เสียงสบถด่าและถอนหายใจแรง ดังขึ้นในความเงียบ เหตุเกิดจากความเป็ชายที่แม้จะผงาดกล้า ทว่าก็ยังแข็งแกร่งไม่เพียงพอที่จะสอดใส่เข้าสู่ช่องทางแห่งความสุขของภรรยาที่อ้ารอ… สุดท้ายมะลิก็เคว้งคว้าง ด้วยเสี่ยพจน์ล่มลงอย่างไม่เป็ท่า
“โธ่โว้ย… แม่งเป็แบบนี้บ่อยๆ ต่อไปคงมีไว้เยี่ยวอย่างเดียว”
เสี่ยพจน์ตำหนิตัวเองอย่างเหลืออด มะลิทรุดร่างราบลงกับเตียง หล่อนเคว้งคว้าง ค้างเติ่ง จึงได้แต่หลับตา… เม้มปากแน่น สะกดกลั้นความอยากที่ยังพลุ่งพล่านอยู่ในอารมณ์
มะลิพยายามบังคับความ้าที่พลุ่งพล่านอยู่ในอารมณ์ให้สงบลงเหมือนเช่นทุกครั้งที่เสี่ยพจน์ทำให้หล่อนอารมณ์ค้าง… ครั้งแล้วครั้งเล่า สะสมความอยากเอาไว้เช่นเคย ความ ‘อยาก’ ที่เหมือนกับหนี้สินทางความรู้สึกที่หล่อนเฝ้ารอการชำระสะสาง แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้ง… ที่สามีจะชดใช้ให้หล่อนได้อย่างที่้า
ในเวลาต่อมา
ตอนใกล้ค่ำของอีกวัน เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทำลายความเงียบภายในบ้านหลังใหญ่ มะลิรีบคว้ามากดรับ เมื่อเห็นว่าเสี่ยพจน์สามีของหล่อนโทรมา
“คะเสี่ย… ”
มะลิกรอกเสียงไปสู่ปลายสาย ตอนนี้เสี่ยพจน์อยู่ไกลถึงเชียงใหม่ เพราะว่ามางานแต่งลูกชายเพื่อนสนิทในอำเภอสันทราย กว่าจะกลับก็มะรืน
“มะลิจ๋า… เสี่ยลืมโอนเงินค่าแรงให้คนงาน… ฝากเอาเงินให้คนงานที”
จากนั้นเสี่ยพจน์ก็แจงรายละเอียดบอกภรรยา เขาแบ่งจ่ายค่าแรงออกเป็สี่งวด ตามระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ว่างานจะเสร็จภายในหนึ่งเดือน
เื่โอนเงิน มะลิเคยบอกให้เสี่ยพจน์เรียนรู้การทำธุรกรรมออนไลน์ ทว่าเสี่ยพจน์ก็ยังเป็คนยุคเก่าที่ปรับตัวช้า ก้าวตามเทคโนโลยีไม่ทัน ทุกครั้งที่จะต้องโอนเงินจึงต้องเดินเข้าไปในธนาคารทุกครั้ง
“โอเคค่ะเสี่ย… เดี๋ยวมะลิจัดการให้”
คุยกับต่อมาอีกครู่สั้นๆ มะลิก็ตัดสาย ด้วยเห็นว่าตอนนี้เป็เวลาใกล้ค่ำ ชักช้าเดี๋ยวมืดเสียก่อน
หล่อนรีบเดินออกมาคว้าจักรยานขึ้นขี่ ปั่นออกไปตามถนนดินเส้นเล็กๆ ทอดยาวไปสู่แปลงที่ดินบริเวณท้ายบ้านที่แลเห็นไซต์งานก่อสร้างตั้งอยู่ไกลๆ ไม่กี่วันก็มีเสาและคานปรากฏขึ้นเป็รูปเป็ร่างให้เห็น
ใช้เวลาไม่นาน จักรยานของมะลิก็แล่นมาถึงไซต์งานก่อสร้าง แต่หล่อนมองไม่เห็นใครสักคน มันดูเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ แต่วันนี้เป็วันศุกร์ ปกตินายเดชซึ่งเป็หัวหน้าคนงานจะอนุญาตให้คนงานกลับบ้าน จะกลับมาทำงานอีกทีก็เย็นวันอาทิตย์
“นายเดช… มีใครอยู่ไหมจ๊ะ”
