มีโทรศัพท์โทรมาที่ทำงานของเซฟิรอสว่า เ้าลูกนอกสมรสกลับมาจากการเลียแข้งเลียขาพวกตะวันออกแล้ว วันนี้ตนจึงจงใจถึงคฤหาสน์ช้ากว่าปกติ ประวิงเวลาอาหารค่ำให้มันต้องรีรอ
ภาพที่คุ้นตาปรากฏทันทีเมื่อรถยนต์ไปจอดจนถึงหน้าประตูทางเข้าคฤหาสน์ ฮิโนกิ ภรรยาหมาด ๆ ของตนมักออกมายืนรอรับเขาอยู่เป็ประจำ
“ทำไมวันนี้กลับช้านัก”
“ฉันแวะไปเล่นเทนนิสกับเพื่อนน่ะ”
“เล่นเทนนิสงั้นหรือ ผมเองก็อยากลองบ้าง”
เซฟิรอสมองคนตัวเล็กอย่างอ่อนใจ
“ครั้งหน้าฉันจะหาเวลาให้”
ร่าเริงและมีชีวิตชีวา แตกต่างกับไฮยาซินท์อย่างเห็นได้ชัด
หากภรรยาคนแรกเป็จันทรางดงามที่ลอยอยู่กลางผืนฟ้าสีนิลอันเงียบสงบ ภรรยาคนที่สองก็คงเป็แสงตะวัน
สามี ยินดีต้อนรับกลับบ้าน
หากเป็ไฮยาซินท์ ในยามที่เขากลับมาอีกฝ่ายคงเพียงแค่กล่าวต้อนรับด้วยรอยยิ้มบาง ไม่ได้สนใจกิจกรรมที่เซฟิรอสเพิ่งทำมามากนัก
เหนื่อยหรือเปล่า วันนี้ของหวานมื้อเย็นมีของโปรดของสามี ใช้น้ำผึ้งที่คุณพ่อได้มาจากเมืองร้อน ได้ยินว่าน้ำผึ้งจะให้ความรู้สึกนุ่มนวลแตกต่างจากที่นี่
ทว่าไฮยาซินท์จะเตรียมสิ่งที่เรียกว่า ‘บ้าน’ ไว้คอยต้อนรับในยามที่สามีกลับมา
ครั้งหนึ่งในตอนที่พวกเขาแต่งงานกันใหม่ ๆ ตอนนั้นแค่เพียงกลับมาแล้วได้เห็นรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้างาม มันก็มีอานุภาพมากพอจะปัดเป่าทุกความเหนื่อยล้าจนหมดสิ้น แต่เมื่อใช้ชีวิตสมรสไปด้วยกันนานวันเข้า ความรู้สึกนั้นก็ค่อย ๆ จืดจางไปตามกาลเวลา
แปลกดีที่จู่ ๆ วันนี้เซฟิรอสก็คิดถึงภาพที่เกือบหลงลืมไปแล้ว บางทีหากได้เห็นรอยยิ้มนั้น ณ ตอนนี้ ทุกความรู้สึกทุกข์ยาก ทุกตะกอนที่เกิดขึ้นในใจคงถูกมลายสิ้น
เมื่อคิดไปจนถึงขั้นนั้นจึงค่อยรู้สึกตัว รีบกวาดตะกอนความทรงจำสีชาออกไปจากความคิดจนหมด ตอนนี้ตนกับอีกฝ่ายไม่มีอะไรให้ต้องเกี่ยวข้องกันอีก
ไม่รู้ว่าด้วยเล่ห์กลใด แต่ไฮยาซินท์ก็คงไม่อาจทนอยู่ร่วมกับเขาได้ จนขวนขวายทำทุกอย่างเพื่อตัดพันธะ
“ชาสมุนไพรที่เพื่อนของฉันซื้อมาฝาก คุณพ่อชอบเครื่องดื่มร้อนนักหนา วันนี้เธอก็ลองชงให้เขา หากถูกใจก็เสนอตัวว่าจะเป็ผู้ชงไปให้ทุกคืนก่อนนอน”
ฮิโนกิรับถุงชาไป แล้วเมื่อตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่างก็พลันมีสีหน้าตื่นตระหนก
