บทที่ 7 ก้าวแรกสู่การค้า
แสงแดดยามสายทอประกายอบอุ่นลงมายังหมู่บ้านสกุลหลี่
หลังจากการประลองความสามารถทางการแพทย์กับหมอเทียนที่จบลงและได้รับความชื่นชมและการยอมรับของผู้คน ชื่อเสียงของนางในฐานะ "หมอเทวดาหญิง" ก็ขจรขจายไปทั่วอำเภอหลงเยว่ ผู้คนต่างพากันมาเยี่ยมเยียนที่บ้านตระกูลหลี่ไม่ขาดสาย บ้างก็มาขอคำปรึกษาปัญหาสุขภาพ บ้างก็มาด้วยความเคารพเลื่อมใสอย่างแท้จริง
ทว่าท่ามกลางกระแสการสรรเสริญเยินยอ เฉินอิงกลับมิได้หลงระเริงไปกับมัน นางยังคงตระหนักดีถึงปัญหาที่แท้จริงและเร่งด่วนที่สุดของครอบครัว นั่นคือ ความยากจนข้นแค้นและการขาดแคลนเงินทุน
แม้จะมีชื่อเสียงด้านการแพทย์ แต่การรักษาผู้คนในยุคนี้ ใช่ว่าจะสามารถเรียกค่าตอบแทนได้อย่างอิสระเหมือนในโลกเดิมของนาง ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างก็มีฐานะยากจน การรักษาจึงเป็ไปในลักษณะของการช่วยเหลือเกื้อกูลเสียมากกว่า หากจะหารายได้ให้เพียงพอต่อการเลี้ยงดูคนในครอบครัวทั้งห้าชีวิต ทั้งหลงอี้ที่ยังคงต้องบำรุงร่างกายด้วยยาและอาหาร นางจะต้องหาวิธีการอื่นเพิ่มอีก!
เฉินอิงนั่งลงที่ลานบ้าน สายตากวาดมองไปรอบๆ บ้านหลังคามุงจากที่ยังคงทรุดโทรม เสื้อผ้าของเด็กๆ ที่เก่าและปะชุนจนแทบไม่เหลือชิ้นดี และโอ่งข้าวที่ยังคงไม่เต็ม นางถอนหายใจเฮือกใหญ่
"เฮ้อ... มีฝีมือทางการแพทย์ก็จริง แต่ถ้าไม่มีเงินทอง ก็มิอาจพลิกฟื้นครอบครัวในโลกนี้ได้"
นั่งคิดไปเรื่อยๆมองออกไปเพลินๆพลันสายตาของนางก็เหลือบไปเห็นพงหญ้าและต้นไม้ป่าที่ขึ้นอยู่ริมรั้วและบนเนินเขาเตี้ยๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวบ้าน ในสายตาชาวบ้าน พวกมันอาจเป็เพียงวัชพืชรกเรื้อ แต่ในสายตาของแพทย์หญิงจากยุคปัจจุบัน...มันคือขุมทรัพย์ทางยาดีๆ นี่เอง!
ภาพความรู้ด้านพฤกษศาสตร์และเภสัชกรรมสมัยใหม่ผุดขึ้นในสมองของนางอย่างรวดเร็ว นั่นต้นจื่อซู ช่วยแก้หวัด ขับเหงื่อได้ นั่นต้นปั๋วเหอ หรือมินต์ป่า มีฤทธิ์เย็นระงับอาการคันจากแมลงสัตว์กัดต่อย และนั่น... หญ้าหางม้า ใช้ห้ามเืและสมานแผลชั้นดี!
ความคิดหนึ่งพลันสว่างวาบขึ้นในหัว! แทนที่จะรอให้คนป่วยมาหา ไฉนนางไม่สร้างผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันเล่า? ยาขี้ผึ้งสมุนไพร! ใช่แล้ว ยาขี้ผึ้ง! ในยุคที่ผู้คนทำงานหนักจนมีาแถลอกปอกเปิกเป็เื่ปกติ และถูกยุงรบกวนอยู่เสมอ หากนางสามารถทำยาขี้ผึ้งที่มีสรรพคุณหลากหลาย บรรจุในตลับเล็กๆ พกพาสะดวก ราคาย่อมเยา ก็ย่อมเป็ที่้าของตลาดอย่างแน่นอน!
"ท่านย่าเ้าคะ พืชพวกนั้นที่อยู่ริมเขามีพิษหรือไม่เ้าคะ" เฉินอิงเอ่ยถามท่านย่าหลี่ที่กำลังนั่งป้อนยาให้หลงอี้อยู่
ท่านย่าหลี่มองตามสายตาของนางแล้วส่ายหน้า "โอ้ พวกนั้นน่ะรึ ไม่มีพิษหรอกเหนียงเอ๋อร์ มันก็แค่หญ้าป่า บางชนิดคนแก่ๆ ก็เคยเอามาต้มดื่มแก้ไอบ้าง แต่ไม่ค่อยมีใครสนใจมันนักหรอก"
เฉินอิงตาลุกวาว "เช่นนั้น ข้าจะลองนำมันมาทำยาดูนะเ้าคะ!"
