บทที่ 7 มิติหยกพันปี ep 2
นางกวาดตามองไปรอบๆ ก็พบ ยันต์สีทองหลายแผ่นถูกเก็บไว้บนชั้นที่เรียงรายอยู่ ไม่นานก็ทราบว่าแผ่นยันต์เหล่านี้ใช้เพื่ออะไรบ้าง มีตัวอักษรเรืองแสงแปลกๆ บนผิวกระดาษ บางผืนก็เป็ ยันต์ค่ายกลพลังฟ้า ใช้สำหรับป้องกันหรือซ่อนตัว บางผืนใช้สะกดิญญาร้าย บางผืนใช้สำหรับล่องหน ราวกับเื่ที่เล่าขานในตำนานไม่มีผิด นางขยับไปอีกมุมก็พบแท่นศิลาเว้าโค้ง ตรงกลางมี น้ำใสบริสุทธิ์ ไหลวนอยู่ในลักษณะคล้ายสระน้ำเล็กๆ พลังเย็นอ่อน ๆ แผ่ออกมาพร้อมละอองน้ำสีรุ้งฉับพลันในมโนสำนึกของนางก็ทราบได้ในทันทีว่านี่คือ น้ำพุิญญา
“ว่ากันว่าสามารถฟื้นฟูพลังและรักษาอาการาเ็ได้ไม่ว่าจะเป็มนุษย์หรือพืชสัตว์เช่นนั้นหรือ…” ความรู้ความเข้าใจเหล่านี้จะหลั่งไหลเข้ามาในหัวของนางทันทีที่มองหรือััสิ่งของที่อยู่ในมิติแห่งนี้
นางเดินเข้าไปใกล้ก้มลงมองผิวน้ำใสกระจ่าง สะท้อนเงาใบหน้าตนเอง
“น้ำพุิญญา... น้ำทิพย์ฟื้นพลังเช่นนั้นรึ”
นางกอบน้ำขึ้นมา ดวงตาเบิกกว้างน้ำในมือเปล่งประกายสีทองอ่อนๆ กลิ่นหอมสดชื่นโชยมาแตะจมูกนางไม่รอช้ายกน้ำขึ้นดื่มรสชาติหวานละมุน กลืนลงคอความสดชื่นพลันแผ่ซ่านไปทั่วร่างราวกับมีพลังสายหนึ่งที่วิ่งไปทั่วร่างของนาง ควาเ็ปเหมื่อยล้าเพราะพิษไข้นั้นหายไปราวกับปลิดทิ้งราวกับร่างกายได้รับการฟื้นฟูในทันทีและรู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นในร่างกายที่อ่อนแอนี่ด้วย
"พลังิญญา... ััได้ถึงพลังิญญาจริงๆ!"
นางอุทานเสียงตื่นเต้นแบบนี้หากว่าท่านแม่ได้ดื่มด้วยจะต้องหายแน่นอน จากนั้นก็ก้มลงดูพื้นด้านข้างนั้นเล็กน้อย นางเห็นร่องรอยว่าบางคนเคยมาตักน้ำในสระไปเก็บในขวด บางคนก็วางสมุนไพรบางส่วนไว้แช่ ข้างกันเป็แพสานด้วยเถาวัลย์แม้ว่าจะนานแต่ก็ยังดูเขียวสดใหม่ราวกับเพิ่งตัดมาสาน และถัดไปมีหีบไม้เก่าอีกหนึ่ง ที่ภายในบรรจุ เมล็ดพันธุ์พืช แห้ง ๆ ไว้มากมาย บ้างสลักชื่อไว้ว่าเมล็ดว่านิญญาหิมะหรือเมล็ดอสูรผลพิษอะไรเทือกนั้น ดูเป็สมบัติหลากหลายจากยุคเก่าจนเหลือเชื่อ
นางเดินต่อไปยังกองเนื้อที่เรียงรายจากพื้นขึ้นไปสูงเกือบ 4เมตร ในหัวทราบในทันทีว่านี่คือ เนื้อสัตว์อสูร เนื้อชิ้นขนาดใหญ่โต วางเรียงราย กลิ่นหอมประหลาด แต่เย้ายวนลอยแตะจมูกนางเอื้อมมือไปัั เนื้อแน่นหยุ่น เย็นเฉียบ ราวกับเพิ่งออกจากห้องเย็น
"เนื้อสัตว์อสูรในตำนาน... ไม่เน่าเสีย? เป็ของชั้นเลิศที่เพิ่มพลังให้ผู้ที่ได้กินเช่นนั้นหรือ เป็ไปได้อย่างไร?" นางพึมพำดวงตาเบิกกว้างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองจากนั้นก็กวาดสายตาไปมองรอบๆ อีกครั้ง
"อาวุธพวกนี้..." สายตาเลื่อนไปยังกองอาวุธเทพ ดาบเล่มหนึ่งสะท้อนแสงลวดลายอักขระโบราณสลักเสลาบนใบดาบด้ามดาบประดับอัญมณีสีแดงฉานเปล่งประกายพลังอำนาจนางเอื้อมมือไปจับด้ามดาบััเย็นเยียบ แต่หนักแน่นราวกับมีชีวิต
"นี่มัน... ดาบจากยุคเทพาเช่นนั้นรึ? ไม่น่าเชื่อ..."