มะลิเรียก หากมีเพียงความเงียบที่ตอบกลับมาหล่อนจอดรถจักรยานพิงไว้กับต้นไม้ใหญ่ใกล้ที่พักคนงาน จากนั้นก็เดินอ้อมมาทางด้านหลัง แต่ก็ไม่เห็นใคร
มะลิตัดสินใจเดินกลับมาเคาะประตูตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกดัดแปลงสภาพเป็ห้องพัก แต่ก็ไม่มีใครอยู่
ทว่าในระหว่างที่ยืนรั้งรออยู่ครู่สั้นๆ กำลังตัดสินใจว่าจะกลับ พรุ่งนี้เช้าค่อยมาใหม่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงผิวปาก ดังแว่วออกมาจากแผ่นสังกะสีที่ถูกตีโอบเป็ห้องน้ำ
มะลิตัดสินใจก้าวไปตามทิศทางที่มาของเสียงผิวปาก เท้าเล็กๆ ก้าวย่างออกไปตามถนนโรยกรวดเส้นเล็กๆ ตรงหน้า รู้สึกได้ถึงเม็ดกรวดทรายจากการก่อสร้างที่เสียดสีอยู่ใต้พื้นรองเท้า กระทั่งถึงที่หมาย
มะลิหยุดฟังเสียงซึ่งคล้ายกับว่ามีใครสักคนกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่เื้ัแผ่นสังกะสี
และด้วยความอยากรู้ มะลิตัดสินใจชะโงกใบหน้าเข้ามาระหว่างรอยห่างของแผ่นสังกะสีเก่าคร่ำ
ครั้นแล้วก็ต้องใแทบช็อก กับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า เมื่อพบว่ามีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ สีผิวน้ำตาลเข้มอาบเลื่อมไปด้วยฟองสบู่ เนื้อตัวของเขาเปลือยเปล่าล่อนจ้อน
‘โอ้ว… นายเดช’
มะลิรู้แล้วว่าเขาเป็ใคร ภาพเรือนร่างกำยำไปด้วยมัดกล้ามของนายเดช สะดุดตาหล่อนอย่างแรง ผู้ชายคนนี้เซ็กซี่นัก ที่แผงอกของนายเดชปกคลุมไปด้วยเสียขนสีดำเป็แพกว้าง เลื้อยลามเป็แนวลงมาที่กล้ามท้องเป็ลูกลอนซิกแพ็ค และตอนที่เขาเอี้ยวกายเอาขันตักน้ำในแกลอนมาราดศีรษะ ทำให้มะลิเห็นอวัยวะเพศยาวใหญ่ เหวี่ยงไหวลงมาถึงต้นขา
‘โอ้แม่เ้า…’
‘ใหญ่มาก’ มะลิอุทานอยู่ในความคิด ความเป็ชายของนายเดช ทำเอาหล่อนใแทบช็อก สิ่งที่เคยคิดว่าจะมีอยู่แค่ในบรรดาพระเอกหนังโป๊เท่านั้น วันนี้ได้มาเห็นของจริงเต็มตา… ใหญ่ยังกับแขนเด็ก
‘คุณพระ…’
สิ่งที่เห็นทำเอามะลิยกมือขึ้นทาบอก นายเดชกำลังเอาสบู่มาลูบไล้ขัดถูจรวดดุ้นใหญ่ หงายอุ้งมือ ลูบล้วงเข้ามาที่หว่างขา ตะล่อมพวงเพศอลังการของตัวเอง เอามาขัดถูด้วยสบู่
มะลิใ ใจเต้นแรง เหงื่อซึมออกมาจากมือที่กำแน่น หากก็มองตาไม่กะพริบ เห็นแก่นกายสีน้ำตาลคล้ำ ดุจเดียวกับสีผิวของนายเดช กำลังเหวี่ยงไหว ส่าย สั่น ตามจังหวะเอี้ยวตัวเพื่อตักน้ำในแกลอนสีดำใบใหญ่ รดราดลงบนเรือนกายกำยำไปด้วยมัดกล้าม
นายเดชผิวปากหวือ ยังคงอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์โดยหารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่หนึ่ง… กำลังจับจ้องดูเขาอาบน้ำด้วยหัวใจเต้นระทึก
