แต่แผนการเหล่านี้ล้วนเป็เื่ในภายภาคหน้า สิ่งที่เร่งด่วนเวลานี้คือจะทำอย่างไรให้สองพี่น้องได้อิ่มท้อง
หลังสืบค้นจากความทรงจำของเ้าของร่าง นางก็ตัดสินใจอย่างกล้าหาญ
ไปหลังเขา!
หลังเขามีหมอกปกคลุมตลอดปี และมีสัตว์ป่านานาชนิดอยู่เต็มไปหมด จึงกลายเป็สถานที่ต้องห้ามสำหรับคนแปลกหน้าจากหมู่บ้านใกล้เคียง แต่เนื่องจากน้อยคนที่จะเข้าไปถึง จึงมักพบของล้ำค่าหายากในนั้นอยู่เสมอ รวมถึงผลไม้ป่าและกระต่ายป่าอีกนับไม่ถ้วน
ขอเพียงมีความกล้า และโชคดี คนที่สามารถกลับออกมาจากข้างในได้ ก็จะเก็บเกี่ยวดอกผลกลับมาได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ท้องนภาเริ่มมืดลงแล้ว พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เมฆสีแดงเพลิงกดทับลงมาจนิเป่าจูรู้สึกหนักอึ้ง
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดในการขึ้นูเา
เมื่อวานมีฝนปรอยๆ เส้นทางูเากลายเป็โคลนเฉอะแฉะ ยากต่อการเดินยิ่ง ประกอบกับมีพุ่มหนามข้างทางปกคลุมไปตลอดเส้นทาง
ิเป่าจูบดกรามแน่น เดินไปเรื่อยๆ จนถึงไหล่เขา ในที่สุดก็พบกับบ่อน้ำพุใสบริสุทธิ์แห่งหนึ่ง รูปร่างของบ่อน้ำพุดูคล้ายคลึงกับน้ำเต้าผ่าซีก และยามนี้ก็ใกล้รุ่งสางเข้าไปทุกที
นางอาศัยแสงจันทร์สลัวรางคลำหาทางมาตลอดทั้งคืน
‘ปากน้ำเต้า’ เป็แอ่งเล็กๆ ประมาณหนึ่งหมี่ [1]
ิเป่าจูดีใจมาก เหลียวซ้ายแลขวากวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะย้ายก้อนหินสองสามก้อนมาวางชิดกันเป็แถว เหลือเพียงช่องว่างขนาดสองกำปั้นตรงกลางไว้ แล้วดึงพืชน้ำมาอุดตรงช่องเล็กๆ เอาไว้
จากนั้นก็แค่รอให้ปลาว่ายเข้ามา แล้วค่อยใช้หินปิดตรงช่องที่จงใจเว้นไว้
นี่คือการสร้างกับดักจับปลา... เป็ทักษะใหม่ที่นางเรียนรู้มาจากการติดตามอาจารย์แบร์ [2] ในชาติก่อน
แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ผลหรือไม่
่เวลาที่รอคอย แสงแรกแห่งรุ่งอรุโณทัยค่อยๆ ปรากฏท่ามกลางม่านหมอกที่ปกคลุมในอากาศ เมื่อแสงอุษาส่องกระทบหยาดน้ำค้าง เกิดการหักเห ดูราวกับอัญมณีหลากสีสันงดงามตระการตา ริมแม่น้ำมี ‘สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ’ อยู่มากมาย
ิเป่าจูเดินเลียบไปตามริมฝั่ง เก็บสมุนไพรล้ำค่าได้ไม่น้อย
นางถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกอย่างระมัดระวัง แล้วนำมาใช้ห่อสมุนไพรกองใหญ่โดยไม่กลัวว่าชุดจะสกปรก นอกจากนี้ยังพบต้นสาลี่ป่าที่ออกผลเต็มต้น
สาลี่ป่าแบบนี้ทั้งเปรี้ยวและฝาด เนื้อััก็สากกร้านเหมือนกินกรวด ไม่อร่อยสักนิด
แต่นางเดินมาทั้งคืน หิวจนไส้กิ่ว จึงไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ ยิ่งไปกว่านั้นที่บ้านก็ยังมีิเป่าอวี้ที่หิ้วท้องหิวรออยู่อีกคน จะมัวแต่คิดเล็กคิดน้อยได้อย่างไร
ทันใดนั้นจมูกของเธอก็ขยับฟุดฟิด
กลิ่นคาวเื!
