เมฆอันหนาทึบฟ้าที่มืดลง และเสียงกรีดร้องได้หายไปแล้ว หุบเขาที่อยู่ตรงหน้าให้ความรู้สึกที่น่ากลัวเมื่อถึงยามเที่ยงคืน อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดภายในหุบเขานั้นน่ากลัวยิ่งกว่า
ปีศาจโลหิตทั้งสาม มีดวงตาสีแดงโลหิต สวมชุดสีดำและแยกเขี้ยวอันแหลมคมขณะที่พวกมันจ้องมองเหยื่อที่อยู่ตรงหน้ามัน รูปลักษณ์ของพวกมันน่ากลัวยิ่งนัก ราวกับพวกมันเป็ปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรก
บนพื้นมีชายสองคนนอนจมกองเื พวกเขาทั้งคู่ตายอย่างอนาถ แต่ละคนมีรูเล็กๆอยู่ที่คอ แต่ไม่มีเืออกจากแผล นั่นเพราะว่าเืของพวกเขาโดนสูบจนเหือดแห้ง
"เคี้ยกเคี้ยก เืของมนุษย์นี่อร่อยดีแท้"
ปีศาจโลหิตตัวหนึ่งหัวเราะแปลกๆ เสียงของมันแหบแห้งและน่ากลัวและมันทำให้ผู้ที่ได้ยินรู้สึกสยดสยอง มันแลบลิ้นสีแดงเลียริมฝีปากและเขี้ยวของมัน ทำให้ผู้คนอดที่จะรู้สึกสั่นกลัวมิได้
สี่คนที่อยู่ตรงข้ามกับปีศาจโลหิต พวกเขามีเด็กหนุ่มสามคนและเด็กสาวอีกหนึ่งคนที่มีระดับการบ่มเพาะทั่วๆไป คนหนึ่งอยู่ที่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ขั้นต้น ส่วนอีกสองคนอยู่ขอบเขตฉีไห่ขั้นสูงสุด เด็กสาวสวมชุดสีน้ำเงิน และนางมีอายุราวๆสิบสี่ถึงสิบห้าปี นางหวาดกลัวมาก ใบหน้าของนางซีดขาวและร่างสั่นเทา
"เคี้ยกเคี้ยก...ไม่ต้องรอแล้ว! สำหรับผู้ชายทั้งสามพวกเราจะสูบเืของพวกมันซะ! สำหรับเด็กผู้หญิง นำนางไปเป็เหยื่อสังเวยโลหิตให้แก่ท่านหัวหน้า!"
ปีศาจโลหิตอีกตนหัวเราะเสียงดัง
"เสร็จกัน พวกเราจบสิ้นแล้ว!"
ทั้งสี่คนหวาดกลัวอย่างมาก ปีศาจโลหิตที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา พวกมันอยู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ทั้งหมด วิธีการของพวกมันทั้งโเี้ทั้งโหดร้าย ไม่มีทางที่พวกเขาจะจัดการพวกมันได้เลย
ปีศาจโลหิตทั้งสามมีรอยยิ้มเหี้ยมประดับอยู่บนหน้าพวกมัน ดวงตาสีแดงของพวกมันส่องประกายแวววาว พวกมันเคลื่อนตัวเข้าใกล้เหยื่อทีละก้าวทีละก้าว และขณะที่พวกมันทำเช่นนั้นพวกมันก็เลียเขี้ยวทั้งคู่ของพวกมัน ทำให้เหยื่อหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม เมื่อพวกมันเห็นเหยื่อหวาดกลัวยิ่งกว่าเก่า รอยยิ้มเหี้ยมยิ่งเผยหนักขึ้นบนหน้าของมัน ดูเหมือนว่าพวกมันไม่รีบที่จะสังหารเหยื่อ และพวกมัน้าให้เหยื่อหวาดกลัวถึงขีดสุดก่อนที่จะดื่มเืพวกเขา เพราะมันจะทำให้เืนั้นอร่อยยิ่งขึ้น
"เ้าพวกปีศาจพวกนี้มันไม่ใช่คน พวกมันทรมานอย่างเหี้ยมโหดและสังหารผู้คนในเมืองของพวกเรา! สู้ตายกับพวกมันกัน!"