นางอุทาน เสียงสั่นเล็กน้อยและนางเห็นแว็บไกลๆ โน้นดูเหมือนว่าจะเป็ปืนสั้นปืนยาวที่จัดเอาไว้เต็มพื้นที่ไปหมด
ถัดไปเป็ตำราโบราณม้วนคัมภีร์กองพะเนินเทินทึกนางเดินเข้าไปสำรวจหยิบม้วนคัมภีร์ม้วนหนึ่งขึ้นมาปกคัมภีร์ทำจากหนังสัตว์ตัวอักษรโบรา สลักเสลาอย่างวิจิตร
"นี่มัน... อักษรยุคใดกัน? ไม่เคยเห็นมาก่อน..."
นางรำพึงพลางเปิดม้วนคัมภีร์ออกฉับพลันในหัวของนางก็สามารถที่จะอ่านคำภีร์เ่าั้ได้ทันที นางเปิดไปเรื่อยๆ ภาพวาดลายเส้น ปรากฏอยู่ภายในภาพสมุนไพรพิษร้ายแรง ภาพสัตว์อสูรดุร้ายและภาพการปรุงยาพิษนานาชนิด
"ตำราหมื่นพิษ...ตำราพิษร้ายจากทั่วทุกมุมโลก? น่าขนลุก..."
นางพึมพำขนลุกเกรียวอีกกองตำรา ปกทำจากกระดาษสา ตัวอักษรเรียบร้อย อ่านง่าย
"ตำราการแพทย์า... ตำรายาโบราณ? จากยุคสมัยไหนกัน? ดูเก่าแก่ยิ่งนัก..."
นางรำพันด้วยความทึ่ง นางวางตำราเ่าั้ลงและเดินไปต่อเห็นกองเสื้อผ้าอาภรณ์เครื่องประดับ รองเท้าของใช้หรูหรานางเดินเข้าไปใกล้ หยิบผ้าไหมเนื้อดีผืนหนึ่งขึ้นมาลวดลายปักประณีตสีสันสดใส ดูเหมือนจะมีบู๊ทของยุคปัจจุบันด้วย
" ผ้าไหมจากยุคราชวงศ์ก่อน? ลวดลายแบบนี้...เคยเห็นในพิพิธภัณฑ์..." นางพึมพำ
เครื่องประดับทองคำประดับหยกประดับเพชรแต่ละชิ้นงดงามล้ำค่าดีไซน์แตกต่างกันไป
"เครื่องประดับจากหลายยุคสมัยทั้งแบบโบราณทั้งแบบร่วมสมัยสะสมไว้ในนี่ทั้งหมดหรือนี่?"
นางพึมพำ ด้วยความประหลาดใจจากนั้นนางก็เดินเข้าไปดูเสาที่ระบุหมายเลข 98 เสบียงอาหารกองมหึมาเท่าูเา ข้าวสารและธัญพืช ผลไม้อบแห้ง อาหารแห้ง อาหารทะเล อาหารกระป๋อง และเครื่องปรุง เครื่องเทศ เกลือ น้ำตาล พริก กระเทียมและยังมีและถัดไปก็เป็ตู้ยาวเกือบ 100 เมตรได้ บนชั้นนั้นเต็มไปด้วยขวดเหล้าและไวน์ อาหารตะวันตกมากมาย ราวกับเป็การบอกรสนิยมของเ้าของได้เป็อย่างดี นางเดินไปหยิบไวน์ขึ้นมาดูวันที่ผลิต 1890 ...ฮื่ม..ไวน์ดี!!
"เสบียงมากมายขนาดนี้... เลี้ยงกองทัพได้เลยนะเนี่ย? และอาหารพวกนี้... ไม่มีวันหมดอายุหรืออย่างไรกัน?"
