“ชิ้ง”
หยวนจุนชักกระบี่ยาวออกมาจากฝักซึ่งทำให้เกิดแสงสะท้อนส่องประกายออกมา ขณะเดียวกันเขาก็ยื่นหยดิญญาจงหยวนครึ่งขวดให้แก่เสี่ยวเมิ่งก่อนจะกล่าวเสียงเบาว่า “รบกวนเ้าแล้ว”
เมื่อได้ยินเขาเอ่ยออกมาด้วยความเกรงใจ เสี่ยวเมิ่งจึงไม่ค่อยพอใจเท่าไร นางมุ่ยปากอมชมพูแล้วกล่าวว่า “กับข้ายังต้องเกรงใจอีกหรือ?”
“ฮู่”
เมื่อฝ่ามือนางปรากฏต้นเพลิงอัคคีกลืน์ นางจึงโปรยหยดิญญาจงหยวนก่อนจะใช้พลังจิตควบคุมในอากาศ หยดิญญาค่อยๆ ตกลงไปที่รอยร้าวทั้งสองบนตัวกระบี่หยวนจุนและค่อยๆ ซึมเข้าไป
จากนั้นเสี่ยวเมิ่งจึงนำเปลวไฟไปอังไว้บนตัวกระบี่ ทำให้กระบี่หยวนจุนแผ่แสงสีขาวออกมาเป็พลังที่ห่อหุ้มกระบี่ไว้ ก่อนที่แสงสีขาวและดำเ่าั้จะส่องสว่างไปทั่วทั้งห้อง
ดูจากท่าทางที่เคร่งเครียดของเสี่ยวเมิ่ง การซ่อมแซมกระบี่หยวนจุนคงยากกว่าการกลั่นอาวุธระดับิญญาขั้นสอง
อย่างหลังนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าทักษะในการกลั่น เพราะคุณภาพของอาวุธระดับิญญาจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ใช้ ซึ่งขณะที่ใช้พลังจิต อีกด้านก็ต้องควบคุมความแรงของเปลวไฟด้วย
ภายในของเสี่ยวเมิ่งมีต้นเพลิงอัคคีกลืน์ ทำให้นางสามารถลดเวลากลั่นลงได้ถึงสิบเท่า หากเป็ผู้อื่นคงใช้เวลาสิบวันในการกลั่นอาวุธระดับิญญาขั้นสอง แต่เสี่ยวเมิ่งใช้เวลาเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น
แต่กระบี่หยวนจุนที่นางกำลังซ่อมแซมอยู่ตอนนี้เป็ถึงอาวุธระดับมหาปราชญ์ขั้นแปด ซึ่งนักสร้างระดับมหาปราชญ์ขั้นยอดเป็ผู้สร้างขึ้นมาด้วยตนเอง
เห็นได้ชัดว่าการซ่อมแซมกระบี่ให้เสร็จภายในระยะเวลาอันสั้นนั้นมิใช่เื่ง่ายเลย
เขี้ยวันี้แข็งแกร่งเกินไป ยากกว่าวัตถุแร่ผลึกที่นางเคยกลั่นมาทั้งหมด!
หยวนจุนหลับตาลง พยายามระลึกความทรงจำเพื่อหาวิชายุทธ์วิถีกระบี่ที่เหมาะกับพลังบ่มเพาะของเขาในตอนนี้
พยายามอยู่พักหนึ่งเขาก็เลิกคิด ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
ชาติก่อนตอนที่ได้กระบี่หยวนจุนเล่มนี้มาเขาก็บ่มเพาะพลังยุทธ์จนถึงระดับตะวันแล้ว อีกทั้งวิชายุทธ์วิถีกระบี่ที่เขาใช้ควบคุมยังเหนือชั้นกว่าระดับเนี่ยผานด้วย
การฝึกวิชายุทธ์เจวี๋ยซื่อมิใช่สิ่งที่ร่างกายของเขาจะสามารถรับได้ อีกทั้งการฝึกอย่างสะเปะสะปะนั้น หากพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้อันตรายถึงชีวิต
วิชายุทธ์วิถีกระบี่ร้ายกาจกว่าวิชายุทธ์ทั่วไป หากถูกวิชายุทธ์วิถีกระบี่สะท้อนกลับ เขาต้องถูกปราณกระบี่ทำให้าเ็อย่างแน่นอน
“ข้าต้องหาวิชายุทธ์วิถีกระบี่ที่เหมาะสมกับพลังบ่มเพาะของข้าในตอนนี้ก่อน”
หยวนจุนคิดว่าเสี่ยวเมิ่งคงไม่สามารถซ่อมแซมกระบี่หยวนจุนให้สำเร็จได้ในเร็วๆ นี้ เขาจึงเดินออกมานอกห้องเพียงลำพัง และมุ่งตรงไปยังห้องโถงของโรงประมูล
เมื่อเสี่ยวเมิ่งอยู่ในโรงประมูล เขาไม่จำเป็ต้องกังวลว่าจะเกิดเื่ใดขึ้นกับนาง ผู้จัดการฉางเป็คนฉลาด เมื่อััได้ว่าเสี่ยวเมิ่งกำลังกลั่นอาวุธ เขาจะไม่เข้าไปรบกวนนางอย่างแน่นอน
หลังจากเข้าห้องโถงมาได้ไม่นาน หยวนจุนก็เห็นว่าผู้จัดการฉางกำลังเดินมาหาเขา
เมื่อเห็นเขารีบเดินเข้ามา หยวนจุนจึงคำนับด้วยรอยยิ้มแล้วกล่าวว่า “ผู้จัดการฉางมีธุระอันใดกับข้าอย่างนั้นหรือ?”
