บทที่ 89 ความชอบธรรม
ท้องฟ้ายามค่ำคืนมืดมิด นกสีดำบินปกคลุมแสงจันทร์สว่าง ปีกจำนวนนับไม่ถ้วนกระพือส่งเสียงพรึบพรับ ทำให้เกิดลมแรงปั่นป่วน หมุนวนหมอกเืจนกลายเป็ลูกคลื่น
เสียงสังหารข้างแม่น้ำโลหิตดังกึกก้อง ซากศพกองพะเนินอยู่ทุกหนแห่ง ราวกับนรกที่มีชีวิตขึ้นมา น่ากลัวอย่างยิ่ง
ในเวลานี้ มองเห็นชายวัยกลางคนพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วจากระยะไกล ในมือถือดาบั์ดูดุร้าย เขาฆ่าฟันมาตลอดทาง สับกระดูกฉีกเนื้อของสัตว์ปีศาจ ได้ยินเสียงเืสาดกระเซ็นไปทั่ว
“ทุกคนถอยออกไป เถาวัลย์ใบมีดมอบให้ข้า!”
ชายร่างใหญ่ะโเสียงดังปนแหบแห้ง ก่อนจะพุ่งเข้าต่อสู้อย่างสุดกำลัง เมื่อเขายกดาบขึ้นฟัน สัตว์ปีศาจหลายสิบตัวก็ขาดเป็ท่อนๆ
ชายคนนี้คือซ่งอี้ที่เพิ่งกลับมาถึงไม่นาน เสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่งและเปรอะไปด้วยคราบเื แม้แต่ดาบัเหล็กในมือก็มีรูโหว่เล็กๆ เห็นได้ชัดว่าเขาได้ต่อสู้ดุเดือดมาสนามหนึ่งแล้ว
“ใช่แล้ว... เป็หัวหน้าซ่ง!”
“ขอบคุณฟ้าดิน พี่ซ่งยังไม่ตาย! เรารอดแล้ว!”
“ข้า...ข้าคิดว่าคืนนี้ข้าต้องตายแน่แล้วเสียอีก...ฮืออ..."
เมื่อทุกคนเห็นซ่งอี้ปรากฏตัว ดวงตาของพวกเขาก็เปล่งประกายอย่างดีใจ บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปริ่ม
พวกเขาไม่อาจรอการกลับมาของซ่งอี้ได้ เดิมทีพวกเขาก็สิ้นหวังและถูกกำหนดให้ตายที่นี่ ดังนั้นเมื่อเถาวัลย์ใบมีดพุ่งเข้ามา คนที่หมดหวังจึงทิ้งอาวุธในมือแล้วล้มลงกับพื้น
หากไม่ใช่เพราะฉู่อวิ๋นต่อสู้อย่างเต็มที่อย่างไม่คิดจะไม่ยอมแพ้ พวกเขาคงถูกสัตว์ปีศาจฉีกเป็ชิ้นๆ ก่อนที่ซ่งอี้จะมาถึง
“พี่ฉู่! ขอบ... ขอบคุณเ้า!” นักรบบางคนหลั่งน้ำตาด้วยความขอบคุณ พวกเขาขอบคุณฉู่อวิ๋นอย่างจริงใจ รู้สึกซาบซึ้งเป็อย่างยิ่ง
“แม้ว่าข้าจะเป็นักรบขั้นมหาสมุทร แต่กลับ... ต้องมาให้นักรบระดับหกของขอบเขตควบแน่นพลังปราณมาช่วยเหลือ! ช่างน่าละอาย... น่าละอาย!” นักรบขั้นมหาสมุทรจากกลุ่มหมาป่ามองดูฉู่อวิ๋น เขารู้สึกละอายใจ
ยามนี้ ผู้ที่เคยยอมแพ้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นักรบจากกลุ่มัเหล็กหรือกลุ่มหมาป่า ต่างก็จ้องมองไปที่ฉู่อวิ๋นอย่างนับถือ
แน่นอนว่าบางคนก็ยังคงตั้งตัวเป็ศัตรูกับฉู่อวิ๋น ทว่าพวกเขาต่างก็ละอายใจ ไม่อาจไม่ยอมรับว่าความกล้าหาญของชายหนุ่มคนนี้น่าประทับใจจริงๆ
แม้จะรู้ว่าทำไม่ได้ แต่ก็ยังคงลงมือทำ!
“ให้ตายเถอะ เลิกพูดพล่ามไร้สาระกันได้แล้ว รีบกลับมา ให้หัวหน้าซ่งจัดการกับต้นไม้ปีศาจนั่นซะ!”