หัวใจของิเป่าจูลอยคว้างขึ้นมาถึงลำคอ กลิ่นคาวเืฉุนเข้มเช่นนี้ไม่ใช่เื่ดีอย่างแน่นอน เพราะไม่เพียงแต่นางเท่านั้น สัตว์ป่าดุร้ายจากในป่าย่อมจะได้กลิ่นกันถ้วนหน้า
ขณะคิดจะจากไปเงียบๆ แต่ชายเสื้อสีขาวจากพงหญ้าก็ดึงดูดความสนใจของนางเข้าพอดี
ิเป่าจูมองสำรวจอย่างละเอียด
ดูเหมือนจะเป็คน?
จะใช่ชาวบ้านที่ถูกสัตว์ป่าทำร้ายหรือไม่
ิเป่าจูไม่สนใจอะไรอีก รีบแหวกพงหญ้าออกอย่างรวดเร็ว
เสี้ยววินาทีถัดมา นางก็ตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น
นางภูมิใจกับการเป็หญิงสาวสมัยศตวรรษที่ 21 ที่เคยพบกับคลื่นลมมรสุมใหญ่ๆ มาก่อน เคยเห็นชายหนุ่มรูปหล่อมาแล้วทุกประเภท แต่ไม่เคยเห็นใครดูดีเท่าผู้ชายคนนี้มาก่อนเลย
คิ้วกระบี่ ดวงตาสดใส แม้ว่าหัวคิ้วจะขมวดแน่นด้วยความเ็ป แต่กลับไม่ส่งผลกระทบต่อความหล่อเหลาของชายหนุ่ม
ความหล่อเหลาของเขาดูค่อนข้างมีความก้าวร้าวเอาแต่ใจเจืออยู่เล็กน้อย เฉกเช่นกระบี่คมที่สุดในโลกหล้าที่ยังไม่หลุดออกจากฝัก ความหล่อเหลาที่ไม่อ่อนโยนกลับดึงดูดสายตาคนเป็ที่สุด
นางสามารถนึกภาพออกว่าเมื่อดวงตาคู่นี้ลืมขึ้นมาจะสร้างความรู้สึกกดดันได้มากเพียงใด
ิเป่าจูตะลึงงัน
มาตรฐานความหล่อของคนโบราณสูงขนาดนี้เลยหรือ ไม่รู้ว่ากินอะไรถึงโตมาเป็แบบนี้...
จนกระทั่งชายหนุ่มเปล่งเสียงครางด้วยความเ็ปออกมาเบาๆ นางถึงหลุดจากโลกมายา กลับมาสู่ความเป็จริง
ช่วยชีวิตคนคือสิ่งสำคัญ!
ิเป่าจูรีบเดินไปข้างหน้า คิดจะตรวจชีพจรให้เขา แต่ไม่นึกว่ากระบี่เล่มหนึ่งจะชี้มาที่คอหอยของตนเอง
ในที่สุดดวงตาคู่นั้นก็ลืมตาขึ้น ดูราวกับดวงดาราที่เปล่งประกายอยู่ท่ามกลางความมืด ทั้งลึกล้ำและเร้นลับ
“เ้าเป็ใคร...”
น้ำเสียงนั้นทุ้มต่ำดึงดูดใจ
ิเป่าจูอึ้งเล็กน้อย คนโบราณผู้นี้สัญชาตญาณป้องกันตัวดีไปหน่อยหรือไม่ าเ็ถึงขนาดนี้ ยังอุตส่าห์ฟื้นขึ้นมาเอากระบี่พาดลำคอของนางได้
“ข้ามาเก็บสมุนไพร เห็นท่านล้มอยู่ที่พื้น จึงคิดจะให้ความช่วยเหลือ...”
