“มองออกไหมคะว่า... มันคืออะไร” คัมซากำลังสนใจมองภาพสีชมพู เป็ลายริ้วเหมือนลายหญ้า ไล่สีจากชมพูเข้มออกสีแดงเรื่อๆ ้าจางไล่ลงมาจนถึงด้านล่างของภาพ ซึ่งใส่กรอบไม้อย่างดีพร้อมกระจกตัดแสง มีขนาดใหญ่เต็มผนังด้านหนึ่ง เธอพยายามมองภาพปริศนาที่ซ่อนอยู่ด้านใน ซึ่งต้องใช้ทักษะอะไรสักอย่าง
ในสมัยที่เธอยังเด็กมากประมาณ 7 ขวบ ที่บ้าน...พ่อเธอเคยนำภาพนี้มาจากลูกค้าคนหนึ่ง ซึ่งเขาอยากขายให้ในราคาแสนถูก พ่อก็ไม่ทราบว่าภาพนี้คืออะไร แต่คัมซาเห็นว่าท้าทายอยู่พอสมควรที่สามารถมองโดยไม่ต้องใช้แว่นสามมิติ สำหรับภาพตรงหน้านี้ เธอมองเห็นผู้หญิงในภาพใส่กระโปรงยาวจับคู่เต้นรำกับชายหนุ่มใส่หมวกแบบชาวนา ซึ่งภาพนี้เหมือนเธอคุ้นตาเช่นกัน กำลังเพลินกับการมองและค้นหารายละเอียด ก็ต้องหันหลังเมื่อน้ำเสียงที่เหมือนคุ้นหูสะดุดใจ มาทักทาย
‘เอ้า...เธอนั่นเอง...สาวน้อยลูกครึ่ง โรซ่า...ที่เจอกันเมื่อสัปดาห์ก่อน โลกช่างแสนกลมจริง’ คัมซากล่าวทักทายเธออย่างเป็กันเอง จนพี่เดียวหัวหน้ามองอย่างแปลกใจ
“อคัมย์พัชญ์ ส่งเสริมการขายนะคะ” คัมซาแจ้งอย่างเป็ทางการ ทั้งยื่นนามบัตรให้รสริน ที่วันนี้เธอดูเป็งานเป็การ เป็มืออาชีพมากมาย โครงการ ‘Sky Bless’ เป็หนึ่งคอนโดในเครือบริษัทฟ้าประทานพร จำกัด เธอยื่นนามบัตรในฐานะผู้ช่วยประธานเ้าหน้าที่ หรือ CEO - ‘รสริน ฟลอเรส’
“...อคัมย์พัชญ์ สุขงาม-แต้...เก๋มากเลย ดีใจนะที่จะได้มาร่วมเป็ส่วนหนึ่งในการปิดการขายโครงการนี้เร็วขึ้น ต้องยกความดีให้กับฟ้าที่คิดโปรเจคนี้ ที่นี่มีปัญหาเื่หมอกควัน่ฤดูหนาว” โรซ่าชอบชื่อนามสกุลของคัมซา และสอบถามด้วยว่ามีความหมายอะไร คัมซาเพียงเล่าว่า ตอนเธอเกิดแม่ฝันว่ามีคนจีนแต่งตัวขุนนางมายื่นลูกสาวให้ บอกฝากว่าให้ช่วยดูแล ก็เลยเป็ที่มาของชื่อที่แปลว่านักปราชญ์ที่ไม่เหมือนใคร ส่วนนามสกุล เธอเอาแซ่แต้ของพ่อมาตามหลังนามสกุลแม่
‘เธอคงเป็หุ้นส่วนหรือไม่ก็คงจะร่วมเป็เ้าของโครงการนี้เป็แน่แท้’ คัมซายังคงตื่นเต้นและไม่วายที่จะขอรายละเอียดเกี่ยวกับการสั่งซื้อเครื่องฟอกอากาศที่เธอนำมาเสนอขาย