ฉู่อวิ๋นะโเสียงดัง ร่างกายของเขาเต็มไปเื มือทั้งสองข้างกระชับกระบี่ชื่อยวนแน่น ฟาดฟันในแนวนอนด้วยพลังอันลุกโชน เพื่อสังหารฝูงนกดำหางดาบที่ดุร้ายฝูงใหญ่กลางอากาศ ทำให้เกิดพายุนองเือีกครั้ง
ยามนี้ ดูเหมือนว่าฉู่อวิ๋นต่างหากที่เป็ตัวหลักของกลุ่มนักรบในตอนนี้ ด้วยเสียงะโอันดุเดือดของเขา ทำให้ทุกคนรู้สึกตัวราวกับเพิ่งตื่นจากความฝัน ก่อนจะเริ่มล่าถอยต่อไป
“จอมยุทธ์ฉู่พูดถูก! บุก!”
“โฮ่โฮ่! ถ้าครั้งนี้ข้าหนีรอด ข้าจะจับพวกสัตว์ปีศาจนี่มาย่างกินเสีย!”
“กินเยอะมาก ท้องจะแตกตายเอานะ!”
“ทุกคนมารวมกัน!”
“ฆ่า!”
ทุกคนมีกำลังใจและมีชีวิตชีวาขึ้นมาแล้ว ทันทีที่ลมพัดผ่านไป อาวุธของพวกเขาก็เปล่งแสง และเริ่มต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดอีกครั้ง
“ชึบ!!”
เมื่อเห็นทุกคนเริ่มถอยหนี เถาวัลย์ใบมีดก็ส่งเสียงกรีดร้องแปลกๆ ออกมา ใบมีดของมันปลิวไปรอบๆ มันเสียกำลังต้อนมนุษย์พวกนี้ไปไม่น้อย ไม่อยากให้พวกเขาหลุดมือไปง่ายๆ
ด้วยเหตุที่ว่า ร่างกายมนุษย์เป็โอสถอันล้ำค่า สามารถบำรุงลำต้นของสัตว์ปีศาจและเพิ่มความแข็งแกร่งของมันได้
“หวือ--”
กลางอากาศ เถาวัลย์ใบมีดหลายสิบใบส่องแสงเจิดจ้า พวกมันทรงพลังมาก รวดเร็วและดุร้าย พุ่งแทงออกมาจากทุกทิศทาง ตัดฝูงสัตว์ปีศาจออกนอกวงล้อม ทำให้ชิ้นเนื้อปลิวกระเด็นไปรอบๆ คิดปล้นชิงร่างกายมนุษย์โดยไม่สนสิ่งใด
“เ้าปีศาจ! คู่ต่อสู้ของเ้าคือข้า!”
ซ่งอี้ะโอย่างดุดันและพุ่งไปจนสุดทาง ดาบัเหล็กทุบแรดเขาทองตัวโตที่ใหญ่เท่าเนินเขา จากนั้นเขาก็ะโขึ้นไปในอากาศและฟาดฟันแสงดาบยาวสามสิบหมี่ออกไป มันทรงพลังมาก!
“ควั่บ!”
แสงของดาบคมกริบราวกับแผ่นสะท้อนแสงสีทองสดใส แยกออกเป็ส่วนๆ ในความว่างเปล่า ฟันลงมาที่ยอดต้นไม้ ทำให้เกิดฝุ่นควันลอยฟุ้ง
จากนั้นก็มีเพียงเสียงต้นไม้แตกหัก ต้นไม้ปีศาจถูกฟันออกเป็สองท่อน ลำต้นแยกออกเป็ชิ้นๆ และกลายเป็เถ้าดำปลิวว่อนไปตามสายลมยามค่ำคืน
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ฉู่อวิ๋นก็ตกตะลึง ดวงตาของเขาเป็ประกาย และคิดกับตัวเอง “แข็งแกร่งมาก! นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหัวหน้าซ่งหรือ?”
ซ่งอี้ใช้เพียงหนึ่งกระบวนท่าก็สามารถสังหารสัตว์ปีศาจระดับกลางเถาวัลย์ใบมีดได้แล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาใช้พลังที่แท้จริงแล้ว นี่เป็ครั้งแรกที่ฉู่อวิ๋นเห็นนักรบขั้นมหาสมุทรโจมตีด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มี เขาโหยหามันเหลือเกิน!