มะลิรู้สึกได้ว่าใบหน้าของหล่อนจู่ๆ ก็เกิดอาการร้อนวูบวาบ แก้มร้อนผะผ่าวกับภาพที่เห็น
ครั้นแล้วในนาทีที่ตัดสินใจว่าจะวิ่งกลับออกมาตามทางเดินเล็กๆ ด้วยความรู้สึกอับอายที่เผลอมองจนนายเดชอาบน้ำเสร็จ
ทว่าจู่ๆ เสียงเรียกที่ดังลั่นมาพร้อมกับประตูสังกะสีที่ถูกผลักออกมา
“คุณมะลิ…”
เ้าของเรือนกายที่เกือบเปลือยเปล่า เพราะมีเพียงผ้าขาวม้าปิดบังส่วนที่ต่ำลงไปจากสะดือเอาไว้ นายเดชใเช่นกัน ที่เห็นว่าเป็หล่อน
“ฉัน… เอ่อ… ”
มะลิอ้ำอึ้ง หล่อนพูดอะไรไม่ออก ใจนไม่รู้ว่าจะตอบยังไง ไม่อาจซ่อนอาการใบหน้าแดงซ่านจากสายตาของไอ้เดช มันหรี่ตามองหล่อนด้วยความสงสัย เดาว่ามะลิน่าจะเห็นของดีเข้าแล้ว
“คุณมะลิมาทำอะไรแถวนี้ครับ”
ไอ้เดชถามเสียงหวาน มะลิอึกอัก
“ฉัน… เอ่อ… ”
มะลิสูดหายใจแรง สิ่งที่เห็นเมื่อครู่ ทำเอาหล่อนลืมไปเลยว่าจะมาทำอะไร กระทั่งนึกได้จึงรีบบอก
“เสี่ยสั่งให้ฉันมาจ่ายค่าแรง… ก็เห็นว่าไม่มีใคร เลยเดินอ้อมมาทางด้านหลัง”
มะลิรีบบอกธุระของหล่อน สีหน้ากังวลว่านายเข้มจะรู้ว่าหล่อนแอบดู
“งั้นเชิญข้างในครับ”
นายเดชผายมือไปยังตู้คอนเทนเนอร์ เหลือบมองเมฆฝนกลุ่มใหญ่ที่เริ่มโปรยเม็ดลงมา
“ข้างใน… ทำไมต้องเข้าไปข้างใน”
“ก็จะได้นั่งคุยกันสะดวกครับ… ฝนกำลังจะตกแล้วด้วย เข้ามาหลบฝนก่อนนะครับ”
“คุย… เอ่อฉันไม่มีอะไรจะคุย”
มะลิกลัว
“แต่ผมมีบางอย่างสงสัยเกี่ยวกับงาน”
ไอ้เดชไม่ยอมปล่อยให้หล่อนกลับง่ายๆ
“ไว้รอถามเสี่ยดีกว่า… เื่งานของผู้ชายฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
มะลิรีบปฏิเสธ
“โถ… ผมน่ากลัวขนาดนั้นเชียวหรือ… ทำไมคุณมะลิกลัวผม?”
ไอ้เดชหันมามองมะลิ หล่อนมองสู้ตา เกิดอาการท้าทายกันอยู่ในที
“ทำไมฉันจะต้องกลัวนาย”
มะลิเชิดหน้าถาม
“ถ้าไม่กลัว… งั้นก็เข้ามาสิครับ”
ไอ้เดชผลักประตู เดินนำเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์ ไม่รู้อะไรดลใจให้มะลิก้าวตามเข้าไป
“นั่งก่อนสิครับ”
นายเดชผายมือไปยังโซฟา มะลิทรุดร่างลงนั่งบนโซฟาตามคำเชิญ
สภาพภายในของตู้คอนเทนเนอร์ไม่ได้แย่อย่างที่หล่อนนึกเอาไว้ เพราะว่ามีทั้งเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นเล็กๆ ตั้งอยู่มุมห้อง ด้านหลังเป็เตียงนอนเล็กๆ สำหรับคนงานที่ตอนนี้ลากลับบ้านกันหมด
“ดื่มอะไรเย็นๆ ไหมครับ”
นายเดชเดินไปที่ตู้เย็น คว้าเบียร์ออกมาสองกระป๋อง เปิดแล้วยื่นให้มะลิกระป๋องหนึ่ง โดยไม่ถามความสมัครใจของหล่อน
“ฉันไม่ดื่มเบียร์”
มะลิส่ายหน้า
“ไม่เมาหรอกครับ… กระป๋องเดียวเท่านั้น พอให้เืสูบฉีด”
