เหลียงฮวนไม่เคยพบชายหนุ่มที่หล่อเหลาเหมือนโจวเฉิง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือชายคนนี้อายุยังน้อย มีหน้าที่การงานดี และภูมิหลังอันลึกลับคาดเดาไม่ได้ก็เพิ่มความพิเศษให้โจวเฉิงอีกด้วย
โจวเฉิงยิงโดนเข่าของคนขับรถประจำตัวฝานเจิ้นชวน โดยที่ตัวเขาไม่บุบสลายอะไร ทำให้เหลียงฮวนหลงใหลอย่างสมบูรณ์ เหลียงฮวนสนว่าเป็พี่เขยที่ไหน ความคิดของเธอคลับคล้ายกับมารดา ทำไมโจวเฉิงถึงชอบเซี่ยเสี่ยวหลานเล่า?
เซี่ยเสี่ยวหลานแค่สวยกว่าเธอนิดหน่อย ทว่าก็เป็จุดนี้ที่ได้เปรียบเหมือนกัน
นอกจากรูปลักษณ์ภายนอก การศึกษาระดับมัธยมต้นกับทะเบียนบ้านชนบท บิดามารดาหย่าร้าง รวมถึงชื่อเสียที่คลุมเครือในชนบท...
ผู้ชายแบบโจวเฉิงนั้น จะชอบเซี่ยเสี่ยวหลานตลอดไปได้อย่างไร? เหลียงฮวนไม่ยอมให้มารดาของเธอพูดพล่อย เพราะไม่อยากทิ้งภาพจำเลวร้ายต่อหน้าโจวเฉิง
หญิงสาวแรกแย้มใฝ่ฝันในความรัก เมื่อเธอตกหลุมรักโจวเฉิง จึงอยากจะเข้าใกล้โจวเฉิงด้วยทุกวิถีทาง
น่าเสียดายที่โจวเฉิงเป็คนต่างถิ่น อีกทั้งทำงานในหน่วยงานราชการ เหลียงฮวนเป็เพียงนักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่ง ยังไม่มีกลยุทธ์ใดให้ใช้จริงๆ คิดไปคิดมา มีแต่ต้องฟื้นคืนความสัมพันธ์กับเซี่ยเสี่ยวหลาน เข้าใกล้โจวเฉิงผ่านเซี่ยเสี่ยวหลาน
น้องสาวกำลังครุ่นคิดว่าจะขุดตีนกำแพงของเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างไรดี ส่วนพี่สาวเซี่ยจื่ออวี้ผู้ขุดตีนกำแพงของเซี่ยเสี่ยวหลานสำเร็จเรียบร้อย ชีวิตใน่นี้ไม่ค่อยราบรื่นนัก เนื่องจากมีคนอยากขุดตีนกำแพงของเธอเช่นเดียวกัน
ั้แ่เธอตัดสินใจอาศัยการเรียนหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยมาเปลี่ยนแปลงชะตา ชีวิตของเธอก็ดีขึ้นทุกวัน
สอบติดวิทยาลัยฝึกหัดครูปักกิ่ง คว้าหวังเจี้ยนหัวมา ชีวิตของเซี่ยจื่ออวี้กำลังเดินอยู่บนเส้นทางสู่ความรุ่งโรจน์ พอเธอจบการศึกษา ด้านตระกูลหวังได้รับฐานะเดิมคืน หวังเจี้ยนหัวก็มีอนาคตไกล เซี่ยจื่ออวี้จะได้ใช้ชีวิตที่ปรารถนาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันแล้ว สิ่งที่ในตอนนี้ ล้วนคือสิ่งที่เธอทุ่มเทกายใจมากมายกว่าจะได้มา เซี่ยจื่ออวี้มีความภาคภูมิใจลึกๆ ทีเดียว
รวมถึงการไปไร่เพื่อพบพ่อแม่ของหวังเจี้ยนหัว