“เรากำลังจะเปิดตัวโครงการคอนโดระดับพรีเมี่ยมขนาดไม่สูงแค่ 8 ชั้น บริเวณวงแหวนรอบกลาง ตรงนี้เป็เฟส 2 อยากส่งเสริมการขายจูงใจผู้ซื้อ โดยเราจะแถมเครื่องฟอกอากาศให้กับลูกค้าที่จองยูนิตละหนึ่งเครื่อง ภายในธันวาคมนี้ เราน่าจะปิดการขายโครงการนี้ได้”
รสรินแจ้งคร่าวๆ ว่า ้าเครื่องฟอกอากาศขนาดตั้งโต๊ะ เหมือนเป็เครื่องประดับชิ้นหนึ่งในห้องและเหมาะกับขนาดห้อง 45 ตรม. ซึ่งพี่เดียวได้อธิบายคุณสมบัติว่า สะดวกขนาดเล็กกะทัดรัด ประหยัดไฟ เครื่องทำงานเงียบ และฟอกอากาศบริสุทธิ์ กรองฝุ่นละออง ขจัดเชื้อโรค สารเคมี และกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ต่างๆ ควบคุมการทำงานด้วยรีโมทคอนโทรล
“เอาล่ะคะ โรซเชื่อว่าเครื่องฟอกอากาศของคุณมีประสิทธิภาพดีและมีเสปคตามที่เรา้า เอาอย่างนี้นะคะพอดีวันนี้มีประชุมบอร์ดที่ไซด์คอนโด จะติดต่อคุณคัมไปอีกครั้งเพื่อขอใบเสนอราคาและรายละเอียดเพิ่มเติม” โรซ่าตัดบทและขอตัวก่อน เธอขอโทษพี่เดียวว่าถือนามบัตรมาเพียงใบเดียว และขอให้คัมซาติดต่อเธอไปอีกครั้ง
“พี่เดียวคะ คัมว่างานนี้เราปิดการขายได้สบายๆ เลยค่ะ” คัมซามั่นใจว่า โรซ่าน่าจะเลือกเครื่องฟอกอากาศ ที่เธอกับพี่เดียวนำมาเสนอเป็แน่ ไม่น่าผิดพลาดไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งปวง
“คัม...คอยติดตามและปิดการขายให้เร็วที่สุด เพราะเครื่องฟอกอากาศมีให้เลือกเกลื่อนไป ช่วยทีนะ” พี่เดียวหัวหน้าเธออยากมีผลงานสำหรับสิ้นปีนี้ ซึ่งหมายถึงรายได้จากค่าคอมมิชชั่นและอาจถึงเลื่อนตำแหน่งเป็ผู้จัดการตามที่คาดเอาไว้ พี่เดียวดูมีความหวังกับผลงานชิ้นนี้มาก พยายามย้ำคัมซาว่าให้จีบลูกค้ารายนี้อย่าให้หลุดมือเด็ดขาด
‘เออเนอะ...เ้าของโปรเจคคือ นายขี้เก๊ก ที่เหมือนจะไม่สนใจอยากคุยกับคัมซาด้วยซ้ำไป น่าหนักใจเลยงานนี้’ คัมซาไม่อยากเล่ารายละเอียดว่าได้เจอ นายฟ้าประทาน เ้าของบริษัท นายใหญ่ของโครงการนี้แล้วเมื่ออาทิตย์ก่อน
“คัม...ปิดการขายไม่ยาก หากลูกค้าชอบใจเรา ก็ทำให้เค้าชอบๆ เราสิ” พี่เดียวเหมือนจะเดาใจจากสีหน้าของคัมซา จึงเอ่ยเช่นนี้ แถมกำชับอีก “ก็ไปจีบเ้าของโปรเจคนี้ นายที่ชื่ออะไรแปลกๆ นั่น”
“200 เครื่องนะ อย่าลืมว่าขายทีละเครื่องกว่าจะได้ล็อตใหญ่ ต้องใช้เวลานานขนาดไหน” คัมซาเข้าใจพี่เดียวที่ไม่อยากให้ออร์เดอร์นี้หลุดมือไป การขายทุกวันนี้ยากขนาดไหน คู่แข่งเกลื่อนไปหมด