“คุณให้ผมเป็คนทำหรือครับ แต่…”
“ฮิโนกิ” เซฟิรอสกล่าวเสียงเย็น “ตอนนี้คุณคือฮิโนกิ ลูเซียโน่ เป็ภรรยาคนใหม่ของผม หน้าที่นี้เป็สิ่งที่ภรรยากระทำมาั้แ่คนเก่าก่อน”
“…ครับ” ฮิโนกิจำใจต้องตอบรับเสียงเบา
อาหารค่ำถูกจัดวางบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ตอนที่เซฟิรอสเดินเข้ามาพร้อมฮิโนกิ ทั้งดีเลียนและเ้าตระกูลลูเซียโน่ก็นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
เมื่อสมาชิกในบ้านมากันครบถ้วน การกินมื้อค่ำจึงค่อยเริ่มต้นขึ้น เซฟิรอสพยักพเยิด ส่งสัญญาณบอกให้ฮิโนกิกระทำสิ่งที่พวกเขาตระเตรียมมา
“คุณพ่อครับ เซฟิรอสเขาเพิ่งได้ชาสมุนไพรตัวใหม่จากต่างประเทศ คุณพ่อสนใจลองชิมดูดีมั้ยครับ ผมจะไปชงมาให้”
เ้าตระกูลลูเซียโน่ยังคงนั่งกินอาหารตรงหน้า ไม่แม้แต่ปรายตามาสนใจคำพูดของฮิโนกิ
“ได้ข่าวว่า่นี้คุณพ่อนอนไม่ค่อยหลับ ชาสมุนไพรนี้เพื่อนผมบอกว่าช่วยเื่นี้ได้โดยเฉพาะ ลองจิบสักนิด หากถูกใจจะได้ให้ฮิโนกิเขาชงมาให้ทุกคืน” เซฟิรอสหันมากล่าวกับฮิโนกิต่อ ไม่คิดจะรอคำตอบรับของผู้ฟัง “ฮิโนกิไปจัดการมาที”
สีหน้าของฮิโนกิจืดเจื่อนลงั้แ่ถูกพ่อสามีหมางเมิน แล้วจึงยิ่งเป็อันจืดเจื่อน เมื่อยามที่ไปหยิบถ้วยและกาของชาร้อนมารินเสิร์ฟไว้ตรงหน้าเ้าตระกูล นอกจากจะไร้คำขอบคุณ ชายชรายังเหลือบไปมองพ่อบ้านของตัว
พ่อบ้านผู้นั้นหยิบกาน้ำชามารินใส่แยกไว้อีกแก้ว ใช้ช้อนเงินที่พกติดตัวจุ่มลงไปในของเหลว หลุบสายตาจ้องมองจนแน่ใจว่าช้อนไม่ได้เปลี่ยนสีครู่หนึ่งแล้วจึงยกน้ำชาแก้วนั้นขึ้นมาจิบต่อ
“ไม่มีพิษครับ” ผ่านไปเกือบสิบนาทีจึงค่อยแจ้งต่อผู้เป็นาย
“กลิ่นหอมไม่เลว ไว้มาเสิร์ฟให้ฉันคืนนี้แล้วกัน” ผู้เฒ่าลูเซียโน่พยักหน้าอย่างพอใจ แต่ก็ไม่ได้แตะชาแม้แต่น้อย
ฮิโนกิก้มหน้าลง บรรจงกินอาหารต่อเสมือนตนไม่ได้รู้สึกอะไร ทว่าร่างกายกลับสั่นเทิ้มอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
เพราะเห็นเขาเป็เพียงลูกนอกสมรสจากตระกูลต้อยต่ำจึงหวาดระแวง เพราะเห็นไฮยาซินท์เป็โอเมก้ามาจากตระกูลผู้ดีจึงไม่หวาดระแวง
“อาหารถึงจะเอร็ดอร่อยเหมือนเดิม แต่ต้องมากินซ้ำ ๆ หลายวันก็น่าเบื่อ ส่วนใหญ่เป็เมนูของพี่สะใภ้ ไม่ก็พ่อครัว พี่สะใภ้คนใหม่ไม่มีอะไรเสนอเลยหรือครับ” ดีเลียนเฝ้ามองเหตุการณ์นั้นั้แ่ต้นจนจบ เห็นทีว่าตนเองต้องเข้าสู่บทละครบ้าง
