“อะไรเนี่ย!” เจิ้งหยวนที่แอบฟังอยู่ข้างหลังต้นไม้ไม่ไกลทนสบถด่าออกมาเบาๆ ไม่ได้ เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลยจริงๆ ว่าครั้นรีบกลับมาจะแจ้งพี่สะใภ้ใหญ่ว่าไม่ต้องรวบรวมเงินต่อ เพราะเธอจ่ายค่าผ่าตัดไปแล้ว เวลาผ่าตัดก็ลงเรียบร้อยแล้วด้วย แต่ใครจะไปรู้ว่ากลับต้องมาเจอละครฉากใหญ่นี้แทน!
เจิ้งเทียนหู่ถูกใจพี่สะใภ้ใหญ่เธอ!บ้าเอ๊ย แล้วเขายังกล้าฉวยโอกาสตอนคนอื่นตกอยู่ในสภาพย่ำแย่เสนอเงื่อนไขให้พี่สะใภ้ใหญ่นอนกับเขา! เขากล้าดีอย่างไร!
ถ้าอย่างนั้นชาติก่อนเขาก็เสนอกับพี่สะใภ้ใหญ่แบบนี้ใช่ไหม?
ใช่สิ เขาต้องเสนออยู่แล้ว ต้นตอที่พี่สะใภ้ใหญ่นอกใจเมื่อชาติก่อนอาจเริ่มจากตรงนี้! ก็ว่าอยู่ พี่ชายกับพี่สะใภ้เธอรักกันมาก ความสัมพันธ์ยังดีเสียขนาดนั้น ต่อให้พี่ชายเธอขาพิการแต่แล้วอย่างไรเล่า ไม่ได้ตายเสียหน่อย พี่สะใภ้ต้องยินดีอยู่เคียงข้าง ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่ชายเธอแน่นอน ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังมีลูกตั้งสองคน อย่างไรเสีย พี่สะใภ้ใหญ่ก็ไม่มีทางทรยศพี่ชายเธอก่อนหรอก นอกเสียจากว่าเธอมีความลำบากสุดวิสัยบางอย่าง ชาติก่อนสถานการณ์ในบ้านยามนี้หนักหนากว่าปัจจุบันมาก เพื่อช่วยคุณแม่ ช่วยพี่ชายพี่สะใภ้ใหญ่จำต้องทนกล้ำกลืนขายตัวเองเท่านั้น!
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เจิ้งหยวนกัดฟันกรอด แทบจะพุ่งเข้าไปต่อยเจิ้งเทียนหู่สักหมัดและทุบตีให้เขาอัมพาตครึ่งตัวไปซะ! ไอ้โง่เง่าเต่าตุ่นใจทราม ไอ้ตัวปัญหาลามกไร้ยางอาย กล้าวางอุบายพี่สะใภ้ใหญ่เธอ! มิน่าถึงแต่งภรรยาไม่ได้สักที คนแบบนี้ ใครแต่งด้วยคงซวยไปทั้งชาติ! เขาควรแก่ตายไปคนเดียวซะ! แล้วพี่สะใภ้ใหญ่เธอ ทำไมถึงโง่ขนาดนั้น! ยอมลดตัวต่ำถึงขั้นขายตัวได้อย่างไร? นอกจากเจิ้งเทียนหู่ก็ไม่มีใครให้ยืมเงินแล้วหรือ? เหตุใดไม่ไปยืมเธอเล่า ทั้งที่เธออยู่ในอำเภอเมืองแท้ๆ ต่อให้เธอมีปัญหาขัดแย้งกับครอบครัวแค่ไหน ใช่ว่าเธอจะไม่ดูดำดูดีคุณแม่และพี่ชายแท้ๆ ของตนเองเสียหน่อย! ฮะ?
นึกถึงเื่ชาติที่แล้วเจิ้งหยวนก็โกรธจนตัวสั่น แต่โกรธขนาดไหนจะทำอันใดได้ เธอไม่อาจย้อนกลับไปชาติก่อน คว้าไหล่พี่สะใภ้เธอมาเขย่าเตือนสติแล้ว โชคดีแค่ไหนแล้วที่์ให้โอกาสเธอกลับมาอีกครั้ง เธอยังมีโอกาสห้ามปรามพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ให้เดินซ้ำรอยเดิม
“นาย.... นายพูดอะไร! เจิ้งเทียนหู่ ฉันเป็พี่สะใภ้ของนายนะ!” เฝิงิเยว่ทั้งโกรธทั้งอายจนอยากจะตบหน้าเจิ้งเทียนหู่สักฉาด! ความจริงเธอพอเดาได้ตั้งนานแล้ว นับแต่ที่บังเอิญชนเจิ้งเทียนหู่ในคืนนั้น เจิ้งเทียนหู่มักจะหาโอกาสในการพูดคุยกับเธอประจำ แถมยังใช้สายตาหื่นกระหายสอดส่องร่างกายเธอ เื่น่าอับอายเช่นนี้เธอไม่กล้าบอกคนอื่น ทำได้เพียงพยายามหลบเลี่ยงให้ไกลที่สุดเท่านั้น ใครจะคิดว่าเขาจะฉวยโอกาสตอนเทียนิาเ็โผล่ออกมาปล้นชิงตามไฟ [1] !
