เมื่อเห็นเิหยูเยียนกับิอวี่ไปไกลแล้ว สีหน้าของซูอี้หรานนั้นก็นิ่งลงไปทันที จนถึงขั้นเ็า
“อี้หราน เ้าลืมงานที่อาจารย์มอบหมายให้ทำแล้วอย่างนั้นหรือ? ครั้งนี้เราไม่ได้มาจีบสาวนะ แต่มาฆ่าคน!” ชายที่อยู่ด้านข้างของเขาขมวดคิ้วถาม
ซูอี้หรานหันกลับมามองชายคนนั้นแล้วพูดว่า “ข้าจะไม่รู้เลยหรือว่าควรทำอย่างไร?”
ในเวลานี้ซูอี้หรานอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก เมื่อครู่เขาเกือบจะลงมือสำเร็จแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเ้าสวะนั่นจะมาขัดขวาง ยุ่งไม่เข้าเื่
ชายคนนั้นส่ายหน้า “ข้าว่าเ้าไม่รู้จริงๆ นั่นแหละว่าควรทำอย่างไร อาจารย์ให้เราเข้ามาที่สนามรบร้างโบราณ เป้าหมายคือให้เราสองคนฆ่าศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียนห้าคนเพื่อลดกำลังพลของพวกเขา เมื่อทำภารกิจนี้สำเร็จเราก็จะได้รับรางวัลจำนวนมาก แต่เ้าในตอนนี้กลับหลงผู้หญิงคนหนึ่งอย่างโงหัวไม่ขึ้น”
หากศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียนมาได้ยินชายคนนี้พูด จะต้องอกสั่นขวัญแขวนเป็แน่
แต่พอลองนึกดูดีๆ แล้วก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายเท่าไร ดูสมเหตุสมผลอยู่
เพราะในเวลาสิบปีที่ผ่านมา สามสายล่างที่ดูสงบ ในความเป็จริงกลับมีการเคลื่อนไหวอย่างลับๆ มาตลอด
ในหลายปีที่สายจั่วเหยียนร่วมมือกับสายหรงเหยียน พวกเขาดูถูกคนของสายเลี่ยนเหยียนอย่างมาก ความรู้สึกดูถูกแบบนั้น มันขยายจนกลายเป็การเหยียดเผ่าพันธุ์
ผู้าุโใหญ่ของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนนั้นมีความทะเยอทะยานมาก พวกเขาคิดอยากจะได้ทุกอย่างของสายเลี่ยนเหยียน!
ผู้าุโใหญ่ของทั้งสองสายก็ได้เตรียมจะยื่นหนังสือ โดยเนื้อหาด้านในเป็การเสนอให้แบ่งทรัพยากรของสายเลี่ยนเหยียนให้กับสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนเท่าๆ กัน ...
หรือพูดอีกอย่างว่า พวกเขาเตรียมจะกลืนสายเลี่ยนเหยียนนั่นเอง!
การต่อสู้ระหว่างศิษย์ การแย่งชิงของผู้าุโใหญ่ การชิงดีชิงเด่นระหว่างสาย มันคือการต่อสู้แย่งชิงที่โหดร้าย และเต็มไปด้วยการนองเื!
ในหลายปีที่ผ่านมา สายเลี่ยนเหยียนนั้นยังคงด้อยกว่าที่คิด ไม่มีใครสู้พร์ของอีกสองสายได้เลย ทรัพยากรที่สายเลี่ยนเหยียนได้ก็ควรแบ่งเท่าๆ กันให้กับอีกสองสายจะดีกว่า เพราะมันจะสร้างมูลค่าให้กับสำนักเทพอัคคีมากกว่า
ดังนั้น ผู้บริหารระดับสูงของสำนักเทพอัคคีก็น่าจะอนุมัติหนังสือฉบับนี้ ยินดีให้ยุบสายเลี่ยนเหยียนไป
ถึงเวลานั้น ศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียนก็จะแยกย้าย ผู้าุโต่างๆ ก็จะแยกย้าย ต่อให้พวกเขาถูกจัดให้มาอยู่ที่สายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนก็มีแต่จะไม่ได้รับความเป็ธรรม
พูดให้ตรงกับความจริงอีกหน่อยก็คือ ต่อให้พวกเขาถูกฆ่าจนหมด เกรงว่าก็คงไม่มีใครออกหน้าช่วยทวงความยุติธรรมให้!