เซฟิรอสขมวดคิ้วมุ่นกับการที่จู่ ๆ น้องชายเอ่ยวาจาคล้ายหาเื่ แต่เพราะไทเนียไม่ได้เอ่ยอะไร ซ้ำยังหันไปมองฮิโนกิเพื่อรอฟังคำตอบ เซฟิรอสจึงได้เพียงนั่งเฉย ๆ
“ผมพยายามเสนอเมนูอาหารใหม่ ๆ แล้ว… แต่พวกคนครัวกลับไม่ยอม”
“พวกเมนูจากบ้านเกิดน่ะหรือครับ มันก็ดีนะครับ แต่บางอย่างไม่เหมาะกับบ้านเรา ยิ่งคุณพ่ออายุมากด้วย” ดีเลียนยิ้ม “ลองพยายามให้มากกว่านี้นะครับ”
“ยาเซียน่ะคงใช้ชีวิตข้างนอกลำบากน่าดู ถ้าเขายังฝืนไม่ยอมกลับมาเอง แกก็ไปง้อเขาเสียหน่อย ต่อให้หมดรักอย่างไรก็นึกถึง่เวลาที่ใช้ร่วมกันมาบ้าง โอเมก้าบางครั้งก็ใช้แต่อารมณ์ตัดสิน เราอัลฟ่าต้องหัดยอมเสียบ้าง” ไทเนียกล่าวเสียงเรียบขณะนั่งกินอาหาร
เซฟิรอสชะงักไปทันที ฝ่ามือกำช้อนส้อมแน่นขึ้นจนมันสั่นน้อย ๆ
คนที่ไม่นึกถึง่เวลาที่ใช้ร่วมกันมาคือไฮยาซินท์ต่างหาก อีกฝ่ายทิ้งเขาไปอย่างง่ายดาย
“ถ้าเขาตั้งใจจะไปก็ให้ไปเถอะครับ” เซฟิรอสกล่าวเสียงกระด้าง ทว่ามือกลับกำลังสั่นน้อย ๆ “ตระกูลลอเรนโซ่มีอำนาจบาตรใหญ่คับฟ้านักหรือ คุณพ่อถึงได้ยึดมั่นนักหนา ยาเซียไม่ได้บกพร่องแค่หน้าที่ภรรยา แต่ยังบกพร่องหน้าที่ของมารดา แค่เพียงมีทายาทยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ”
มีเสียงหัวเราะร่วนดังขึ้นมาจากดีเลียน
“แค่เพราะยอมรับภรรยาน้อยไม่ได้ สิ่งที่ทำมาตลอดเกือบสิบปีนับว่าบกพร่องเลยงั้นหรือครับ ตรรกะในการตัดสินผิดถูกของพี่ชายช่างน่านับถือ”
“แกจะรู้อะไร!”
“ส่วนเื่ทายาท พี่สะใภ้ก็ทะนุถนอมลูกตัวเองปานดวงใจแล้ว ทว่าบิดาไม่ให้ความร่วมมือ มารดาจะเอากำลังกายที่ไหนไปขัดขืน”
“พูดบ้าอะไรของแก”
“ตอนนั้นคุณพ่อเองก็นั่งฟังด้วยไม่ใช่หรือครับ” ดีเลียนหันไปมองเ้าตระกูลลูเซียโน่ด้วยรอยยิ้มระรื่น “เื่ที่พี่สะใภ้แท้ง”
ประโยคสุดท้ายพลันทำให้หัวใจของเขาหล่นวูบ
ไฮยาซินท์แท้ง?
เขาหันไปมองบิดาของตนด้วยความคาดหวังว่าจะได้ฟังคำปฏิเสธ กล่าวว่าที่น้องชายต่างมารดาพูดเป็เพียงเื่ไร้สาระ
“เื่ที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป ไม่ต้องหยิบยกมาพูดให้บรรยากาศเสีย” ทว่ามันกลับไม่ใช่ประโยคปฏิเสธอย่างที่คาดหวัง
“...”
“ภรรยาคนนี้ก็ดูแลให้ดี ทะเลาะเบาะแว้งแล้วอย่าให้ถึงขั้นลงไม้ลงมือจนเกิดอุบัติเหตุ ปล่อยให้ภรรยาแท้งอีก”
วินาทีนั้นทุกเสียงบนโลกถูกดับลง หลงเหลือเพียงเสียงลมหวีดหวิวแหลมสูง หัวสมองมึนเบลอราวกับโดนอะไรบางอย่างทุบศีรษะอย่างรุนแรงจนสติหลุดลอย
ห้องนอนที่แม้เ้าของยังไม่อยู่ทว่าด้านในยังคงสะอาดสะอ้าน แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเนื่องจากรอคอยการกลับมาของเ้าของห้อง
เซฟิรอสเดินเข้ามาในห้องที่ยามเ้าของห้องยังอยู่ตนกลับไม่ได้นึกอยากเหยียบย่างเข้ามา กวาดสายตามองหาร่องรอยการใช้ชีวิตของอดีตภรรยาที่ยังตกค้างอยู่ภายในห้อง ข้าวของส่วนตัวของไฮยาซินท์ถูกเก็บไปพร้อมเ้าตัว ทว่ายังมีบางอย่างถูกเหลือทิ้งไว้
กล่องเครื่องประดับจำนวนมากวางกองไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง ภรรยาของเขาชอบเพชรพลอยมากพอ ๆ กับดอกไม้ ต่อให้ไม่ได้สวมใส่ แต่แค่เพียงได้ชื่นชมก็จะมีความสุขเสมือนเป็ผู้ได้โลกทั้งใบ
เซฟิรอสจำเครื่องประดับไม่ได้ทุกอย่าง ทว่าบางชิ้นก็มีเค้าลางว่าเป็ของที่ตนมอบเป็ของขวัญ
กล่องกำมะหยี่ขนาดเท่ากำมือสีแดงสด ถูกสลักด้วยสัญลักษณ์ของลูเซียโน่กล่องหนึ่งตั้งโดดเด่นอยู่บนชั้นเครื่องแป้ง ภายในมีแหวนทองคำขาว เพชรตรงกลางถูกเจียระไนเป็รูปสิงโต สิ่งที่ยืนยันว่าแม้ไฮยาซินท์จะไม่ได้มีสายเืเดียวกัน แต่นับจากนี้โอเมก้าหนุ่มได้กลายเป็ส่วนหนึ่งของฝูงสิงโตที่ยิ่งใหญ่แห่งโนแมนแลนด์
อัญมณีน้ำงามที่คว้ามาได้จากสุดขอบโลก ช่างฝีมือที่ต้องไปค้นหาทั่วแผ่นดินจึงจะเจอผู้ที่สามารถเสกสรรแหวนที่มีแค่วงเดียวบนโลกนี้ให้งดงามเหนือสิ่งใด
มูลค่าของมันมากมายชนิดไม่อาจมีผู้ใดกล้าประเมินค่า
แม้แต่แหวนแต่งงานก็ถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่ ในขณะที่ไฮยาซินท์จากไปไกลแล้ว
ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับลูเซียโน่ล้วนถูกทิ้งไว้ที่นี่
ชั่วเสี้ยววินาทีหนึ่งเซฟิรอสได้กลิ่นดอกไฮยาซินท์ลอยเจือจางอยู่กับอากาศ เขารีบหันกวาดสายตาไปรอบห้อง ในจินตนาการหนึ่งคาดหวังว่าจะได้เห็นโอเมก้าผู้นั้นยืนอยู่ตรงไหนสักแห่งในห้อง แต่นอกจากจะไม่มีตามที่คาดหวังแล้ว ยามที่พยายามตั้งใจสูดดมกลิ่นในอากาศอีกครั้ง เขากลับไม่สามารถรับรู้ได้ถึงฟีโรโมนกลิ่นไฮยาซินท์อีกแล้ว
เซฟิรอสงุ่นง่าน บางทีอัลฟ่าหนุ่มอาจจะเริ่มรู้สึกได้ว่าตนเองกำลังสูญเสียอะไรบางอย่างไปจริง ๆ จึงพยายามมองหาร่องรอยเ้าของที่ยังตกค้างอยู่ แม้เพียงกลิ่นฟีโรโมนเล็กน้อยที่ติดจากตรงไหนสักที่ก็ยังดี ทว่าผ้าห่ม ผืนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนมีเพียงแค่กลิ่นของน้ำยาซักผ้า
เซฟิรอสสบถคำหยาบออกมา นึกโกรธเกรี้ยวพวกสาวใช้ที่มาสอดมือในเื่ไม่เป็เื่ แล้วในตอนนั้นสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ไวกว่าความคิดจึงรีบรุดตรงไปทิศทางนั้นทันที
ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก ฟูก กองผ้าห่ม หมอนต่าง ๆ ที่คงวางกองสุมกันไว้ก็พลันหล่นลงมา ไหลตกไปกองกับพื้น เปิดเผยกล่องไม้ผุ ๆ กล่องหนึ่งที่ตั้งอยู่ข้างใต้กองเสื้อผ้าเ่าั้
ท่ามกลางความหรูหราของเครื่องเพชรมากมายที่อยู่ภายในห้อง กล่องที่มีสภาพทรุดโทรมช่างดูไม่เข้ากับสถานที่แห่งนี้
เซฟิรอสนั่งลง เปิดค้นกล่องนั้นด้วยความประหลาดใจที่ภรรยามีสิ่งนี้ใน ด้านในเต็มไปด้วยเสื้อผ้าเด็ก ของเล่นขนาดจิ๋วมากมาย ภาพสิ่งของเ่าั้คล้ายกับมีดที่ค่อย ๆ เสียดแทงเข้าไปภายในอก
ไฮยาซินท์เองคาดหวังกับการมีลูกมากและก็ต้องผิดหวังซ้ำไปซ้ำมา
ของใช้ที่เตรียมไว้เพื่อลูกของพวกเขาที่อาจเกิดขึ้นมาในสักวันหนึ่งค่อย ๆ ถูกทยอยนำออกมาดูทีละชิ้นจนหมด แล้วก็ได้พบว่าก้นกล่องยังมีสมุดเล่มเล็ก ๆ หน้าปกสีเหลืองสดใสที่มีประโยคหนึ่งถูกเขียนกำกับไว้
‘หลานคนแรกของลูเซียโน่’
เซฟิรอสเปิดอ่าน แผ่นกระดาษสีเหลืองจางถูกขีดเขียนด้วยตัวอักษรอ่อนช้อย แม้แต่ลายมือของไฮยาซินท์ก็ยังคงงดงามไม่ต่างจากใบหน้า เขากวาดสายตาไล่อ่านข้อความแล้วก็ต้องเป็อันชะงักไป
ครั้งแรกที่ััได้ถึงเขา คือจู่ ๆ ฉันก็เกิดอาการอาเจียนขึ้นมากลางดึกตอนอยู่ที่คฤหาสน์ลอเรนโซ่ในวันหยุดสุดสัปดาห์ พ่อใมากเพราะนึกว่าฉันป่วย ฉันเองก็กังวลใจ ในสัปดาห์หน้าฉันต้องออกงานกับสามี หากป่วยคงแย่แน่
เซฟิรอสนิ่งอึ้ง ต้องใช้เวลาทวนอ่านข้อความเ่าั้สองถึงสามครั้งจึงจะเข้าใจความหมายของมัน ทั่วทั้งตัวชาดิกราวกับถูกน้ำเย็นราดรดลงมาที่ศีรษะจรดปลายเท้า
ครั้งหนึ่งเซฟิรอสกับไฮยาซินท์เคยมีลูกด้วยกันสำเร็จจริง ๆ
ภายในไดอารี่เป็บันทึกเกี่ยวกับลูกที่อยู่ภายในท้อง มันเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เพียงแค่ได้ไล่สายตาอ่านตามบรรทัดก็ราวกับจะเห็นภาพรอยยิ้มแสนหวานที่ปรากฏ เสียงพูดกลั้วหัวเราะอย่างมีความสุขของภรรยา
บนใบหน้าของเซฟิรอสผุดรอยยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
จวบจนกระทั่งหน้ากระดาษถูกพลิกไปหยุดอยู่หน้าหนึ่ง ข้อความแห่งความสุขอันตรธานหายไป กลับกลายเป็ข้อความที่แสดงถึงความทุกข์ทรมานของโอเมก้าคนหนึ่งที่สูญเสียทุกอย่าง
ข้อความบนหน้ากระดาษนั้นยาวเหยียด ทว่าวินาทีนั้นเซฟิรอสกลับหูอื้อตาพร่า ความจริงที่แสนเ็ปตีแสกหน้า มือของเขาสั่นจนแทบประคองสมุดเล่มเล็ก ๆ ไว้ไม่ไหว แค่เพียงจะกวาดสายตาอ่านข้อความก็ยังเป็ไปอย่างยากลำบาก
ภาพเหตุการณ์ที่ตนเกือบหลงลืมไปแล้วฉายวนกลับเข้ามา
วันที่เขาพลั้งมือทำร้ายภรรยา
วันนี้เราทะเลาะกันอีกแล้ว
ฉันตกบันได มันเจ็บไปทั่วทั้งร่าง
สามี เขาดูโกรธมาก
ที่พื้นมีกองเื
ฉันสูญเสียลูกไปแล้วจริง ๆ
ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี
ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี
พ่อต้องฆ่าฉันแน่ ๆ ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี
ทำอย่างไรดี ฉันอยากตาย ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำไง
ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี
และยังเป็วันที่เขาพลั้งมือฆ่าลูกของตนเอง
สามี
ข้อความเดียวบนหน้ากระดาษสุดท้ายที่เขียนเอาไว้ ข้อความสั้น ๆ ข้อความเดียวบนหน้ากระดาษที่ว่างเปล่า รอยคราบน้ำวงกลมเล็ก ๆ หลายจุดเปรอะเปื้อน ราวกับผู้เขียนร้องไห้ ปล่อยให้น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าตกลงบนหน้ากระดาษ โดยที่ตนเองไม่อาจเขียนสิ่งใดต่อไปได้
ไดอารี่ที่ภรรยาคงตั้งใจเขียนไว้เพื่อบันทึกความสุขของตัวเองกับลูกคนแรก แต่มันกลับกลายเป็ข้อความตัดพ้อ กลายเป็ที่เก็บความเศร้าโศกเสียใจขนาดเล็ก ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่อันแสนอ้างว้าง
ไฮยาซินท์ไม่ใช่ไม่เคยตั้งท้อง ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยสร้างทายาทขึ้นมาได้
แต่เพราะเซฟิรอส จึงทำให้เด็กคนนั้นต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
เขาหวนรำลึกถึงประโยคที่ตนเองพูดกล่าวโทษเื่การมีทายาทกับไฮยาซินท์ เื่ที่จะถูกหยิบยกขึ้นมาทุกครั้งเมื่อพวกเขาทะเลาะกัน
เขานึกไปถึงตอนที่ทั้งตนเองและพ่อบอกว่าจะให้ฮิโนกิเป็แม่อุ้มบุญ ตอนนั้นไฮยาซินท์ต้องรับฟังด้วยความรู้สึกแบบไหน อีกฝ่ายจะเกิดความคิดเช่นไรขณะมองหน้าเขา พ่อที่ฆ่าลูกแท้ ๆ ของตัวเอง แต่กลับมาบอกว่าจะมีลูกกับคนอื่นเพราะว่าไฮยาซินท์ไม่อาจมีลูกได้
ไม่รู้ว่าทำไมไดอารี่จึงยังอยู่ที่นี่ บางทีอาจจะเป็เพราะไฮยาซินท์หลงลืมมันไปแล้ว
หรือบางทีอาจจะเป็เพราะมันคือหนึ่งในสิ่งของที่เป็ของลูเซียโน่ ไฮยาซินท์จึงเลือกทิ้งมันไว้
ทิ้งความทรงจำแย่ ๆ ของลูเซียโน่
ในที่สุดสามีผู้แสนโง่เขลาก็รู้ตัวเสียที
เขาก็เป็หนึ่งในของของลูเซียโน่ที่ถูกไฮยาซินท์ทอดทิ้ง
เป็หนึ่งในความทรงจำแย่ ๆ ที่ไฮยาซินท์เลือกวางทิ้งเอาไว้ที่เดิม