสร็จหนิงเซียงกับโม่เต้าจื่อที่กลัวว่าโลกนี้จะไม่วุ่นวาย ก็ขี่ม้าออกไปด้วยกันทิ้งเฉินเนี้ยนหรานกับแม่นมเอาไว้ และสาวใช้ฝูที่ทำหน้าโกรธอยู่ในรถ
“สองคนนี้ทิ้งพวกเราไว้เช่นนี้ไม่กลัวว่าพวกข้าจะเจอโจรเลยหรืออย่างไร” สาวใช้ฝูบ่น
แต่เฉินเนี้ยนหรานที่ฟังก็ใจสั่นจึงยกมือแหวกผ้าม่านรถที่นี่มียอดเขาขึ้นซ้อนกันมากมาย ต้นไม้ก็เยอะ ในสถานที่เช่นนี้ หากบอกว่ามีโจรก็สามารถพูดได้
“ฝูเอ๋อร์อย่าพูดจาเลอะเทอะตอนนี้หากที่นี่มีโจรจริงๆ พวกเราจะเสียเปรียบ”
จากประสบการณ์ของนางจากชาติก่อนไม่มีโจรก็ดี แต่หากมี เกรงว่าพวกนางสตรีทั้งหลายคงต้องกลายไปเป็ทาสของผู้อื่นเป็แน่
เมื่อนึกถึงความปลอดภัยเฉินเนี้ยนหรานได้ไปหาหินที่แหลมคมหลายก้อนมาไว้ในรถ
“หินพวกนี้สามารถป้องกันได้หรือ?” สาวใช้ฝูมองอย่างดูถูกมาก
“มีก็ดีกว่าไม่มีไม่ใช่หรือต่อไปก็จะถึงเมืองแล้ว ทางที่ดีที่สุดพวกเราจะต้องหามีดสั้นมาพกติดตัว”
บนตัวของนางไม่มีมีดมาป้องกันตัว
ในตอนนี้เองที่เฉินเนี้ยนหรานคิดถึงมีดพกติดตัวเมื่อชาติก่อน
สิ่งของที่ทำจากจิงกัง[1] เป็ของที่สร้างเป็อาวุธป้องกันตัวที่ดีที่สุด
เชิงอรรถ
[1] จิงกังสแตนเลส
