“ฮ่าฮ่าฮ่า ศิษย์พี่อวิ๋นสุดยอดไปเลย พลังหมัดนักยุทธ์ระดับสี่ของท่านนั้นเหนือกว่าของข้าที่ใกล้จะขึ้นระดับหกแค่ครึ่งก้าวตั้งหนึ่งร้อยชั่งแน่ะ! เห็นสีหน้าจ้าวซานเต๋อและไช่ิดูตกตะลึงถึงขีดสุดราวกับเห็นผีแล้ว ทำให้ข้ารู้สึกสดชื่นอย่างยิ่งเชียวล่ะ!” พานเสี่ยวปิงโอบรอบไหล่ของเซียวหลิงอวิ๋นด้วยสีหน้าตื่นเต้นอย่างมาก
“จะว่าไป เหตุใดวันนี้ถึงไม่เห็นจ้าวิเจี้ยนและว่านฮวนเลย?” เรายังไม่ได้ใช้กายค้อนสำริดเลยด้วยซ้ำ หากใช้เคล็ดวิชานั้น ผลลัพธ์ที่ออกมาจะต้องพุ่งสูงขึ้นมากกว่านี้อีกแน่! เซียวหลิงอวิ๋นถามขึ้นพลางเผยรอยยิ้มบางๆ ที่ริมฝีปาก!
“ศิษย์พี่ไม่ทราบหรือ? ว่านฮวนบรรลุขึ้นเป็นักยุทธ์ระดับเจ็ดเมื่อสามวันก่อน นางจึงออกจากกลุ่มของพวกเราและย้ายไปร่ำเรียนที่ลานฝึกวิชาราชสีห์แทนแล้วน่ะ! ส่วนจ้าวิเจี้ยน ข้าได้ยินมาว่าเขากำลังเก็บตัวเพื่อที่จะบรรลุให้ได้!”
จะว่าไปตอนที่นังเด็กว่านฮวนบอกกับเราว่านางขอยกเลิกการหมั้นหมาย นางได้บอกว่าตนได้บรรลุเป็นักยุทธ์ระดับเจ็ดแล้วนี่นา!
และเมื่อจ้าวิเจี้ยนออกจากการเก็บตัว ตัวเขาก็อาจจะกลายเป็นักยุทธ์ระดับเจ็ดด้วยเช่นเดียวกัน!
เอาเถิด ยิ่งแข็งแกร่งและยิ่งมากความสามารถมากเท่าไร ความเ็ปที่ได้รับจากการถูกผลักตกจากก้อนเมฆก็ยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น!
...
ณ หอศาสตราวุธ
ดาบใหญ่เหล็กดำ! อาวุธระดับสูงสำหรับนักยุทธ์ระดับทั่วไป!
เยี่ยม เอาเ้านี่แหละ!
“ข้าขอดาบเล่ม…” เซียวหลิงอวิ๋นชี้ไปทางดาบเหล็กสีดำแล้วกล่าว!
“ปัง! ข้า้าดาบใหญ่เหล็กดำเล่มนี้!” ทันใดนั้นก็มีคนทุบโต๊ะสินค้าเต็มแรง เสียงที่เปล่งออกมาทั้งห้วนและเย่อหยิ่ง!
เซียวหลิงอวิ๋นและเ้าอ้วนพานเสี่ยวปิงต่างก็หันหน้าไปมอง!
ห่างออกไปสามก้าว มีชายหนุ่มสามคน หันกลับมามองทั้งสองด้วยสีหน้ายั่วยวน!
ฮึๆ ช่างเป็ไอ้สมุนลิ่วล้อที่ไม่กลัวตายเสียจริงๆ!
เป็จ้าวซานเต๋อกับไช่ินั่นเอง ที่ยืนขนาบชายหนุ่มร่างสูงและแข็งแรงทั้งทางซ้ายและขวา!
หนิวซาน! เซียวหลิงอวิ๋นค้นหาคนคนนี้ในหัว ทันใดนั้นชื่อของชายหนุ่มร่างสูงคนนี้ก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขา!
