นอกประตูตำหนักเว่ยยาง องค์หญิงหลานซินถูกโจวหมัวมัวประคองเอาไว้ นางยืนอ่อนแรงอยู่ที่นั่น รอให้ฮองเฮาเรียกพบ
ก่อนมาที่นี่นางได้สืบดูแล้ว ฝ่าาประทับอยู่ในตำหนักเว่ยยางเช่นกัน นางจึงรีบรุดมาทันที
ฮองเฮาไม่ได้เรียกนางเข้าพบทันที นั่นก็อยู่ในการคาดเดาของนาง
นางกำนัลเข้าไปรายงานอีกครั้ง และผ่านไปครู่หนึ่งแล้วยังไม่เห็นคนมาเรียกตัว โจวหมัวมัวหงุดหงิด “ฮองเฮาหมายความอย่างไรกัน? เจตนาให้ท่านคอยอยู่นอกประตู นี่เป็การแสดงอำนาจกับท่านใช่หรือไม่เพคะ?”
“รีบร้อนอะไรกัน?” องค์หญิงหลานซินกลับใจเย็น นางหัวเราะอย่างรอคอยอยู่บ้าง “พวกเรามาครั้งนี้มิได้มาหาเื่ก่อกวน เ้าเก็บงำสีหน้าสักหน่อย ห้ามก่อความวุ่นวาย อย่าทำให้ข้าต้องเสียแผน”
“เพคะ องค์หญิง” แม้ในใจโจวหมัวมัวจะเต็มไปด้วยโทสะ แต่เมื่อนึกถึงจุดประสงค์ของการมาในครั้งนี้แล้วนางได้แต่กล้ำกลืนไฟโทสะเอาไว้
ไม่นานนักก็เห็นเซวียนหยวนเช่อเดินออกมาจากตำหนักบรรทม องค์หญิงหลานซินรีบเข้าไปต้อนรับ “หม่อมฉันถวายพระพรฝ่าาเพคะ!”
“อืม” ง่ายๆ คำเดียว ไม่มีมากกว่านั้น
เซวียนหยวนเช่อไม่แม้แต่จะหยุด เขาเดินผ่านร่างของนางไปโดยไม่เหลือบสายตามอง
องค์หญิงหลานซินอยู่ในอิริยาบถยอบกายอย่างกระอักกระอ่วนใจ นางขบฟันเ็ปกับตัวเอง
โจวหมัวมัวเห็นแล้วปวดใจยิ่งนัก “องค์หญิง...”
องค์หญิงหลานซินเงยหน้าขึ้นช้าแล้วพูดปลอบใจตนเอง “ไม่เป็ไร! ขอเพียงฮองเฮาไปจากวังหลวง ต้องมีสักวันที่เขาเห็นความดีของเปิ่นกง! เปิ่นกงจึงจะเป็ฮองเฮาที่เหมาะสมกับเขา และมีเพียงเปิ่นกงที่คู่ควรเป็ฮองเฮาของเขา!”
คำพูดนี้นางพูดกับโจวหมัวมัว แต่ดูเหมือนนางพูดกับตัวเองมากกว่า
เห็นเช่นนั้น โจวหมัวมัวยิ่งปวดใจ
เมื่อปรับอารมณ์และตั้งสติได้แล้วองค์หญิงหลานซินยืดกายเหยียดตรง อยู่ในอิริยาบถพร้อมรบ “ไป ไปพบฮองเฮา!”
องค์หญิงหลานซินเดินเข้าไปในตำหนักบรรทมภายใต้การประคับประคองของโจวหมัวมัว นางมาหยุดเบื้องหน้าฮองเฮาและยอบกายพูดด้วยท่าทีกระปลกกระเปลี้ย “หม่อมฉันถวายพระพรพี่สาวเพคะ!”
เฟิ่งเฉี่ยนกวาดตามองนางเรียบๆ และพูดเปิดฉากเข้าเื่ทันที “ได้ยินว่าเ้ามาขอขมาข้า?”
องค์หญิงหลานซินพยักหน้า “ใช่แล้วเพคะ น้องสาวมาเพื่อขอขมาพี่สาวเป็การเฉพาะ!”
