ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนเปล่งเสียง จวินจิ่วเฉินก็หยุดชะงัก
ภายใต้แสงจันทร์มืดสลัว เขามองย้อนกลับไปด้วยความโดดเดี่ยวเ็า หล่อเหลา ลึกลับ และความสงบ ซึ่งความงดงามนี้ดูไม่เหมือนความเป็จริงเท่าใด เพราะงดงามประดุจเทพเ้าที่ก้าวออกมาจากภาพวาด
สายตาของกูเฟยเยี่ยนมีความเคารพยำเกรงและหลงใหลในรูปลักษณ์ของเขาอยู่เช่นเคย
หลังจากการจากลาที่ไม่น่าพอใจในศาลากุยอวิ๋น นี่ก็นับได้ว่าเป็ครั้งแรกที่นางได้พบกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย อันที่จริงแล้วนางไม่มีความคาดหวังมากนักเพราะไม่ทราบว่าความโกรธในใจของเขาหายไปแล้วหรือยัง ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่ทราบว่าเขายังเชื่อมั่นในตัวนางมากน้อยเพียงใด
สถานการณ์คับขัน หญิงสาวไม่มีทางเลือก
นางไล่ตามไปแล้วโน้มกายแสดงความเคารพ จากนั้นจึงอธิบายเื่นี้ด้วยความกระชับและครอบคลุม ท้ายที่สุดก็นำจดหมายแนะนำที่หัวหน้าาุโให้มามอบแก่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย
อันที่จริงแล้วจวินจิ่วเฉินเดาได้ว่าหัวหน้าาุโที่รักในความสามารถของกูเฟยเยี่ยนจะต้องให้ความช่วยเหลืออย่างแน่นอน
เขาไม่้าให้เฉิงอี้เฟยเกิดเื่มากกว่าผู้ใด เป็เพราะเมื่อเฉิงอี้เฟยพิการ กองกำลังทหารตระกูลเฉิงจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ทันทีที่กองกำลังตระกูลเฉิงเกิดการเปลี่ยนแปลง ตระกูลฉีที่ปัจจุบันนี้มีความทะเยอทะยานจะต้องทำการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน กองกำลังทหารทั้งสองนี้เป็ตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อเทียนเหยียนทั้งหมด ก่อนหน้านี้ที่สกัดกั้นการยุแยงตะแคงรั่วของไป๋หลี่ิชวนเอาไว้ได้ไม่ใช่เื่ง่ายเลย ในตอนนี้หากสกัดกั้นการต่อสู้ภายในไม่ได้มันจะเป็เื่ตลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างแน่นอน
จวินจิ่วเฉินรับรู้ทุกอย่าง โดยมีสิ่งเดียวที่เขาคิดไม่ถึงก็คือหัวหน้าาุโจะยอมถอยในเื่ของการรับนางเป็ศิษย์
หลังจากที่เขาได้อ่านจดหมายกับจดหมายแนะนำแล้วก็ค่อนข้างจะแน่ใจว่าหัวหน้าาุโจะต้องขอนางกับฟู่หวงแล้ว อีกทั้งยังถูกฟู่หวงปฏิเสธอีกด้วย กูเฟยเยี่ยนพบเจอความลับของฟู่หวงไป ดังนั้นนางจะปลีกตัวออกมาโดยง่ายได้อย่างไรกัน!