เพื่อเป้าหมายในการยุบสายเลี่ยนเหยียน สายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนเลยคิดจะอาศัยการเข้ามาทำภารกิจในสนามรบร้างโบราณในครั้งนี้ สร้างผลกระทบครั้งใหญ่ให้กับสายเลี่ยนเหยียน!
ฆ่าคนเยอะเกินไปก็จะทำให้คนสงสัย แต่ถ้าสักห้าคน มันก็อยู่ในจำนวนที่พอเหมาะพอดี
หากภารกิจครั้งนี้สำเร็จ อำนาจบารมีของสายเลี่ยนเหยียนก็จะถดถอยลงอีก จนสุดท้าย ก็จะไม่มีวันกลับมาผงาดอีก
ถึงเวลานั้น สายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนค่อยยื่นหนังสือฉบับนี้ขึ้นไป ก็จะสามารถเกลี้ยกล่อมผู้บริหารระดับสูงได้เป็ผลสำเร็จ
ส่วนสายเลี่ยนเหยียนนั้นก็จะถูกทำลายจนหมดสิ้น!
ภารกิจที่มาสนามรบร้างโบราณในครั้งนี้ ทั้งสองสายนั้นแบ่งงานกันอย่างชัดเจน
ซูอี้หรานกับชายคนนี้รับผิดชอบฆ่าคน โอวหยางเต้าอวี่กับศิษย์ผู้หญิงอีกคนรับหน้าที่ในการค้นหาไข่ั เมื่อเจอที่อยู่ของไข่ัแล้วก็บอกให้พวกซูอี้หรานรู้และร่วมกันขโมยไข่ั
เพราะภารกิจในครั้งนี้สำคัญมาก ดังนั้น นอกจากโอวหยางเต้าอวี่กับซูอี้หรานและอีกสองคนที่เป็กลุ่มเดียวกันแล้ว คนอื่นจึงไม่รู้เื่เลย
ซูอี้หรานพูดอย่างเ็าขึ้นมาว่า “เ้าไม่เห็นหรือไงว่านางหลงข้ามาก นางเป็ของเล่นของข้า ต่อไปเวลาข้าอารมณ์ไม่ดีก็ไประบายอารมณ์กับนางได้ หากนางไม่ยินยอม ข้าก็แค่ฆ่านางทิ้ง ภารกิจของข้าก็ถือว่าสำเร็จเหมือนกัน”
ชายคนนั้นเข้าใจขึ้นมาทันที “จะว่าไปแล้ว เ้าสวะนั่นที่จริงก็ขวางหูขวางตาอยู่นะ ด้วยความสามารถของเรา ทำไมถึงไม่ลงมือจัดการมันเลยล่ะ?”
“คนเพิ่งจะไป ลงมือตอนนี้มันจะแหวกหญ้าให้งูตื่น”
ซูอี้หรานส่ายหัว “หากเราตามไป แล้วเ้าสวะนั่นรู้ตัวจนบีบหยกออกจากสนามรบร้างโบราณไป เราจะทำอะไรเขาไม่ได้เลย ดังนั้นทุกอย่างจะต้องลงมืออย่างสมบูรณ์แบบ”
ชายคนนั้นเหมือนจะจนใจ “เมื่อครู่หากเ้าหลอกผู้หญิงคนนั้นมาได้ ให้นางไม่ทันตั้งตัว เ้าอาจจะชิงหยกของนางมาได้ ถึงเวลานั้นเ้าค่อยลงมือนางก็คงหนีไปไหนไม่ได้ แต่ตอนนี้ดูท่าคงพลาดโอกาสทองไปแล้วล่ะ”
แสดงให้เห็นว่า ซูอี้หรานกับชายคนนั้นเหมือนจะกลัวหยก เพราะหยกจะทำงานทันทีในสิบวินาที หากมีใครจับได้ว่าพวกเขาจะทำอะไร ก็อาจจะทนให้ผ่านไปได้ภายในสิบวินาทีก่อนจะหนีไปได้
หากคนของสายเลี่ยนเหยียนโชคดีหนีรอดไปได้แล้วไปบอกแผนการร้ายนี้กับผู้าุโใหญ่ของพวกเขา และทำการป้องกันไว้ได้ ถ้าอย่างนั้นแผนการที่วางกันมาหลายปีของสายหรงเหยียนกับสายจั่วเหยียนก็จะล้มเหลวไปในที่สุด
ดังนั้น พวกของซูอี้หรานถึงได้ระวังตัวอย่างมาก หากไม่มั่นใจเต็มร้อยพวกเขาจะไม่ลงมือเด็ดขาด
“แต่ว่า ... ในเมื่อข้ารู้ชื่อของนางแล้ว นางก็ไม่มีทางหนีรอดจากมือข้าไปได้หรอก ข้าแยกแยะได้ เ้าสวะนั่นมันทำข้าเสียแผน ข้าจะปล่อยไปได้อย่างไรกัน? แค่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้นเอง ... ”
ซูอี้หรานยิ้มมุมปาก “ช้าเร็วสายเลี่ยนเหยียนก็ต้องถูกทำลาย ปล่อยพวกเขาได้ใจไปก่อนจะเป็ไรไป?”