ท่าทางคะยั้นคะยอของนายเดช ทำให้มะลิจำต้องรับเบียร์มาดื่ม
พอน้ำสีอำพันถูกกรอกลงคอ มะลิก็หน้าแดงเรื่อ เริ่มมีความกล้าที่จะพูดคุยกับเขามากขึ้น
“เสี่ยฝากเงินค่าแรงมาให้นาย”
มะลิวางเงินลงบนโต๊ะเตี้ยๆ ตรงหน้า
“ขอบคุณครับ”
นายเดชรับเงินมาใส่กระเป๋ากางเกงโดยไม่ต้องนับ จากนั้นก็ยกเบียร์กระป๋องขึ้นดื่ม ทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสะสวยของหญิงสาว แล้วเผลอตวัดลิ้นเลียคราบเบียร์ที่ติดอยู่บริเวณแพหนวดสีดำดกหนาเหนือริมฝีปาก กวาดสายตาลงมาที่ทรวงอกอวบใหญ่ของมะลิ มองแล้วกลืนน้ำลายลงคอด้วยความลืมตัว
“เสี่ยกลับวันไหนครับ”
นายเดชชวนคุย
“วันมะรืน”
มะลิตอบ
“เสี่ยก็ไม่อยู่… แล้ววันนี้ลูกจ้างในร้านก็ไม่อยู่เสียด้วย คุณมะลิอยู่คนเดียวคงเหงาแย่”
คำพูดที่ได้ยินทำเอามะลิใ นายเดชกล่าวเหมือนรู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่างของผู้คนในบ้านหลังนี้ เพราะว่าเมื่อเย็นลูกจ้างพม่าสองคนที่จ้างเอาไว้ช่วยงานขายของหน้าร้าน เพิ่งขอลากลับบ้านไปเมื่อตอนเย็น
“ก็ไม่เชิงว่าเหงา… แล้วนายล่ะ คนงานไปไหนหมด”
มะลิสงสัย เพราะว่าตอนนี้ที่ไซต์งานเหลือนายเดชอยู่คนเดียวเท่านั้น
“ช่างบังเอิญ… ลูกน้องผมลากลับบ้านเหมือนกัน พอดีเป็วันหยุดก็เลยให้พวกมันกลับบ้านไปเจอลูกเมียบ้าง”
นายเดชตอบพลางจ้องมองหน้ามะลิด้วยแววตาเ้าชู้ หล่อนเห็นประกายความหื่น วาววาบขึ้นในดวงตาของนายเดช
ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ มะลิยังคงนั่งดื่มเบียร์กับนายเดชและคุยกันไปพลาง
“เอาเบียร์อีกสักกระป๋องไหมครับ”
นายเดชคะยั้นคะยอ
“พอแล้วจ้ะ… กระป๋องเดียวฉันก็เมาแล้ว”
มะลิส่ายหน้า จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน เหลือบมองนายเดชแวบหนึ่ง ในสภาพที่เขานุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียว ทำให้เห็นเรือนร่างกำยำไปด้วยมัดกล้าม ที่ปั้นไหล่ซ้ายมีลายสักดูเซ็กซี่สมชายชาตรี รูปร่างของนายเดชสูงใหญ่ต่างไปจากคนไทย อีกทั้งดวงตาก็เป็สีน้ำตาล
“นายเดชมีเชื้อฝรั่งหรือเปล่า?”
ความสงสัยทำให้มะลิถาม
“ใช่ครับ… ผมเป็ลูกครึ่งสเปน พ่อผมเป็คนสเปน แม่เป็คนไทย หลังจากแม่คลอดผมได้ไม่นานพ่อก็ทิ้งผมไป”
นายเดชไขข้อสงสัยของมะลิ สายตาจับจ้องเรือนร่างของหล่อนไม่วางตา มะลิช่างเป็ผู้หญิงที่เซ็กซี่นัก ผิวพรรณขาวผ่อง สองเต้าเต่งตึงสะดุดตา ทรวงอกของมะลิใหญ่มาก ดันล้นอยู่ภายใต้เสื้อจนแลดูน่าอึดอัด ผ้าถุงลายดอกเนื้อบางแนบเน้นสะโพกกลมกลึงจนแลเห็นกลีบก้นเป็ร่องรัดรึง เอวคอดโค้งรับกับทรวงอก ทรวดทรงของมะลิเซ็กซี่จนนายเดชเผลอกลืนน้ำลายลงคอหลายๆ ครั้ง