ดวงตาของชายหนุ่มแก่นแท้มนุษย์เผยถึงความไม่ยอมแพ้ นี่เป็สัญชาตญาณการอยู่รอดของเขา เมืุ่์รู้ว่ากำลังจะต้องตายไม่ว่าอย่างไรก็ตาม กระทั่งในวินาทีสุดท้าย เขาก็จะพยายามจนถึงที่สุดเพื่อที่จะได้มีชีวิตต่อ
"เคี้ยกเคี้ยก...."
พวกปีศาจโลหิตเผยรอยยิ้มชั่วร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า มันอ้าปากกว้างเพื่อที่จะกัดไปยังคนที่อยู่ตรงหน้าพวกมัน ในตอนนั้นเอง...มีแสงสีทองสองสายลงมาจากท้องฟ้า
ฉัวะ! ฉัวะ!
เกิดเสียงตัดผ่านเนื้อสองครั้ง ปีศาจโลหิตทั้งสองที่ยืนอยู่ด้านหน้าเด็กหนุ่มสาวได้เืพุ่งทันที แสงสีทองทั้งสองได้ตัดร่างของพวกมันทั้งคู่ขาดครึ่ง ชิ้นเนื้อสี่ที่อาบเืได้ร่วงหล่นบนพื้น และพวกมันยังกระตุกไม่หยุด
"กรี๊ด!"
ชัดเจนว่าเด็กสาวผู้นี้ไม่เคยพบเห็นฉากนองเืมาก่อน นางหวาดกลัวอย่างมากนางกระทั่งยืนไม่ไหว นางทรุดตัวลงพร้อมร่างที่สั่นเทา นางได้เกือบเป็ลมเมื่อเห็นเพื่อนของนางถูกปีศาจโลหิตสังหาร ตอนนี้หลังจากที่ได้เห็นปีศาจโลหิตทั่งสองโดนฟันขาดครึ่ง และอวัยวะภายในของพวกมันได้กระเด็น ปลิวกลางอากาศ ส่งกลิ่นเหม็นออกมา ทำให้สาวน้อยผู้นี้ถึงกับขาอ่อนไม่สามารถลุกขึ้นได้
เด็กหนุ่มทั้งสามเองก็หน้าซีดขาวเช่นกัน พวกเขาพยายามที่จะไม่สำรอกออกมา แต่ในเวลาเดียวกันพวกเขารู้สึกปิติยินดีและมีความสุขในใจ แสงสีทองเหล่านี้ได้สังหารปีศาจโลหิตต่างปลดปล่อยพลังหยางบริสุทธิ์ออกมา และแท้จริงแล้วพวกเขาอยู่ฝั่งด้านสว่าง พวกเขาทั้งสามไม่ได้โง่ พวกเขารู้ว่ามีใครบางคนมาช่วยพวกเขา
"ใคร?"
ท่าทีของปีศาจโลหิตเปลี่ยนไป มันะโออกมาทันทีพร้อมเงยหน้า ในวินาทีต่อมามันเห็นทั้งสองได้ลงมาจากท้องฟ้ามาอยู่ต่อหน้ามัน
แม้ว่าปีศาจโลหิตจะโหดร้ายผิดมนุษย์ แต่พวกมันไม่ได้โง่ พวกมันคล้ายคลึงกับสัตว์อสูรที่มีสติปัญญา นอกจากนี้ก่อนที่จะมาเป็ปีศาจโลหิต พวกมันเคยเป็มนุษย์มาก่อน
ปีศาจโลหิตสามารถัักลิ่นอายอันแข็งกล้าจากหนึ่งคนและหนึ่งหมาที่อยู่ตรงหน้ามันได้ กลิ่นอายที่แผ่ออกมา ทำให้มันหวาดกลัวอย่างมาก หากชายหนุ่มตรงหน้ามัน้าที่จะสังหารมัน มันไม่มีแม้ความกล้าที่จะสู้กลับ
"ปีศาจโลหิตงั้นรึ? ช่างเป็การดำรงอยู่ที่น่าขยะแขยงเสียจริง"
เจียงเฉินพูดอย่างไม่แยแส คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อปีศาจโลหิต ปีศาจโลหิตนี่ดูน่าขยะแขยงยิ่งกว่าปีศาจตัวจริงเสียอีก
"เ้า เ้าเป็ใครกัน?"