“เหอะๆ ก็จริง”
ชายคนนั้นรู้สึกว่าคำพูดเหล่านี้มีเหตุผลก็ตอบรับว่าเห็นด้วย จากนั้นพวกเขาก็เดินทางไปยังซากปรักหักพัง เพื่อหาเป้าหมายใหม่อย่างระมัดระวัง
อันตราย ... มันกำลังคืบคลาน โดยที่ศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียนนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว!
......
ที่ปลายทางของทะเลทราย ที่ชายขอบของซากปรักหักพัง
วิหคัปีกมืดกับกระเรียนขาวตัวหนึ่งบินอยู่ชายขอบซากปรักหักพัง ทั้งสองกระพือปีกหยอกล้อกันไปมาอย่างสนุกสนาน
แต่บริเวณพื้นที่โล่งด้านหน้าที่ล้อมรอบไปด้วยซากปรักหักพัง มีชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่
พวกเขาคือิอวี่กับเิหยูเยียน
พวกเขาไม่ได้สำรวจลึกเข้าไป แต่หยุดยืนอยู่ที่ชายขอบ
เิหยูเยียนเดินไปที่เสาด้านข้างซากปรักหักพัง ยืนหันหลังให้กับิอวี่แล้วมองไปที่ขอบฟ้า สีบนท้องฟ้าเหมือนกับอารมณ์ของเิหยูเยียนในเวลานี้เลย มันเป็สีเทาๆ
“ิอวี่ ข้ารู้สึกว่าข้าทนมามากพอแล้วนะ ข้าทนมาพอแล้วจริงๆ ” เิหยูเยียนสูดหายใจเข้าลึกๆ น้ำเสียงเ็าถึงที่สุด
ิอวี่เลยต้องจำใจอธิบายว่า “เ้าทนอะไร? เมื่อครู่ที่ข้าขวางเ้า เพราะรู้สึกว่าเ้ากำลังตกอยู่ในอันตรายถึงได้ทำไปแบบนั้น หรือว่าเ้าดูไม่ออกเลยหรือไง”
“ข้ามีอันตราย?”
เิหยูเยียนหันกลับมามองิอวี่ “ข้ามองออกอะไรกัน เลิกทำตัวเสแสร้งสักทีเถอะ ได้ไหม?”
เิหยูเยียนรู้สึกว่าิอวี่กำลังเสแสร้ง เขาไม่อยากให้นางไปกับซูอี้หรานทำไมไม่พูดตรงๆ จะพูดอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องทำไม
ิอวี่ี้เีจะเถียงกับเิหยูเยียน เลยวิเคราะห์สิ่งที่เขาคิดไปเลยว่า “เมื่อครู่พวกเขาเข้ามาทักทายเ้าก่อน แสดงว่าพวกเขามีเป้าหมายอะไรบางอย่าง”
“เขาเป็คนของสายจั่วเหยียน ในสถานการณ์ความแค้นระหว่างสาย กลับมาบอกว่าอยากจะให้ทั้งสามสายนั้นกลับมาดีต่อกันมันแปลกเกินไป อีกอย่าง เขายังอยากให้ทั้งสามสายสามัคคีกัน เ้าไม่รู้สึกว่ามันดูเหลวไหลไปหน่อยหรือ?”
“ทำไมเ้าถึงได้มองคนอื่นเลวร้ายเหมือนเ้าขนาดนั้นน่ะ ในหัวเ้ามีแต่เื่อะไรกันแน่ ถึงได้มองคนอื่นไม่ดีแบบนั้น?”