“ค่ำแล้ว… ฉันคงต้องขอตัวกลับ”
มะลิยกเบียร์ที่เหลือในกระป๋องขึ้นกระดกดื่มจนหมด จากนั้นก็ลุกขึ้นจากโซฟา
และพลันนั้นเองที่สายลมวูบหนึ่งสาดเข้ามากระทบร่างเรือนร่างเอิ่มอิ่มของมะลิ ทำให้ผ้าถุงลายดอกบางๆ แนบเน้นเข้ากับสะโพกของหล่อนจนเห็นกลีบก้นรัดรึง กลมกลึงตึงเต็มอยู่ภายใต้ร่มผ้า ที่นายเดชมองเห็นชัดเจนก็เพราะว่ามะลิชอบโนบราทั้งบนและล่างจนติดเป็นิสัย หล่อนไม่ชอบใส่ชั้นในมาแต่ไหนแต่ไร
“จะกลับแล้วหรือครับ… ดื่มให้หมดนะครับ เสียดายเบียร์”
นายเดชยื่นเบียร์ที่เหลืออยู่ในกระป๋องให้คนที่กำลังจะไป มะลิรับมาดื่มอย่างขัดไม่ได้ รีบร้อนจนเบียร์หกราดหลังมือ
“อุ๊ย…”
มะลิใ นายเดชเห็นเข้าก็รีบบอก
“ข้างในมีอ่างล้างมือครับคุณมะลิ”
มะลิเดินลึกเข้ามาด้านในของตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกดัดแปลงสภาพเป็ห้องพักคนงาน เพื่อที่จะล้างมือก่อนกลับ
ครั้นแล้วจู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อนายเดชสืบเท้าตรงเข้ามาประชิดร่างของหล่อน สองแขนสวมกอดหญิงสาวจากทางด้านหลัง
“ว้าย… นะ… นายเดชอย่า”
เสียงมะลิร้องใ
“มะลิจ๋า คุณสวยเซ็กซี่ถูกใจผมเหลือเกิน ผมขอสารภาพตรงๆ ว่าแอบชอบคุณมานานแล้ว อยากเอาคุณมานานแล้ว… ทุกครั้งที่ผมมาซื้อของที่ร้านแล้วเจอคุณมะลิ… ผมแอบเอาคุณไปจินตนาการช่วยตัวเองบ่อยๆ”
“ไอ้เดชบอกอย่างไม่อาย
“ไม่นะนายเดช… อย่านะ… ถ้าทำอะไรบ้าๆ นะ ฉันร้องจริงๆ ด้วย”
มะลิขู่ ท่าทางเอาจริง
“ใจเย็นๆ… ผมรู้ว่าคุณอยาก เราคุยกันดีๆ ผมสัญญาว่าจะไม่ใช้กำลัง… ผมรู้ว่าคุณมะลิกับเสี่ยกำลังมีปัญหากับเื่บนเตียง… ผมก็เลยอยากช่วย”
นายเดชยกมือห้ามไม่ให้หล่อนร้อง ที่มันรู้ความลับเกี่ยวกับเื่บนเตียงของเสี่ยพจน์ ก็เพราะว่าเสี่ยนั่นแหละที่เคยถามไอ้เดชว่ารู้จักยาอึดยาทนบ้างไหม รวมทั้งยาที่ช่วยให้แข็งตัว ช่วยให้อวัยวะเพศใหญ่ยาว
คำถามในลักษณะนี้ทำให้ไอ้เดชพอจะเดาได้ว่าเสี่ยพจน์กำลังมีปัญหากับเื่บนเตียงอย่างแน่นอน
“ออกไป… ปล่อยนะไอ้บ้า”
มะลิสะบัดหลุด หล่อนพยายามถอยหนี หากก็ดูเหมือนว่าตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะผิดไปจากแผนที่ไอ้เดชคิดเอาไว้ ว่าผู้หญิงเก็บกดอย่างมะลิน่าจะยอมง่ายๆ แต่เื่ราวกลับไม่เป็อย่างที่คิด
“อย่าดื้อนะครับคุณมะลิ… เดี๋ยวผมจะทำให้คุณมีความสุข ผมรู้ว่าคุณมะลิอยาก”
นายเดชพูดประโยคเดิม ที่วันนี้มันกล้าลงมือจู่โจมก็เพราะมั่นใจว่ามะลิจะยอมเพราะกำลังเงี่ยน
“ไม่นะ… อย่า… ปะ… ปล่อย”
