บนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลสาบ มีต้นไม้ั์สูงตระหง่านค้ำฟ้า
สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังหนิงเทียนและเหลียนจิ้น พร้อมให้ความสนใจกับการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่าย
“เด็กนั่นบ้าไปแล้วหรือ? เขากล้ายั่วยุเหลียนจิ้นได้อย่างไร?” ศิษย์คนหนึ่งไม่ทราบความแข็งแกร่งของหนิงเทียนและคิดว่าเขากำลังจะตาย
“หาก์อยากให้คนตาย ก็ต้องทำให้ผู้นั้นเป็บ้าเสียก่อน” คนอื่นๆ ที่อยู่ไกลออกไปอีกหน่อยต่างก็ไม่มองหนิงเทียนในแง่ดีเช่นกัน
ฉินเสี่ยวเยวี่ยแสดงสีหน้ายินดีอยู่ข้างสมรภูมิ ในใจของนางคิดเพียงว่า “ขอให้เ้าตาย ขอให้เ้ากลายเป็บ้า ส่วนข้าจะดูเ้าแดดิ้น”
ใบหน้าของเสิ่นซินจู๋และเฉินจี๋เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและความตึงเครียด เหลียนจิ้นอยู่ในขอบเขตผนึกดาราขั้นแรก เขาสามารถกดข่มขอบเขตจิตหยั่งลึกได้ด้วยนิ้วเดียว เช่นนี้เราจะสู้ศึกครานี้ได้อย่างไร?
หูเถี่ยซินและสหายร่วมสำนักที่ได้รับาเ็ต่างคำรามโดยพร้อมเพรียงกัน ในใจนึกหวังว่าพวกตนจะแปลงกายเป็เหลียนจิ้น แล้วกระหน่ำฟันร่างหนิงเทียนออกเป็ชิ้นๆ ด้วยกระบี่นับพันเล่ม
ขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นสองกล้ายั่วยุขอบเขตผนึกดารา เพียงคิดก็ทำให้คนคลุ้มคลั่งแล้ว
เื่นี้ช่างเหลือเชื่อนัก ทว่ามันเกิดขึ้นแล้วในวันนี้
ดวงตาของหนิงเทียนในชุดขาดรุ่งริ่งแหลมคมราวใบมีด สีหน้าเด็ดเดี่ยวของเขาแสดงให้เห็นถึงความดื้อรั้น เืในอกกำลังลุกไหม้
บงกชสีมรกตพลิ้วไหว ต้นไม้แห้งเหี่ยวเป็ดั่งตอไม้ตามติด สายวาโยยังคงคำราม แต่เขากลับยืนหยัดอย่างมั่นคง
เหลียนจิ้นเผยท่าทางหยิ่งผยองออกมาอย่างท่วมท้น รากบ่มเพาะในร่างปล่อยพลังยับยั้งอันแข็งแกร่ง เงาต้นไม้ข้างกายหนักหน่วงจนแทบฉีกกระชากพื้นปฐี
พลังิญญาพลุ่งพล่านภายในสมรภูมิ ต้นไม้ใหญ่ทะยานขึ้น และมีใบหน้าของเหลียนจิ้นโผล่ออกมาจากใบไม้ทุกใบ พร้อมส่งแววตาเ็าและโหดร้ายจนทำให้หนังศีรษะของผู้คนเหน็บชา
นี่คือการประยุกต์ใช้รากบ่มเพาะ ซึ่งสามารถบดขยี้และทำลายการป้องกันทางจิตใจของคู่ต่อสู้ระดับต่ำได้โดยไร้การนองเื
เหลียนจิ้นช่างบ้าระห่ำ ในฐานะอันดับหนึ่งในบรรดาศิษย์ห้าร้อยคนของสำนักั์พฤกษา เขาอยากบดขยี้หนิงเทียนให้แหลกลาญเพื่อย้ำเตือนทุกคนบนเกาะว่าการยั่วยุเขาจะนำไปสู่จุดจบอันเลวร้าย
