“เพี๊ยะ!”
“นังแพศยา! ทำอย่างกับไม่เคยปรนนิบัติฉันมาก่อน จะแสร้งทำตัวเป็สาวบริสุทธิ์ไปทำไมฮะ!”
ซย่านีที่เพิ่งได้สติเพราะถูกตบหน้าเข้าอย่างจัง ทำให้เธอรู้สึกมึนหัวขึ้นมาทันที นี่มันเื่อะไรกัน? อยู่ในโรงพยาบาลแท้ๆ ทำไมยังมีคนกล้าใช้ความรุนแรงกับผู้ป่วยระยะสุดท้ายอีก?
ทันใดนั้นเธอก็พบว่า มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังคร่อมอยู่บนร่างของเธอ ผู้ชายคนนั้นยังใช้ปากสกปรกของเขาพรมจูบไปทั่วใบหน้า และลำคอในขณะเดียวกันก็พยายามสอดมือเข้าไปข้างในเสื้อของเธอ!
ความรู้สึกสะอิดสะเอียนนี้พลันทำให้ซย่านีนึกย้อนกลับไปในฤดูหนาวเมื่อสี่สิบปีที่แล้ว มันเป็วันที่ชื่อเสียงของเธอถูกข่มเหงจนไม่เหลือชิ้นดี!
นับั้แ่วันนั้น วันที่เธอได้กลายเป็ภรรยาของนักศึกษาคนที่ใครๆ ต่างพากันอิจฉา อยู่ดีๆ ก็ต้องมีสภาพไม่ต่างจากรองเท้าขาดวิ่นที่ผู้คนประณามและหัวเราะเยาะ ครอบครัวสามีรู้สึกว่าเธอเป็คนที่ทำให้ครอบครัวของพวกเขาถูกหยามเกียรติ จึงบังคับให้เธอหย่าขาด ส่วนครอบครัวมารดาก็คิดว่าตัวเธอเป็ความอัปยศ จึงบีบบังคับให้เธอไปตาย แม้แต่ลูกของเธอเอง ยังถ่มน้ำลายใส่โดยไม่เห็นว่าเธอเป็แม่ด้วยซ้ำ!
หากเป็เพราะชะตากรรมที่โชคร้ายของเธอจริงๆ เธอก็คงยอมรับมันแต่โดยดี แต่นั่นเป็เพราะเธอถูกคนชั่ววางแผนเล่นงานต่างหาก ถึงตายซย่านีก็ไม่อาจกล้ำกลืนโทสะนี้ลงไปได้!
“นังแพศยา ตอนแรกถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอจะได้กลับมาเหยียบเมืองหลวงเร็วขนาดนี้ไหม?! ตอนนี้ไม่เห็นค่าฉันแล้วสินะ? คิดจะถีบหัวส่งฉันไปหาคนอื่น? ฉันบอกเธอไว้เลยนะ ไม่มีทาง!” ผู้ชายบนร่างขยับตัวไป พร้อมกับด่าทอหญิงสาวใต้ร่าง
“จางหวาเฟิง! มารดานายสิ ดูให้มันชัดๆ หน่อย ฉันไม่ใช่หลี่เสวี่ยหรู!” ซย่านีดึงมือสกปรกที่ปิดปากตนออก แล้วะโสุดเสียง “ฉันไม่ใช่หลี่เสวี่ยหรู!”
จางหวาเฟิงตกตะลึงไปชั่วขณะ ซย่านีอาศัยโอกาสนี้ผลักชายคนนั้นออกจากร่าง ก่อนจะรีบปัดผมที่ชุ่มเหงื่อและน้ำตาที่ปรกหน้าออก พร้อมกับถูเครื่องสำอางบนหน้าออกแรงๆ “ใช้ตาถั่วๆ ของนายดูให้ชัดสิ ฉันใช่หลี่เสวี่ยหรูหรือไง!”
เมฆบนท้องฟ้าถูกสายลมพัดสลายไป แสงจันทร์ที่ส่องผ่านเมฆสะท้อนลงบนใบหน้าของซย่านี
“มารดามันเถอะ ผีหลอก!” จางหวาเฟิงสะดุ้งโหยง รีบลุกหนีออกห่างจากซย่านีทันที
ซย่านีกลอกตา เธอรู้ว่าตัวเองหน้าตาไม่ดี เธอเป็เกษตรกรอยู่ในไร่ตลอดทั้งปี แถมยังกินอยู่อย่างอดๆ อยากๆ จนมีสภาพทั้งดำทั้งผอมกะหร่อง ใบหน้าซูบตอบ โหนกแก้มยื่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนคนอดอยากมาแล้วแปดร้อยปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งริมฝีปากสีแดงนั่น ทำให้ดูน่าเกลียดเข้าไปใหญ่ พออยู่ท่ามกลางความมืดก็สามารถทำให้คนใได้จริงๆ
“ถ้าฉันเป็ผีจริงๆ ล่ะก็ ป่านนี้คงควักลูกตานายออกมาแล้ว ถึงยังไงเก็บเอาไว้ก็คงไม่มีประโยชน์!” ซย่านียิ้มเยาะ
จางหวาเฟิงทำผิด แต่กลับปากแข็งไม่ยอมรับ แล้วโยนความผิดมาให้เธอแทน “เื่นี้จะโทษฉันเพียงคนเดียวก็ไม่ได้กระมัง! เธอเล่นใส่เสื้อผ้าของหลี่เสวี่ยหรูเอง แถมยังถักผมเปียเหมือนเสวี่ยหรูอีก กลางค่ำกลางคืนใครมันจะไปมองเห็นชัดกัน! เธอหน้าตาอย่างกับผี ฉันว่าคงไม่เคยมีใครแตะต้องเธอมาก่อนสิท่า! ไม่งั้นเธอจะใส่เสื้อผ้าของเสวี่ยหรูทำไมฮึ?”