ปีศาจโลหิตพูดเสียงสั่น มันไม่สามารถแสดงด้านความเหี้ยมโหดออกมาต่อหน้าเจียงเฉิน
เจียงเฉินไม่พูดสิ่งใด เขาเหลือบมองไปยังศพทั้งสองที่กลายเป็ซากมัมมี่เพราะเืทั้งร่างของพวกเขาถูกดูดไปทั้งหมด ทันใดนั้น ความกราดเกรี้ยวอย่างมากได้ปรากฎขึ้นที่ดวงตาของเขา หลังจากได้เห็นถึงความเหี้ยมโหดและโหดร้ายของปีศาจโลหิต เจียงเฉินตัดสินใจได้ว่า เขาจะสังหารสิ่งมีชิวิตที่น่าขยะแขยงพวกนี้ทุกตนและจะไม่ให้มีตัวไหนรอดได้
"หวงต้า เ้าค่อยๆทรมานมัน แต่อย่าเพิ่งสังหารมันล่ะ"
บนใบหน้าเจียงเฉินเผยถึงความโเี้ขณะที่พูด เมื่อปีศาจโลหิตใช้วิธีการอันเหี้ยมโหด เจียงเฉิน้าให้หวงต้าสอนมันถึงความเหี้ยมโหดและความโหดร้ายของจริงมันเป็เช่นไร
ตอนนั้นเองหลังจากที่เจียงเฉินพูดจบ หวงต้าได้กระโจนกดปีศาจโลหิตลงกับพื้นทันทีด้วยร่างกายอันใหญ่โตและหนักดั่งูเา
กร้อบ!
อ๊าก...........
เสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างน่ากลัวภายในหุบเขา หวงต้าได้กัดไปที่แขนข้างหนึ่งของปีศาจโลหิตและฉีกกระชากจนขาด กระดูกสีขาวได้เผยออกมา เืของมันพุ่งออกมาดั่งน้ำพุ เบ่งบานท่ามกลางคืนเดือนมืด
แววตาของหวงต้าเผยถึงความเหี้ยมโหด มันได้กัดและฉีกกระชากแขนข้างสุดท้ายของปีศาจโลหิต ปีศาจโลหิตกรีดร้องแล้วกรีดร้องเล่าขณะที่พยายามดิ้นรน แต่เทียบกับหวงต้าแล้ว มันอ่อนแอเกินไป มันไม่สามารถแม้แต่จะขยับตัวได้เมื่ออยู่ภายใต้การกดทับของหวงต้า
ฉัวะ!
หวงต้าได้ใช้กีบเท้าอันแหลมคมของมันได้ทิ้งแผลลึกทั้งสองไว้ที่อกของมัน แผลนั่นเกือบเห็นทุกอย่างที่อยู่ภายในร่างของมัน และมันน่าหวาดกลัวอย่างมาก
หวงต้าได้ปลดปล่อยความเหี้ยมโหดดั้งเดิมของมัน แสดงให้เห็นถึงความโเี้ที่ซ่อนอยู่ของสัตว์อสูร การใช้กีบเท้าที่แหลมคมของมัน มันได้ข่วนไปยังร่างของปีศาจโลหิต เพียงแค่ไม่กี่วินาที ร่างของปีศาจโลหิตขาดวิ่นอย่างรุนแรง
"ท่านย่าทวดเ้าเถอะ! เ้าชอบดื่มเือย่างนั้นสินะ? ข้าจะหักเขี้ยวเ้าซะ!"
หวงต้าก่นด่า มันอ้าปากของมันและปล่อยลูกบอลสีทองขนาดกำปั้นออกมา ลูกบอลสีทองได้เข้าปะทะกับเขี้ยวยาวทั้งสองของปีศาจโลหิตและมันได้หักในทันที เืไหลท่วมปากของปีศาจโลหิต ถึงอย่างนั้นมันไม่อาจที่จะหยุดปีศาจโลหิตไม่ให้กรีดร้องได้
อุ...พรวด.....
