“ท่านอยากได้หรือ”
“อืม”
“ให้ท่าน”
เสิ่นเสวียนโยนเข้าไปในมิติทันทีโดยไม่ลังเล
ภายในมิติ ร่างจิติญญาของเสวียนหลิงเอ่อร์ลอยอยู่เหนือโลงศพสีดำ นางเห็นกลุ่มจิติญญาถูกส่งเข้ามาจึงแสดงพลังออกไปปกคลุมไว้แล้วดึงเข้าไปในโลงศพสีแดง
“ขอบคุณ”
หลังเข้าไปในโลงศพแล้ว เสวียนหลิงเอ่อร์กล่าวขอบคุณเสิ่นเสวียนเป็ครั้งแรก
เมื่อได้ยินคำขอบคุณ เสิ่นเสวียนจึงยิ้มมุมปากน้อยๆ
ยากมากที่จะได้ยินเสวียนหลิงเอ่อร์กล่าวขอบคุณเขาเช่นนี้
หากเขากลืนกินกลุ่มจิติญญาเมื่อครู่นี้เข้าไป จะเป็ประโยชน์ต่อระดับขั้นจิติญญาของเขามาก และยังได้หม่าเมี่ยนช่วยทำลายจิตสำนึกไปแล้วด้วย ไม่ต้องกังวลเลยว่ามันจะไม่บริสุทธิ์
แต่ในเมื่อเสวียนหลิงเอ่อร์เอ่ยปากขอแล้ว เขาจึงมอบให้อีกฝ่ายในทันที
เพราะมูลค่าของอีกฝ่ายเหนือกว่ากลุ่มจิติญญานี้มากเลยทีเดียว
“ข้าอยากรู้ว่าพลังยุทธ์ของเ้าถึงขั้นเซียนิญญานานแค่ไหนแล้ว”
เสิ่นเสวียนมองหม่าเมี่ยนอย่างพิจารณาพลางกล่าวถาม
“เกือบร้อยปีแล้ว”
“อืม ดูเหมือนเ้ากำลังติดอยู่ที่คอขวด อยากก้าวหน้าขึ้นกว่านี้อีกไหม”
ในเมื่อเสิ่นเสวียนเรียกอีกฝ่ายออกมาแล้ว ต้องมอบประโยชน์ให้อีกฝ่ายสักหน่อย ในหัวของเขาไม่มีอย่างอื่นเลย แต่มีประสบการณ์มากมายที่จะชี้แนะได้
หม่าเมี่ยนคุกเข่าลงตรงหน้าเสิ่นเสวียนทันทีที่ได้ยินดังนั้น ใบหน้าใหญ่โตของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ในที่สุด์ก็มีตา ในที่สุดท่านเซียนก็ช่วยชี้แนะให้เขาแล้ว
“ขอบคุณท่านเซียน ขอบคุณท่านเซียน”
หม่าเมี่ยนคารวะเสิ่นเสวียนด้วยความเคารพอย่างสูง
การแสดงคารวะต่อเซียนพเนจรเก้าด่านเคราะห์ไม่ใช่เื่น่าอาย ในทางกลับกันยังรู้สึกเป็เกียรติสูงสุดอีกด้วย
และโชคดีที่เซียนพเนจรเก้าด่านเคราะห์ผู้นี้กำลังเผชิญเื่บางอย่างอยู่ ไม่อย่างนั้นจะเห็นหัวเขาได้อย่างไร
เพียงแต่การกระทำของหม่าเมี่ยน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต้องมองเขาใหม่อีกครั้ง
ยิ่งคิดไปถึงที่อีกฝ่ายสังหารผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงได้อย่างง่ายดาย ยากจะจินตนาการได้ว่าเป็คนคนเดียวกัน
“ตอนที่ฝึกฝนหลังจากนี้ไป เ้าต้องโคจรไอิญญาลงไปที่ตันเถียน ดันลงไปวันละหนึ่งชุ่น สิบวันต่อมาค่อยดันขึ้น้าหนึ่งชุ่น และอีกสิบห้าวันค่อยดันลงไปใหม่ ทำซ้ำๆ ไปอย่างนี้ เ้าจะถึงขั้นเซียน์ได้ในหนึ่งปี”
เสิ่นเสวียนชี้แนะอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน แม้แต่ระยะเวลายังบอกได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