แรกเริ่มหวังก่วงผิงเ็าไม่น้อย ต่อมากลับเข้าใจทุกอย่างดี และปรับเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อเธอ
หร่านซูอวี้เห็นว่าเธอเป็ลูกสาวแท้ๆ ด้วยซ้ำ ยอมให้เธอทำงานแม้แต่นิดเดียวไม่ได้เลย แน่นอนว่าเธอต้องประพฤติตัวดีต่อหน้าว่าที่บิดามารดาของสามี แย่งหร่านซูอวี้ทำงาน หร่านซูอวี้ชมเชยว่าเธอเป็บุตรสาวจากครอบครัวที่น่าเคารพ เนื่องจากวิทยาลัยใกล้เปิดภาคเรียน เธอกับหวังเจี้ยนหัวจึงอยู่ไร่นานไม่ได้ ก่อนเดินทางจากมา หร่านซูอวี้จับมือของเซี่ยจื่ออวี้
“เด็กดี การอยู่กับเจี้ยนหัวของเรานั้นทำให้เธอลำบากยิ่งนัก หากเป็ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เธอยังจะได้มีชีวิตสุขสบาย... ทุกอย่างล้วนคือโชคชะตา ป้ากับพ่อเจี้ยนหัวเขาช่วยพวกเธอคนหนุ่มสาวได้ไม่มากนัก ทำได้แค่ดูแลตัวเอง ไม่สร้างความเดือดร้อนเพิ่มให้พวกเธอ”
หร่านซูอวี้อารมณ์พรั่งพรู เมื่อพูดถึงเื่อ่อนไหว ก็น้ำตาไหลริน
เซี่ยจื่ออวี้ถูกหร่านซูอวี้จับมืออยู่ ััได้ถึงความหยาบกร้านบนฝ่ามือของอีกฝ่าย เมื่อก่อนเคยเป็ภริยาข้าราชการผู้เพลิดเพลินสุขสบายในสถานะ วันหนึ่งตกทุกข์ได้ยากโดนส่งมาปรับทัศนคติยังไร่อันเหน็บหนาวที่สุด ระดับความหยาบกร้านของฝ่ามือยังสาหัสกว่าจางชุ่ยมารดาของเธอเสียอีก เซี่ยจื่ออวี้หลั่งน้ำตา ณ ตรงนั้นทันทีเหมือนกัน
คุณป้ากับคุณลุงจะเป็ความเดือดร้อนได้อย่างไรล่ะคะ คุณป้า คุณป้าต้องเชื่อมั่น ชีวิตที่ดียังคอยอยู่หลังจากนี้นะคะ! ถ้ามีส่วนไหนที่ฉันพอช่วยได้ ไม่ต้องเกรงใจเลย!
หร่านซูอวี้สงวนวาจาไว้ สุดท้ายก็ไม่ได้ขอให้เซี่ยจื่ออวี้ช่วย
ทว่าระหว่างทางกลับวิทยาลัย หวังเจี้ยนหัวท่าทางหนักอกหนักใจ หลังจากการซักถามของเซี่ยจื่ออวี้ หวังเจี้ยนหัวถึงยอมเล่าเื่หนักใจออกมา
“พ่อให้ฉันติดต่อคนมิตรสหายคนรู้จักเก่า...”
หัวใจของเซี่ยจื่ออวี้เต้นตึกตัก
ั้แ่เธอรับรู้พื้นเพครอบครัวของหวังเจี้ยนหัว ก็เฝ้าคอยวันนี้มาโดยตลอด หลังหวังเจี้ยนหัวสอบติดมหาวิทยาลัยดูไม่รีบร้อนในการฟื้นฟูเครือข่ายเส้นสายแทนครอบครัวแม้แต่น้อย เซี่ยจื่ออวี้ก็มิอาจก้าวก่ายหน้าที่ของผู้อื่น ในตอนนี้ หวังเจี้ยนหัวไว้วางใจเธอโดยสมบูรณ์ ถึงบอกเื่จะติดต่อมิตรสหายเก่าเพื่อสานสัมพันธ์อีกครั้งแก่เธอหรือ?