ผู้จัดการฉางพยักหน้า สายตาอันว่องไวมองมาที่หยวนจุนอย่างไม่ลดละ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “ข้าเพิ่งได้รับข่าวมาว่าเจียงเทียนมิ่งตายแล้ว”
แววตาของหยวนจุนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเื่นี้จะแพร่งพรายออกไปอย่างรวดเร็ว แม้เมื่อวานจะเป็เพียงการต่อสู้เล็กๆ ในเมืองเทียนอวิ่น แต่ก็ก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อยู่เช่นกัน
หากเื่นี้จะอยู่ในความสนใจของเขา เช่นนั้นย่อมเป็เื่ที่เข้าใจได้
เมื่อเห็นว่าหยวนจุนมิได้ใอย่างที่คิด ผู้จัดการฉางที่นึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงเงียบไปชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “สหายน้อยหยวนจุนเดินอย่างรีบร้อนเช่นนี้ มีเื่ใดเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ?”
ผู้จัดการฉางเป็คนของโรงประมูล และเป็ผู้ที่พบเจอสิ่งต่างๆ มามากมาย หยวนจุนจึงหยุดชะงักแล้วกล่าวออกไปโดยไม่ปิดบังว่า “ขอถามผู้จัดการฉาง ่นี้โรงประมูลมีการประมูลวิชายุทธ์วิถีกระบี่บ้างหรือไม่?”
เมื่อได้ยินว่าหยวนจุน้าคัมภีร์วิชายุทธ์วิถีกระบี่ เขาขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “หากเ้า้าวิชายุทธ์วิถีกระบี่ ในเมืองเทียนอวิ่นมีคัมภีร์กระบี่บินแปดส่วนที่มีชื่อเสียงซึ่งตระกูลหลิวนั้นอยู่”
“คัมภีร์วิชายุทธ์นี้เป็สิ่งที่โรงประมูลเคยปล่อยออกไป ใช้ในการฝึกวิถีกระบี่ระดับเ้าฮั่วภายในระยะเวลาอันสั้น คนในตระกูลหลิวหลายคนคงเข้าใจแก่นแท้ของมันแล้ว”
เมื่อได้ยินว่าวิชายุทธ์นั้นเป็ของตระกูลหลิว หยวนจุนก็แสดงสีหน้าสิ้นหวังออกมาทันที
กว่าจะตีตัวออกหากจากหลิวหรูเยียนมาได้นั้นไม่ง่าย เขาจึงไม่อยากข้องเกี่ยวกับตระกูลหลิวอีก
“วิชายุทธ์วิถีกระบี่นั้นหายากกว่าวิชายุทธ์ทั่วไป โรงประมูลจึงยังไม่จัดการประมูลวิชายุทธ์ประเภทนี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่อาจทำให้เ้าสนใจได้”
ผู้จัดการฉางเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าวว่า “สองวันให้หลัง โรงประมูลจะมีการประกาศเื่สุสานโบราณของนักยุทธ์ระดับตะวันแห่งเมืองเทียนอวิ่น ในนั้นอาจมีสิ่งที่เ้า้าก็เป็ได้”
หยวนจุนพยักหน้าเงียบๆ ถ้าเป็เพียงสุสานของนักยุทธ์ระดับตะวัน ชาติที่แล้วเขาคงไม่ปรายตามองอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว หากเป็สุสานโบราณจริงๆ บางทีในนั้นอาจมีสิ่งที่เขานึกไม่ถึงก็เป็ได้
