ูเี่อันล้างมือเสร็จจึงเดินออกจากห้องน้ำ แต่กลับเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังกอดกันอย่างไม่ทันตั้งตัว นั่นมันนางเอกสาวสุดฮอตหานรั่วซีกับผอ.ลู่เป๋าเหยียนนี่หน่า!
เธอรีบหลบไปหลังกำแพง แอบมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ยัยนั่นก็แค่แพทย์นิติเวช ไม่เห็นจะเหมาะสมกับคุณตรงไหน” หานรั่วซีพูดพลางมองลู่เป๋าเหยียน ใบหน้าอันงดงามของเธอดูนิ่งสงบ ทว่าดวงตาของเธอกลับฉายความเ็ปอย่างเห็นได้ชัด
ูเี่อันเบ้ปาก แพทย์นิติเวชแล้วอย่างไร ออกจะเป็อาชีพที่เท่จะตาย!
“สองปีให้หลัง ผมจะหย่ากับเธอ” ลู่เป๋าเหยียนพูดด้วยสีหน้าไม่แยแส
อย่างไรเขาก็จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นสินะ เธอคิด
“เข้าใจแล้วค่ะ” หานรั่วซีตอบกลับด้วยยิ้มอันขมขื่น เธอสวมแว่นกันแดดและเดินจากไปอย่างสง่างาม ส่วนลู่เป๋าเหยียนก็เริ่มก้าวขายาวๆ ของเขาเดินกลับไปยังห้องรับรองเช่นกัน
ูเี่อันออกมาจากมุมที่เธอซ่อนตัวอยู่ กะพริบตาปริบๆ “สรุปสองคนนี้คบกันอยู่จริงสินะ”
นับั้แ่หานรั่วซีเริ่มโด่งดังเป็พลุแตก เธอกับลู่เป๋าเยียนก็มีข่าวฉาวออกมาอยู่ตลอด แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่เคยออกมายอมรับหรือปฏิเสธ ทำให้ทุกคนต่างก็อยากรู้จนแทบจะทนไม่ไหว ถ้าเธอเอาข่าวนี้ไปบอกพวกนิตยสารซุบซิบจะได้สักเท่าไรกันนะ? ูเี่อันคิดพลางเดินกลับไปยังห้องรับรอง พอเปิดประตูปุ๊บก็เจอหน้าลู่เป๋าเหยียน
จะไม่ยอมรับก็คงไม่ได้ ว่าผู้ชายคนนี้เหมือนพระเ้าประทานทุกอย่างมาให้ ดวงตาเรียวยาวคมลึก จมูกโด่งเป็สัน ริมฝีปากสุดเซ็กซี่ราวสลัก ใบหน้าของเขาเปรียบเหมือนผลงานศิลปะชั้นเลิศ ที่ศิลปินทุ่มแรงกายแรงใจบรรจงสร้างออกมา สมบูรณ์แบบเสียจนไร้ที่ติ
เครื่องหน้าของเขาโดดเด่นกว่าผู้ชายชาวตะวันออกทั่วไป ประกอบกับสีหน้าอันเ็าดุดัน ผสมผสานกับบรรยากาศรอบกายที่ดูสง่างามมีระดับ ทำให้เขาดูเป็คนที่ทั้งน่าหลงใหล เ็าและเข้าถึงยากในเวลาเดียวกัน
มิน่าผู้หญิงที่ทั้งประสบความสำเร็จและแสนเย่อหยิ่งอย่างหานรั่วซี ถึงยอมสยบแทบชายกางเกงของเขา
ถังอวี้หลันเห็นูเี่อันกลับมาแล้ว จึงตีมือลูกชายตนเบาๆ พร้อมพูดว่า “เป๋าเหยียน สิบปีมานี้หนูเจี่ยนอันดูสวยขึ้นเป็กองเลยว่าไหมลูก”
ลู่เป๋าเหยียนมองูเี่อันแบบไม่ใส่ใจนัก แย้มยิ้มเล็กน้อย ดูคลุมเครือ
ูเี่อันลูบปลายจมูกตัวเอง ยิ้มตอบกลับเป็มารยาท แล้วกลับไปนั่งข้างๆพี่ชายของเธอ ‘ซูอี้เฉิง’
เธอกัดตะเกียบพลางคิดถึงภาพที่เธอเห็นเมื่อครู่ แล้วนึกเสียดายว่า เมื่อกี้น่าจะถ่ายรูปไว้ อย่างน้อยสำนักพิมพ์ก็น่าจะให้เธอสักร้อยหยวนเป็ค่าแจ้งข่าว ฮือ...
ซูอี้เฉิงแตะมือูเี่อันเบาๆ “นี่งานเลี้ยงแต่งงานของเธอ รักษาภาพลักษณ์หน่อย”
ถ้าซูอี้เฉิงไม่พูดเธอคงเผลอลืมไปแล้วว่า เธอก็คือคนที่หานรั่วซีพูดถึง ก็แค่แพทย์นิติเวชหญิงคนหนึ่งที่พรุ่งนี้จะต้องจดทะเบียนสมรสกับลู่เป๋าเหยียน และเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า เธอก็แค่ล้างมือเดินออกมาเจอลู่เป๋าเหยียนอยู่กับแฟนสาวในข่าวของเขาเต็มสองตา แถมเขายังบอกกับหานรั่วซีว่า เขาจะหย่ากับเธอ
การแต่งงานของเธอช่างเริ่มต้นได้...ไม่เหมือนใคร
ถังอวี้หลันรู้ว่าลู่เป๋าเหยียนกับูเี่อันไม่ได้เจอหน้ากันมากว่าสิบสี่ปี คงจะรู้สึกเหมือนคนแปลกหน้าไปบ้าง ด้วยความหวังดีอยากให้มีเวลาอยู่กันตามลำพังจึงพูดว่า
“เจี่ยนอัน น้าได้จองห้องเพรสซิเดนสูทไว้ให้แล้ว คืนนี้พวกหนูนอนที่นี่นะจ๊ะ จะได้ปรึกษากันเื่จดทะเบียนวันพรุ่งนี้ด้วยเลย อี้เฉิง คงต้องรบกวนเราไปส่งน้ากลับบ้านหน่อยแล้วล่ะ”
ซูอี้เฉิงเข้าใจในทันที ลุกขึ้นช่วยขยับเก้าอี้ให้ถังอวี้หลันลุกขึ้นอย่างสมกับเป็สุภาพบุรุษ “เป๋าเหยียนไม่ต้องตามมาหรอก ฉันไปส่งแม่นายอย่างปลอดภัยแน่นอน”
ซูอี้เฉิงทั้งหล่อและมีบุคลิกที่ดูหนักแน่นน่าเคารพ เวลาพูดไม่เร็วไปหรือช้าไป ดูสง่างามมีชาติตระกูล สำหรับเธอแล้ว เขาคือผู้ชายที่ดีและน่าไว้ใจที่สุดในโลก ให้เขาส่งคุณน้ากลับบ้านเธอต้องวางใจอยู่แล้ว
แต่...เธอต้องอยู่กับลู่เป๋าเหยียนสองต่อสองแล้วอย่างนั้นเหรอ?
ถังอวี้หลันตีมือูเี่อันเบาๆ “เจี่ยนอัน หนูไม่ต้องตื่นเต้นนะจ๊ะ หนูกับพี่เป๋าเหยียนใช่ว่าไม่เคยรู้จักกันสักหน่อย จริงไหม”
ูเี่อันยิ้มแห้ง เธอเคยเจอกับลู่เป๋าเหยียนตอนสิบขวบ แต่หลังจากนั้นเขาไปต่างประเทศ พวกเธอเลยไม่ได้เจอกันอีกเลยจนถึงตอนนี้ก็สิบสี่ปีแล้ว
นี่คือคนรู้จักที่แปลกหน้าที่สุดในโลกชัดๆ
ถังอวี้หลันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ทั้งสองคนคุยกันดีๆ ล่ะ พรุ่งนี้ก็จะเป็สามีภรรยา ต้องใช้เวลาร่วมกันทั้งชีวิตแล้ว เป๋าเหยียน ดูแลน้องดีๆ นะ”
พูดจบ ถังอวี้หลันกับซูอี้เฉิงก็เดินจากไป ในห้องรับรองเหลือแค่เธอกับลู่เป๋าเหยียน เธอคิดถึงสิ่งที่ลู่เป๋าเหยียนพูดกับหานรั่วซีเมื่อกี้ อีกสองปีเขาจะหย่ากับเธอ เธอกับเขาเนี่ยนะใช้ชีวิตร่วมกันตลอดไป
อืม ท่าจะยาก...
ทั้งสองคนไม่มีใครปริปากพูด ความเงียบประหลาดปกคลุมไปทั่วห้องรับรอง
“ทำไมถึงตอบตกลงแต่งงานกับฉัน” ผ่านไปครู่ใหญ่ เสียงเ็าของลู่เป๋าเหยียนก็ดังขึ้น
“เอ๋?” เธอรู้สึกแปลกใจ “คุณน้าไม่ได้บอกเหรอ ว่าพ่อฉันจะลักพาตัวฉัน แถมยังข่มขู่พี่ชายฉันอีก เพราะฉะนั้นคุณน้าถึงจะให้ฉันแต่งงานกับนาย อย่างน้อยพอฉันเป็คุณนายลู่แล้ว พ่อฉันก็คงไม่ลงมือง่ายๆ”
แบบนี้พี่อี้เฉิงก็จะได้ไปทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำเสียที เหตุผลนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วละมั้ง? ส่วนเหตุผลจริงๆ...ดูท่าคงไม่จำเป็ต้องบอกให้เขารู้ และเธอก็ไม่มีวันให้คนอื่นรู้
“กลับห้องกับฉัน” ลู่เป๋าเหยียนสั่งด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
เธอตะลึงไป พอคิดได้จึงถามออกไปว่า “จะกลับห้องไปทำอะไร?”
ลู่เป๋าเหยียนยกมุมปากเหยียดยิ้ม “กลับห้องไปแล้วเธอคิดว่าจะทำอะไรได้ล่ะ”
เสียงแหบทุ้มต่ำของชายหนุ่ม บวกกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเย้ายวน เหมือนจะสื่ออะไรบางอย่าง
ตึง~ สติของูเี่อันได้หลุดลอยไปแล้ว...