ชายหนุ่มทั้งสามที่รอดพ้นความตายมาได้ไม่สามารถที่จะอดทนมองฉากนองเืได้อีก และพวกเขาเริ่มที่จะสำรอกออกมา ในที่สุดเด็กสาวก็มีปฏิกิริยา ใบหน้าของนางซีดขาวเพราะนางสำรอกไปมาก ชายหนุ่มแก่นแท้มนุษย์มีอาการดีที่สุดเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ แต่ภายในรู้สึกอย่างไรไม่มีใครมองออก
"พอแล้ว อย่าเพิ่งฆ่ามัน"
เจียงเฉินพูดอย่างไร้อารมณ์ เจียงเฉินบอกหวงต้าให้หยุด แน่นอนว่าหวงต้าไม่ลืมที่จะพ่นน้ำลายใส่ปีศาจโลหิต
เจียงเฉินหันกลับไปมองยังคนทั้งสี่ และถามด้วยรอยยิ้มบาง
"พวกเ้ามาจากที่ไหนกันรึ? ปีศาจโลหิตได้ปรากฎตัวขึ้นนานหรือยัง?"
ทั้งสี่มองไปยังชายหนุ่มหล่อเหลาที่มีท่าทางสง่างาม ความหวาดกลัวของทั้งสี่ได้บรรเทาลง
"ท่านผู้มีพระคุณ พวกข้ามาจากเมืองหงหยาง ปีศาจโลหิตเหล่านี้ปรากฎตัวขึ้นเป็จำนวนมากในเขตหวงฉีั้แ่เมื่อสองวันที่ผ่านมา และพวกข้าไม่รู้ว่าพวกมันมีจำนวนมากเท่าใด ผู้คนจำนวนมากในเมืองได้ตกเป็เหยื่อของพวกมัน และพวกข้ากำลังจะไปยังเมืองหวงฉีเพื่อขอความช่วยเหลือ พวกข้าไม่คาดเลยว่าจะพบปีศาจโลหิตระหว่างทางและพวกข้าเกือบจะถูกฆ่าตายไปแล้ว ขอบพระคุณที่ช่วยชีวิตพวกข้าเอาไว้"
ชายหนุ่มพูด
"เ้ามีนามว่าอะไร?"
เจียงเฉินถาม
"ท่านผู้มีพระคุณ ข้ามีนามว่า จางเหว่ย"
ชายหนุ่มนามว่าจางเหว่ยพูด น้ำเสียงของเขาแสดงถึงความเคารพที่มีต่อเจียงเฉิน ในความคิดของเขา ชายหนุ่มผู้นี้จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ปีศาจโลหิตที่ทรงพลังกลายเป็เพียงหุ่นเชิดในกำมือของเขา และพวกมันไม่แม้จะสามารถทนได้แม้เพียงกระบวนท่า
"ข้าคือเจียงเฉินจากนิกายเซวียนอี้ เหตุที่ข้ามาที่นี่เพื่อสังหารปีศาจโลหิตเหล่านี้ ข้าจะตามเ้ากลับไปยังเมืองหงหยางและจัดการเ้าพวกปีศาจโลหิตนั่น"
เจียงเฉินอธิบายแก่จางเหว่ย เมื่อปีศาจโลหิตได้ปรากฎขึ้นมาเมื่อสองวันที่แล้ว ไม่ว่าพวกมันจะมีมากเพียงใด พวกมันไม่สามารถมีอยู่ทุกที่ในเขตหวงฉีได้ เขาตั้งใจที่จะกำจัดพวกปีศาจโลหิต โดยเริ่มจากเมืองหงหยาง ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้เมืองหงหยางตกอยู่ในอันตราย เขาไม่อาจยืนดูโดยที่ไม่ทำอะไรได้
"อะไรนะ ท่านเป็คนของนิกายเซวียนอี้?"