ั์ตาของจวินจิ่วเฉินมีความซับซ้อนเพราะเขากำลังครุ่นคิด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
กูเฟยเยี่ยนร้อนใจจึงรีบร้อนกล่าว “เตี้ยนเซี่ย นู๋ปี้ขอพูดประโยคที่ไม่น่าฟังออกมา ขาของท่านแม่ทัพเฉิงก็คือแขนของฝ่าา! หากเขาพิการ ผลลัพธ์จะอันตรายจนยากจะนึกถึง นู๋ปี้กล้าเสี่ยงจึงอยากจะเชิญเตี้ยนเซี่ยให้รีบไปที่เยนอวิ๋นเจี้ยนพร้อมกับนู๋ปี้เพื่อตามหาแพทย์ให้ท่านแม่ทัพเฉิง! ”
จวินจิ่วเฉินจึงได้สติกลับมาแล้วตอบน้ำเสียงเ็า “เื่นี้เป็เื่ใหญ่ เ้ารายงานเปิ่นหวางทำไม? เ้าควรเข้าไปในพระราชวังแล้วทูลรายงานฝ่าา ใครจะเป็ผู้คุ้มกันเ้าไปต้องให้ฝ่าาเป็ผู้ตัดสินใจ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้กูเฟยเยี่ยนจึงตระหนักได้ว่าเื่นี้ไม่สามารถปิดบังเทียนอู่ฮ่องเต้ได้อย่างแน่นอน วันนั้นที่จวนตระกูลเฉิงมีเหมยกงกงกับองค์ชายแปดอยู่ด้วย!
นางอดหงุดหงิดไม่ได้ที่ในวันนั้นตนเองไม่สงบสติอารมณ์จนไม่รู้ตัวว่าต้องระมัดระวังเหมยกงกงกับองค์ชายแปด
ฝ่าาทรงปกปิดพระอาการประชวร ตอนนี้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจึงไม่ได้ตามหาแพทย์รักษาที่ซ่อนเร้นต่อไป ทว่าเทียนอู่ฮ่องเต้นั้นยังคงแอบตามหามาโดยตลอด หากพระองค์ทราบว่ามีโอกาสนี้ พระองค์จะไม่แย่งชิงกับเฉิงอี้เฟยได้อย่างไร? เฉิงอี้เฟยจะแย่งเอาชนะมาได้อย่างไร?
จดหมายแนะนำหนึ่งฉบับขอร้องแพทย์รักษาได้เพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น!
ทำอย่างไรดี?
กูเฟยเยี่ยนเห็นแก่ตัวเพราะนางต้องรับผิดชอบต่อเฉิงอี้เฟย อีกทั้งอาการประชวรของเทียนอู่ฮ่องเต้นั้นไม่ว่าจะรักษาอย่างไรก็ต้องพึ่งพาเม็ดยาในการรักษาอยู่ดี เพราะฉะนั้นความหมายจึงไม่ต่างกันนัก
วินาทีนั้นกูเฟยเยี่ยนคิดแผนการไม่ออก นางขมวดคิ้วเรียวเข้าหากันโดยที่ไม่ได้สังเกตว่าจวินจิ่วเฉินมองมาที่นางมาโดยตลอด
เมื่อเห็นนางขมวดคิ้วเป็ปมจวินจิ่วเฉินก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
จากนั้นเขาจึงเริ่มพูด “เยนอวิ๋นเจี้ยนอยู่ทางใต้ซึ่งมีระยะห่างกับเมืองจิ้นหยางที่ค่อนข้างไกล ไปกลับหนึ่งรอบอย่างน้อยต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางยี่สิบวัน สถานการณ์ของแม่ทัพเฉิงเป็เื่เร่งด่วนที่ล่าช้าไม่ได้ หากว่าสามารถเชิญแพทย์มาได้ก็ให้ไปรักษาเฉิงอี้เฟยก่อนจากนั้นค่อยแอบเชิญเข้าไปในพระราชวัง เปิ่นหวางไม่ทราบอาการประชวรของฟู่หวง ดังนั้นจึงไม่สามารถช่วยเ้าออกความคิดเห็นได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้กูเฟยเยี่ยนก็พรวดพราดเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาที่ไม่สดใสของนางก็สว่างไสวในทันที
นางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ขอบคุณเตี้ยนเซี่ยนะเพคะ นู๋ปี้เข้าใจแล้ว นู๋ปี้…”
นางยังไม่ทันกล่าวจบจ วินจิ่วเฉินก็หันหลังเดินออกไปอย่างไม่สนใจ
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้ตามไป นางมองแผ่นหลังของเขาด้วยรอยยิ้มที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนเรียกได้ว่ามีความสุขถึงขีดสุด!
จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยบอกว่าไม่สามารถช่วยออกความคิดเห็นได้ ทว่าคำพูดเมื่อสักครู่นี้คือการช่วยนางออกความคิดเห็นชัดๆ !
หากนางไม่บอกว่าจดหมายหนึ่งฉบับสามารถขอร้องได้เพียงหนึ่งครั้งแล้วมันจะไปมีใครรับรู้เื่นี้กัน? ไม่มีทางที่หัวหน้าาุโจะเปิดเผยเื่นี้สู่สาธารณชน ดังนั้นเทียนอู่ฮ่องเต้ไม่สามารถได้เข้าใจแน่
นางมีแผนในใจแล้วว่าควรจะเจรจากับเทียนอู่ฮ่องเต้อย่างไร!
จวบจนกระทั่งมองไม่เห็นจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยแล้ว กูเฟยเยี่ยนจึงเข้านอนอย่างอิ่มอกอิ่มใจ การที่จิ้งหวางเตี้ยช่วยนางออกความคิดเห็นน่าจะหายโกรธนางแล้วใช่หรือไม่? หากครั้งนี้นางทำตัวดีขึ้น จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะให้นางอยู่ที่จิ้งหวางฝู่ต่อไปไหมนะ?
เมื่อไปกลับเยนอวิ๋นเจี้ยนแล้วระยะเวลาสามเดือนก็ใกล้จะมาถึง
เช้าวันรุ่งขึ้นกูเฟยเยี่ยนก็ไปเข้าเฝ้าเทียนอู่ฮ่องเต้ที่พระราชวัง
เทียนอู่ฮ่องเต้ที่เพิ่งจะว่าราชกิจเสร็จได้ทานยาแล้วเตรียมจะบรรทม ทว่าทันทีที่ได้ยินว่ากูเฟยเยี่ยนสามารถตามหาแพทย์รักษาที่ซ่อนเร้นได้เขาก็ดีใจจนต้องลุกขึ้นมา
“อะไรนะ? เ้าหาเจอแล้วจริงหรือ? อยู่ที่ใด? เชิญมาได้หรือไม่? ”
กูเฟยเยี่ยนตอบกลับไปด้วยความนอบน้อม “หัวหน้าาุโยกย่องนู๋ปี้จึงได้แนะนำแพทย์รักษาหนึ่งท่านต่อนู๋ปี้ เพียงแต่จำเป็ต้องให้นู๋ปี้เป็ผู้ไปเชิญด้วยตนเอง”
เทียนอู่ฮ่องเต้คิดว่าหากรู้ั้แ่แรกว่าหัวหน้าาุโแห่งหุบเขาเสินหนงจะให้เกียรตินังหนูขนาดนี้ ในตอนนั้นเขาก็ควรที่จะใช้นังหนูคนนี้ในการพูดคุยเงื่อนไขกับหัวหน้าาุโ ทว่าตราบใดที่นังหนูคนนี้อาศัยอยู่ในเมืองจิ้นหยางหนึ่งวัน เขาก็ไม่กลัวว่าจะไม่ได้รับผลประโยชน์จากหุบเขาเสินหนง
“คนที่ชอบสร้างปัญหาอย่างเ้าสามารถทำให้ผู้คนโปรดปรานได้จริงๆ ”
เทียนอู่ฮ่องเต้หัวเราะออกมาแล้วถามด้วยความดีใจ “เ้าจะเริ่มออกเดินทางเมื่อใด? เจิ้นจะส่งคนไปคุ้มกันเ้า”
ดวงตาของกูเฟยเยี่ยนทอประกายความเ้าเล่ห์ “ฝ่าาเพคะ เยนอวิ๋นเจี้ยนกับเมืองจิ้นหยางมีระยะห่างที่ค่อนข้างไกล ไปกลับต้องใช้ระยะเวลาถึงยี่สิบวัน การที่นู๋ปี้มาในวันนี้เป็เพราะจะได้ไม่พลาดโอกาสในการรักษาท่านแม่ทัพเฉิง”
เทียนอู่ฮ่องเต้พยักหน้าแล้วเตรียมจะเอ่ยออกมา