ท่าทางของหนิงเทียนค่อนข้างเคร่งขรึม จิติญญาการต่อสู้ของเขาบ้าคลั่ง กายาสุวรรณะนิรันดร์เริ่มเคลื่อนไหว ไม่สนแม้พื้นพสุธาจะะเืจนสั่นคลอนภูผา เขายังคงปลดปล่อยปราณกระบี่ทะยานสู่ท้องนภาดุจหินทระนงที่ไม่รู้สึกยินดียินร้าย
เหลียนจิ้นเริ่มหงุดหงิด เขาคิดว่าหนิงเทียนจะหวาดกลัวเสียอีก ไม่นึกว่าหนิงเทียนจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
“จิตใจช่างเข้มแข็ง แต่น่าเสียดายที่ระดับต่ำเกินไปและเ้าถูกลิขิตให้ตายในเงื้อมมือข้าแล้ว!” เหลียนจิ้นก้าวไปข้างหน้า เงาต้นไม้เคลื่อนไหว พลังอันน่าพรั่นพรึงทะลุผ่านพื้นดินและม้วนตัวเป็คลื่นทรายขนาดใหญ่ รากจำนวนนับไม่ถ้วนราวปราณกระบี่ที่บีบรัดและโอบล้อมร่างหนิงเทียน
เงาต้นไม้มายากำลังรวบรวมพลังิญญา มันยิ่งใหญ่เสียจนสามารถทลายภูผาแยกพื้นปฐี โคลนและทรายเปรียบเหมือนอาวุธลับ รากไม้ไม่ต่างจากมีดและหอก สถานการณ์ที่ท่วมท้นนี้ยากต่อการหลบหนี
“ศิษย์พี่เหลียนช่างทรงพลัง สมแล้วที่เป็จอมอหังการ!”
“ด้วยระดับของศิษย์พี่ เขาต้องสังหารเด็กนั่นได้ในไม่กี่กระบวนท่าเป็แน่!”
ลูกศิษย์ของสำนักั์พฤกษาโห่ร้องอย่างตื่นเต้น พร้อมให้กำลังใจเหลียนจิ้นด้วยเสียงกึกก้อง ส่วนเสิ่นซินจู๋และศิษย์สำนักร้อยบุปผาต่างก็กังวลว่าหนิงเทียนจะไม่สามารถรับการเคลื่อนไหวนี้ได้
ท่ามกลางสายลมโหมกระหน่ำ ทันใดนั้นหนิงเทียนซึ่งมีใบหน้าเ็าราวน้ำแข็งก็เริ่มเคลื่อนไหว
ร่างกายของเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีทอง พร้อมปล่อยหมัดพุ่งชนคลื่นต้นไม้ใหญ่ดังตะวันทอแสงอร่าม
“สู้สุดใจหรือ? ไอ้หนู เ้ากำลังแกว่งเท้าหาเสี้ยน!” เหลียนจิ้นขู่ขวัญก่อนจะะเิพลังจากฝ่ามือขวา พลังฝ่ามือนี้มีอานุภาพรุนแรงทำลายล้างทุกสิ่ง ทั้งยังก่อให้ธารวาโยเกิดความปั่นป่วน
เงาต้นไม้แตกกระจายพร้อมเสียงดังกึกก้อง คลื่นลูกั์ถล่มโจมตี
กำปั้นทองคำฟาดเหนือสายลม ร่างกายของหนิงเทียนเริ่มตึงเครียด แขนเสื้อถูกฉีกออกเป็ชิ้นๆ ก่อนจะล่าถอยไปกว่าสามจั้ง
เหลียนจิ้นร้องอุทานด้วยความประหลาดใจ เขารู้สึกชาที่แขนขวา ความโกรธแค้นแฝงเจตนาฆ่าเผยขึ้นในใจอย่างกะทันหัน เด็กคนนี้เปี่ยมไปด้วยพลังอันน่าขนลุก คนเช่นนี้ควรกำจัดโดยเร็วที่สุด!