เฝิงิเยว่โกรธจัดจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง เธอเพิ่งจะให้นมลูกเสร็จ เดิมทีก็ดูอวบอิ่มอยู่แล้ว พอหน้าอกกระเพื่อมเช่นนี้ก็ยิ่งใหญ่โต สะกดสายตาเจิ้งเทียนหู่แทบจะถลนออกมาเสียตรงนั้น
“ชู่... ว่ากันว่าไม่มีอะไรอร่อยเท่าเกี๊ยว ไม่มีอะไรสนุกเท่าพี่สะใภ้ เพราะพี่เป็พี่สะใภ้ฉันนั่นแหละ ถึงต้องให้น้องสามีชมเชยแก้อยากด้วย!” เขาพูดแล้วยังดันร่างกายท่อนล่างเข้าหาเฝิงิเยว่
เฝิงิเยว่ขยะแขยงเสียยิ่งกว่าอะไร ทั้งใและโมโห ผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอสู้เจิ้งเทียนหู่ไม่ไหว เลยกอดหน้าอกเดินโซเซถอยหลังหลบแล้วตวาดลั่น “ออกไป!”
“พี่สะใภ้ คิดให้ดีๆ นะ อาการบาดเจ็ดของพี่เทียนิล่าช้าไม่ได้ ขอเพียงพี่ยินดี ฉันจะให้เงินวันนี้เลย” เขาพูดพลางควักเศษเงินเล็กๆ น้อยๆ จำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกง มีถึงร้อยไหมไม่รู้ แต่ต้องหลายสิบหยวนแน่
อาการาเ็ของเจิ้งเทียนิล่าช้าไม่ได้จริงๆ ในดวงตาของเฝิงิเยว่แม้จะฉายแววกระเสือกกระสน แต่เพียงแวบเดียวเท่านั้น สิ้นความคิด เธอพลันปัดมือเจิ้งเทียนหู่ออกให้พ้นตัว
มันยังไม่ถึงขั้นต้องขายตัว ในอำเภอยังมีอาเล็กอยู่ เธอน่าจะยืมเงินมาได้ แต่เจิ้งเทียนหู่พูดบางอย่างถูก อาการาเ็ของเจิ้งเทียนหู่เสียเวลาไม่ได้สักนาทีเดียว เธอต้องรีบไปหาเงินที่อำเภอ จึงถุยน้ำลาย ใส่หน้าเจิ้งเทียนหู่แล้วหันหลังวิ่งออกไปทันที
เจิ้งเทียนหู่หยิบเงินขึ้นมา แต่เฝิงิเยว่วิ่งจากไปไกลแล้ว จะไล่ตามก็คงไม่ทัน
“นังบ้า!” เขาหันมองทางที่เฝิงิเยว่วิ่งไปพลางเดินเข้าตัวหมู่บ้าน “ไม่ช้าก็เร็วฉันจะได้นอนกับเธอแล้ว!เหอะ รอเจิ้งเทียนิกลายเป็คนขาเป๋ แล้วสนองความ้าเธอไม่ได้เสียก่อนเถอะ ดูซิ ตอนนั้นเธอจะให้ฉันหลับนอนด้วยไหม!”
เจิ้งเทียนหู่เดินไปไกลแล้ว เจิ้งหยวนจึงค่อยเดินออกมาจากหลังต้นไม้ด้วยสีหน้าดำทะมึน ครั้นเหลือบเห็นคราบจักจั่นที่เกาะบนต้นไม้ ด้วยไฟโทสะในใจเธอจึงบีบมันอย่างแรงจนแตกเป็เสี่ยงบนฝ่ามือ
เธอหัวเราะเสียงเยียบเย็นชวนน่าหวั่นใจยามมองทิศที่เจิ้งเทียนหู่เพิ่งผละจากไป กล้าเล็งคนในครอบครัวเธอหรือ เธอจะให้เขาจ่ายด้วยราคาอันสาสม!