เซี่ยจื่ออวี้ตั้งตาคอยให้หวังเจี้ยนหัวพูดมากกว่านี้สักหน่อย หวังเจี้ยนหัวลำบากใจยิ่งนัก
ประเด็นนี้ถูกหยุดไว้อีกครั้ง
----------------------------------------
เริ่มภาคเรียนใหม่ เซี่ยจื่ออวี้พบว่าหวังเจี้ยนหัวใช้เงินประหยัดมากขึ้น และไม่ยอมให้เธออุดหนุนเงินเพิ่มเช่นกัน เซี่ยจื่ออวี้คิด นี่คงเป็เพราะถูกการกระทำหน้าวัดไป๋ซีของเซี่ยเสี่ยวหลานกระทบกระเทือนจิตใจเข้าแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานใจแคบเหลือจะทน ตามหวังเจี้ยนหัวมาทวงเงินสาบสิบกว่าหยวน ภายภาคหน้าหวังเจี้ยนหัวมีอนาคตก้าวไกล เกรงว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะต้องเสียใจอย่างสุดซึ้ง
เซี่ยเสี่ยวหลานนั้นเขลา แต่เซี่ยจื่ออวี้จะเลียนแบบเธอไม่ได้เด็ดขาด
เธอลงเดิมพันกับหวังเจี้ยนหัวไปมากมายขนาดนี้แล้ว เวลาแบบนี้สถานการณ์กำลังพอเหมาะพอดี ต้องลงเดิมพันต่อไปอย่างไร้ข้อกังขา
ตอนนี้เป็่เวลาอันสุดแสนลำบากยากเย็นของบ้านหวังพอดี อาหารของเธอย่อมเป็การส่งถ่านร้อนท่ามกลางหิมะ
บ้านหวังยืนหยัดขึ้นเมื่อไร ต่อให้ช่วยเหลือเกื้อกูลมากเพียงใด จะมีผลลัพธ์อะไรได้?
เซี่ยจื่ออวี้รู้ว่าทำไมหวังเจี้ยนหัวพยายามมัธยัสถ์สุดชีวิต การจะไปเยี่ยมเยียนมิตรสหายเก่า ไม่มีทางจะไปมือเปล่าสินะ? การฟื้นคืนความสัมพันธ์ก็ต้องใช้เงินเหมือนกัน มิใช่สินบน แต่เป็การแลกเปลี่ยนน้ำใจตามปกติ การประหยัดอดออมของหวังเจี้ยนหัวทำให้เซี่ยจื่ออวี้ร้อนรน เพราะคราวนี้มีคนหยิบยื่นความอนุเคราะห์ให้ก่อนเซี่ยจื่ออวี้!
รุ่นพี่หลิ่วผู้เคยถูกหวังเจี้ยนหัวปฏิเสธต่อหน้าสาธารณชน เธอไม่ยี่หระโดยสิ้นเชิง พอได้ยินว่าชีวิตของหวังเจี้ยนหัวลำบาก ก็ช่วยหวังเจี้ยนหัวติดต่อหาโอกาสทำงานอย่างแข็งขัน หวังเจี้ยนหัวถือเป็นักศึกษาดีเด่นของวิทยาลัยฝึกหัดครู ครอบครัวของรุ่นพี่หลิ่วเป็ปัญญาชน ย่อมมีเครือข่ายคนรู้จักที่เซี่ยจื่ออวี้เทียบไม่ได้อยู่บ้าง แนะนำหวังเจี้ยนหัวให้กับเหล่านักเรียนที่้าเรียนพิเศษเพิ่มเติม
หนึ่งคาบเรียนราคา 5 หยวน เวลาสุดสัปดาห์ซึ่งมีจำกัดของหวังเจี้ยนหัวถูกจัดเวลาเรียนจนเต็ม และสุดสัปดาห์สองวันก็มีเงินหลายสิบหยวนเข้าบัญชีจริง
สี่สุดสัปดาห์แปดวันต่อหนึ่งเดือน หวังเจี้ยนหัวทำเงินได้ถึง 200 กว่าหยวน