“เมื่อคืน คุณรสรินเธอแอดไลน์คัม...พี่เดียวอยากรู้ไหม” คัมซาเดินเข้าชอปมาแต่เช้ายิ้มอย่างยินดี พี่เดียวตื่นเต้นและชมคัมซาว่ายังไงก็ไม่น่าพลาด สิ่งหนึ่งที่น่ายินดี คือ โรซ่า เธอเริ่มเปิดการสนทนาด้วยเื่ส่วนตัว ทำให้คัมซาเริ่มแน่ใจว่า งานนี้ไม่พลาดแน่นอน
โรซ่าเขียนทักในไลน์ของคัมซา
“โรซอยากรู้ว่า เห็นภาพปริศนานั้นไหม คืออะไร เราเคยถามฟ้าว่า เห็นภาพนั้นรึเปล่า ฟ้าพูดว่าเห็น แต่ก็ไม่เล่าอะไร อยากรู้อ่ะ”
“เป็รูปผู้หญิงเต้นรำกับชายหนุ่ม” คัมซาก็ไม่รู้จะเล่ายังไง เพราะภาพนี้เธอเข้าใจว่ามันเป็ภาพเขียนของเรอนัวร์ ซึ่งมันคือปกหนังสือนิยายแปล ‘มาดามโบวารี’ ที่เธอเคยอ่านสมัยเรียนม. 2
“...อยากรู้จัง” โรซ่าเป็คนอยากรู้อยากเห็นและชอบสืบรู้อีก
“พรุ่งนี้...ว่างไหมล่ะ เจอกันที่เดิม...ประมาณห้าครึ่งหรือหกโมง จะชวนฟ้าไปออกกำลัง”
“ได้เลย...คัมไปเป็ประจำ...” คัมซาเข้าใจว่า เธอคงอยากถามเื่ภาพปริศนาในนั้น
เย็นนี้ นายฟ้าประทานสวมชุดวิ่ง ท่อนบนแขนกุด กางเกงขาสั้น เห็นผิวขาวจั๊ว เมื่อครั้งที่เห็นครั้งแรก ก็นึกเหมือนกันว่า ‘ลูกคุณหนูเนอะ’ มาวันนี้กริยาดูดีขึ้นกว่าวันนั้น ทักทายคัมซาอย่างไว้เชิง
“โรซ บอกว่า คุณเห็นภาพปริศนาของภาพสามมิติที่ลอบบี้ของออฟฟิศ เมื่อ 2 วันก่อน เป็ภาพอะไร” คัมซาแปลกใจจะมาไม้ไหน ‘ถามหน้าตาเฉยเลย ก็ไหนโรซาบอกว่า เขาเห็นภาพนี้นี่นา ตานี่แกล้งติ๊งต๊องคงมาลองเชิงฉันรึไงล่ะเนี่ย’
“คุณโรซบอกว่า คุณทราบดีนะ” คัมซาตอบอย่างสุภาพ แต่ก็เหมือนตอกกลับ ไม่แคร์ว่าเขาจะรู้สึกยังไง
“ผมถามคุณอยู่...และ้าคำตอบ...” หน้าเรียบเฉย มุมปากเหมือนจะเยาะคัมซาอยู่หน่อยๆ
‘อยากเยาะเราอีกซินะ ยังนึกถึงปาร์ตี้เสาร์ที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ ไม่หาย คัมซาหน้าชาที่เขาไม่เอ่ยถึงสักคำที่เคยเจอกันที่มาวิ่งที่นี่เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำเป็ไม่สนใจ ไม่อยากร่วมกิจกรรมที่พิธีกรประกาศปาวๆ ว่าให้ออกมาเต้นรำ ซึ่งในงานก็เปิดเพลงบอลลูม
“ผมเต้นรำไม่เป็ จะให้ทำแบบนี้ เรายืนคุยกันจะเป็ไรไหม” พูดเชิงไม่แยแสว่าในงาน คนอื่นๆ เขาทำอะไรกัน