“เก็บสมุนไพร?” สายตาคล้ายยิ้มแต่ไม่ยิ้มของชายหนุ่มเลื่อนไปที่เสื้อตัวนอกที่นางวางไว้บนพื้น
เดิมทีก็มีกระบุงที่สานจากหญ้าฟางอยู่สองใบ แต่ตอนออกมาจากบ้านของท่านลุงไม่ได้หยิบมาด้วย
ิเป่าจูอดหัวเสียอยู่บ้างไม่ได้
“ท่านต้องสนด้วยหรือว่าข้าจะเก็บอย่างไร และข้าก็พอใจห่อแบบนี้ ในเมื่อเห็นความหวังดีของผู้อื่นเป็ดังตับปอดลา [3] ท่านอยากตาย ข้าก็จะไม่ขัดขวาง”
พูดพลางหยิบสมุนไพรที่ทิ้งไว้ด้านข้างขึ้นมา ตั้งท่าจะไป
“ช้าก่อน”
ิเป่าจูชะงักฝีเท้า เสียงของบุรุษที่ลอยมาจากด้านหลังค่อนข้างแหบพร่า
“ข้ายังอยากมีชีวิตอยู่”
ไม่รู้อย่างไร ทั้งที่น้ำเสียงนั้นไม่มีสูงต่ำแท้ๆ แต่นางกลับฟังออกว่ามีความหมายแฝงเร้นที่ตนเองไม่เข้าใจอีกมากมาย เหมือนกำลังบอกเล่าข้อเท็จจริง แต่กลับมีความเฉยชาไม่แยแสอยู่หลายส่วน
เพราะไม่มีผ้าพันแผล นางจึงต้องฉีกเสื้อตัวในที่สะอาดกว่าเล็กน้อยของชายหนุ่มมาพันแผลให้เขา
ตัวเขามีาแถูกแทงอยู่หลายที่ที่เป็แผลเหวอะ แต่ทั้งหมดเป็เพียงาแภายนอก มีเพียงตำแหน่งเดียวที่ร้ายแรงคือแผลจากกระบี่ที่ถูกแทงบริเวณหน้าอก ซึ่งคลาดไปนิดเดียวก็จะแทงเข้าหัวใจอยู่แล้ว
หากเป็เช่นนั้นคงได้กลับบ้านเก่าไปจริงๆ
แต่าแจากกระบี่ลึกเช่นนี้ ก็เพียงพอที่จะเกิดการติดเชื้อได้
ิเป่าจูเริ่มมีเหงื่อผุดพรายที่หน้าผาก สาละวนอยู่เป็ครึ่งวัน [4] ในที่สุดก็พันแผลแบบหยาบๆ ให้เขาเสร็จเรียบร้อย หลังจากแตะหน้าผากของเขาแล้วก็ค่อยวางใจลง
เคราะห์ดีไม่มีไข้
แสดงว่าไม่มีอาการติดเชื้อ
เวลานี้พระอาทิตย์ขึ้นสูงโด่งแล้ว ิเป่าจูใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อที่ปลายจมูก
“ท่านคงไม่ใช่ลูกหลานตระกูลเศรษฐีที่มีเื่มีราว ถูกคนในตระกูลใส่ร้าย และถูกมารดาเลี้ยงส่งคนมาตามสังหารกระมัง” นางเอ่ยขึ้นมา แล้วจู่ๆ ก็เปลี่ยนเื่กะทันหัน
“ช้าก่อน ท่านอย่าตอบดีกว่า ข้าไม่อยากรู้ความลับ แล้วถูกใครมาตามหาเื่ภายหลังว่าช่วยเหลือท่าน ท่านแค่จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลมาก็พอ”
ค่ารักษาพยาบาล? หมายถึงจ่ายค่าวินิจฉัยโรคหรือ?
ฝีมือของสตรีนางนี้ดูคล่องแคล่วช่ำชองไม่เหมือนเป็คนชนบท
อาการาเ็วันนี้เดิมทีมิได้ร้ายแรง เขาเพียงแค่หยุดพักที่นี่เพื่อหลบเลี่ยงจากผู้อื่น ไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับสตรีที่มีทักษะทางการแพทย์ผู้นี้...