ในอดีต แม้ว่าพ่อของเขา ฉู่ซานเหอและญาติทุกคนของเขาจะเป็ผู้แข็งแกร่งในขั้นมหาสมุทร แต่พวกเขาก็ไม่เคยแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงต่อหน้าเขาเลย
“พลัง... ข้า้าพลัง! ความแข็งแกร่งในตอนนี้ของข้า ไม่แม้แต่จะสามารถฆ่าสัตว์ปีศาจระดับต่ำสุดได้ เช่นนั้นก็ช่วยพี่ซินเหยาไม่ได้! นักรบขั้นมหาสมุทรแท้จริงแล้วแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!” จู่ๆ ชูหยุนก็ขมวดคิ้วและกัดฟัน หัวใจเต้นแรง
หากครั้งนี้ต่อให้โชคดีรอดไปจนถึงเมืองชุยเสวี่ยได้ ก็ยังมีศัตรูอยู่รอบด้านเช่นเดิม
แม้ว่ากระบี่ชื่อยวนจะสามารถปราบปรามตระกูลฉู่เชื้อสายไป๋หยางที่บุกโจมตีได้ด้วยการแทรกแซงทางจิตใจ เขาจึงมีทุนในการสู้กับฉู่เจิ้นหนานอยู่บ้าง
แต่เมื่อเห็นซ่งอี้ฟันต้นไม้ปีศาจอย่างเถาวัลย์ใบมีดด้วยดาบจากระยะไกล ฉู่อวิ๋นก็รู้สึกว่าเขาประเมินนักรบขั้นมหาสมุทรต่ำไป
“ให้ตายเถอะ! ให้ตายเถอะ!” ฉู่อวิ๋นสังหารสัตว์ป่าทีละตัวด้วยความรู้สึกกังวลในใจ ฉู่เจิ้นหนานเป็นักรบขั้นมหาสมุทรระดับสูงสุด แข็งแกร่งกว่าซ่งอี้ด้วยซ้ำ! เขาจะใช้อะไรไปสู้กับอีกฝ่ายกัน?
“ควั่บ!”
ในขณะที่ฉู่อวิ๋นความคิดแล่นฉิว ซ่งอี้ก็พุ่งเข้ามาถึงกลุ่มคนแล้ว ทำให้ทุกคนร่าเริงและมีความสุขมาก
เถาวัลย์ใบมีดถูกฆ่าตาย พวกเขาทั้งหมดรู้สึกเหมือนกำลังรอดชีวิตจากภัยพิบัติ
“พี่ซ่ง! ท่านไม่เป็ไรก็ดีแล้ว!”
“ฮือ... ข้ากลัวแทบตายเลย หืม? อะไรอยู่ตรงมุมตาข้า? มันเปียกๆ… ฮือ!”
ในบรรดาผู้รอดชีวิต นักรบของกลุ่มัเหล็กต่างก็ตื่นเต้นมาก ชายร่างใหญ่สือเหล่ยแทบจะโผกอดซ่งอี้ เขาร้องไห้หนักมากจนน้ำลายฟูมปาก ดูแล้วน่าขัน
“ให้ตายเถอะ เ้าก้อนหิน เ้าร้องไห้ทำไม? เ้าที่ทั้งบึกบึนทั้งทรงพลังเช่นนี้กลับหลั่งน้ำตาเหมือนลูกสาวชาวบ้าน ช่างไม่สมประดีเลย!” ซ่งอี้ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แม้ว่าเขาจะพูดสั่งสอน แต่เมื่อเห็นบางคนในกลุ่มัเหล็กที่ยังมีชีวิตอยู่ หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น
ต่อมา สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมอีกครั้ง หันไปหาคนของกลุ่มหมาป่า “ทุกท่าน ตอนนี้ที่กระแสปีศาจกำลังมา เราต้องรวมตัวกันเพื่อต่อสู้ ความคับข้องใจก่อนหน้านี้จำต้องระงับไว้ก่อน!"
“ถ้าพวกท่านเชื่อใจข้าผู้แซ่ซ่ง จะต้องเชื่อฟังคำสั่งข้า ไม่ขัดคำสั่ง! ไม่เช่นนั้น กลัวว่าพวกท่านทุกคนจะกลายเป็เหยื่อของฝูงสัตว์ ใครก็หนีไม่รอด!”