นายเดชรั้งร่างของมะลิเข้ามากอดจูบ สองมือรวบไหล่แล้วดันแผ่นหลังกระแทกผนัง มือข้างหนึ่งเอื้อมมาปิดปาก
“ตอนนี้ไม่มีใครอยู่… มีแค่เราสองคนเท่านั้น… คุณมะลิร้องให้ตายก็ไม่มีใครได้ยิน”
“นายเดช... ยะ... อย่า... ”
มะลิพยายามจะร้อง ทว่าริมฝีปากของหล่อนก็โดนปากของนายเดช บดนาบลงมาประกบจูบอย่างเร่าร้อนดุดัน สอดลิ้นล้วงเลียเข้าสู่ร่องปากแสนหวานอย่างโหยหา
“อื๊อ... อ๊ะ… ”
มะลิพยายามจะบ่ายหน้าหนี แต่กลับพ่ายแพ้แรงบดขยี้อย่างมีชั้นเชิงลีลาของนายเดชที่โอบใบหน้าของหล่อนด้วยสองมือ ล็อกเอาไว้ให้มองตากัน จากนั้นก็บดนาบริมฝีปากเข้าหากันอย่างเร่าร้อน
“อ๊า… ”
มะลิเผลอครางออกมาเฮือกสั้นๆ จากนั้นริมฝีปากของทั้งสองก็ผนึกแน่นเข้าหากันจนได้
เมื่อเห็นหญิงสาวออกอาการหวามไหว นายเดชได้ใจรีบทาบฝ่ามือกอบกุมสองเต้าอวบอัด เบียดแน่นอยู่ในเสื้อตัวบาง
ความเสียวซ่านบวกกับอารมณ์ทางเพศที่เก็บกดมานาน ทำให้มะลิเผลอดูดดุนเรียวลิ้นของนายเดชด้วยความลืมตัว
“ซี้ดดด… ”
มะลิคราง ขณะลิ้นของทั้งสองกำลังเกี่ยวกระหวัดรัดร้อยกันอย่างดื่มด่ำลืมตัว
กระทั่งสติของมะลิกลับคืนมาใน่สั้นๆ หล่อนจึงกระชากริมฝีปากหนีจูบ มือน้อยๆ ผลักอกนายเดชที่พยายามเบียดกายกำยำเข้าหล่อน
“นายเดชหยุดนะ… ถ้าเสี่ยพจน์รู้ว่านายทำแบบนี้กับฉัน… ต้องเป็เื่ใหญ่แน่ๆ”
มะลิถอยร่น ยกหลังมือขึ้นเช็ดริมฝีปากของตัวเองด้วยความรู้สึกผิดที่เผลอแลกลิ้นกับนายเดชอย่างดูดดื่มเมื่อครู่ หล่อนยอมรับว่าผู้ชายคนนี้จูบเก่ง
“ตอนนี้เสี่ยไม่อยู่ครับ… ถ้าเราสองคนไม่บอกใคร เื่นี้ก็จะมีแต่เราเท่านั้นที่รู้”
มีหรือที่นายเดชจะหยุดง่ายๆ นาทีทองแบบนี้ใช่ว่าจะมีบ่อยๆ
“เรามาสนุกกันนะครับคุณมะลิ… วันนี้ขอให้ผมมีโอกาสเป็ผัวคุณสักครั้ง”
นายเดชเปิดฉากตรงเข้าประชิดตัวมะลิอีกครั้ง สองมือกอบใบหน้าของหล่อน ล็อกใบหน้าบังคับให้มะลิหันหน้าเข้ามาประกบริมฝีปากเข้าด้วยกันแแ่ สอดปลายลิ้นร้ายกาจล้วงเข้ามาในอุ้งปากแสนหวานของหล่อน กวาดต้อนเอาปลายลิ้นนุ่มอ่อนออกมาดูดเลียอย่างดื่มด่ำ
“อ๊า…’
ไม่เคยมีใครจูบหล่อนแบบนี้มาก่อน ความเก็บกดทางเพศที่สะสมมานานราวกับตะกอนลาวาคัดคั่งอยู่ในูเาไฟ ทำให้มะลิจูบตอบด้วยความลืมตัว ซ้ำยังตะแคงใบหน้า ยื่นปลายลิ้นนุ่มอ่อนออกมาเกี่ยวกระหวัดรัดเลีย ดูดลิ้นกับนายเดชนัวเนียอย่างที่ไม่เคยทำกับเสี่ยพจน์มาก่อน
นายเดชกระตุกยิ้มได้ใจ รู้ว่าที่หล่อนหวามไหวกับเขาง่ายดายนั้นคงเป็เพราะอารมณ์ที่ค้างมานาน
ท่าทางของมะลิเหมือนคนที่เก็บกดความ้าเอาไว้ตลอด พอมาเจอสายหื่น สายโหด กล้าจู่โจมดุดันอย่างนายเดช ก็เลยอารมณ์กระเจิงอย่างที่เห็น
“อ๊า... ”