ดวงตาของชายหนุ่มมีประกายวาบผ่าน หรี่ตาเล็กน้อย ทว่าความเคลื่อนไหวของเขาถัดจากนั้นกลับทำให้ิเป่าจูต้องตะลึงงัน
เขานอนลงบนพื้นด้วยท่วงท่าของคนเสเพล ทำลายบุคลิกของตนเองให้ดูเหมือนคนไม่เป็โล้เป็พายที่กำลังตีสองหน้า
“เ้าเดาผิดแล้ว ครอบครัวของผู้น้อยตกต่ำมานาน แม้แต่บ้านของบรรพบุรุษก็ยังขายทิ้งไปแล้ว แม้แต่บ้านจะให้กลับก็ไม่มี... ส่วนที่ถูกคนไล่ตามสังหารครานี้ ก็เพราะหน้าตาหล่อเหลาเกินไป สาวงามของหมู่บ้านมาติดพัน จนไม่ยอมแต่งงานกับผู้อื่น เป็เหตุให้เกิดคดีฆาตกรรม”
ิเป่าจูไม่เคยเห็นใครเปลี่ยนสีหน้าเร็วขนาดนี้มาก่อน เป็คนที่หน้าหนาไร้ยางอายจริงๆ
น่าเสียดาย หนังหน้าหล่อเหลาของเขาช่างเปล่าประโยชน์แท้ๆ ทั้งที่ได้รับาเ็สาหัส ก็ยังทำตัวเหลวไหลไร้แก่นสารอยู่ตรงนี้ได้ ิเป่าจูไม่เข้าใจเลยจริงๆ
แต่บุรุษผู้นี้กลับยังพูดต่อ “ถึงแม้ครอบครัวของผู้น้อยจะยากจน แต่สุขภาพของผู้น้อยแข็งแรงมาั้แ่เด็ก ร่างกายมีกำลังวังชา มิสู้คุณหนูพาข้ากลับบ้าน ไม่ว่าจะตักน้ำผ่าฟืนหรือเป็ผู้คุ้มกันดูแลเรือนล้วนแต่ทำได้ดีเยี่ยม”
ในที่สุดิเป่าจูก็เข้าใจ เ้าหมอนี่นอกจากไม่อยากควักเงินจ่าย ยัง้าฉวยโอกาสหลอกใช้ประโยชน์จากตนเองอีกด้วย
เมื่อครู่นางช่างโง่เขลาเหลือทน ถึงถูกความหล่อเหลาของเขาล่อลวงจนนึกว่าเป็บุรุษสูงส่งผู้ทรงเกียรติ แต่พอเอ่ยปากคำเดียว ภาพลักษณ์ก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น
ิเป่าจูยกเท้าเดินไปทันที
ไม่นึกว่าบุรุษที่ดูเหมือนจะาเ็สาหัส แต่สุขภาพโดยพื้นฐานกลับดียิ่ง ตนเองแค่ช่วยพันแผลให้ ใช้ยาไปเพียงเล็กน้อย คนผู้นี้กลับสามารถยืนเองได้ นางเดินช้าเขาก็ทอดน่อง นางเดินเร็วเขาก็เร่งฝีเท้า คอยตามอยู่ด้านหลัง
ปากก็ยังคงพร่ำพรรณนาความดีงามของตนเอง
“แต่ไรมาผู้น้อยเป็คนมีบุญคุณต้องทดแทน คุณหนูช่วยชีวิตข้า ย่อมเป็ผู้มีพระคุณของข้า หากมิได้ตอบแทน ผู้น้อยจะมีหน้าจากไปได้อย่างไร นอกจากตักน้ำผ่าฟืนแล้ว ผู้น้อยยังมีความสามารถรอบด้าน ที่บ้านของคุณหนูมีนักเรียนหรือไม่ สอนหนังสือผู้น้อยก็ทำได้ หรือหากจะให้ผู้น้อยพลีกายตอบแทนบุญคุณ...”
“หยุดๆๆ หยุดเดี๋ยวนี้เลย”
เชิงอรรถ
[1] หมี่ เป็หน่วยวัดความยาว หมายถึง เมตร
[2] อาจารย์แบร์ หมายถึง เอ็ดเวิร์ด ไมเคิล กริล หรือ แบร์ กริล เป็นักผจญภัยชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียง เขียนหนังสือสารคดีเื่ ‘การเอาชีวิตรอดในป่า’ ‘การผจญภัยของแบร์ กริล’ และเป็ที่รู้จักจากซีรีส์ทางโทรทัศน์เื่ มนุษย์และพงไพร และสามารถพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ได้ด้วยอายุเพียง 22 ปี
[3] เห็นความหวังดีเป็ดังตับปอดลา หมายถึง ไม่เห็นค่าความหวังดีของผู้อื่น
[4] ครึ่งวัน หมายถึง ระยะเวลาที่นานมาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้