เหลียนจิ้นขยับปลายเท้าแล้วเตะออกไปด้วยพลังล้นหลาม กระชากห้วงอากาศจนเกิดเสียงหวีดรุนแรง
เงาต้นไม้ทับซ้อนผสานร่างกลายเป็หอกที่ไม่อาจทำลายได้ มันกระชากห้วงอากาศขาดสะบั้นพร้อมเสียงหวีดหวิว พร้อมเล็งไปยังตำแหน่งหัวใจของหนิงเทียน
หนิงเทียนงอแขนและบิดข้อมือกวัดแกว่งกระบี่ใบพฤกษาขจี ปราณกระบี่เจาะทะลุอากาศอย่างรุนแรงจนน่าใ ทั้งยังบดขยี้เงาหอกมายาของเหลียนจิ้นจนต้องยอมล่าถอย
เกราะต้นไม้บนร่างของเหลียนจิ้นมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง ทว่ามันครอบคลุมเฉพาะส่วนสำคัญเท่านั้น ซึ่งข้อต่อของมือและเท้าล้วนไม่อาจทนต่อปราณกระบี่ได้
หลังจากบีบคั้นเหลียนจิ้นจนต้องถอยกลับ กระดูกทั่วร่างของหนิงเทียนก็ปะทุขึ้น เขาเริ่มใช้วิชาทะลวงพันชั้น และการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องก็ทำให้เกิดการโจมตีตลอดเวลา
ความดุร้ายของหนิงเทียนช่างน่าอัศจรรย์ โลหิตเดือดดาลผสานด้วยแสงสีทอง ปลดปล่อยพลังไร้ที่สิ้นสุดราวกับมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่
“ช่างเป็เด็กที่ดุร้ายเหลือเกิน นี่คือพลังของจื๋อซิวจริงหรือ? เหตุใดข้าถึงคิดว่าเหมือนหยวนซิวเล่า?”
“พลังแข็งแกร่งยิ่งนัก รุนแรงยิ่งกว่าหยวนซิวที่ปลุกพลังสายเืเสียอีก เพียงแต่ว่าขอบเขตยังต่ำเกินไป”
ศิษย์ของสำนักเชียนเฉ่าและสำนักทะยานเวหาล้วนประหลาดใจอย่างยิ่ง
ทางด้านศิษย์สำนักร้อยบุปผาต่างก็กู่ร้องขานนามหนิงเทียนเพื่อเป็กำลังใจให้เขา
เหลียนจิ้นไม่พอใจอย่างยิ่งและกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “กล้าต่อต้านข้าเช่นนี้เ้าอยากรนหาที่ตายหรือ?”
เหลียนจิ้นเริ่มใช้ทักษะของขอบเขตผนึกดาราพร้อมเสียงคำราม มือโอบรอบเงาต้นไม้ ิัค่อยๆ แข็งตัวเช่นเดียวกับเปลือกลำต้นที่แข็งแรงและยากต่อการทำลาย
เส้นลมปราณทั้งเก้าสั่นะเื พลังิญญากลายเป็คลื่นพลัง ทุกการโจมตีกระทบหมัดของหนิงเทียนอย่างรุนแรงและไม่อาจหยุดยั้ง
พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!
ร่างของหนิงเทียนสั่นเทาและถอยไปหลายจั้งติดต่อกัน แขนเสื้อทั้งสองข้างไม่เหลือชิ้นดี เส้นสีทองบนิัส่งเสียงแตกร้าวเมื่อถูกกระแทก
เหลียนจิ้นทั้งทรงพลัง ดุร้าย และน่าสะพรึงกลัวไม่ต่างจากเขาไท่ซาน เขาทุบตีหนิงเทียนจนอีกฝ่ายต้องถอยร่นไปทีละก้าว ศิษย์ของสำนักั์พฤกษาก็เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
“เ้ายังเด็กเกินไปที่จะสู้กับข้า!” เหลียนจิ้นคำรามอย่างดุดัน ความเดือดดาลกลืนภูผาธาราท่วมท้นไปทุกสารทิศ แสดงให้เห็นถึงความอหังการ
เมื่อเห็นเช่นนี้ เสิ่นซินจู๋และเฉินจี๋ก็เป็กังวลอย่างยิ่ง ทั้งสองคนแทบรอไม่ไหวที่จะอุทิศทุกอย่างในชีวิตให้กับหนิงเทียน
ส่วนฉินเสี่ยวเยวี่ยก็แสดงท่าทีเยาะเย้ย ไม่ใช่ว่าเ้าหนิงเทียนนั่นบ้าคลั่งไปแล้วหรือ? เหตุใดถึงถอยกลับครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนี้? จะไม่อับอายดั่งสุนัขหรือ?
“ฆ่ามัน! ฆ่ามันเลย!”
ดวงตาของหูเถี่ยซินเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความตื่นเต้น
“เ้าเด็กหน้าเหม็น วันนี้เ้าไม่รอดแน่!”
ขณะต่อสู้ เหลียนจิ้นคลุ้มคลั่งมากขึ้นเรื่อยๆ ต้นไม้ใหญ่ที่ปรากฏอยู่เื้ัคือภาพมายารากบ่มเพาะของเขา หากเขาบรรลุเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่านได้ มันจะสามารถสำแดงทางกายภาพได้ด้วย
แม้ยามนี้มันจะเป็เพียงเงามายา แต่ความเร็วในการกลืนพลังิญญานั้นก็ช่างน่าทึ่ง
ลมโหมพัดรอบต้นไม้ใหญ่ พลังที่ไม่อาจต้านทานคือลักษณะพื้นฐานของขอบเขตผนึกดารา
ใบหน้าของหนิงเทียนดูจริงจังและสงบนิ่ง แม้เขาจะถูกทุบตีจนต้องล่าถอย ทว่าเขากลับไม่ตื่นตระหนกเลย
หนิงเทียนไม่กลัวเหลียนจิ้นที่ใช้ความเหนือกว่ามาปราบปรามตนเองเลยสักนิด เขาแค่ยังไม่ชินและ้าเวลาปรับตัวเล็กน้อย
ในตำราพิชัยามีคำกล่าวว่า ลั่นกลองคราแรกปลุกใจให้ฮึกเหิม คราต่อมาความฮึกเหิมกลับถดถอย คราสามนั้นกลืนความฮึกเหิมมลายสิ้น[1]
พลังของเหลียนจิ้นในยามนี้ไม่อาจหยุดยั้ง หนิงเทียนจึงพยายามปกป้องตนเองอย่างเต็มกำลัง ซึ่งเมื่อผ่านไปร้อยกระบวนท่า การโจมตีที่รุนแรงอย่างต่อเนื่องของเหลียนจิ้นก็อ่อนกำลังลง และหนิงเทียนก็เริ่มโต้กลับ
“หลงเงาตัดผกาทะลวงพันชั้น!” เสียงคำรามสั่นะเืไปทุกทิศทาง หนิงเทียนอาละวาดราวลิงคลั่ง หมัดทองคำเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง ทักษะยุทธศาสตร์ครอง์รวมกับกายาสุวรรณะนิรันดร์ระดับสาม ส่งพลังหมัดที่หนักกว่าแปดหมื่นจินซึ่งสามารถถล่มได้แม้กระทั่งเขาไท่ซาน เช่นนี้ยังจะมีผู้ใดหยุดยั้งเขาได้อีก?
“จงไสหัวไป!” เหลียนจิ้นะโลั่น เมื่อฝ่ามือซึ่งเปี่ยมด้วยพลังดุร้ายและรุนแรงราวคมมีดกระทบใส่หมัดของหนิงเทียน ก็เกิดความรู้สึกราวต่อยกระแทกศิลาแกร่งจนเกิดเสียงดังกราว
ชั่วพริบตาต่อมา พลังอันรุนแรงก็กดลงราวพลังแห่งภูผาใหญ่ั์ ส่งผลให้ร่างของเหลียนจิ้นสั่นเทา ฝ่ามือแตกร้าว และแขนกำลังจะหักลง
“อ๊าก!” เสียงร้องที่ดังสนั่นทำให้ทุกคนใ
เหลียนจิ้นพุ่งตัวไปด้านหลัง โลหิตหยดลงจากมือขวา ฝ่ามือถูกพลังอันน่าพรั่นพรึงทะลุทะลวงเผยให้เห็นหลุมโลหิต ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเ็ป ก่อนจะคำรามอย่างดุร้าย
“ตายเสียเถิด!” เสียงเ็าของหนิงเทียนราวมีดคมกริบที่แทงทะลุหัวใจของทุกคน หมัดสีทองพันรอบประกายคมมีดที่กำลังเบ่งบาน มวลอากาศปั่นป่วน เืลมพลุ่งพล่านราวมหาสมุทรเดือด ซึ่งมีพลังเหลือล้นจนทำให้เกิดความรู้สึกสิ้นหวัง
กายาสุวรรณะนิรันดร์ระดับสามแข็งแกร่งพอที่จะกระชากูเา ทั้งยังเป็ะดั่งเหล็กกล้า เมื่อรวมกับทะลวงพันชั้น พลังหมัดที่ซ้อนทับนั้นก็ทรงอำนาจทำลายล้างอย่างไม่อาจหยุดยั้ง
เหลียนจิ้นคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว ก่อนจะขยับร่างใช้วิชาลูกเตะต่อเนื่อง ต้นไม้เก้าต้นข้างกายพันรอบฝ่าเท้า รากมายาราวกองทัพทหารที่เกี่ยวพันคอยให้ความช่วยเหลือ
การพลิกกลับของสถานการณ์อย่างกะทันหันนี้ทำให้เสิ่นซินจู๋และเฉินจี๋ตื่นเต้นมากและโห่ร้องอย่างยินดี
ในขณะที่ท่าทีของฉินเสี่ยวเยวี่ยกลายเป็แข็งทื่อ และดวงตาเบิกกว้างด้วยความใ นางรับไม่ได้จริงๆ
“ไม่! เป็ไปไม่ได้ ศิษย์พี่เหลียนรีบฆ่ามันเร็วเข้า!” เมื่อเห็นหนิงเทียนทำร้ายเหลียนจิ้น หูเถี่ยซินก็กรีดร้องอย่างคลุ้มคลั่ง เขาแทบจะกลายเป็บ้าอยู่แล้ว
เหล่าศิษย์สำนักั์พฤกษาและคนอื่นๆ ที่เฝ้าดูการต่อสู้ต่างก็นึกกลัว มดตัวน้อยในขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นสองสามารถทำร้ายขอบเขตผนึกดาราขั้นแรกจนาเ็สาหัส ช่างน่าเหลือเชื่อ!
เส้นลมปราณของหนิงเทียนสั่นะเื กล้ามเนื้อและกระดูกส่งเสียงแตกร้าว พลังดั่งเสือห้าวัหาญลอยเหนือแขน พืชพรรณเหนือขาสะพรั่งบาน บงกชสีมรกตแกว่งไกวกลืนกินพลังรอบทิศทาง และต้นไม้แห้งเหี่ยวก็หยั่งรากยากที่จะทำลาย
หนึ่งเสริมการโจมตี หนึ่งเสริมการป้องกันไร้เทียมทาน ควบคู่ไปกับกายาสุวรรณะนิรันดร์ซึ่งมีพลังศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขอบเขต การโจมตีดังกล่าวทำให้ขาของเหลียนจิ้นขาดออกจากกันจนร่างสั่นเทา
เหลียนจิ้นใช้พลังขอบเขตเพื่อปราบปรามหนิงเทียน ทว่าหนิงเทียนกลับใช้พลังทางกายภาพเพื่อปราบปรามเขา
หมัดอันทรงพลังนับหมื่นจินพุ่งทะลวงอากาศ ซึ่งสามารถทำลายล้างได้ทุกสิ่ง
เหลียนจิ้นโกรธจนแทบบ้า เืเนื้อของหนิงเทียนทรงพลังเสียจนผู้คนหวาดกลัว และเหนือความคาดหมายของเขาอย่างสิ้นเชิง
“ผสานเส้นลมปราณทั้งเก้า ปราบปรามทุกทิศทาง!” ใบหน้าดุร้ายของเหลียนจิ้นเผยความบ้าคลั่ง เส้นลมปราณใหญ่ทั้งเก้าเส้นในร่างส่งเสียงอื้ออึง รากจิติญญาเชื่อมโยงกลายเป็วังวนพลังโชติ่ กลืนกินพลังิญญาแห่งฟ้าดิน ลมพัดหวือโหยหวนอัดแน่นเป็พายุความเร็วสูง พร้อมปลดปล่อยพลังอันน่าขนพองสยองเกล้า
ความแรงนั้นทรงพลังราวพายุงวงช้าง เหลียนจิ้นทุ่มเทความพยายามทั้งหมดพัฒนามันเป็งูั์และลอยอยู่เหนือหัว