ท่านย่าหลี่เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ "ทำยาอย่างนั้นรึ? ยาที่ทำจากหญ้าข้างทางน่ะหรือ ใครเขาจะกล้าใช้กัน"
"ไม่เป็ไรเ้าค่ะท่านย่า" เฉินอิงกล่าวด้วยความมุ่งมั่น "ข้ามีความรู้ด้านสมุนไพร ขอเพียงให้ข้าได้ลองดู ถ้ามันใช้ได้จริง เราก็นำไปขายที่อำเภอได้"
ไม่รอช้า เฉินอิงก็หยิบตะกร้าและมีดพร้าเล็กๆ เดินมุ่งหน้าไปยังเนินเขาทันที นางใช้ความรู้ทางการแพทย์เลือกเก็บสมุนไพรแต่ละชนิดอย่างพิถีพิถัน คัดเฉพาะส่วนที่ดีที่สุด กลับมาถึงบ้านก็ล้างทำความสะอาด ตากแดดอ่อนๆ และบดจนละเอียดอย่างเป็ขั้นตอน หลี่เฟิงหลงและหลี่อิงฮวาเห็นแม่เลี้ยงง่วนอยู่กับการทำยาที่ดูแปลกตา ก็พากันมานั่งดูอย่างสนใจ
เฉินอิงนำผงสมุนไพรที่ได้มาเคี่ยวกับน้ำมันหมูเล็กน้อยที่พอจะหาได้ในบ้านด้วยไฟอ่อนๆ กลิ่นหอมเย็นสดชื่นของสมุนไพรลอยอบอวลไปทั่วลานบ้าน กลบกลิ่นอับชื้นที่เคยมีจนหมดสิ้น เมื่อเคี่ยวจนได้ที่ นางก็เทยาขี้ผึ้งสีเขียวอ่อนลงในตลับดินเผาเล็กๆ ที่เตรียมไว้ รอจนมันเย็นและแข็งตัว
"ท่านแม่เ้าคะ... หอมจังเลยเ้าค่ะ!" หลี่อิงฮวาเอ่ยขึ้นด้วยดวงตาเป็ประกาย เธอไม่เคยได้กลิ่นยาที่หอมสดชื่นเช่นนี้มาก่อน
หลงอี้ที่นั่งพิงผนังอยู่ มองดูการกระทำของเฉินอิงทุกขั้นตอนด้วยแววตาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สตรีผู้นี้ไม่เพียงแต่มีทักษะการแพทย์ที่น่าทึ่ง แต่ยังมีความคิดสร้างสรรค์และมุ่งมั่นที่จะพลิกฟื้นชีวิตของตนเองและครอบครัวอย่างแท้จริง
ตลอดหลายวันต่อมา เฉินอิงทุ่มเทเวลาให้กับการทำยาขี้ผึ้งสมุนไพร นางทำไปพลาง สอนให้ท่านย่าหลี่และเด็กๆ รู้จักสมุนไพรแต่ละชนิดไปด้วย หลี่เฟิงหลงแม้จะยังคงเงียบขรึม แต่ก็ช่วยงานบดยาอย่างตั้งใจ เขาเรียนรู้ได้รวดเร็วและมีความละเอียดลออ ส่วนหลี่อิงฮวาก็ช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ ได้เป็อย่างดี
ในที่สุด ยาขี้ผึ้งสมุนไพรเกือบห้าสิบตลับก็เสร็จสมบูรณ์ พวกมันถูกจัดวางเรียงรายอยู่ในตะกร้าใบใหญ่ ดูสะอาดสะอ้านและน่าใช้ยิ่งนัก
"เอาล่ะ พรุ่งนี้เราจะไปอำเภอหลงเยว่กัน!" เฉินอิงประกาศด้วยความตื่นเต้น
หลี่อิงฮวาะโโลดเต้นด้วยความดีใจ "เย้! ได้ไปเที่ยวอำเภอแล้วเ้าค่ะ!" หลี่เฟิงหลงก็ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก เขาเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้น้องสาว
เช้าวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้ายังคงมืดสลัว เฉินอิงจัดเตรียมข้าวของแต่เช้าตรู่ นางสะพายตะกร้าที่ใส่ตลับยาจนเต็มไว้บนหลัง ส่วนหลี่เฟิงหลงก็ช่วยถือห่อผ้าเล็กๆ ที่ใส่ขนมแป้งแข็งและน้ำดื่มสำหรับเดินทาง หลี่อิงฮวาเดินจับชายเสื้อเฉินอิงไว้แน่น ส่วนหลงอี้แม้จะอยากช่วย แต่ร่างกายยังไม่เอื้ออำนวย จึงได้แต่มองดูจากประตูบ้านด้วยแววตาเป็ห่วง