เขาเริ่มติดต่อหามิตรสหายเก่าในอดีตบางคน รายได้จำนวนนี้สามารถตอบสนองการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ เมื่อไม่กินข้าวนิ่ม [1] แล้ว แต่การเรียนของเขาเข้มข้นมาก พอใช้เวลาสุดสัปดาห์อีก ยังจะเหลือเวลาอยู่กับเซี่ยจื่ออวี้เสียที่ไหนกัน? ่เวลาของทางนี้ลดลง โอกาสพบปะกับรุ่นพี่หลิ่วกลับเพิ่มมากขึ้น เพื่อนร่วมหอของเซี่ยจื่ออวี้กระอึกกระอัก บอกว่าเคยเห็นหวังเจี้ยนหัวกับรุ่นพี่หลิ่วสนทนาตามลำพังถึงสองหนแล้ว
“นั่นเพราะว่างานสอนพิเศษให้คนอื่นของเขาจะต้องจัดผ่านรุ่นพี่หลิ่วน่ะ ทั้งสองคนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน”
เซี่ยจื่ออวี้อธิบายกับคนอื่นเช่นนี้ เพื่อนร่วมหอถอนหายใจ “จื่ออวี้ ผู้ชายเปลี่ยนใจไวมากนะ เวลาที่อยู่กับแฟนอย่างเธอลดน้อยลง เจอหน้ากับรุ่นพี่หลิ่วตลอด เธอเองต้องระวังไว้หน่อย”
เซี่ยจื่ออวี้จะพูดอะไรได้
เธอมาเยือนปักกิ่งยังไม่ถึงหนึ่งปี แค่รู้จักผู้คนในวิทยาลัยไม่กี่คน ห่างชั้นจากเครือข่ายมิตรสหายของรุ่นพี่หลิ่วผู้เป็คนปักกิ่งดั้งเดิมอีกไกลโข
สำหรับงานพิเศษที่มีรายได้ 200 หยวนต่อเดือน เซี่ยจื่ออวี้ไม่มีความสามารถหาให้หวังเจี้ยนหัวแน่ เธอคือลูกสาวชาวไร่ชาวนาจากหมู่บ้านต้าเหอ ส่วนรุ่นพี่หลิ่วคือลูกสาวของอาจารย์มหาวิทยาลัย ครอบครัวปัญญาชน เส้นสายของอาจารย์หลิ่วเป็ที่ประจักษ์ ผู้ปกครองของนักเรียนที่้าเรียนเสริมถึงยินดีเลือกหวังเจี้ยนหัว—วิทยาลัยฝึกหัดครูปักกิ่งไม่ได้เลิศเลอมากนัก ละจิงต้ากับหัวชิงเอาไว้ก่อน ก็ยังมีมหาวิทยาลัยครุศาสตร์ปักกิ่งที่กิตติศัพท์แข็งแกร่งกว่าวิทยาลัยฝึกหัดครูปักกิ่งอยู่ดี
ค่าตอบแทนสอนพิเศษ 5 หยวนต่อหนึ่งคาบ ต่อให้เป็นักศึกษาจิงต้ากับหัวชิงก็ยื้อแย่งกัน ถ้าในกรณีปกติจะตกมาถึงนักศึกษาปีหนึ่งจากวิทยาลัยฝึกหัดครูหรือ?
เซี่ยจื่ออวี้รู้สึกว่าครอบครัวเธอกำลังฉุดรั้งให้ถอยหลัง
จะปล่อยปละละเลยให้หวังเจี้ยนหัวกับรุ่นพี่หลิ่วติดต่อกันต่อไป เซี่ยจื่ออวี้ก็ไม่สบายใจ หวังเจี้ยนหัวคือคนที่ยินยอมรับผิดชอบ นิสัยแบบนี้เคยถูกเซี่ยจื่ออวี้ใช้ประโยชน์แล้วหนึ่งครั้ง ดังนั้นหากรุ่นพี่หลิ่วใช้อุบายเดียวกับเซี่ยจื่ออวี้ ถึงเวลาหวังเจี้ยนหัวจะเลือกใคร?
เซี่ยจื่ออวี้พ่ายแพ้ไม่ได้ และไม่อยากเสี่ยงด้วย
เธอจะปล่อยให้หวังเจี้ยนหัวคลุกคลีกับรุ่นพี่หลิ่วต่อไปไม่ได้แล้ว เธอหารือปัญหานี้กับหวังเจี้ยนหัวอย่างค่อนข้างเป็การเป็งาน
“เจี้ยนหัว ฉันคิดว่าการที่เธอสอนพิเศษให้คนอื่น เวลาสั้นไม่ได้เสียหายอะไรหรอก แต่นานเข้าจะรบกวนการเรียนของตัวเองเหมือนกันนะ ถ้าเธอเงินขาดมือ ที่ฉันยังมีอยู่ เธอกับฉันยังต้องแบ่งแยกกันและกันหรือ?”
เชิงอรรถ
[1]吃软饭 กินข้าวนิ่ม หมายถึง พฤติกรรมอาศัยผู้หญิงดำรงชีวิตของผู้ชาย