อย่าเห็นว่านี่เป็เพียงคำพูดเท่านั้น มันกลับทำให้หมาเมี่ยนรู้สึกทึ่งเป็อย่างมาก
ทั้งบอกวิธีการและคิดคำนวณเวลาได้อย่างแม่นยำ เกรงว่ามีเพียงเสิ่นเสวียนที่กล่าวเช่นนี้ได้
“ขอบคุณท่านเซียนที่ชี้แนะ ขอบคุณท่านเซียนที่ชี้แนะ”
หม่าเมี่ยนคารวะพลางกล่าวขอบคุณ
“ลุกขึ้นเถอะ ข้าไม่ชอบพิธีรีตองอะไรนี่เลย มาช่วยข้าหน่อย”
ขณะที่กล่าว เสิ่นเสวียนเหาะลงไปยืนอยู่ริมทะเลสาบ
าามารทิศเหนือยังคงก้มตัวเก็บเศษกระบี่ที่พื้นอยู่
เขารวบรวมเศษชิ้นส่วนได้เป็พันชิ้น จนมองเห็นได้ว่ากระบี่เล่มนี้เคยมีรูปร่างอย่างไร
“สองคนนี้คือสหายของข้า เ้าช่วยพวกเขาได้ไหม”
เสิ่นเสวียนชี้ไปยังเศษกระบี่เ่าั้พลางถามหม่าเมี่ยน
เมื่อได้ยินคำของเสิ่นเสวียน าามารทิศเหนือจึงหยิบเศษกระบี่เ่าั้แล้วลุกขึ้นยืน มองหม่าเมี่ยนด้วยสีหน้าคาดหวัง
แม้เขาไม่ได้สนใจการต่อสู้บนท้องฟ้า แต่ด้วยพลังระดับเขาไม่ต้องดูก็ััได้ หม่าเมี่ยนมีพลังแข็งแกร่งมาก ไม่แน่ว่าอาจมีวิธีฟื้นคืนชีพได้จริงๆ
หม่าเมี่ยนได้ผลประโยชน์จากเสิ่นเสวียนมาหมาดๆ ต้องพยายามช่วยอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว
เขาเดินเข้ามาถึงพลางมองเศษชิ้นส่วนที่พื้น ใบหน้าแสดงความลำบากใจออกมา
“ถูกทำลายจนแหลกละเอียดมากเกินไป ผ่าน่เวลาที่ดีที่สุดไปแล้วด้วย มิอาจช่วยให้ฟื้นคืนได้”
หม่าเมี่ยนกล่าวพลางส่ายหัว
“ช่วยไม่ได้...”
าามารทิศเหนือกล่าวพึมพำ เขารู้อยู่แล้วว่าทำไม่ได้แต่ก็หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์
“แต่ตัวกระบี่ยังพอไหว มีวิธีซ่อมแซมอยู่”
“ซ่อมแซมกระบี่? ได้โปรดท่านช่วยซ่อมด้วยเถิด”
าามารทิศเหนือไม่เคยก้มหัวให้ใครมาก่อน แต่กลับคุกเข่าลงตรงหน้าหม่าเมี่ยนโดยไม่ลังเลเพื่อลูกชายของเขา กระทั่งก้มหัวลงเพื่ออ้อนวอน
“ผู้าุโลุกขึ้นเถิด เขามีวิธี”
เสิ่นเสวียนเดินเข้าไปประคองาามารทิศเหนือให้ลุกขึ้นยืน
หลังจากที่ได้รู้จักาามารทิศเหนือ พบว่าเขาเป็คนดีมากคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็ครอบครัวหรือสหายก็คุ้มค่าให้ผูกมิตรด้วย
หม่าเมี่ยนใช้ฝ่ามือขนาดใหญ่ของตนเองดูดเอาเศษชิ้นส่วนทั้งหมดบนพื้นมารวมอยู่ที่เดียวกัน
จากนั้นก็ก้มตัวลงไปหยิบเอากระบี่ที่เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวขึ้นมา
“หมู่มวลมนุษย์มีความรักใคร่กันไม่มากนัก”
หม่าเมี่ยนหยิบกระบี่นั้นขึ้นมาพลางกล่าวกับตนเอง
ที่ยังสามารถรักษากระบี่ครึ่งนี้ไว้ได้ ต้องยกความดีความชอบให้ส่วนปลายกระบี่นั้น