เดินมาอีกหน่อยนางก็ได้คำตอบ เพราะเป็กองูเาของอาหารสดก็ว่าได้ ใช่แล้วนางใช้คำว่าูเาเพราะว่าอาหารสดทุกชนิดถูกกองเอาไว้ตรงนี้ไม่ว่าจะเป็เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อเป็ด ปลา อาหารทะเลสดๆ และผักผลไม้สดต่างๆ เต็มไปหมด และถัดไปเป็ถังน้ำขนาดใหญ่มากเกือบ 1000 ถังที่เรียงรายอยู่เต็มไปหมด แสดงว่าเ้าของแหวนคนนี้อยู่ในยุคที่น้ำขาดแคลนแน่นอน นางคิด
ไป๋อวี้เจียวเดินสำรวจมิติแหวนไปเรื่อยๆ ความตื่นตะลึงและความสงสัยยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ทันใดนั้นจมูกเล็กๆ ก็ได้กลิ่นหอมประหลาด กลิ่นหอมที่แตกต่างจากกลิ่นหอมของพืชผักิญญา หรือกลิ่นอายของสมบัติล้ำค่า กลิ่นนี้… ช่างหอมหวล ชวนน้ำลายสอ ราวกับอาหารปรุงสุกใหม่ๆ กำลังลอยมาตามลม
นางสาวเท้าตามกลิ่นหอมนั้นไปอย่างไม่ลังเล เดินลัดเลาะูเาสมบัติ ผ่านกองตำราโบราณ จนกระทั่งมาถึงบริเวณโล่งกว้าง ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า ทำให้นางต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
หม้อขนาดใหญ่ ทำจากทองสัมฤทธิ์ ตั้งตระหง่านเรียงรายอยู่เป็ร้อยเป็พันหม้อ อยู่ตรงหน้า ไอร้อนลอยกรุ่นจากปากหม้อ ราวกับเพิ่งจะทำขึ้นมาใหม่ ๆ กลิ่นหอมของเครื่องเทศและเนื้อสัตว์ อบอวลไปทั่วบริเวณ ไป๋อวี้เจียวค่อยๆ เข้าไปใกล้ ชะโงกหน้ามองลงไปในหม้อ ภาพขาหมูชิ้นโต สีน้ำตาลเข้ม ตุ๋นจนเปื่อยนุ่ม ลอยเด่นอยู่ในน้ำซุปสีทอง ผักกวางตุ้งสีเขียวสด แซมอยู่ในหม้อ กลิ่นหอมของขาหมูตุ๋น ยิ่งยั่วยวนชวนหิว จนท้องไส้ปั่นป่วน
ขาหมูตุ๋น…! ไป๋อวี้เจียวอุทานในใจ นางจำได้ว่ามื้อเย็นของวันนี้ มีเพียงข้าวต้มใสๆ ชามเดียว หากได้ขาหมูตุ๋นรสเลิศสักชิ้น คงจะดีไม่น้อย
ความหิวโหยเข้าครอบงำ ความอดใจอดกลั้นแทบมลายหายสิ้น ไป๋อวี้เจียวหันซ้ายแลขวา มองหาร่องรอยของผู้คน แต่ในมิติแห่งสมบัติ กลับไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต มีเพียงนาง และกองสมบัติมหาศาล
สายตาเหลือบไปเห็นชุดจานชามช้อนตะเกียบ วางเรียงรายอย่างเป็ระเบียบ อยู่ไม่ไกลนัก ราวกับมีผู้เตรียมพร้อมไว้ให้ นางรีบสาวเท้าเข้าไปหา หวังจะลิ้มลองรสชาติขาหมูตุ๋นในหม้อให้จงได้
เมื่อเดินมาถึงจานชามช้อนตะเกียบปรากฏอยู่ตรงหน้า ลวดลายวิจิตรบรรจงสีสันสดใสทองคำเปลวประดับขอบจานช้อนเงิน ตะเกียบงาช้าง ทุกชิ้นประณีตงดงาม ราวกับเครื่องใช้ในราชวงค์หรือบุคคลชั้นสูงอย่างไรอย่างนั้น
“ชุดจานชามอะไรกันนี่… สวย หรูหรามากจริงๆ !”
