เจิ้งอีเจิ้นถือกระบี่ในมือไว้ ใช้เคล็ดกระบี่ จากนั้นก็ได้มีพลัง์อันเปล่งประกายสายหนึ่งได้ปกคลุมหลงอวี้
“ต้องรีบเปิดฉากโจมตีก่อนถึงจะได้เปรียบ!”
หลงอวี้รู้สึกพรั่นพรึงในใจ ตัวเขาในตอนนี้ยังไม่รู้ว่าวิทยายุทธ์ระดับิญญามีอานุภาพสูงส่งแค่ไหน นี่ต่างหากที่เป็จุดที่ทำให้ยอดฝีมือขอบเขติญญาแท้แตกต่างจากขอบเขตวิถียุทธ์เก้าขั้นมากที่สุด
หลิ่วเย่ก่อนหน้านี้ เกรงว่ามันคงจะถูกหลงอวี้ใช้คลื่นะเิปรภพฆ่าตายไปก่อนที่จะได้ใช้วิทยายุทธ์ระดับิญญา ไม่อย่างนั้นหลงอวี้คงยังไม่สามารถเอาชนะและสังหารหลิ่วเย่ได้!
‘ัปรภพทะยานฟ้า!’
หลงอวี้คิดในใจ พริบตานั้นได้ใช้ท่าัปรภพทะยานฟ้าดีดตัวขึ้นฟ้า พุ่งลงมาหาเจิ้งอีเจิ้นราวกับก้อนหินั์ก่อนหนึ่ง
แรงกดดันอันทรงพลังของมหาพลังสยบฟ้าได้กดทับเจิ้งอีเจิ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ จินตภาพบึงแล้งที่มาจากต้นหญ้าพิสดารได้ถูกปล่อยพร้อมกัน ทำให้อากาศรอบๆ ตัวของเจิ้งอีเจิ้นกลายเป็บึงโคลน
“ทวิจินตภาพ!”
เจิ้งอีเจิ้นรู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวเองขยับช้าลง จึงหน้าถอดสีอย่างอดไม่ได้ เ้าหลงอวี้ถึงกับสามารถบรรลุทวิจินตภาพได้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังถูกกดทับไว้ ติดอยู่กับที่จนไม่สามารถขยับตัวได้เลย!
“แตะเกล็ดั ย้าก!”
หลงอวี้ที่พุ่งลงมาจากบนฟ้าได้กัดนิ้วตัวเองแล้วป้ายเืลงบนหอกัปรภพทันที
พริบตานั้นราวกับมีเสียงัปรภพคำรามมาจากท้องฟ้า หลงอวี้ที่ถือหอกัปรภพไว้พุ่งลงมาโดยแทงไปทางเจิ้งอีเจิ้นดุจัปรภพที่ทะยานลงมาจากเวหา หมายจะกลืนกินเจิ้งอีเจิ้น!
“เคล็ดกระบี่พลัง์!”
เจิ้งอีเจิ้นก็สมกับเป็ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ แม้จะถูกทวิจินตภาพสะกดพลังและการเคลื่อนไหวไว้ก็สามารถใช้วิชากระบี่ได้
วิทยายุทธ์ระดับิญญา เคล็ดกระบี่พลัง์ พริบตานั้นก็ได้มีพลัง์สายหนึ่งปะทุ จากนั้นก็ได้รวมเข้ากับเงาิญญาแท้หมัดั์ที่อยู่ด้านหลังของเขาก่อนจะก่อตัวเป็ประกายแสงกระบี่ขนาดมหึมาสายหนึ่ง พุ่งตัดอากาศไปหาหลงอวี้ที่กำลังโถมลงมาจากบนฟ้าตรงๆ!
“หลบ!”
หลงอวี้ก้าวพริบตาหนึ่งก้าว เงาร่างที่อยู่กลางอากาศได้เคลื่อนตัวฉีกหลบประกายแสงกระบี่ั์สายนั้นในพริบตา จากนั้นหอกก็ได้แทงจนถึงเหนือหัวของเจิ้งอีเจิ้นแล้ว!
เคร้ง!
เจิ้งอีเจิ้นเหวี่ยงกระบี่ออกไป พลัง์แผ่กระจายออกมา ต้านรับหอกที่แทงด้วยพลังแตะเกล็ดัของหลงอวี้ได้!
ตรงจุดที่หอกและกระบี่ปะทะกันนั้นก็ได้ะเิเป็กระแสลมอันน่าสะพรึงกลัวสายหนึ่งทันที มันซัดทั้งหลงอวี้และเจิ้งอีเจิ้นจนกระเด็นถอยไปก่อนจะตกลงบนพื้นอย่างแรง
าเ็ทั้งสองฝ่าย!
“วิทยายุทธ์ระดับิญญา ไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย!”
หลงอวี้อดทนกับเืลมในตัวที่พลุ่งพล่าน ฝืนลุกยืนขึ้นอย่างทรหด เพราะเขารู้ดีว่า หากตอนนี้เขายืนไม่ขึ้น ทั้งชีวิตนี้ก็อย่าคิดว่าจะได้ยืนอีกเลย
อวัยวะภายในที่ถูกหล่อหลอมมาแล้วก็ถูกพลัง์ที่เคล็ดกระบี่พลัง์ก่อตัวขึ้นมาทำร้ายจนาเ็ เขาทำได้แค่ต้องดึงดันฝืนสู้ต่อไป!
ส่วนเ้าเจิ้งอีเจิ้นเองได้รับาเ็หนักเหมือนกัน วิทยายุทธ์เชื่อมปัญญาของหลงอวี้ แม้จะถูกกระตุ้นจากการทำร้ายตัวเอง แต่อย่างน้อยก็มีกำลังมากถึงสองพันแรงม้าพยศเลยทีเดียว
เมื่อถูกหอกที่มีพละกำลังกว่าสองพันแรงม้าพยศแทงใส่ แม้เจิ้งอีเจิ้นจะใช้เคล็ดกระบี่พลัง์ดีดหลงอวี้จนกระเด็นไปได้ แต่ตัวเขาเองก็ได้รับความกระทบเทือนรุนแรงเหมือนกัน
และที่สำคัญที่สุดคือ เขาไม่เคยฝึกวิชาประเภทกายมาก่อน ระดับความแข็งแกร่งทนทานของร่างกายเทียบกับหลงอวี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ!
ในการปะทะครั้งนี้ เจิ้งอีเจิ้นจึงกลายเป็ฝ่ายที่ได้รับาเ็มากกว่าหลงอวี้เล็กน้อย!
หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกันจนกระเด็น ผู้คนรอบข้างๆ ก็นิ่งงันไปทันที
หลงอวี้ที่วิถียุทธ์ขั้นเก้า กลับสามารถต่อสู้กับเจิ้งอีเจิ้นได้อย่างทัดเทียมอย่างนั้นหรือ?
น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
อีกทั้งเมื่อครู่นี้อวี้สุ่ยอวิ๋นยังบอกด้วยว่าเจิ้งอีเจิ้นได้ใช้วิทยายุทธ์ระดับิญญา เคล็ดกระบี่พลัง์ออกมาด้วย
แต่เ้าหลงอวี้นี่กลับสามารถลุกขึ้นได้หลังจากที่ปะทะเข้ากับเคล็ดกระบี่พลัง์ไปตรงๆ นี่มันเป็ปีศาจชัดๆ เลย!
แม้แต่หลู่กวนิผู้หน้าตาบึ้งตึงก็ยังรู้สึกตื่นตะลึงอย่างอดไม่ได้
เ้าหลงอวี้นี่ ร้ายกาจมาก!
“ผู้าุโเจิ้งอีเจิ้น!”
ถานอู๋โจวที่ถูกิญญาแท้ฝ่ามือั์ของอวี้สุ่ยอวิ๋นกดดันอยู่นั้น พอเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ร้อนรนทันที
เขาสบถด่าในใจว่า เ้าเจิ้งอีเจิ้นนี่มันจะพึ่งพาไม่ได้เกินไปแล้ว แค่ผู้ฝึกยุทธ์วิถียุทธ์ขั้นเก้าคนเดียวยังจัดการไม่ได้อีก?
มีเพียงอวี้สุ่ยอวิ๋นเท่านั้นที่ตอนนี้ยังมีสีหน้าเฉยเมย เพราะเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าลำพังแค่เจิ้งอีเจิ้นคนเดียวไม่มีทางเป็คู่ต่อสู้ของหลงอวี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น หลงอวี้เหมือนจะยังไม่ได้ใช้วิทยายุทธ์ที่ทรงพลังที่สุดออกมาด้วย!
ตอนที่เจิ้งอีเจิ้นกับหลงอวี้ต่างถูกซัดกระเด็นทั้งคู่ หลงอวี้ลุกขึ้นยืนได้ก่อนอย่างรวดเร็ว แต่เจิ้งอีเจิ้นกลับยังช้ากว่าหลงอวี้อยู่เล็กน้อย
“ข้าต้องเชือดเฉือนเ้าเป็พันๆ หมื่นๆ ชิ้น ถึงจะระบายความโกรธแค้นในใจข้าได้!”
เจิ้งอีเจิ้นแผดเสียงตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว ยันกระบี่ไว้คิดจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
แต่ว่า ในตอนที่เขากำลังพ่นคำพูดไร้สาระอยู่นั้น หลงอวี้กลับเตรียมที่จะใช้วิชาหมัดัปรภพ หมัดสู่ปรภพ ออกมาแล้ว!
หลังจากล้มลง ความเร็วในการกลับขึ้นมายืนอีกครั้ง บางครั้งก็เป็ตัวกำหนดความเป็ความตายได้เลย!
“หมัดสู่ปรภพ หนึ่งหมัดจำลองเส้นทางปรภพ!”
หลงอวี้ชกออกไปหนึ่งหมัด เส้นทางแห่งปรภพสายหนึ่งที่ก่อตัวขึ้นมาจากปราณปรภพนั้นก็ได้ครอบคลุมไปทั่วบริเวณในพริบตา ปกคลุมเจิ้งอีเจิ้นที่ยังไม่ได้ลุกขึ้นเอาไว้ทันที
เจิ้งอีเจิ้นพลันถูกข่มขวัญจนหมดสติไปทันที แม้แต่ิญญาแท้หมัดั์ที่อยู่ด้านหลังของอีกฝ่ายก็ยังมีท่าทางราวกับกำลังจะพังทลายลงแล้วก็ไม่ปาน
“หมัดัปรภพ บรรลุขั้นสูงสุด”
หลงอวี้ตาเป็ประกายเย็นะเืขึ้นมาก่อนจะชกหมัดลงพื้นไป “คลื่นะเิปรภพ!”
หมัดสู่ปรภพที่บรรลุขั้นสูงสุดแล้ว พอถูกชกออกไปก็ได้ชักน้ำปรภพให้รวบรวมปราณปรภพขึ้นมา จากนั้นก็ได้พวยพุ่งขึ้นจากพื้นราวกับูเาไฟปะทุขึ้นมาจากปรภพภูมิก็ไม่ปาน
พริบตาต่อมานั่นเอง เจิ้งอีเจิ้นที่ยังไม่ทันได้ยืนขึ้นมาด้วยซ้ำก็พลันถูกปราณปรภพที่ปะทุขึ้นมาจากใต้เท้ากลืนหายไปทันที!
“อ้าก!!!”
เสียงะโดังจากปากของเจิ้งอีเจิ้นอีเจิ้นกึกก้องไปทั่วบริเวณ ทำให้ผู้คนทั้งหมดต่างรู้สึกขนลุกซู่ทันทีอย่างอดไม่ได้!
นอกจากอวี้สุ่ยอวิ๋น ผู้คนทั้งหมดต่างก็ตะลึงงัน ไม่อาจละสายตาไปจากเสาพลังที่อัดแน่นด้วยปราณแห่งปรภพ ราวกับว่ากำลังเผชิญกับโลกแห่งปรภพภูมิ ทำให้พวกเขาต่างก็ขวัญเสียหวาดกลัวจนตัวแข็งอยู่กับที่
ดูเหมือนกับเป็เสาเพลิงลาวาสีดำทะมึนที่พุ่งมาจากใต้พื้น กลืนกินเจิ้งอีเจิ้นเข้าไปอย่างรวดเร็ว ส่วนเจิ้งอีเจิ้นก็เพียงส่งเสียงร้องโหยหวน
เพียงอึดใจเดียวเท่านั้น เสียงร้องของเจิ้งอีเจิ้นก็เงียบไป ในตอนนั้นเอง เสาเพลิงปรภพก็เริ่มกระจายไปรอบๆ ก่อนจะสลายหายไปในท้ายที่สุด
สิ่งที่ปรากฏในสายตาผู้คนคือซากศพที่ถูกปราณปรภพดูดกลืนจนเหี่ยวแห้งร่างหนึ่ง
เจิ้งอีเจิ้นที่เป็ถึงยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นที่หนึ่งและเป็ถึงผู้าุโระดับผู้คุมกฎ กลับถูกหลงอวี้ที่ระดับพลังเพียงวิถียุทธ์ขั้นเก้าฆ่าตาย!
เ้าหลงอวี้มันฝึกฝนวิทยายุทธ์ ทำไมถึงได้น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้?
ผู้คนทั้งหมดต่างรู้สึกขนลุก สายตาที่มองไปทางหลงอวี้ราวกับกำลังมองปีศาจอยู่ก็ไม่ปาน!
“ย้าก!”
แต่ในตอนนั้นเอง ถานอู๋โจวที่อยู่ใกล้ๆ ก็พลันะเิพลังออกมากะทันหัน!