หลังจากพูดจบ ซ่งอี้ก็เลิกคิ้วและยกดาบึขึ้น ทันใดนั้น สัตว์ปีศาจหลายสิบตัวก็ถูกฆ่าตาย ดูง่ายดายและทรงพลังอย่างยิ่ง ทุกคนในกลุ่มหมาป่าต่างหวาดกลัวและหันมองหน้ากัน
แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะเชื่อในความแข็งแกร่งของซ่งอี้ แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็กลัวที่จะถูกทอดทิ้งเช่นกัน
ถ้าซ่งอี้สั่งให้พวกเขาไปอยู่รั้งท้าย นั่นไม่ใช่ว่าพวกเขาถูกใช้เป็บันไดหรอกหรือ?
ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดเกี่ยวกับเื่นี้ ซ่งอี้ก็ไม่รีบร้อน เขามองไปรอบๆ เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของคนที่เหลือ ทว่ากลับหยุดสายตาไว้ที่ฉู่อวิ๋นที่อาบไปด้วยเื
เขาแสดงสีหน้าตกตะลึง และพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฉู่... จอมยุทธ์ฉู่? เ้ารอดมาได้หรือ?"
เสียงกระบี่ดังขึ้นหนึ่งครั้ง ฉู่อวิ๋นฆ่าสัตว์ปีศาจไปหลายตัว สูดลมหายใจเข้าปอดและเอ่ยอย่างใจเย็น "ก็แค่บังเอิญ หัวหน้าซ่งไม่ต้องแปลกใจ”
“ข้าไม่แปลกใจก็แปลกแล้ว! เ้าเด็กนี่... อัศจรรย์จริงๆ!” ซ่งอี้สูดลมหายใจ รู้สึกมึนงงเล็กน้อย
ฉู่อวิ๋นผู้นี้เป็เพียงนักรบในระดับหกของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ และดูเหมือนจะมีประสบการณ์การต่อสู้ไม่มากนัก แต่กลับสามารถหนีรอดจากการโจมตีของกระแสสัตว์ปีศาจได้! ทั้งท่าทีของเขากลับดูเรียบง่ายและสงบอย่างมาก
แม้ว่าซ่งอี้จะเคยคิดไว้ในตอนแรกว่าความแข็งแกร่งของฉู่อวิ๋นไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกินจริงไปถึงขนาดนี้!
ต้องรู้ว่า หากเป็ซ่งอี้ที่อายุคราวนี้ มาเจอกับสัตว์ปีศาจมากขนาดนี้ เขาคงแข้งขาอ่อนแรง ไม่ต้องพูดถึงการประจันหน้าอย่างกล้าหาญเลย
“ซ่ง...หัวหน้าซ่ง!”
ในเวลานี้ มีเสียงหนึ่งขัดจังหวะความคิดที่น่าใของซ่งอี้ เขากระแอมสองสามครั้ง พยายามรักษาหน้าเอาไว้
“พวกเราพูดเื่นี้กันแล้ว ให้พวกเราเชื่อฟังคำสั่งของท่าน... ย่อมได้! แต่ท่านก็ห้ามปล่อยให้พวกเราตาย! อีกอย่าง พวกเราอยากรู้ว่าพี่ใหญ่หลางซื่อและพี่เริ่นหายไปไหน? ทำไมพวกเขายังไม่กลับมาอีก?” ชายหนุ่มจากกลุ่มหมาป่าคนหนึ่งถาม
“อย่ากังวล ข้าซ่งอี้ จิตใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ไม่ยอมให้พวกเ้าต้องตายอย่างแน่นอน”
"สำหรับหัวหน้าทั้งสองของพวกเ้า..." ซ่งอี้เผยสีหน้าแปลกประหลาด หยุดชะงักชั่วคราวแล้วพูดว่า “หลางซื่อประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไป เขาคิดว่าทะลวงระดับห้าขั้นมหาสมุทรแล้วทำอะไรก็ได้ จึงถูกสัตว์ปีศาจระดับกลาง จระเข้กลืนฟ้า... กินเข้าไปแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนในกลุ่มหมาป่าก็ตกตะลึง พวกเขาไม่คิดว่าหลางซื่อที่ปิดตนเพื่อแข่งขันกับซ่งอี้มานานเช่นนั้น จะเสียชีวิตก่อนออกรบ[1] ถูกสัตว์ปีศาจฆ่าตาย ช่างน่าเศร้า น่าใจริงๆ
ฉู่อวิ๋นหัวเราะเยาะ เสแสร้งแกล้งทำ ไม่มีรายไหนตายดีเลยสักคน
ทันใดนั้นก็มีบางคนถามอย่างกระตือรือร้น “แล้ว... หัวหน้าเริ่นเล่า?! ปกติเขาใจดีมีน้ำใจต่อพี่น้องมาก หรือว่าเขา... เขาก็ตายเหมือนกัน!?”