จางเหว่ยะโออกมาด้วยความใ เมื่ออีกสามคนได้ยินว่าเขามาจากนิกายเซวียนอี้ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความปิติยินดี และหลังจากที่พวกเขาได้ยินว่าเจียงเฉินมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือพวกเขา พวกเขายิ่งมีความสุขมากขึ้น ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองหงหยางตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่ง และเหตุที่พวกเขาออกจากเมืองเพื่อขอความช่วยเหลือจากเขตหวงฉี แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะพบกับศิษย์จากนิกายเซวียนอี้ในระหว่างทาง
ในมุมมองของพวกเขา ทุกๆคนจากนิกายเซวียนอี้จะเป็ตัวตนที่เกรียงไกร การได้รับการช่วยเหลือจากนิกายเซวียนอี้ เป็ทางเลือกที่ดีกว่าการได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลต่างๆจากเขตหวงฉี
"ท่านผู้มีพระคุณขอรับ เมื่อวานในเมืองของพวกเราได้มีเด็กสาวหายตัวไปหลายคน ก่อนหน้านี้พวกปีศาจโลหิตบอกว่าจะสังหารพวกเราก่อนและจะพาตัวเสี่ยวหลิงไปเซ่นสังเวยให้แก่ผู้นำพวกมัน ข้าคาดว่าเหล่าเด็กสาวที่หายตัวไปจะต้องกลายเป็ส่วนหนึ่งของการบูชาโลหิตเป็แน่"
จางเหว่ยดูฉลาดเฉลียวใช้ได้ เด็กสาวนามเซียวหลิงที่อยู่ข้างเขายังคงมึนงง นางยังไม่ฟื้นจากความใ
"อืม"
เจียงเฉินผงกหัว แล้วเขากางแขนออกมาแล้วกระชากปีศาจโลหิตจากนั้นเขาก็ถาม
"บอกข้ามาซะว่าการสังเวยโลหิตมันคือสิ่งใด และเหล่าเด็กสาวที่หายไปอยู่ที่ไหน หากเ้าไม่ปริปากพูด ข้าจะแร่เนื้อเ้าออกทีละชิ้นทีละชิ้น"
เจียงเฉินพูดอย่างเยือกเย็น คำพูดของเขาไม่อนุญาตให้ปฏิเสธ
"ผู้นำ! ผู้นำของพวกข้าบ่มเพาะทักษะเรียกว่าเซ่นสังเวยโลหิต และเขาต้องใช้เด็กสาวบริสุทธิ์ในพิธีสังเวยโลหิต! ตอนนี้พวกเขาอยู่ส่วนลึกของูเานี้"
ปีศาจโลหิตตนนี้ไม่กล้าที่จะปิดบังใดๆทั้งสิ้น มันรีบบอกทุกอย่างที่รู้แก่เจียงเฉินในทันที
"นำทางข้าไปซะ"
เจียงเฉินจับปีศาจโลหิตตนนั้นแล้วบินขึ้นฟ้า ก่อนที่เขาจะไป เขาหันมาแล้วบอกหวงต้า
"หวงต้า เ้าอยู่ที่นี่และปกป้องพวกเขา ข้าจะกลับมาเร็วๆนี้"
ไกลจากที่เจียงเฉินอยู่หลายร้อยลี้ มีหุบเขาที่เงียบสงบ มันมีหินก้อนใหญ่ขวางอยู่้าสุดของหุบเขา มันดูลึกลับกว่าหุบเขาที่เจียงเฉินอยู่ตอนนี้
ภายในหุบเขามีแท่นบูชาสีดำสูงหนึ่งจ้างอยู่ บนแท่นบูชามีรูปปั้นปีศาจโลหิตขนาดั์อยู่และมีควันดำออกมาจากมันอย่างต่อเนื่อง
ศูนย์กลางแท่นบูชา มีปีศาจโลหิตตนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ ทั่วร่างมันปกคลุมด้วยพลังโลหิตหนาแน่นและแผ่ออกมาดั่งใยแมงมุม ภายใต้ร่างกายของมัน มีเด็กสาวร่างสั่นเทาอยู่ ตาดำของนางหม่นแสงและไร้ชีวิตชีวา เืของนางถูกสูบออกไปทีละน้อยทีละน้อย
ด้านนอกแท่นบูชา มีปีศาจโลหิตสิบตนสวมชุดสีดำกำลังยืนอย่างเคร่งขรึม ข้างๆพวกมันมีเด็กสาวผู้อ่อนแอเจ็ดถึงแปดคน เมื่อเด็กสาวเห็นสิ่งที่เกิดที่แท่นบูชา ความหวาดกลัวในใจพวกนางถึงขีดสุด พวกนางอดไม่ได้ที่จะร้องไห้และกรีดร้องออกมา พวกนางต่างหมดหวังที่จะได้รับความช่วยเหลือ และพวกนางต่างภาวนาว่าขอให้คนถัดไปไม่ใช่ตน