หากไม่ใช่เพราะปลายกระบี่แบกรับพลังโจมตีส่วนใหญ่เอาไว้ จะยังเหลือกระบี่ชิ้นใหญ่ขนาดนี้ได้อีกหรือ มันคงแหลกละเอียดเป็ผุยผงไปนานแล้ว
กระบี่หักอยู่ในมือ แล้วหม่าเมี่ยนก็พ่นไอิญญาออกมาจากปากลงไปบนกระบี่หักเล่มนั้น นี่คือพลังของยมโลก สามารถปลุกจิติญญาให้ตื่นขึ้นได้
แล้วก็เป็อย่างที่คิดไว้ ทันทีที่ไอิญญาััโดนตัวกระบี่ กระบี่หักที่มืดหม่นไปแล้วกลับมีแสงเรืองรองออกมาอีกครั้ง
“พลังเช่นนี้ภายหลังอย่าใช้ให้มากนัก ไม่มีผลดีอะไรเลย”
หม่าเมี่ยนกล่าวเบาๆ จากนั้นใจกลางฝ่ามือของเขาก็มีเพลิงิญญาสีเขียวเข้มปรากฏขึ้น แผดเผากระบี่หักเล่มนั้น
ขณะที่เปลวเพลิงกำลังลุกโชน เขาโยนเศษชิ้นส่วนกระบี่เ่าั้เข้าไปในเพลิงิญญา ทำให้พวกมันค่อยๆ หลอมรวมเข้าด้วยกัน
เขากำลังซ่อมกระบี่ให้กลับมาเป็เหมือนเดิม
ผ่านไปไม่นาน กระบี่เล่มนี้ก็ค่อยๆ เป็รูปเป็ร่างขึ้นมาท่ามกลางเปลวเพลิง
แสงเรืองรองออกมาสว่างกว่าก่อนหน้านี้ และยังมีอานุภาพแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย
กระบี่หักกลับมาเป็เหมือนเดิมแล้ว
หม่าเมี่ยนสลายเพลิงิญญากลับไปพลางพยักหน้า
“ไม่เลวเลยทีเดียว ระดับการสร้างศาสตราวุธของข้าก้าวหน้าขึ้นอีกขั้นแล้ว”
หม่าเมี่ยนกล่าวกับตนเอง เขาใช้เปลวเพลิงขั้นเซียนิญญาในการสร้าง ทำให้อานุภาพของมันแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้มาก
“ท่านเซียน ข้าช่วยได้เพียงคนเดียว อีกคนหนึ่งาเ็หนักมากเกินไป ทำให้จิติญญาของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก อยู่ได้เพียงในตัวกระบี่เท่านั้น”
หม่าเมี่ยนถือกระบี่ไว้พลางกล่าวอธิบายให้เสิ่นเสวียนฟัง
“เป็คนที่อายุน้อยหรือเปล่า”
“อืม เป็เด็กคนนั้น ส่วนอีกคนหนึ่งต้องอยู่ในกระบี่เพียงอย่างเดียว”
าามารทิศเหนือค่อนข้างสับสน ไม่เข้าใจเลยว่าทั้งสองคนคุยอะไรกัน
“เฮ้อ คงทำได้เพียงเท่านี้”
เสิ่นเสวียนถอนหายใจออกมา จี๋เล่อน้อยได้กลายเป็ชื่อของเขาไปแล้วจริงๆ
เจี้ยน! ซึ่งแปลว่ากระบี่
“ออกมา”
หลังจากหม่าเมี่ยนะโเข้าไปในมิติของตัวกระบี่ พลังรุนแรงปะทุออกมา จากนั้นก็มีคนผู้หนึ่งเดินออกมาจากในนั้น
และคนผู้นี้ก็คือซูเหยียน
ซูเหยียนในตอนนี้มีสีหน้าสับสน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ที่นี่ที่ไหน เ้าเป็ใคร”
ซูเหยียนคิดว่าตนเองตายไปแล้ว และไม่มีทางฟื้นคืนมาได้อีก
“เดิมทีพวกเราควรได้เจอกันในยมโลก แต่ตอนนี้มีคนยังไม่อยากให้เ้าตายจึงได้เจอกันที่นี่”
หม่าเมี่ยนยิ้มพลางกล่าว แต่ดูจากใบหน้าของเขาแล้วทำให้ดูน่ากลัวมากกว่า
“ลูกพ่อ! เ้ายังมีชีวิตอยู่!”