“เชอะ!” เมื่อได้ยินประโยคนี้ ซ่งอี้ก็แค่นเสียงอย่างเ็าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเหวี่ยงดาบั์ออกไปฆ่าสัตว์ปีศาจที่เข้ามาใกล้
หลังจากระบายความโกรธแล้ว เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเ็า “หัวหน้าเริ่นอวี่สิงที่พวกเ้าเรียกว่าเป็หัวหน้าที่ดีได้รับคำสั่งจากหลางซื่อให้ต้านทานเถาวัลย์ใบมีดต้นเล็ก แต่แขนข้างหนึ่งของเขาถูกตัดขาด พอเห็นว่าสู้ไม่ได้ก็ทิ้งพวกเ้าหนีเตลิดไปแล้ว!”
“พูดไปแล้ว เถาวัลย์ที่เริ่นอวี่สิงปล่อยทิ้งไว้ก็คือต้นที่ข้าฆ่าไปเมื่อกี้ ไอ้บ้าเอ๊ย!”
ทันทีที่พูดจบ ใบหน้าของซ่งอี้ก็เต็มไปด้วยความโกรธ หน้าอกของเขากระเพื่อมรุนแรง การกระทำของเริ่นอวี่สิงที่ละทิ้งเพื่อนพ้องและวิ่งหนีไปนั้นช่างน่าโมโหจริงๆ!
ถ้าเขามาช่วยที่ค่าย คงไม่ต้องมีคนตายมากขนาดนั้น
นักรบที่เหลือทั้งหมดของกลุ่มหมาป่าตกตะลึง พวกเขาส่ายหัวอย่างแรงด้วยความไม่เชื่อ พร้อมด้วยสีหน้าสลดหดหู่ใจ
ยามนี้ คนที่ช่วยชีวิตน้อยๆ ของพวกเขากลับกลายเป็ซ่งอี้ที่ไม่เป็มิตร ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังได้รับการช่วยเหลือทางอ้อมจากฉู่อวิ๋นนักรบของขอบเขตรวมพลังปราณตัวเล็กๆ อีกด้วย
ในตอนนี้ ทุกคนต่างก็ตกตะลึง เมื่อรับรู้ว่าตนติดตามผิดคนก็ทั้งเสียใจและเศร้าใจ
“เชอะ เริ่นอวี่สิงนี่มันหมาจนตรอกจริงๆ! เลวทรามเหลือทน!” ฉู่อวิ๋นสบถด่าอย่างเ็า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็ยอมรับข้อเสนอของซ่งอี้ ปฏิบัติตามคำสั่งของเขาอย่างเคร่งครัด
“ดี! ยังมีสัตว์ปีศาจที่ทรงพลังอีกบางส่วนบุกโจมตีมาจากป่าทึบ ตอนนี้พวกเราข้ามแม่น้ำไปอีกฟากหนึ่งเพื่อฆ่าพวกมันกัน!” เมื่อซ่งอี้โบกดาบ สัตว์ปีศาจก็ส่งเสียงคร่ำครวญและตายไป เมื่อเขาออกคำสั่ง ทุกคนก็เดินตามเขาข้ามแม่น้ำไป
“บุก!”
“ฆ่า!”
ทุกคนตอบรับพร้อมเพรียงกันด้วยิญญายุทธ์ที่พลุ่งพล่าน ความหวังที่จะรอดไปได้มีเต็มเปี่ยม!
ทว่าในเวลานี้ ฉู่อวิ๋นกลับะโเสียงดังโดยตั้งใจจะหยุดพวกเขา “ช้าก่อน! จากการสังเกตของข้าเมื่อครู่ มีเสือครามทองจำนวนมากที่ไม่ถูกกับน้ำรออยู่ที่อีกฝั่งของแม่น้ำ พวกเราไม่ต้องรีบข้ามไปหรอก!”
----------
[1] แปลเป็ความเต็มว่า “ถวายฎีกาออกศึกเเต่มิทันได้ชัยชนะก็ถึงเเก่กรรมเสียก่อน” เป็ส่วนหนึ่งของกวีชื่อว่า "สู่เซี่ยง 蜀相" หรือ "สมุหนายกเเห่งเเคว้นจ๊ก(สู่)" เป็กวีสมัยถังประพันธ์โดย ตู้ฝู่ 杜甫