"ท่านย่าเ้าคะ พวกเราไปแล้วนะเ้าคะ" เฉินอิงเอ่ยลาท่านย่าหลี่ที่ยืนส่งอยู่หน้าบ้าน
"เดินทางปลอดภัยนะเหนียงเอ๋อร์ ขอให้ค้าขายได้กำไรนะลูก" ท่านย่าหลี่อวยพรด้วยความรัก
สามแม่ลูกเดินทางมุ่งหน้าสู่ตัวอำเภอหลงเยว่ เส้นทางที่ทอดยาวเป็ทางลูกรังขรุขระ เต็มไปด้วยโคลนและหิน เฉินอิงต้องระมัดระวังเป็พิเศษ เพื่อไม่ให้เด็กๆ หกล้ม หรือตลับยาที่อยู่ในตะกร้าเสียหาย
ระหว่างทาง มีชาวบ้านบางคนเดินสวนมา เห็นเฉินอิงแบกตะกร้าใบใหญ่ แถมยังพาลูกเล็กๆ สองคนไปด้วย ก็พากันซุบซิบและมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
"ดูนั่นสิ แม่เลี้ยงสกุลหลี่ผู้นั้นน่ะหรือ ได้ยินว่าเป็หมอเทวดา แต่เหตุใดยังต้องออกมาเร่ขายของเยี่ยงนี้"
"เห็นไหมเล่า ข้าว่าแล้วว่านางอยู่ได้ไม่นานหรอก บ้านสกุลหลี่ก็ยากจนถึงเพียงนั้น ชื่อเสียงจะกินแทนข้าวได้อย่างไร"
เสียงหัวเราะเยาะดังแว่วมา เฉินอิงได้ยินเสียงเ่าั้ แต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจ นางยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยความมุ่งมั่น "ช่างพวกเขาเถิดลูก เราไม่ได้ไปขโมยใครกิน เราทำมาหากินสุจริต ไม่เห็นต้องอายใคร" นางปลอบใจเด็กๆ และตัวเองในใจ
หลี่เฟิงหลงกำมือเล็กๆ ของหลี่อิงฮวาแน่น ใบหน้าของเขามีแววขุ่นเคือง แต่เมื่อมองเห็นแผ่นหลังที่ตั้งตรงและแววตาที่หนักแน่นของเฉินอิง เขาก็รู้สึกสงบลงอย่างประหลาด
กว่าจะถึงอำเภอหลงเยว่ ก็กินเวลาไปเกือบครึ่งค่อนวัน แสงแดดเริ่มแรงขึ้น และท้องของทุกคนก็เริ่มส่งเสียงประท้วง เฉินอิงพาเด็กๆ ตรงไปยังตลาดประจำอำเภอ ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน เสียงะโเรียกซื้อขายกันดังระงม สินค้ามากมายวางเรียงรายอยู่บนพื้นและแผงลอยต่างๆ
เฉินอิงมองหาทำเลว่างๆ เพื่อตั้งแผงลอย แต่กลับพบว่าที่ว่างเหลือน้อยมาก และส่วนใหญ่ก็ถูกจับจองไปหมดแล้ว นางเดินวนเวียนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเลือกมุมหนึ่งที่ค่อนข้างเงียบสงบ ใกล้กับทางเข้าออกตลาด แม้จะไม่ได้อยู่ใจกลางตลาด แต่ก็พอจะมองเห็นได้
"เอาล่ะลูก เรามาตั้งแผงกันตรงนี้แหละ" เฉินอิงบอกเด็กๆ
นางวางตะกร้าลงอย่างระมัดระวัง แล้วหยิบตลับยาขี้ผึ้งสมุนไพรออกมาวางเรียงบนผ้าที่ปูไว้บนพื้น ตลับยาที่ดูสะอาดสะอ้านและส่งกลิ่นหอมเย็นจางๆ ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต้องเหลียวมองด้วยความแปลกใจ
นี่คือก้าวแรกของการค้าขายของเฉินอิงในโลกใบใหม่นี้ นางไม่รู้ว่าจะมีใครสนใจ "ยาเถื่อน" ของนางหรือไม่ แต่นางก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง ด้วยความมุ่งมั่นและความหวังที่จะพลิกฟื้นชะตาชีวิตของตนเองและครอบครัวให้พ้นจากความยากจนไปให้ได้ และในไม่ช้า นางก็จะได้พบกับบทเรียนแรกของการค้าขาย ที่ทั้งท้าทายและเต็มไปด้วยโอกาส...
****////****