กูเฟยเยี่ยนเอ่ยด้วยความร้อนใจอีกครั้ง “ฝ่าาเพคะ พระอาการประชวรของท่านไม่สามารถรั่วไหลออกไปได้ สถานการณ์ของท่านเเม่ทัพเฉิงก็คับขัน นู๋ปี้คิดว่าควรให้แพทย์มารักษาท่านแม่ทัพเฉิงก่อน จากนั้นนู๋ปี้จะแอบเชิญเข้ามาในพระราชวังเพื่อวินิจฉัยฝ่าา เป็อย่างไรเพคะ? ”
เทียนอู่ฮ่องเต้อารมณ์ดีอย่างยิ่งแล้วพยักหน้าโดยไม่ต้องคิดเลย “เ้าคิดได้รอบคอบมาก”
กูเฟยเยี่ยนลอบถอนหายใจออกมาแล้วเอ่ยอีกครั้ง “ฝ่าาเพคะ นู๋ปี้คาดคะเนไว้ว่าการเดินทางในครั้งนี้อยากจะขอให้ฝ่าารับสั่งให้องค์ชายแปดเป็ผู้คุ้มกันนู๋ปี้เพคะ”
เมื่อพูดถึงจวินฮั่นหยิ่นเทียนอู่ฮ่องเต้ก็ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “ทำไม? ”
กูเฟยเยี่ยนอธิบายด้วยความเอาจริงเอาจัง “เดิมทีเื่ที่นู๋ปี้้าตามหาแพทย์มารักษาท่านแม่ทัพเฉิงเป็ความลับสำคัญ ทว่ากลับแพร่กระจายไปทั่วเมืองจิ้นหยางจนทุกคนต่างก็รับรู้ ดังนั้นนู๋ปี้จึงกลัวว่าจะมีคนมาสกัดกั้นนู๋ปี้แล้วใช้โอกาสนี้ในการประทุษร้ายท่านแม่ทัพเฉิง! อีกทั้งเส้นทางในการเดินทางไปยังเยนอวิ๋นเจี้ยนในครั้งนี้เต็มไปด้วยป่าเขาและโจรปล้นมากมาย นู๋ปี้คิดว่าการที่มีองค์ชายแปดที่มีวิทยายุทธที่เก่งกาจแอบคุ้มกันนู๋ปี้ออกจากเมืองไปจะเป็วิธีที่ดีที่สุด”
ไม่รู้ว่าเทียนอู่ฮ่องเต้ฟังเข้าหูไปมากเพียงใดกันเพราะเขาลูบเครา จ้องมองกูเฟยเยี่ยนด้วยสายตาตรวจสอบ และทำการไตร่ตรอง
กูเฟยเยี่ยนดูเหมือนสงบนิ่งแต่แท้จริงแล้วมีความประหม่าเล็กน้อย
นางไม่ได้้าให้จวินฮั่นหยิ่นคุ้มกันนางออกไป และนางก็ทราบด้วยว่าเทียนอู่ฮ่องเต้จะไม่ให้จวินฮั่นหยิ่นเป็ผู้คุ้มกันนางออกไป นางก็แค่ใช้ความชำนาญในการต่อสู้ของจวินฮั่นหยิ่นมาเตือนสติเทียนอู่ฮ่องเต้ก็เท่านั้น เพราะคนที่มีความชำนาญในการต่อสู้มากกว่าจวินฮั่นหยิ่นก็คือจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย!
ท่าทีของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเมื่อคืนวานนี้คือการเลี่ยงใช้คำชัดๆ ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่สามารถพูดถึงเขาได้
เทียนอู่ฮ่องเต้ไม่ได้พูดอะไรออกมา ในส่วนของกูเฟยเยี่ยนนั้นยิ่งรอก็ยิ่งตื่นเต้น และใน่เวลานี้เองเหมยกงกงก็เข้ามา “ฝ่าาพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายแปดขอเข้าเฝ้า ในตอนนี้รออยู่ที่ด้านนอกพ่ะย่ะค่ะ”