เฟิ่งเฉี่ยนงงงัน เดิมทีคิดว่านางใช้ข้ออ้างขอขมาเพื่อพบหน้านาง คิดไม่ถึงว่าจะมาขอขมาจริงๆ
“ข้ารู้ว่าพี่สาวระแวงสงสัยในตัวข้า แต่ครั้งนี้น้องสาวมาขอขมาด้วยความจริงใจ!” องค์หญิงหลานซินพูด “หลายครั้งก่อนหน้านี้น้องสาวส่งมือสังหารไปตามสังหารพี่สาว ทำให้พี่สาวต้องตกอยู่ในอันตรายจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด! ตอนนี้ย้อนคิดขึ้นแล้วมาน้องสาวละอายใจอย่างยิ่ง! เคราะห์ดีที่พี่สาวเป็คนดีพระจึงคุ้มครอง สุดท้ายแคล้วคลาดรอดปลอดภัยมาได้ หาไม่แล้วน้องสาวคงต้องใช้ความตายมาลบล้างความผิดจริงๆ!”
คิ้วงามของเฟิ่งเฉี่ยนเลิกขึ้นสูง ไม่รู้ว่านางจะมาไม้ไหน นางจับจ้องมององค์หญิงหลานซิน ฟังนางพูดต่อไป
องค์หญิงหลานซินเห็นนางไม่อนาทรร้อนใจใดก็ไม่มีโทสะ นางพูดต่อไปว่า “ไม่ปิดบังพี่สาว เมื่อครั้งน้องสาวยังอยู่แคว้นหนานเยียนได้ยินว่าฮ่องเต้ของแคว้นเป่ยเยียนเป็ชายหนุ่มรูปงามมากความสามารถ ถือเป็บุรุษที่มีความโดดเด่นอันดับหนึ่งอันดับสองของแคว้นที่อยู่ภายใต้การปกครองของหลิงอวิ๋นตี้กั๋ว! ตอนนั้นน้องสาวเริ่มมีใจปฏิภัทรต่อฝ่าา ต่อมาเสด็จพี่เสนอให้มีการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองแคว้น ข้าจึงรับปากทันที ก่อนออกเดินทางได้สืบข่าวเกี่ยวกับตำหนักในทางนี้ ได้ยินว่าฮองเฮาของแคว้นเป่ยเยียนเป็สตรีหน้าอกใหญ่ไร้สมองคนหนึ่ง...”
นางหยุดไปครู่หนึ่งและลอบมองเฟิ่งเฉี่ยน “พี่สาวอย่าเพิ่งโมโห ตอนนั้น น้องสาวได้ยินคนพูดเช่นนั้นจริงๆ!”
เฟิ่งเฉี่ยนฉีกปากยิ้ม เื่นี้นางไม่สงสัย ฮองเฮาก่อนหน้านี้เป็สตรีหน้าอกใหญ่ไร้สมองจริงๆ
องค์หญิงหลานซินเห็นนางไม่มีโทสะ จึงพูดต่อ “ตอนแรกที่มาถึงวังหลวง ในใจน้องสาวไม่ยินยอมอย่างมาก อาศัยอะไรให้สตรีหน้าอกใหญ่ไร้สมองเป็ฮองเฮา ส่วนข้าที่เป็องค์หญิงกลับเป็ได้เพียงอนุ? ดังนั้น ตอนนั้นจึงไม่เคารพพี่สาว และยังเกือบจะทำร้ายพี่สาว น้องสาวละอายใจอย่างที่สุด!”
เฟิ่งเฉี่ยนแค่นหัวเราะเสียงเย็นในใจ แค่ “ไม่เคารพ” เท่านั้นหรือ? เ้าถึงขั้นจะเอาชีวิตฮองเฮา! นางไม่แสดงออกทางสีหน้าแต่รอดูว่านางจะพูดอย่างไรต่อไป
องค์หญิงหลานซินลอบสังเกตสีหน้า เฟิ่งเฉี่ยนยังคงไม่แสดงอารมณ์ั้แ่ต้นจนกระทั่งตอนนี้ นี่ทำให้นางเดาไม่ออก
แต่นี่ไม่เป็อุปสรรคในการแสดงละครของนาง นางจึงพูดอีก “ต่อมาได้พูดจาและอยู่ร่วมกับพี่สาวระยะหนึ่ง น้องสาวจึงพบว่าตัวเองผิดแล้ว! พี่สาวจึงจะเป็คนใจกว้าง ฉลาดเฉลียวเหนือคน จะเป็สรีหน้าอกใหญ่ไร้สมองเช่นที่ผู้คนกล่าวถึงได้อย่างไร?”