เิหยูเยียนพูดด้วยความสงสัยแบบนี้ มันทำให้ิอวี่นั้นอารมณ์เสียมากกว่าเดิม
ิอวี่เลยพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักกว่าเดิม “ข้าจะพูดอีกครั้งนะ เป้าหมายของเขามันไม่ได้ใสสะอาด คำถาม เ้าเป็คนถามขึ้นมาก่อน คำพูด เขาก็สร้างขึ้นมาได้ ตอนที่ซูอี้หรานอธิบายเื่นี้ ศิษย์ข้างกายของเขาคนนั้นสีหน้าใใหญ่ นั่นหมายความว่าอะไร? มันก็หมายความว่าที่จริงเขารู้ดีแก่ใจเลยว่า ซูอี้หรานนั้นกำลังโกหกอยู่ แต่เพราะเ้าอยู่ตรงนั้น เขาถึงไม่ได้เปิดโปง”
“เลิกพูดเื่ไร้สาระสักที!”
นี่เป็ครั้งแรกที่เิหยูเยียนโมโหมากขนาดนี้ เดิมทีนางเป็คนเงียบๆ แต่ในเวลานี้ นางถูกิอวี่บีบจนเหลืออดเลยระบายคำพูดที่อยู่ในใจออกมา “เ้าไม่มีหลักฐาน มีสิทธิอะไรมาบอกให้ข้าเชื่อเ้า? เ้าเห็นซูอี้หรานดีกว่าเ้าไม่ได้ เลยไม่อยากให้ข้าไปชื่นชอบเขาใช่ไหมล่ะ?”
“หากเอาเ้ากับซูอี้หรานมาเปรียบเทียบกัน เ้าสู้อะไรเขาได้บ้าง? ความสง่างาม เวลาพูดงามสง่า มีมารยาท จากลักษณะท่าทางเขาก็ดูรอบคอบ มีความเป็สุภาพบุรุษ ปกป้องผู้หญิง เื่ความสามารถและพร์ เขาอายุสิบเจ็ด ใน่อายุที่ใกล้เคียงกับเ้าเขาก็มีขอบเขตอมฤตขั้นที่สามแล้ว คนละชั้นกับเ้าเลย”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเขาจริงใจ มีอะไรก็พูดตรงๆ เขาอยากรู้จักข้า เขาก็บอกว่าอยากรู้จัก แล้วเ้าล่ะ? ครั้งที่แล้วที่สระเลี่ยนเหยียน ... เ้ายังคิดจะหลอกข้าอีก!”
ิอวี่ขมวดคิ้วหนักมาก “เื่ที่เกิดขึ้นครั้งก่อน ... ”
เดิมเขาคิดจะอธิบาย แต่พูดยังไม่ทันจบเิหยูเยียนก็พูดขัดขึ้นมาว่า “เ้าคิดว่ามีอะไรกับข้าแล้ว ข้าเิหยูเยียนก็จะเป็ของเ้าแล้วอย่างนั้นหรือ? เ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว เ้าไม่คู่ควรกับข้าเลยสักนิดเดียว”
“หากเ้ารู้สึกว่าสู้ซูอี้หรานไม่ได้เลยแม้แต่เื่เดียว เ้าก็ไปซะ อย่าทำอะไรที่ข้าไม่ชอบอีก ข้าไม่ได้เป็อะไรกับเ้า เ้าเองก็ไม่ต้องมายุ่ง เข้าใจไหม”
หากในใจของเิหยูเยียนคิดว่าซูอี้หรานคือผู้ชายที่ดีมาก ถ้าอย่างนั้นเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ิอวี่ก็เป็ผู้ชายที่แย่มาก!
เมื่อิอวี่ฟังจบก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
เขาถึงกับส่ายหัวหัวเราะเยาะตัวเอง
หลายครั้งความหวังดีก็มักจะถูกซ่อนอยู่ในมุมของแผนการร้าย ทั้งๆ ที่มันเป็อะไรที่ใสบริสุทธิ์ แต่กลับไม่มีใครเห็น แล้วก็ไม่มีใครพูดถึง
“เ้าจำเอาไว้เลยนะ แล้วเ้าจะเสียใจ” หลังจากที่ิอวี่ได้สติกลับมา เขาก็ชี้ไปที่หน้าของเิหยูเยียน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความจริงจัง
วินาทีนั้น สายตาที่ดุดันของิอวี่กลับทำให้เิหยูเยียนรู้สึกตะลึงและใจสั่นไปเล็กน้อย ...