เจิ้งหยวนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อย่างสงบสติอารมณ์ แล้วค่อยเร่งฝีเท้าไล่ตามเฝิงิเยว่
“พี่สะใภ้… พี่ไม่ต้องรีบ เงิน! เงินฉันรวบรวมได้แล้ว จ่ายค่าผ่าตัดพี่ชายแล้วด้วย คุณหมอกำหนดวันผ่าเรียบร้อยแล้วค่ะ” เจิ้งหยวนวิ่งตามมา มือเท้าเอวพลางหอบหายใจขณะพูด หัวใจกลางทรวงอกเต้นตุบๆ ไม่เป็จังหวะ
ได้ยินข่าวดีเช่นนั้น เฝิงิเยว่ลนลานจับแขนของเจิ้งหยวน พร้อมเอ่ยด้วยความดีใจ ทว่าก็แปลกใจในคราวเดียวกัน “จริงเหรอ? รวบรวมครบแล้วเหรอ?”
เจิ้งหยวนพยักหน้า “วางใจเถอะค่ะ” พอหอบไปได้สักพัก ร่างกายก็ค่อยสงบลงไม่หอบจนตัวโยนอีก แถมยังพูดจาสะดวกขึ้น “คุณหมอบอกว่ากำหนดการผ่าตัดเป็พรุ่งนี้ตอนบ่ายค่ะ”
“ทำไมเป็่บ่ายล่ะ? ไม่ใช่ต้องรีบผ่าให้เร็วที่สุดหรอกเหรอ?” เฝิงิเยว่ยังจำคำพูดของคุณหมอได้ว่าสามีเธอาเ็หนักมาก จำเป็ต้องรีบผ่าตัด จะล่าช้าไม่ได้ แม้ว่ากระดูกจะสามารถรักษาและซ่อมแซมตัวเองได้ แต่เมื่อถึงตอนนั้นหากสมานไม่ดีย่อมพิการอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีโอกาสเกิดหนองขึ้นระหว่างรอยต่อกระดูกได้อีกด้วย ซึ่งหากปล่อยให้หนองขึ้น บางทีอาจต้องตัดขาเสียด้วยซ้ำ ทำเอาเธอหวาดกลัวไม่น้อย ถ้าต้องตัดขาจริงๆ เทียนิจะทำอย่างไร ตัวเธอไม่เป็ไรหรอก ยินดีดูแลผู้เป็สามีไปตลอดชีวิต ทว่าคนหยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างเทียนิ มีหรือจะรับสภาพตัวเองที่เป็คนพิการไหว?
“เพราะมียาบางส่วนที่จำเป็ต่อการผ่าตัด แต่ไม่มีในอำเภอ ต้องส่งจากในเมืองมาที่นี่ แล้วคุณหมอในเมืองก็ต้องเดินทางมาที่อำเภอเราด้วยค่ะ” เจิ้งหยวนก็ถามหมอเช่นกัน และคุณหมอชี้แจงกับเธอเช่นนี้ สรุปคือเธอไม่ค่อยสันทัดเื่การแพทย์นัก เธอจึงอธิบายให้เฝิงิเยว่ฟังตามที่คุณหมอบอก ก่อนเอ่ยหวังปลอบประโลมใจว่า “วางใจเถอะพี่สะใภ้ ฉันถามหมอแล้ว หมอบอกว่าพรุ่งนี้ยังผ่าตัดทัน ขาพี่ชายต้องกลับมาแข็งแรงดังเดิมแน่นอนค่ะ”
“ดีแล้วๆ” เฝิงิเยว่ตบหน้าอกตนเอง และพนมมือกลางอกพลางพร่ำบอก “์คุ้มครองจริงๆ !”
พอปลอบเฝิงิเยว่เสร็จ เจิ้งหยวนก็ควรกลับบ้านบ้าง เธอจึงว่า “ฉันกลับไปทำอาหารให้คุณแม่และพี่ชายก่อนนะ พวกเขาคงหิวกันแล้ว ยังไม่ทานข้าวเลย ตอนแรกฉันบอกให้พวกเขาซื้อซาลาเปากินที่ร้านอาหารรัฐข้างๆ กิน เฮ้อ แต่พวกเขาไม่ยอม… ว่าแต่พี่สะใภ้กินหรือยังคะ?”
“ฉันกินแล้วละ” เธอดื่มโจ๊กมันเทศบดไปชามหนึ่ง ไม่หิวสักนิด
“เข้าใจแล้วค่ะ พี่สะใภ้รีบไปดูแลพี่ชายที่โรงพยาบาลแทนพี่ชุนเซิงเถอะ พี่ชุนเซิงยุ่งกับเื่ครอบครัวพวกเรามาทั้งวันแล้ว” เจิ้งหยวนบอก
ได้ยินดังนั้น เฝิงิเยว่จึงไม่กล้ารั้งรอให้เสียเวลาอีก เธอขานรับแล้วรีบตรงไปโรงพยาบาลทันที
เชิงอรรถ
[1] ปล้นชิงตามไฟ หมายถึง การกระทำที่ไม่ผิดอะไรไปจากโจรที่คอยถือโอกาสซ้ำเติมคนที่กำลังเดือดร้อนจากการถูกเพลิงไหม้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้