“เช่นนั้นรบกวนผู้จัดการฉางแล้ว”
เมื่อเห็นหยวนจุนถือโอกาสลา ผู้จัดการฉางจึงรีบถามขึ้นว่า “ข้ารบกวนถาม แม่นางกวนกำลังกลั่นอาวุธอยู่ใช่หรือไม่? หากไม่รบกวน วานสหายน้อยช่วยนำผลการหารือของโรงประมูลไปบอกนางที”
“ในฐานะที่แม่นางกวนเป็ผู้าุโในสังกัดโรงประมูล ดังนั้นจึงสามารถรวบรวมกองกำลังลับของโรงประมูลได้ตามที่้า”
แม้เขาจะมิได้เอ่ยออกมาอย่างชัดเจน แต่หยวนจุนก็รู้ว่าสิ่งที่ผู้จัดการฉางเอ่ยออกมานั้นหมายถึงสิ่งใด
การอนุญาตให้เสี่ยวเมิ่งระดมกองกำลังลับของโรงประมูลได้ตามที่้า กล่าวได้ว่าเขายินยอมให้นางใช้กำลังนี้เพื่อกวาดล้างตระกูลเจียงให้หมดสิ้น
โรงประมูลของเมืองเทียนอวิ่นก่อตั้งมาหลายปีแล้ว นี่เป็ครั้งแรกที่พวกเขาต้องตัดสินใจเื่เช่นนี้! จากเื่นี้ทำให้หยวนจุนได้รู้ว่าข้อเรียกร้องของนักสร้างระดับปรมาจารย์นั้นมีพลังมากเพียงใด
การมีพลังอยู่ในมือนั้นช่างมีอำนาจในการต่อรองเสียจริง
เมื่อหยวนจุนกลับเข้าไปในห้องพักแล้ว เขานั้นยังไม่พักผ่อน เพราะคิดว่าจะใช้เวลาสองวันนี้ฝึกควบคุมคัมภีร์วิชายุทธ์กรงล้อมอสูรที่ได้มาจากหลิวหรูเยียนก่อน
เขาเห็นวิชายุทธ์นี้ด้วยตาตนเองแล้ว แม้จะมิใช่วิธีที่สามารถบุกโจมตีหรือตั้งรับได้ แต่ก็สามารถสร้างเกราะที่แข็งแกร่งได้ แม้แต่เซียวหลงที่เป็ถึงนักยุทธ์วงแหวนใหญ่ขั้นห้าก็ยังไม่สามารถทำลายได้
สำหรับนักยุทธ์ที่ใช้วิชายุทธ์พลังกายาแล้ว มันคือศัตรูตัวฉกาจ!
หยวนจุนนั่งขัดสมาธิ นำวิชายุทธ์วางไว้ตรงหน้า ก่อนจะทำตามวิธีที่อธิบายไว้ด้านใน เขากระจายปราณดาราภายในไปยังจุดลมปราณในร่างกายกว่าเก้าสิบจุด
จุดลมปราณกว่าเก้าสิบจุดปรากฏแสงสว่าง แสงนั้นส่องประกายสลับกับมืดมิด ทำให้เห็นชัดเจนมากกว่าเดิม
เสี่ยวเมิ่งกำลังกลั่นอาวุธอยู่ไม่ไกล ทำให้หยวนจุนมิกล้าที่จะแสดงกรงขังอสูรออกมา กลัวว่าจะมีผลต่อการซ่อมแซมกระบี่หยวนจุน
“วี้ วี้”
เมื่อได้ยินกระบี่หยวนจุนส่งเสียงออกมา เขารีบลุกขึ้นและมองไปยังตัวดาบที่กำลังถูกเผาด้วยเปลวเพลิงทันที รอยร้าวทั้งสองที่เห็นได้ชัดนั้นหายไปแล้ว ซึ่งตอนนี้กลายเป็กระบี่สีขาวหยกที่ดูแล้วราวกับเป็กระบี่ใหม่
กระบี่ปล่อยคลื่นอันทรงพลังออกมา เหมือนความไร้ชีวิตชีวาที่จู่ๆ ก็กลับมาสดใสอีกครั้ง
“สำเร็จ!”
เสี่ยวเมิ่งะโออกมา จากนั้นเปลวอัคคีกลืน์จึงกลับเข้าไปในร่างกายทันที นางใช้พลังจิตควบคุมกระบี่ยาวให้ตกลงตรงหน้าหยวนจุนที่กำลังมีสีหน้าประหลาดใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้