ความโกรธเหมือนทะลุทะลวงเข้าไปในกระดูกและความรู้สึกของนาง!
นี่มันอะไรกัน?
เิหยูเยียนดึงสติกลับมาหลังจากที่สติหลุดไปชั่วขณะ สายตาของนางก็นิ่งและเ็าลง!
ลมปราณทั้งหมดในตัวของนางพลุ่งพล่านขึ้นมา นางปล่อยลมปราณขอบเขตอมฤตขั้นที่สองออกมาและกดดันไปที่ิอวี่ ดวงตาของนางค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็สีแดง “เ้าไม่มีสิทธิมาสั่งสอนข้า ไม่ว่าด้านไหนเ้าก็ไม่มีสิทธิ”
“เหอะๆ ”
ิอวี่อดทนอยู่ตลอดั้แ่ต้นจนจบ เิหยูเยียนกลับแสดงท่าทีเ็าไร้เยื่อใยตลอด เพราะจากใจลึกๆ ของนางแล้ว ไม่เคยให้เกียรติเขาเลยสักนิดเลย
ิอวี่เองก็เป็คน มีอารมณ์ความรู้สึก ในเวลานี้พอเิหยูเยียนปล่อยพลังกดดันเขา เขาก็เลยปล่อยพลังขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งระดับสูงสุดออกมาอย่างไม่เกรงใจ เพื่อต่อต้านนาง!
พลังอำนาจพุ่งปะทะกัน ทั้งสองคนนั้นกำลังจะลงมือแล้ว!
“ดูท่าทาง พวกเ้าสองคนอารมณ์ไม่เลวเลย”
ทันใดนั้น ก็มีคนสองคนเดินปรบมือมาจากซากปรักหักพังอีกฝั่ง ทำให้เิหยูเยียนกับิอวี่ต้องหันไปมอง
สองคนนี้เิหยูเยียนไม่คุ้นเลย แต่ิอวี่นั้นรู้จักดี เพราะก่อนหน้านี้เขาก็สังเกตเห็นสองคนนี้แล้ว พวกเขาเหมือนจะเป็ศิษย์ชั้นยอดของฟางหลิงจวิน!
และพวกเขาสองคนก็ล้วนแต่เป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สอง!
“ิอวี่ เ้าจะบีบหยกแล้วไสหัวไปเอง หรือจะให้เราสองคนลงมือให้เ้าไสหัวไปดี” ชายคนหนึ่งยิ้มมุมปาก น้ำเสียงดูอวดดีมาก
พวกเขามีสิทธิที่จะอวดดี
ภารกิจที่ฟางหลิงจวินสั่งให้พวกเขามาทำนั้น ก็คือการสังหาริอวี่ หากฆ่าิอวี่ไม่ได้ ก็จะต้องบีบให้เขาออกจากสนามรบร้างโบราณนี้ไปให้ได้ เมื่อเป็อย่างนั้น ฟางหลิงจวินก็จะได้หาโอกาสลงมือกับิอวี่แทน!
ั้แ่ิอวี่กับเิหยูเยียนมาที่สนามรบร้างโบราณ สองคนนี้ก็จับตาดูิอวี่อยู่ตลอดและตามพวกเขามาติดๆ จนกระทั่งตอนนี้ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ พวกเขาถึงได้เผยตัวออกมา
เห็นท่าทางสองคนตรงหน้าอวดเก่งมาก ิอวี่ก็ยิ้ม
เขาฆ่าแม้แต่ซุนอี้ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สาม แล้วเขาจะไปกลัวสองคนที่อยู่ตรงหน้านี้ได้อย่างไรกัน?
เขาเลยเตรียมตัวที่จะรับมือ!
“เ้าไม่ต้องกลัวนะ”
แต่ในเวลานี้เอง เิหยูเยียนกลับดันตัวิอวี่ไปข้างๆ แล้วกวาดสายตาใส่เขาพร้อมกับชี้หน้า “ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าทำไมสองคนนี้ถึงได้มาเล่นงานเ้า แต่วันนี้ข้าจะจัดการสองคนนี้ด้วยตัวคนเดียว เ้าดูให้ดีแล้วกันว่าระหว่างเราสองคนมันห่างชั้นกันแค่ไหน ต่อไป เ้าจะได้ไม่ต้องมากวนข้าอีก”