าามารทิศเหนือเห็นซูเหยียนเดินออกมา น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วกลับไหลนองออกมาอีกครั้ง เขากระโจนมาตรงหน้าซูเหยียนแล้วกอดเขาไว้แน่น
น้ำตาใช่ว่าจะมีเพียงเพราะความเศร้าเสียใจ
“อย่าเพิ่งร้องไห้ อาการาเ็ของเ้ารุนแรงนัก แม้จะช่วยเ้ากลับมาได้แต่ภายหลังอาจจะฝึกฝนพลังต่อไม่ได้แล้ว เตรียมใจไว้ให้ดี” หม่าเมี่ยนทำลายภาพอันอบอุ่นระหว่างพ่อลูกไปแล้ว
“ไม่เป็ไร ขอเพียงยังมีชีวิตอยู่ ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งนั้น”
าามารทิศเหนือไม่สนใจเลย
“ไม่อาจฝึกฝนได้... เฮ้อ...”
ซูเหยียนถอนหายใจออกมา แม้จะไม่เต็มใจ แต่รอดชีวิตกลับมาได้ คงยังมีโอกาสอีกในภายหน้า
“แล้วเขาล่ะ”
ซูเหยียนถามหม่าเมี่ยน
“เขาต้องอยู่ในกระบี่ไปชั่วชีวิต เป็จิติญญากระบี่ไปแล้วกัน!”
หม่าเมี่ยนกล่าวเสียงเรียบ แม้จะบอกว่าออกมาไม่ได้ แต่อาจกลายเป็กระบี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกก็ได้
หลังจากได้ยินคำของหม่าเมี่ยน าามารทิศเหนือและซูเหยียนต่างจมดิ่งอยู่ในห้วงความคิด ซูเหยียนรู้ดีว่าจี๋เล่อน้อยต้องเป็แบบนี้เพราะช่วยตนเองไว้
“แต่พวกเ้าวางใจได้ มีข้าอยู่ด้วย หากจะออกมาในภายหน้าก็ไม่มีปัญหา”
“ลำบากเ้าแล้ว”
เสิ่นเสวียนพยักหน้าพลางกล่าวกับหม่าเมี่ยน
“ข้าขอคุยกับเขาสักหน่อยได้ไหม”
ซูเหยียนถามหม่าเมี่ยน พลางมองกระบี่ในมือของเขา
“ตอนนี้เขายังหลับใหลอยู่ กว่าจะตื่นขึ้นมาต้องใช้เวลา” ขณะที่กล่าว หม่าเมี่ยนยื่นกระบี่เล่มนั้นให้ซูเหยียน
“ผู้าุโ ขอบคุณที่ท่านช่วยชีวิตข้า”
ซูเหยียนปักกระบี่ลงไปที่พื้น แล้วเขาก็คุกเข่าลงโค้งกายคารวะด้วยความเคารพสูงสุด
“ท่านเซียน แย่ล่ะ มีคนสังเกตเห็นข้า คนผู้นี้พลังแข็งแกร่งมาก เหมือนจะมาจากโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรเช่นกัน”
หม่าเมี่ยนััได้ถึงไอพลังที่ผิดปกติ จึงกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม