หญิงสาวที่ทำตัวน่ารักเข้าไปหาไป๋ชิงและกล่าวอย่างประหลาดใจ“ไป๋ชิง เป็เธอจริงๆ ด้วย ไอ้หยา...ฉันเปลี่ยนชื่อเป็ Angelแล้ว ที่มีความหมายว่านางฟ้าเธอไม่คิดว่ามันเหมาะกับบุคลิกของฉันเหรอ”
หลังจากมั่นใจว่าเป็จูต้านิวไป๋ชิงก็เผยรอยยิ้มที่ประหลาดใจออกมา นี่คือเพื่อนร่วมชั้นของเธอเมื่อ 12 ปีก่อน และพวกเธอก็ไม่ได้เจอกันตั้ง 4 ปี
เมื่อได้เห็นเพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนมัธยมปลายโดยบังเอิญเป็ธรรมดาที่จะมีความสุขกัน
“ไป๋ชิง เธอมาช้อปปิ้งระหว่างพักเที่ยงเหรอ?” หลังจากแลกเปลี่ยนคำทักทายไม่กี่คำจูต้านิวก็เหลือบดูไป๋ชิงั้แ่บนลงล่าง เมื่อเห็นชุดทำงานและป้ายชื่อติดที่อกเธอก็ไม่ได้พยายามปกปิดน้ำเสียงที่ฟังเชิงดูถูกของตน เธอปิดปากและหัวเราะเบาๆ“ฮ่าๆ ฉันจะบอกเธอให้นะว่าร้านเพชรนี้แพงมาก...แม้ว่าเธอจะชอบทุกอย่างที่นี่แต่เธอก็ไม่มีปัญญาจะจ่ายมันหรอกนะ”
ในขณะที่พูดเธอก็หมุนตัวและโบกมือไปยังชายใส่สูทพร้อมกับพูดหวานๆ “ที่รัก มานี่สิเค้าจะแนะนำเพื่อนร่วมชั้นสมัยม.ปลายให้รู้จัก”
แน่นอนว่าเธอไม่ได้จะแนะนำไป๋ชิงหรอกเธอแค่จะอวดแฟนอย่างโจ่งแจ้ง!
ชายในชุดสูทยิ้มขณะที่เดินไปหาเมื่อเขาใกล้พอที่จะเห็นใบหน้าแสนสวยของไป๋ชิงชัดๆร่างของเขาก็สั่นเล็กน้อยและความหื่นก็แวบขึ้นในดวงตา
ทว่าเขาก็สามารถสงบสีหน้าของเขาได้เกือบจะทันทีเขายื่นมืออกไปพร้อมกับแนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีครับ ผมเฉาหยางผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เหิงเฟิงครับ”
เฉาหยางกระตือรือร้นที่จะจับมือขาวและละเอียดอ่อนของไป๋ชิง
“ไอ๊โย เค้าบอกแล้วไงว่าหล่อนเป็เพื่อนสมัยเรียนไม่ต้องทางการมากนักก็ได้” ก่อนที่ไป๋ชิงจะจับมือ จูต้านิวก็รีบมาขวางระหว่างกันเธอมองไป๋ชิงอย่างวางท่าและกล่าว “ที่รัก เพื่อนร่วมชั้นที่แสนสวยของเค้าสอบเข้ามหาลัยเว่ยเฉิงได้ที่หนึ่งตอนนั้นเธอเป็ที่นิยมในโรงเรียนมากเลย แต่ก็อย่างว่าล่ะนะหาผู้หญิงที่ทำตัวดีจะดีกว่าได้คะแนนดีนะ ใช่ไหมที่รัก?”
หาผู้หญิงที่ทำตัวดีจะดีกว่าคะแนนดีนะ!
ประโยคนี้แทงใจดำไป๋ชิงราวกับเข็มพิษใบหน้าของเธอคล้ำลงและดวงตาก็เริ่มหม่นหมอง ความทรงจำอันแสนเ็ปไหลทะลักเข้ามา
ตอนมัธยมปลายผลสอบของไป๋ชิงยอดเยี่ยมมากทุกวิชา และดูเหมือนว่ากำลังจะไปมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดหางานดีๆ ทำและแต่งงานกับผู้ชายดีๆ แค่นั้นก็สบายแล้วทว่าคืนที่เธอได้รับผลการสอบเข้ากลับเป็คืนวันที่เปลี่ยนชีวิตของเธอ
เพราะแบบนั้นเธอจึงยอมแพ้ที่จะเข้ามหาวิทยาลัยและเริ่มทำงานในฐานะพนักงานโรงแรม เธอไต่เต้าขึ้นมาทีละขั้นๆจนได้กลายมาเป็ผู้จัดการโรงแรมหวงเจีย
ทว่านี่เป็แค่จุดเริ่มต้นของการแก้แค้น...
“คุณจูต้านิว คุณเฉาหยาง สวัสดีครับ ผมเป็แฟนของไป๋ชิง อาเฟิง”
ฉินเฟิงมองจากด้านข้างและเห็นว่าจูต้านิวมาเพื่อวางท่าและดูถูกไป๋ชิง
อย่างไรก็ตามฉินเฟิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้เมื่อได้ยินแฟนของจูต้านิวแนะนำตัวเอง
“โอ๊ยโย ใครกันเนี่ย น่ารำคาญจริง...! ฉันบอกแล้วไงว่าฉันชื่อ Angelที่แปลว่านางฟ้าน่ะ อย่าเรียกชื่ออื่นนะ เข้าใจไหม?” จูต้านิวจ้องฉินเฟิงอย่างเกลียดชังแล้วพูดอย่างหยิ่งยโส “เฮอะๆนายเป็แฟนของไป๋ชิงเหรอ? นายดูค่อนข้างธรรมดานะไม่ได้ดูร่ำรวยอะไรเลย นายต้องเป็เพลย์บอยที่คอยเกาะไป๋ชิงกินไปวันๆ แน่เลยใช่ไหม?ใครจะคิดล่ะ ไป๋ชิง เธอนี่มันวัวแก่กินหญ้าอ่อนจริงๆ!”
แรกๆจูต้านิวก็ดูดีอยู่หรอก แต่ฝีปากของเธอนี่อย่างกับผีเจาะปากมาพูดทำให้ดูหยิ่งยโสจองหอง
เธออยู่หอเดียวกันกับไป๋ชิงสามปีตอนเรียนมัธยมปลายเกรดเธอไม่ได้ดีเหมือนไป๋ชิง หน้าตาก็ไม่ได้ดูดีเหมือนเธอด้วย เธอถูกบดบังโดยออร่าของไป๋ชิงเธอจึงไม่พอใจไป๋ชิงจากก้นบึ้งของหัวใจ
ตอนนี้เมื่อเห็นความแตกต่างระหว่างพวกเธอเธอจึงรู้สึกยินดีปรีดาและอยากจะวางท่าอย่างหยาบคาย
“คุณไป๋ชิง ถ้าคุณไม่มีความสุขกับบริษัทของคุณเรากลุ่มอสังหาริมทรัพย์เหิงเฟิงยินดีต้อนรับคุณตลอดเวลา เพียงแค่คุณเอ่ยปากคำเดียวผมการันตีได้เลยว่าคุณจะได้รับเงินมากกว่าที่คุณทำอยู่สองเท่าแน่นอน”
เฉาหยางทำเหมือนกับว่ามองไม่เห็นฉินเฟิงและเมินการแนะนำตัวของเขาเขาจ้องลงไปยังร่างของไป๋ชิงอย่างโจ่งแจ้งและไม่หลบสายตาสักนิดเขาถึงขนาดเริ่มจีบเธอ
สาวงามหยดย้อยเช่นนี้ถือเป็ของหายากแม้แต่กับเมืองเว่ยเฉิงเฉาหยางยังเกือบจะโดนขโมยไปทั้งิญญา
ใบหน้าของจูต้านิวหงิกงอลงด้วยความโกรธเมื่อเห็นสายตาของแฟนเธอที่จับจ้องไปที่ไป๋ชิง“โอ๊ยโย คนจองหองอย่างไป๋ชิงจะยอมรับทานจากคนอื่นเหรอ? ที่รัก อย่าเอะอะไปเลย ไม่งั้นเราจะถูกเข้าใจผิดหาว่าดูถูกเธอเหมือนกับให้เงินขอทานเอานะ”
ใบหน้าของไป๋ชิงซีดเล็กน้อยก่อนหน้านี้เธอดูค่อนข้างมีความสุขที่ได้เจอเพื่อนเก่าแต่เธอไม่คิดว่าเธอจะกลายเป็คนที่หยาบคายขนาดนี้ เธอกำลังจะบอกฉินเฟิงให้ออกแต่ก็เห็นเขาเดินไปหาเฉาหยางพร้อมกับใบหน้าที่ดูใ
“โอ้ ผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เหิงเฟิงไม่ใช่เหรอ? ฉันได้ยินมาว่ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์เหิงเฟิงเป็ของหวงเจียกรุ๊ปนี่ไม่น่าเชื่อเลย!”
คำชมของฉินเฟิงทำให้ไป๋ชิงขมวดคิ้ว
มีคนไม่มากนักที่รู้จักอสังหาริมทรัพย์เหิงเฟิงแต่ไม่มีใครที่ไม่รู้จักหวงเจียกรุ๊ป เนื่องจากประธานคือฉินหวงคนที่รวยที่สุดในเมืองเว่ยเฉิง
และตอนนี้เขามีแค่ลูกชายคนเดียวที่กำลังยืนอยู่ข้างๆเธอ ไป๋ชิงจึงยิ้มประชดอย่างช่วยไม่ได้
จูต้านิวค่อนข้างยินดีเมื่อเห็นสีหน้า‘ใ’ ของฉินเฟิงและภูมิใจจนเกือบจะบิน เธอมองไปที่ฉินเฟิงอย่างดูถูกและกล่าว“ฮึ่ม ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะโม้หรืออะไรนะแต่ที่รักของฉันก็ค่อนข้างจะเป็บุคคลสำคัญของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เหิงเฟิงมีพนักงานเกือบพันคนที่เขาดูแลและการจ้างงานก็ถูกเขาดูแลจัดการด้วยเฮ้อ...สำหรับพวกชนชั้นล่างอย่างนายคงไม่เข้าใจหรอก ลืมๆ ไปซะเถอะนะ”
อ่ะแฮ่ม!
ฉินเฟิงยิ้มอย่างเ็า“เขาก็เป็แค่ผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เหิงเฟิงแต่มีอำนาจขนาดนั้นเลยเหรอ? เธอนี่โม้ไปป่าว?”
“โม้? ไอ้เวร แกคิดว่าฉันโม้งั้นเหรอ?” จูต้านิวโกรธทันที จู่ๆ สาวสวยก็กลายเป็เสือโมโห
ดูเหมือนว่านิสัยน่ารักขี้อ้อนของเธอจะมีไว้แค่โชว์ขนาดฉินเฟิงเองยังรู้สึกเหนื่อยเมื่อคิดว่าทั้งหมดนั้นเธอแค่แกล้งทำ
“ฮึ่ม แม้ว่าฉันจะบอกนายก็คงไม่เชื่อพวกคนชั้นล่างอย่างนายมันถูกลิขิตให้จนตลอดกาลไม่มีวันได้ขึ้นมาจากสังคมชั้นต่ำอยู่แล้วที่รัก ไปเลือกเครื่องเพชรกันเถอะ อย่าเสียเวลากับคนพวกนี้เลย”
คนชั้นล่าง? นี่เป็ครั้งแรกที่ไป๋ชิงได้ยินคนอื่นเรียกฉินเฟิงว่า ‘คนชั้นล่าง’เธอรู้สึกว่าสถานการณ์นี้น่าสนใจมากขึ้นทันที
“ที่ Angel พูดก็จริงแต่การเป็ท็อปของบริษัทมันก็ใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยล่ะนะ”เฉาหยางไม่มีท่าทีสุดโต่งเหมือนจูต้านิว เขาส่งนามบัตรให้ไป๋ชิงและยิ้ม“นี่เป็นามบัตรผม ถ้าคุณไป๋ชิง้าอะไรก็บอก ผมว่างทุกเวลา”
ทั้งสองหันหลังและเดินไปทางเคาน์เตอร์ก่อนที่พวกเขาจะเดินไปไกลเหราเสวี่ยฉิงก็กลับมาพร้อมกับกล่องสุดแฟนซีและรอยยิ้มกว้างเพื่อเอาความดีความชอบ“นายน้อยฉินคะ ขอประทานอภัยที่ทำให้รอค่ะ นี่เป็สร้อยคอเส้นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเข้ามาเมื่อวานเชิญดูก่อนนะคะว่าถูกใจหรือเปล่า” เธอเสนอ
ก่อนที่ฉินเฟิงจะกล่าวจูต้านิวที่ยังไม่ได้เดินไปไกลก็ร้องออกมาขณะที่ป้องปากและวิ่งมาหาสายตาของเธอจ้องไปที่สร้อยคอเปล่งประกายที่อยู่ในกล่องและตื่นเต้นสุดขีด
“ที่รัก ดูสิคะ นี่แหละอันที่ฉันบอกคุณมันเป็สร้อยเพชรห้ากะรัตชิ้นใหม่ล่าสุดที่ออกแบบโดย Victoire deCastellane ทั้งสวยและประณีตคุณบอกว่าคุณจะซื้อให้เค้างั้นคุณต้องซื้อให้เค้า!”
เหราเสวี่ยฉิงมองจูต้านิวอย่างถ่อมตัวสงสัยว่าคนแปลกหน้านี่มาจากไหน ทำตัวอย่างกับไม่เคยเห็นเครื่องเพชรมาก่อนเธอกรีดร้องอย่างกับถึงจุดสุดยอด แต่ในเมื่อฉินเฟิงไม่ได้ว่าอะไร เหราเสวี่ยฉิงจึงไม่ได้พูดอะไร
เฉาหยางเดินมาอย่างสง่างามแต่เมื่อเขาเห็นป้ายราคาบนกล่อง ใจของเขาก็สั่นสะท้าน สร้อยเพชรเส้นนี้ราคา 890,000หยวน
เขามองไปที่แสงเปล่งประกายบนั์ตาของไป๋ชิงและตัดสินใจ
ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้ก็เหมือนกันที่ชนะได้ด้วยเงินใช้เงินไม่กี่แสนหยวนเพื่อได้ผู้หญิงแบบนี้มาขึ้นเตียงก็นับว่าคุ้มค่า
“สร้อยคอเส้นนี้ค่อนข้างดี ถ้าที่รักอยากได้ผมจะซื้อให้ผมไม่เคยมองดูราคาเวลาซื้อของให้ผู้หญิงของผมอยู่แล้ว”เฉาหยางมองไปที่ไป๋ชิงตอนที่เขาพูดเขามั่นใจว่าไป๋ชิงคงจะเข้าใจความหมายที่แอบแฝงของเขา
ฉินเฟิงเมินคำพูดของเฉาหยางและสายตาที่จ้องไปที่คอขาวเนียนของไป๋ชิงถ้าเธอใส่สร้อยคอเส้นนี้มันต้องเหมาะอย่างมากแน่ๆ
“ชิงชิง เธอชอบมันเหรอ? ถ้าเธอชอบมันฉันจะซื้อให้เธอเอง”ฉินเฟิงกล่าวอย่างนุ่มนวล
ไป๋ชิงค่อนข้างประหลาดใจแต่ก็รีบใจเย็นลงอย่างรวดเร็วเธอมองไปที่ฉินเฟิงด้วยสีหน้าซับซ้อนก่อนจะส่ายหัวและกล่าว “ฉันเหนื่อยนิดหน่อยกลับกันเถอะ”
“ฮึ่ม! ถ้าไม่มีตังก็อย่ามาทำตัวเป็นายน้อยผู้ร่ำรวย จะกลับเหรอ? ข้ออ้างมากกว่ามั้ง!”จูต้านิวมั่นใจว่าฉินเฟิงไม่มีปัญญาจ่ายสร้อยคอเส้นแพงเส้นนี้และน้ำเสียงของเธอก็ฟังดูเยาะเย้ย
“นี่เธอ จองสร้อยคอเส้นนี้ให้ฉันหน่อยและเธอก็ไม่ควรจะให้ใครก็ได้เข้ามาเดินเล่นในร้านนี้นะถ้าเกิดเพชรราคาแพงหายไปละก็ เงินเดือนทั้งเดือนของเธอยังไม่พอจ่ายเลย”
เมื่อเธอเห็นมารยาทอวดดีของจูต้านิวเหราเสวี่ยฉิงก็รู้สึกอยากจะหวดเธอสักดอก เธอจ้องจูต้านิวและตอบ “ขอประทานอภัยค่ะคุณผู้หญิงแต่เราไม่ขายสร้อยเส้นนี้แก่คุณ เรามีแผนจะให้แก่คุณผู้หญิงตรงนั้นเป็ของขวัญเพราะว่ามันคงจะดูดีกว่าคุณสักสิบเท่าได้”
“เธอว่าอะไรนะ?” จูต้านิวตะลึงเธอคิดว่าหูของเธอผิดปกติและจ้องไปที่เหราเสวี่ยฉิงพร้อมกับั์ตาเบิกกว้างด้วยความใหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ร้องเสียงสูง “กรี๊ด แกพูดว่าอะไรนะนางผู้หญิงขายตัว?ฉันคือลูกค้า VIP และอยากจะให้แกคุกเข่าขอโทษตอนนี้ซะไม่งั้นฉันจะเรียกผู้จัดการมาให้แกชดใช้กับการกระทำของแก”
จูต้านิวดูเหมือนกับแม่ค้าตลาดนัดที่ก่นด่าทั้งตลาดเธอเป็จุดสนใจกับลูกค้าทุกคนที่มา