มะลิร้องครางออกมา หล่อนเสียวซ่านจนไม่อาจสะกดกลั้นเสียงครางเอาไว้ได้ ขนลุกซู่ชูชันเมื่อโดนจูบปาก ได้ทีนายเดชรีบแกะกระดุมเสื้อของหล่อน มันอยากเห็นนมใจจะขาด
“จูบเก่งเหลือเกิน… คุณมะลิ”
นายเดชชมหลังจากถอนริมฝีปากออกจากกัน มะลิเผลอเอามือลูบริมฝีปากนายเดชที่ดูเซ็กซี่ไปด้วยแผงหนวดสีดำเป็แพหนา ปกคลุมอยู่เหนือริมฝีปาก
“ชอบผู้ชายมีหนวดเคราอย่างผมใช่ไหมครับ”
นายเดชรู้ทัน เพราะว่าสังเกตเอาจากตอนที่หนวดเคราแข็งปักทิ่มผิวนุ่ม ทำเอามะลิขนลุกซู่ชูชันไปด้วยความสยิว พอได้โอกาสก็รีบแหวะเสื้อออกจากอกเมื่อแกะกระดุมลงมาถึงเม็ดสุดท้าย เปลื้องเสื้อออกจากไหล่ลงไปกองไว้ที่แผ่นหลัง
“ว้าย… ”
มะลิสะดุ้งใ
“โห… สวยเหลือเกินแม่คุณเอ๊ย”
นายเดชตาถลน จ้องมองเรือนร่าง่บนของมะลิที่ตอนนี้เปลือยเปล่าอะร้าอร่าม สองเต้าอวบใหญ่ผุดเด้งออกมาอวดความงดงามสะดุดตา ผิวพรรณของมะลิช่างขาวผ่องเป็ยองใย ไฝฝ้าสักเม็ดบนร่างกายก็ไม่มี เนื้อตัวของหล่อนดูสะอาดสะอ้านไปทุกสรรพางค์
“อู้ว... คุณมะลิหุ่นดีเหลือเกิน”
นายเดชตาวาว เต้านมคัพอีของมะลิอวบใหญ่เป็ทรงสวย หุ่นของหล่อนเหมือนรูปทรงของนาฬิกาทราย เอวคอดรับกับสะโพกตึงเต็มและ่ขาเซ็กซี่เรียวยาวสะดุดตา นายเดชทนมองต่อไปไม่ไหว รีบกระชากถ้าถุงหลุดลุ่ยลงมากองอยู่ที่เท้าของหล่อน
มะลิยืนตัวแข็งทื่อ ใ เพราะไม่เคยต้องมายืนแก้ผ้าต่อหน้าชายอื่นที่ไม่ใช่ผัว ไอ้เดชได้ทีรีบรวบร่างของหล่อนไว้ในอ้อมแขน อุ้มมาวางลงบนโซฟาตั้งอยู่ชิดผนัง
“นมใหญ่เหลือเกิน… ”
ไอ้เดชอุทาน มะลิยืนนิ่งเหมือนโดนสะกด ปล่อยให้มือใหญ่ทาบลงบนสองเต้าเต่งตึง บีบขยำแล้วก้มลงเกลือกเคล้าใบหน้ากับร่องอกอวบ หนวดเคราระคายเหนือริมฝีปากและที่คาง เสียดครูดเต้านมของมะลิ ทำเอามือทั้งสองข้างของหล่อนที่ทำท่าว่าจะผลักบ่าของนายเดช เปลี่ยนเป็ลูบไล้ โอบรอบลำคอแล้วรั้งใบหน้าหล่อเข้มลงมาบดเคล้ากับสองเต้า แอ่นนมให้ดูดเลียด้วยความลืมตัว
“อ๊า... อูยยย… ซี้ดดด… ”
มะลิเริ่มคราง หลังจากนายเดชคลายจูบที่ริมฝีปากแล้วไซ้ต่ำลงมาที่ลำคอขาวผ่อง กดใบหน้าฟอนฟัดร่องอกอวบใหญ่ คลี่ปลายลิ้นไล้เลียปลายหัวนมชี้งอนเป็ทรงสวย ดูดแรงจนหล่อนแอ่นอกสะท้าน สองเต้าขยับยกขึ้นด้วยความดื่มด่ำซ่านเสียวในรสััแปลกใหม่ของกรรมกรอย่างไอ้เดช
“หัวนมน่าดูดที่สุด”
ไอ้เดชละล่ำละลักชมขณะครอบริมฝีปากกะซวกดูดสองเต้าเต่งตึงสลับไปมา
“อ๊อย… ”
มะลิสะดุ้ง แอ่นอกให้มือใหญ่ของไอ้เดชบีบเคล้นสองเต้าเมามัน ความเสียวทำให้หล่อนเม้มปากแน่น หลุบตาลงมองดูปลายหัวนมแดงเรื่อของตัวเอง ยื่นออกมาติดริมฝีปากของไอ้เดช ที่กำลังก้มหน้าก้มตากะซวกดูดสลับจูบไซ้อย่างตะกละตะกลาม