นางหยุดไปครู่หนึ่งแววตาทอประกายเล็กน้อย “ขอพูดสิ่งที่ออกมาจากใจจริงสักประโยค นับั้แ่เมื่อวาน หลังจากได้ประลองกับพี่สาวในตำหนักชิวหวา น้องสาวยอมรับความเฉลียวฉลาดและความสามารถของพี่สาว! นับแต่นี้ต่อไป ในใจน้องสาวไม่รู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรมอีกแล้ว! พี่สาวจึงจะเป็บุคคลที่เหมาะสมที่จะเป็ฮองเฮา และมีเพียงพี่สาวที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมที่จะนั่งตำแหน่งฮองเฮา! นับแต่นี้ หากมีใครกล้าพูดว่าพี่สาวไม่คู่ควรนั่งตำแหน่งฮองเฮา น้องสาวจะเป็คนแรกที่ก้าวออกมาฉีกปากนาง!”
เห็นการแสดงละครของนางแล้วเฟิ่งเฉี่ยนนับถือนางจริงๆ หากมิใช่เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนางแต่แรก นางอาจจะถูกสายตาเกือบจะจริงใจของนางหลอกลวงก็เป็ได้
เฟิ่งเฉี่ยนยกยิ้มและยกมือให้นางหยุดอ่านบทละครยาวเฟื้อยของนาง “องค์หญิง ที่นี่ไม่มีคนนอก เ้าไม่ต้องแสดงละครต่อหน้าข้าหรอก! พวกเราพูดจาเปิดอกกันดีกว่า วันนี้เ้ามามีเื่อะไร?”
องค์หญิงหลานซินมีสีหน้าไม่ได้รับความเป็ธรรม “ข้ารู้อยู่แล้วว่าพี่สาวไม่เชื่อข้าหรอก! แต่วันนี้ข้ามาเพราะ้าขอขมาพี่สาวด้วยความจริงใจจริงๆ!”
เฟิ่งเฉี่ยนขมวดคิ้ว โบกไม้โบกมือ “ก็ได้! เช่นนั้นข้าจะถือเสียว่าเ้ามาขอขมาแล้ว เ้ากลับไปได้แล้ว!”
เห็นนางไม่หลงกล องค์หญิงหลานซินถอนใจยาวๆ เฮือกหนึ่ง ทว่ากลับไม่มีทีท่าว่าจะจากไป นางยังคงพูดอีกว่า “พี่สาว พวกเราล้วนเป็สตรีของตำหนักใน ที่จริงแก่งแย่งชิงดีกันไปมา สุดท้ายก็ไม่มีใครเป็ผู้ชนะ! หากต้องมาต่อสู้กันทุกวัน ไม่สู้อยู่กันอย่างสงบ พี่สาวเห็นเป็อย่างไร?”
เห็นเฟิ่งเฉี่ยนไม่ตอบ นางถอนใจเสริมอีกประโยคหนึ่ง “เฮ้อ ล้วนเป็ผู้หญิง เหตุใดต้องสร้างความลำบากใจให้ผู้หญิงด้วยกันเล่า?”
สายตาคมปลาบของเฟิ่งเฉี่ยนลอบพิจารณานาง นางมาทำอะไร พูดเื่เหล่านี้จุดประสงค์เพื่ออะไร?
พูดว่านางมาขอขมา นางไม่เชื่อสักนิด!
พูดว่านางมาขอสงบศึก นางยิ่งไม่เชื่อ!
นางพูดได้เพียงว่า การกระทำหน้าไหว้หลังหลอกเช่นนี้ มิได้มาดีแน่นอน!
“องค์หญิง เ้าคิดจะพูดอะไรกันแน่? หากไม่มีเื่อื่นแล้ว เชิญกลับไปเถิด ข้าเหนื่อยแล้ว้าพักผ่อน”
“รบกวนเวลาพักผ่อนของพี่สาว ช่างน่าละอายใจจริงๆ” องค์หญิงหลานซินหัวเราะอย่างขออภัย ทว่ายังคงไม่มีทีท่าจะออกไป “พี่สาว เมื่อวานขณะที่ประลองกันข้าได้พูดไว้แล้ว ขอเพียงพี่สาวชนะข้า ข้าจะบอกสาเหตุที่ข้าแต่งมาแคว้นเป่ยเยียน และบอกความจริงเื่ที่ข้าได้รับการแต่งตั้งเป็พระชายา!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้