ทันใดนั้นงูั์ก็พุ่งตัวด้วยแรงผลักดันที่หนักหน่วง มันกวาดร่างลงมาราวกับพายุแห่งการทำลายล้าง
หนิงเทียนรู้สึกถูกภัยคุกคาม นี่คือการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเหลียนจิ้น ซึ่งใช้ความแข็งแกร่งในขอบเขตผนึกดาราขั้นแรกอย่างถึงขีดสุด สิ่งนี้เพียงพอที่จะบดขยี้ยอดฝีมือขอบเขตจิตหยั่งลึกทั้งหมด
เขาส่งเสียงคำรามลั่น พลังทั่วร่างถูกเผาไหม้ เส้นลมปราณทั้งเก้าสั่นะเืราวัั์ในแม่น้ำที่พยายามจะะเิ์โลกา
บริเวณใกล้เคียง มีพลังงานิญญาที่พลุ่งพล่านพันรอบร่างของหนิงเทียน เส้นสีทองส่องประกายในเืเนื้อของเขาพร้อมปกคลุมทั่วทั้งร่าง บงกชสีมรกตและต้นไม้แห้งเหี่ยวเชื่อมโยงเข้าหากัน ก่อนจะผสานแล้วปะทุด้วยพลังที่รุนแรงเหนือจินตนาการ
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันกลางอากาศพร้อมเสียงดังกึกก้อง
ลมพายุอันน่าสะพรึงกลัวโฉบลงมาราวงูั์ แล้วเข้าปะทะหมัดของหนิงเทียน
แสงสีทองเดือดพล่านแผดเผาราวกับผืนพสุธาส่งเสียงขู่ ห้วงอากาศพังทลาย ก่อนจะเป่าหัวงูจนสลายหายไป
โลหิตแดงก่ำบานสะพรั่งราวดอกไม้อันละเอียดอ่อน ซึ่งมาพร้อมกับเสียงคำรามทะลุชั้นฟ้าประกอบกับเสียงครวญอู้อี้ ทั้งสองฝ่ายต่างถอยกลับอย่างรุนแรง ทั้งคู่ได้รับาเ็สาหัส
หนิงเทียนมีเืออกจากปากและจมูก อีกทั้งอวัยวะภายในทั้งห้าล้วนาเ็ ด้านเหลียนจิ้นก็คำรามอย่างดุร้าย แขนขวาของเขาถูกะเิจนหมดสิ้น และเขาโกรธจนแทบบ้า
นี่คือการต่อสู้ระหว่างขอบเขตและร่างกาย หากขอบเขตผนึกดาราขั้นแรกต่อกรกับกายาสุวรรณะนิรันดร์ ผลคือทั้งสองฝ่ายล้วนต้องสูญเสีย
เสื้อผ้าสีขาวของหนิงเทียนเปื้อนเื ร่างเย็นเฉียบเหมือนคมมีด เขาสะบัดกายจนกระดูกส่งเสียงคำราม พลันให้หนังศีรษะของผู้ที่ได้ยินล้วนด้านชา
“ช่างเป็ร่างกายที่น่าหวาดหวั่นยิ่งนัก! สามารถรับการโจมตีเต็มกำลังของเหลียนจิ้นได้ น่ากลัวเกินไปแล้ว!”
“ขะ...เขาเป็จื๋อซิวจริงหรือ?”
หลายคนหวาดกลัวและวิตกกังวล หนิงเทียนอยู่เพียงขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นสองยังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แล้วผู้อื่นจะต้านทานเขาได้อย่างไร?
---------------------------------------
[1] ลั่นกลองคราแรกปลุกใจให้ฮึกเหิม คราต่อมาความฮึกเหิมกลับถดถอย คราสามนั้นกลืนความฮึกเหิมมลายสิ้น (一鼓作气,再而衰,三而竭) หมายถึง การกระทำบางอย่างซ้ำหลายครั้ง อาจไม่ส่งผลดีเทียบเท่าครั้งแรก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้