พอเห็นเจิ้งอีเจิ้นถูกฆ่าตายแล้ว ถานอู๋โจวก็รู้ตัวทันทีว่า หากเขา้าจะฆ่าหลงอวี้ ก็ได้แต่ต้องพึ่งตัวเองเท่านั้นแล้ว
ตัวเขาที่ถูกิญญาแท้ฝ่ามือั์ของอวี้สุ่ยอวิ๋นกดดันอยู่นั้นไม่อาจเข้าไปจัดการหลงอวี้ได้เลย
เมื่อเป็เช่นนี้แล้วเขาก็มีแต่ต้องจัดการอวี้สุ่ยอวิ๋นก่อนแล้ว!
แต่เดิมนั้นถานอู๋โจวไม่กล้าลงมือกับอวี้สุ่ยอวิ๋น แต่ตอนนี้เขาคิดจะทุ่มหมดหน้าตักเพื่อฆ่าหลงอวี้
ในเมื่ออวี้สุ่ยอวิ๋นจะขัดขวางไม่ให้เขาฆ่าหลงอวี้ อย่างนั้นเขาก็จะฆ่าอวี้สุ่ยอวิ๋นก่อนแล้วกัน!
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ในวันนี้ ต้องตายทั้งหมด!
ถานอู๋โจวตาแดงก่ำ เป็ประกายอำมหิตกระหายเื ใช้ิญญาแท้เต่าศิลาต่อกรกับิญญาแท้ฝ่ามือั์ของอวี้สุ่ยอวิ๋น ส่วนตัวเขานั้นก็ได้รวบรวมลมปราณในตัวขึ้นมา ชกหมัดใส่อวี้สุ่ยอวิ๋น!
อวี้สุ่ยอวิ๋นในตอนนี้กำลังติดพิษ จึงไม่สามารถต่อต้านได้เลย
ิญญาแท้ฝ่ามือั์ของเขานั้น พอเข้าต่อสู้พัวพันอยู่กับิญญาแท้เต่าศิลาของถานอู๋โจวแล้ว เขาก็ไม่สามารถขัดขวางไม่ให้ถานอู๋โจวในชุดสีม่วงเคลื่อนตัวเข้าประชิดได้เลยอย่างสิ้นเชิง
“ผู้าุโอวี้!”
หลงอวี้เห็นเช่นนั้นก็ตื่นใทันที เขาคิดจะวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ แต่เพราะอวัยวะภายในถูกกระทบกระเทือน ทำให้เขากระอักเือย่างอดไม่ได้
หอกัปรภพถูกย้อมด้วยเืสดๆ แต่หลงอวี้ในตอนนี้เพิ่งจะใช้หมัดัปรภพ ไม่สามารถใช้วิชาแตะเกล็ดัได้ทันเวลา!
อวี้สุ่ยอวิ๋นกำลังจะถูกถานอู๋โจวฆ่าตายในอีกเพียงอึดใจเดียวเท่านั้นแล้ว!
“อย่าหวังว่าจะทำร้ายอาจารย์ข้าได้!”
แต่ในตอนนั้นเอง เสียงะโด้วยความพิโรธเสียงหนึ่งก็ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
เงาร่างอันล่ำสันกำยำในชุดสีดำดีดตัวพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็วราวกับลูกเกาทัณฑ์ เพียงครู่เดียวเขาก็ได้ไปอยู่ด้านหน้าของอวี้สุ่ยอวิ๋นแล้ว
เงาร่างสายนี้ มีสีหน้าบึ้งตึง ใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความเดือดดาล เขาก็คือลูกศิษย์ของอวี้สุ่ยอวิ๋น หลู่กวนิ นั่นเอง
แม้ว่าเขาจะมีวิถียุทธ์เพียงขั้นแปด แต่กลับกล้าออกไปยืนขวางหน้าอวี้สุ่ยอวิ๋นโดยไม่ลังเล คิดจะต่อสู้แลกชีวิตกับถานอู๋โจว!
อันดับของหลู่กวนิในบรรดาลูกศิษย์ระดับพิเศษทั้งหลายก็แค่อันดับที่สามสิบห้าเท่านั้น ย่อมไม่สามารถต่อกรกับถานอู๋โจวที่ระดับิญญาแท้ได้เหมือนกับหลงอวี้อยู่แล้ว
แม้ิญญาแท้ของถานอู๋โจวกำลังพัวพันอยู่กับิญญาแท้ของอวี้สุ่ยอวิ๋น แต่หลู่กวนิก็ไม่มีทางเอาชนะถานอู๋โจวได้อย่างแน่นอน!