“สะ… เสียว… อ๊อย”
มะลิร้องครางด้วยความเสียวหัวนม ลีลาของไอ้เดชช่างร้ายเหลือ มันวนลิ้นรอบเม็ดหัวนมของมะลิจนชุ่มไปด้วยน้ำลาย กะซวกดูดลึกลงมาถึงวงป้านลานหัวนม ทำเอาหล่อนตัวอ่อนตัวงอไปชั่วขณะ ไหล่สองข้างบิดลู่เข้าหากัน รูขุมขนรอบหัวนมแข็งขึ้นมาเป็เม็ด
“นมคุณมะลิสวยเหลือเกิน… ถ้าผมเป็เสี่ยพจน์จะดูดจะเลียทุกคืนทุกวัน”
ไอ้เดชเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าของภรรยาเสี่ยพจน์ที่กำลังบิดเบ้เหยเกไปชั่วขณะ หลังจากโดนเล้าโลมดูดนมอยู่นานจนอารมณ์กระเจิดกระเจิงอย่างที่เห็น
“ซี้ดดดด… อูย… พอเถอะ… ”
มะลิร้องคราง สะบัดใบหน้าไปมาเหมือนพยายามต่อสู้กับความ้าอันมืดดำของตัวเอง ปากร้องห้าม แต่ก็แอ่นทรวงอกรับจมูกโด่งเป็สันของไอ้เดชที่ก้มลงมาจูบฟัด รินรดลมหายใจร้อนผ่าวเฟ้นฟอนสองเต้าเมามัน
มะลิยอมรับว่าไอ้เดชมีกลิ่นเหงื่อกลิ่นตัวของผู้ชายต่างไปจากเสี่ยพจน์ มันเป็กลิ่นเหงื่อไคลที่มะลิไม่คุ้นเคย เป็กลิ่นฟีโรโมนที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ได้อย่างประหลาด จึงทำให้หล่อนอ่อนระทวยอย่างที่เห็น
“คุณมะลินมใหญ่นมสวยเหลือเกิน ขอผมกินนมให้หายอยากนะครับ”
เมื่อเห็นว่าหล่อนเริ่มเคลิบเคลิ้มมีอารมณ์ ไม่ขัดไม่ขืน มือใหญ่ของไอ้เดชตะล่อมบีบเต้านมมหึมาชิดเข้าหากัน จากนั้นก็ปาดปลายลิ้นระรัวเลียหัวนมสองข้างสลับไปมา
“อูย… นายเดชฉันเสียว”
มะลิครางกระเส่า ไอ้เดชได้ใจ รีบดูดเลียหัวนมอย่างหื่นกระหาย หลังจากแอบมองสองเต้าอวบใหญ่ของเมียเสี่ยพจน์มานาน มันแอบจ้องนมของมะลิตาเป็มันทุกครั้งที่มาซื้อของที่ร้านขายวัสดุก่อสร้าง
“อ๊าย… นายเดช ฉันเสียว”
ไหล่ทั้งสองข้างของมะลิบิดลู่เข้าหากัน ดันสองเต้าจนเบียดชิดขึ้นมารับริมฝีปากกระแทกดูดเสียงดังอั่กๆ ไอ้เดชก้มลงเลียสลับดูดกินทั้งซ้ายขวาจนหญิงสาวตัวอ่อนตัวงอ
“รู้ไหมว่าผมอิจฉาเสี่ยพจน์มานานแล้ว… ที่ได้ผู้หญิงสวยอย่างคุณมะลิเป็เมีย”
ไอ้เดชสารภาพ ท่าทางของมันในตอนนี้ดูหิวโหยยิ่งกว่าทารกอดอยาก มันชอบผู้หญิงนมใหญ่ พอได้เจอมะลิก็ปล่อยความหื่นออกมาเต็มที่เหมือนอดอยากปากแห้งมานาน
“อูย… นาเดช… ฉันเสียว”
ลีลาเบิร์นหัวนมของไอ้เดช ทำเอามะลิพริ้มตาซ่านสยิว หล่อนเสียวหัวนมแทบขาดใจ ลมหายใจติดๆ ขัดๆ พ่นพรูออกมาจากปลายจมูก หลุบตาลงมองปลายหัวนมของตัวเองที่ถูกดูดจนปูดปลิ้นแดงปลั่งอยู่ในอุ้งปากของไอ้เดชที่กำลังจะมอบความเป็ผัวให้หล่อน
“นายเดชหยุดเถอะ… ได้โปรด พะ… พอแล้ว ทำแบบนี้ไม่สงสารเสี่ยพจน์หรือไง”
มะลิร้องห้าม