ซย่านีเม้มปากแน่น “ใช่น่ะสิ ฉันก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมฉันถึงต้องใส่เสื้อผ้าของเธออยู่!”
ซย่านีจำเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้อย่างชัดเจน วันหนึ่งใน่วสันตวิษุวัต [1] ในปี 1980 หลี่เสวี่ยหรูหยิบตั๋วหนังออกมาสองใบ แล้วชวนเธอไปดูหนังด้วยกันในตอนกลางคืน ไม่เพียงเท่านั้นหลี่เสวี่ยหรูยังเอาเสื้อผ้ากับเครื่องสำอางของตัวเองมาด้วย แถมยืนกรานจะแต่งตัวให้เธออีก! “พี่ซย่านี พี่น่ะดูเชยมากเลย ฉันออกไปกับพี่สภาพนี้ไม่ได้หรอกนะ เห็นแบบนี้ฉันก็อายคนเป็เหมือนกัน”
ประโยคนี้ทิ่มแทงใจซย่านีเข้าจังๆ บรรพบุรุษของเธอกว่าแปดชั่วคนล้วนแต่เป็เกษตรกรกันทั้งหมด พวกเขาจึงไม่รู้หนังสือ ถึงเธอจะตามสามีนักศึกษาหนุ่มเข้าเมืองมา แต่ก็ไม่สามารถล้างกลิ่นดินกลิ่นทรายบนตัวออกได้ แม่สามีและน้องสามีมักกลอกตามองหน้าเธอ ส่วนเพื่อนบ้านรอบๆ ก็พากันหัวเราะที่เธอเป็คนบ้านนอก
ซย่านีรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดของหลี่เสวี่ยหรู จึงเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าของหล่อนทันที พร้อมกับให้อีกฝ่ายแต่งหน้าทำผมให้เหมือนหลี่เสวี่ยหรูด้วย
ซย่านีไม่คิดเลยว่าหลี่เสวี่ยหรูจะมีเจตนาร้ายแอบแฝง!
ตอนแรกหลี่เสวี่ยหรูจงใจยั่วยวนจางหวาเฟิงลูกชายของหัวหน้าแก๊งเพื่อกลับเข้าเมืองหลวง คิดไม่ถึงว่าอันธพาลอย่างจางหวาเฟิงจะตามหาหลี่เสวี่ยหรูถึงที่ พอเธอรู้แผนการแก้แค้นของจางหวาเฟิงเข้า ก็เลยวางแผนซ้อนแผน หลังจากที่ภาพยนตร์รอบดึกจบลง หลี่เสวี่ยหรูบอกให้ซย่านีกลับไปก่อน จากนั้นซย่านีก็บังเอิญเจอกับจางหวาเฟิงที่ดักซุ่มอยู่ข้างทาง หลังจากเกิดเื่ขึ้น หลี่เสวี่ยหรูก็แสร้งทำตัวเป็คนดีมีคุณธรรมโดยการโทรไปแจ้งตำรวจ ทำให้เื่ราวเลวร้ายไปกันใหญ่ ไม่เพียงแต่จะทำให้จางหวาเฟิงโดนโทษตัดสินปะาชีวิต แต่ยังทำลายชื่อเสียงของซย่านีได้อีกทางด้วย!
คิดไม่ถึงว่า์จะเมตตาส่งให้เธอมาเกิดใหม่อีกครั้ง แถมย้อนกลับมาในวันนี้!
ซย่านีรวบเสื้อผ้าของตัวเองแล้วลุกขึ้นยืน สายตาจ้องมองจางหวาเฟิงประหนึ่งกำลังมองคนตาย “หลี่เสวี่ยหรูอยู่ข้างหลัง นายรอแป๊บเดียว เดี๋ยวเธอก็มาแล้ว”
ซย่านีหันหลังแล้วเดินจากไป จู่ๆ จางหวาเฟิงก็ถามขึ้น “เดี๋ยวก่อน เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันชื่อจางหวาเฟิง?”