“วอนตายแล้ว!”
ในดวงตาของถานอู๋โจวพลันปรากฏแววตาอำมหิต หนึ่งหมัดชกออกไปพร้อมกับเสียง์ครวญ
วิทยายุทธ์ขั้นพิเศษ ์ครวญอีกแล้ว!
แน่นอนว่าถานอู๋โจวใช้์ครวญเพื่อต่อกรกับหลู่กวนิเท่านั้น แต่หลังจากฆ่าหลู่กวนิตาย เขาต้องใช้วิทยายุทธ์ระดับิญญาถึงจะสามารถฆ่าอวี้สุ่ยอวิ๋นได้
หลู่กวนิที่เผชิญหน้ากับหมัด์ครวญของถานอู๋โจว ไร้ซึ่งความหวาดกลัว พลันแผดเสียงตะคอกด้วยสีหน้าเดือดดาล
“หากเ้าคิดจะจัดการหลงอวี้ ข้าไม่ยุ่ง! แต่หากเ้าคิดจะลงมือกับอาจารย์ข้า เท่ากับเ้าทรยศลัทธิ ต่อให้เ้าฆ่าข้า เ้าเองก็หนีไม่รอดเช่นกัน!”
คำพูดนี้ยิ่งไปกระตุ้นความอำมหิตของถานอู๋โจวให้เพิ่มขึ้น ในดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความกระหายเื
“อย่างนั้นเ้าก็ไปตายเสียเถิด!”
หนึ่งหมัด์ครวญ แฝงด้วยแก่นสยบฟ้า พริบตานั้นก็ได้ครอบคลุมหลู่กวนิไว้ภายใน!
“ศิลาผู้พิทักษ์ ออกมา!”
หลู่กวนิยกมือขึ้น พริบตานั้นก็ได้มีก้อนหินกองหนึ่งก่อตัวขึ้น เพียงแต่ก้อนหินเหล่านี้ไม่ได้รวมตัวกันเป็กำแพงศิลา แต่มันได้มาปกคลุมตัวเขาไว้ทั้งตัวราวกับเป็ชุดเกราะชุดหนึ่ง
“นี่มัน ศิลาผู้พิทักษ์ ขั้นผันแปร!”
ผู้คนทั้งหมดต่างก็ตื่นตะลึงสุดขีด!
วิชาศิลาผู้พิทักษ์นั้น เป็วิชาป้องกันขั้นสูงที่เป็ที่นิยมมากที่สุดในลัทธิสยบฟ้า มีผู้ฝึกฝนอย่างน้อยๆ นับร้อยคน
แต่กลับไม่มีผู้ที่ฝึกสำเร็จจนบรรลุถึงขั้นผันแปรได้มานานแล้ว เ้าหลู่กวนินี่ ทำได้เป็คนแรกในรอบหลายปีที่ผ่าน!
เส้นทางแห่งการฝึกฝนวิทยายุทธ์นั้น เริ่มจากขั้นต้น กลาง สูง สูงสุด ไปจนถึงขั้นสมบูรณ์ หลังจากนั้น ก็ยังมีขั้นเหนือธรรมชาติ
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่จุดสูงสุดของการฝึกวิทยายุทธ์!
วิทยายุทธ์ที่แท้จริงนั้น จุดสูงสุดของการฝึกฝนคือการบรรลุถึงขั้นผันแปร สามารถใช้ออกได้ดั่งใจ ไม่ว่าจะเป็วิชาอะไรก็ตาม ทันทีที่บรรลุขั้นผันแปรแล้ว มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นจนกลายเป็วิทยายุทธ์อีกแบบได้อย่างสมบูรณ์
ว่าง่ายๆ ก็คือ จะสามารถควบคุมพลังและจินตภาพของวิทยายุทธ์นั้นได้อย่างอิสระ!
หลู่กวนิในตอนนี้ก็เป็เช่นนั้น สามารถควบคุมก้อนหินนับไม่ถ้วนได้ดั่งใจ ใช้ก้อนหินมาสร้างเป็อาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับตัวเอง และเป็ฝ่ายบุกเข้าไปปะทะกับถานอู๋โจวที่กำลังพุ่งเข้ามาด้วยตัวเอง!
“ตาย!”
ดวงตาของถานอู๋โจวมีเส้นเืปรากฏด้วยความเดือดดาล หนึ่งหมัดชกออกไปปะทะเข้ากับร่างกายของหลู่กวนิที่เป็ดั่งก้อนหินั์ไปแล้ว พลัง์ครวญพลันปะทุออกมาทันที!