“ตกลงคุณชื่ออะไร... ผม ฟ้า...” คัมซาคิดในใจ ‘เอ นายนี่ มาแปลก รึว่าครั้งที่เจอกันครั้งนั้นคงประสาทฟั่นเฟือน คงอายหนัก แนะนำชื่อกันไปแล้ว คงไม่สนใจชื่อฉันเลย มันคงปลิวหายไปกับสายลมแล้วล่ะ’
“เอ้าผมเข้าใจว่า...คุณเห็นภาพนั้นไม่ใช่รึ” เสียงคะยั้นคะยอ ปลุกคัมซากลับจากห้วงความคิดในงานปาร์ตี้ ใจลอยไปไกลถึงคืนนั้น
“อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอก เป็ภาพผู้ชายคนหนึ่งกำลังวิ่ง กล้ามเป็มัดๆ” คัมซาเบี่ยงเบนคำตอบ จริงๆ อยากให้นายคนนี้มีแรงบันดาลใจเื่การออกกำลังกายต่างหาก
“จริงรึ...” คัมซาได้ยินเขาพึมพำ แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไร....ยังจะมาสงสัยเธออีก
“ไว้เราคุยกันวันหลังแล้วกัน...” ยังงั้ย...ยังไง คัมซาก็อดขำไม่ได้ จะว่าดูเก๊กท่า ไม่อยากคุยก็ไม่น่าใช่ ดูแปลกๆ
‘อยากหัวเราะ งานปาร์ตี้คืนนั้น เขาก็ยังอุตส่าห์พูดแบบสุภาพว่า ถ้าเราไม่ทำตามที่พิธีกรบอก เราอาจถูกปรับให้ทำอะไรตลก เขาก็คงไม่อยากทำด้วย’ เหมือนไหนไหน...ก็ไหนไหน...เลยขออนุญาตจับมือคัมซา และโค้งขอเต้นรำด้วยกัน
คืนนั้นในงานเปิดเพลงจังหวะบีกิน เป็จังหวะลีลาศที่ง่ายที่สุด เพลงที่เปิด ‘พรหมลิขิต’ เป็เทรนที่นิยมกลับมาอีกครั้งสำหรับยุคสมัยที่อะไรๆ เปลี่ยนไปมากมาย ไม่น่าเชื่อนายฟ้าประทานก็สามารถ นำคัมซาได้อย่างดี ่หมุนตัวและหมุนแขนกลับไปหาเขา ก็บังคับมือคัมซาให้ไปอยู่ในวงแขนเขาจนได้ มองตาคัมซาจนเธอหน้าแดง ถึงท่อนสุดท้าย
พรหมลิขิตบันดาลทุกอย่าง เป็ผู้วางหนทางปวงชน
ได้ลิขิตชีวิตคน เนื้อคู่มาเปรอปรน
ทั้งยังดลเธอให้กับฉัน
จังหวะนี้เพลงจบพอดี แล้วเพลง ‘วนาสวาท’ จังหวะวอลซ์ขึ้นต่อ
ฉันคิดถึงเธอั้แ่หัวค่ำ จนอุษาสาง…จนอุษาสาง
ด้วยเกิดความรัก ผุดขึ้นที่กลาง หว่างฤดี...หว่างฤดี
ใจเราตรงกัน ิญญาสัมพันธ์...เพราะวนาลี…วนาลี
เราจะรักภักดี ร้อยิญญาชีวี...ที่วนาลีเอย
นายขี้เก๊กคนนี้ ...คัมซาไม่คิดว่าเขาเป็คนพื้นๆ บ้านๆ แน่นอน เธอก็วนเวียนคิดถึงเขาตลอดคืนนั้น...ก่อนจะหลับไปในห้วงคำนึงถึงเพลงวอลซ์...ต่อไป
I was waltzing with my darling
To the Tennessee Waltz
When an old friend I happened to see
Introduced her to my love one
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้