ซย่านีแสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อย กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “แน่นอนว่าต้องเป็เพราะเสวี่ยหรูบอกฉันน่ะสิ เธอบอกว่ามีอันธพาลจากบ้านนอกคอยตามรังควานเธออยู่ แถมเ้าอันธพาลคนนั้นทั้งแก่ทั้งอุบาทว์ เสวี่ยหรูน่ะรังเกียจเขาแทบตาย คนคนนั้นที่ว่าคงเป็นายสินะ?!”
ทันใดนั้น จางหวาเฟิงก็มีสีหน้าอึมครึมลงอย่างเห็นได้ชัด
ซย่านียังคงราดน้ำมันใส่กองไฟต่อไป “โอ้ ใช่แล้ว ฉันได้ยินมาว่า มีคนแนะนำหนุ่มให้เสวี่ยหรูด้วยนะ เห็นว่าเป็พนักงานประจำของโรงงานเครื่องจักร แถมยังบอกว่าผู้ชายคนนั้นหน้าตาดีอีก” ซย่านีกวาดตามองจางหวาเฟิงั้แ่หัวจรดเท้า หล่อนแสดงท่าทางดูถูกเล็กน้อยพร้อมกับส่งเสียงจึ๊ปาก “พอเทียบกับนายแล้ว เขาเหมาะกับเสวี่ยหรูมากกว่าจริงๆ”
จางหวาเฟิงกำหมัดแน่น เส้นเืบนหน้าผากเริ่มเห็นชัดขึ้น
ซย่านีเห็นว่าเติมไฟได้ที่แล้วก็หันหลังเดินจากไป แต่เธอก็ไม่ได้ไปไหนไกลมากนัก ทว่ากลับหาที่ซ่อนตัวอยู่มุมๆ หนึ่ง เธอไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นใด เพียงแค่อยากจะดูน้ำหน้าของหลี่เสวี่ยหรูในตอนที่ยัยนั่นต้องอับอายด้วยตาของตนเองก็เท่านั้น!
ความเกลียดชังลุกโชนอยู่ในดวงตาของเธอราวกับไฟนรก
เมื่อคาดเดาว่าเื่น่าจะเกิดขึ้นได้ประมาณหนึ่งแล้ว หลี่เสวี่ยหรูจึงเดินมายังสถานที่เกิดเหตุด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย ขั้นต่อไปเธอก็แค่ต้องโทรแจ้งตำรวจเท่านั้น อีกแค่แป๊บเดียวเธอก็จะกำจัดจางหวาเฟิงได้แล้ว ส่วนซย่านีนั้น เธอไม่ได้มีความแค้นส่วนตัวอะไรด้วยหรอก แต่ใครใช้ให้ผู้หญิงคนนั้นเป็ภรรยาของซ่งหานเจียงกันล่ะ เพราะงั้นอย่าโทษว่าเธอใจร้ายก็แล้วกัน
หลี่เสวี่ยหรูมัวแต่คิดถึงแผนการของตัวเองอยู่ในใจ จึงไม่ทันสังเกตเห็นมือที่ยื่นออกมาจากเงามืด...
จางหวาเฟิงที่กำลังดักซุ่มอยู่ที่โพรงหญ้าข้างถนนพลันะโออกมา เขาเอามือปิดปากหลี่เสวี่ยหรูจากทางด้านหลัง หลี่เสวี่ยหรูไม่ทันได้ดิ้นรนก็ถูกจางหวาเฟิงลากตัวเข้าไปด้านในโพรงหญ้าแล้ว
จางหวาเฟิงใช้ผ้าอุดปากหลี่เสวี่ยหรูไว้ เพื่อไม่ให้เธอส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จากนั้นก็ใช้ผ้าพันคอของหลี่เสวี่ยหรูมามัดข้อมือของเธอ แล้วฉีกเสื้อผ้าของเธอออก...
ซย่านีแอบดูภาพเหตุการณ์นี้อยู่ไกลๆ เสียงร้องดิ้นรนดังอู้อี้ของหลี่เสวี่ยหรูแว่วเข้าหูของเธอราวกับเสียงระบำอันงดงาม เสียงนั้นมันค่อยๆ เยียวยาาแในใจของเธอที่มีมานานนับสี่สิบปี
หลี่เสวี่ยหรูเอ๋ยหลี่เสวี่ยหรู ตอนนี้เธอคงกลัวมากสินะ อย่ากลัวไปเลย เพราะเื่ที่เลวร้ายกว่านี้ยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ
ซย่านีจากไปโดยไม่รอให้พวกเขาเสร็จกิจ เธอต้องรีบทำเื่นี้ให้กลายเป็เื่ใหญ่ขึ้นมาก่อน สิ่งที่หลี่เสวี่ยหรูเคยทำกับเธอก่อนหน้านี้ เธอจะค่อยๆ คืนให้นางทีละนิดๆ เอง!
เชิงอรรถ
[1] วันวสันตวิษุวัต 春分 คือ วันที่เวลากลางวันยาวเท่ากับกลางคืน ตรงกับวันที่ 20 หรือ 21 มีนาคมของทุกปี ประเทศทางซีกโลกเหนือนับเป็วันเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ส่วนซีกโลกใต้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้