ไป๋อวี้เจียวพึมพำ แต่ทว่า…ความหิวโหยมีอำนาจเหนือกว่าทุกสิ่ง นางตัดสินใจหยิบตะเกียบงาช้างขึ้นมาอย่างเบามือ จากนั้นก็เลือกชามลายดอกไม้ มาหนึ่งใบ พิจารณาดูอย่างละเอียด ชามสะอาดหมดจด ไร้ฝุ่นผง ราวกับถูกดูแลรักษาอย่างดี
“สะอาด… สะอาดเกินไปแล้ว…”
นางพึมพำอีกครั้ง ไป๋อวี้เจียวเดินกลับไปยังหม้อขาหมูตุ๋น มือเล็กๆ คีบขาหมูชิ้นพอดีคำขึ้นมาอย่างระมัดระวัง วางลงในชามน้ำซุปสีทองไหลเยิ้มตามชิ้นเนื้อ กลิ่นหอมยิ่งทวีความรุนแรง จนนางแทบรอไม่ไหว
“ขอชิมหน่อยนะ… แค่ชิ้นเดียวเท่านั้น…”
นางกระซิบกับตัวเองราวกับขออนุญาต ก่อนจะยกชามขึ้นประคอง จรดริมฝีปาก และลิ้มรสชาติขาหมูตุ๋นคำแรก
ทันทีที่เนื้อนุ่มละมุนลิ้นััปลายลิ้น รสชาติอันโอชะ พลันะเิออกในปาก ความเค็ม ความหวาน ความกลมกล่อม ผสานกันอย่างลงตัว เครื่องเทศนานาชนิดส่งกลิ่นหอมละมุนแทรกซึมเข้าไปในทุกอณูของเนื้อหนังหมูเปื่อยนุ่มละลายในปากแทบไม่ต้องเคี้ยว น้ำซุปเข้มข้น กลมกล่อม ซึมซาบเข้าไปในทุกรสัั
“อะ… อร่อย…อร่อยมากจริงๆ!”
ไป๋อวี้เจียวอุทานเสียงแ่ดวงตาเบิกกว้างด้วยความอัศจรรย์ใจรสชาติขาหมูตุ๋นคำนี้ อร่อยล้ำเลิศเกินกว่าอาหารใดๆ ที่นางเคยกินมาในชีวิตราวกับอาหารทิพย์จากสรวง์
“ไม่น่าเชื่อ… อร่อยขนาดนี้ฝีมือแม่ครัวขั้นเทพจริงๆ!”
นางพึมพำความตื่นเต้นความปิติยินดีไหลบ่าเข้ามาในหัวใจนางไม่เคยคิดฝัน ว่าในมิติแหวนแห่งสมบัติจะมีอาหารรสเลิศรอคอยนางอยู่
“มิติแหวนแห่งนี้… ช่างน่าอัศจรรย์มีสมบัติมากมาย แถมยังมีอาหารให้กินอีก นี่มัน… ์ชัดๆ แบบนี้ครอบครัวของเราก็ไม่ต้องลำบากแล้วสิ!”
ไป๋อวี้เจียวอุทาน นางกินหมู่ตุ๋นอีกชิ้นแล้วก็เดินกลับมาดื่มน้ำทิพย์จากนั้นก็เดินสำรวจไปเรื่อยๆ ยิ่งสำรวจก็ยิ่งตื่นตะลึงยิ่งค้นพบก็ยิ่งเหลือเชื่อสมบัติในมิติแหวน มากเกินกว่าจินตนาการ หลากหลายเกินกว่าจะคาดเดา ราวกับรวบรวมเอาสิ่งล้ำค่าจากทุกยุคทุกสมัย จากทุกมุมโลก และจากโลกแห่งจินตนาการ มาไว้ในที่แห่งเดียว
"เ้าของแหวนคนก่อนๆ พวกเขาเป็ใครกัน? เหตุใดพวกเขาจึงได้ถูกเลือกให้เป็เ้าของแหวนหยกนี่กันนะ และเหตุใดแหวนวงนี้จึงมาอยู่ในมือข้า? เ้าแหวนนี้ใช่เกณฑ์อะไรในการเลือกเ้าของกันนะ...อยากรู้จริงๆ"
คำถามมากมายถาโถมเข้ามาในความคิดก่อนจะถอนหายใจออกมา
“นี่คือ… โอกาสหรือภาระกันแน่นะ?”
ความรู้สึกหลากหลายตีวนอยู่ในอกทั้งตื่นเต้น ดีใจ สงสัย และกังวล มิติแหวนแห่งนี้จะนำพานางไปสู่ทิศทางใดกันแน่? เอาเถอะจะนำพาไปทางไหนนางก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันแล้ว เอาเป็ว่าแก้ไขกันไปตามสถานการณ์ก็แล้วกัน...ดั่งตำราพิชัยาที่นางเคยอ่าน ..
....ทหารมาเอาดินกลบ!!!
****นางอ่านตำราพิชัยาบทไหนกันนะ!!! ****
****กรุณากดหัวใจ เพิ่มเข้าชั้น คอมเมนต์เป็กำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ***