หนิวซาน พลเบ๊สุดแกร่งของจ้าวิเจี้ยน มีพลังยุทธ์อยู่ในขั้นนักยุทธ์ระดับห้า ฝึกฝนร่างกายของเขามาั้แ่ยังเล็ก ความแข็งแกร่งของเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่านักยุทธ์ระดับหกบางคนที่เพิ่งบรรลุเสียด้วยซ้ำ
“หนิวซาน เ้าทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? นี่เ้ากำลังหาเื่กันชัดๆ!” พานเสี่ยวปิงกล่าวด้วยความโมโห!
“นี่ เ้าอ้วนพาน เ้ามีความสัมพันธ์อะไรกับเ้าเด็กแซ่เซียวนี่กันแน่ ถึงได้ตามปกป้องมันนักหนา? ข้ามาหาเื่งั้นหรือ หึๆ ข้าจะบอกให้ชัดเจน หากข้า ท่านหนิวคนนี้คิดจะหาเื่แล้วละก็ เ้าจะทำอย่างไร จะกัดข้าอย่างนั้นหรือ!” หนิวซานเอ่ยอย่างจองหอง!
“นี่เ้า...” เ้าอ้วนเตรียมที่จะะโใส่!
“เสี่ยวปิง เ้าจะไปฟัดกับวัวกระทิงให้มันได้อะไรขึ้นมา?” เซียวหลิงอวิ๋นออกแรงดึงเล็กน้อยที่มือของเขา เพื่อการยับยั้งการจ้องมองของเ้าอ้วน แล้วมองไปยังผู้ดูแลที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะสินค้า เสียงของเขาไม่ดังมากแต่มั่นคง "ช่วยเอาดาบใหญ่เล่มนั้นมาให้ข้าหน่อย!"
“ปัง!” หนิวซานทุบโต๊ะสินค้าอีกครั้งแล้วะโ “ข้าอยากได้ดาบเล่มนี้เช่นกัน!”
ผู้ดูแลที่อยู่ด้านหลังโต๊ะสินค้าพลันขมวดคิ้วทันที "เหตุใดพวกเ้าสองคนถึงยืนกรานจะเอาดาบใหญ่เล่มนี้ให้ได้? ทั้งๆ ที่มีอาวุธอีกตั้งมากมายที่นี่..."
"ข้าสนใจสิ่งนี้!"
“ข้าเองก็สนใจเ้านี่เช่นกัน!” หนิวซานยังคงตอบกลับอย่างเย่อหยิ่ง!
“ในเมื่อพวกเ้าทั้งสองต่างก็ไม่ยอมกัน และต่างก็สนใจมันแทบจะพร้อมๆ กัน ตามกฎของสำนักแล้ว ผู้ที่ให้ราคาสูงสุดจะเป็คนที่ได้ไป ดาบใหญ่เหล็กดำเล่มนี้แต่เดิมมีราคาแปดแต้มสำนัก เชิญพวกเ้าทั้งสองเสนอราคามาได้เลย!”
“ดาบเล่มนี้ต้องใช้แต้มสำนักถึงแปดแต้มเลยหรือ?” เซียวหลิงอวิ๋นตกตะลึง! เดิมทีเขามีอยู่สามแต้ม แต่เมื่อสักครู่ตัวเขาได้ผ่านการทดสอบนักยุทธ์ระดับสี่มา ได้รับเพิ่มอีกสามแต้ม รวมกันเป็หกแต้มเท่านั้น
“ฮ่าๆๆ ไอ้ขยะ เ้าไม่มีแต้มสำนัก แต่ยังกล้ามาที่นี่เพื่อแลกอาวุธคุณภาพสูงอีก!” จ้าวซานเต๋อที่ยืนอยู่ข้างๆ หนิวซาน เมื่อเห็นสีหน้าของเซียวหลิงอวิ๋นแล้วเขาก็เยาะเย้ยทันที!
“แปดแต้มสำนัก เอามันมาให้ข้า!” หนิวซานวางป้ายประจำตัวของเขาลงบนโต๊ะ!
“แล้วศิษย์คนนี้ว่าอย่างไร?” ผู้ดูแลที่อยู่ด้านหลังโต๊ะสินค้าหันมามองทางเซียวหลิงอวิ๋น!
ใบหน้าของเซียวหลิงอวิ๋นมืดดำลงทันที ครั้นเขาจะหันหลังกลับไป เ้าอ้วนก็คว้าตัวเขาเอาไว้ และเอ่ยกับผู้ดูแลอย่างภาคภูมิใจ "เก้าแต้มสำนัก!"
“พานเสี่ยวปิง เ้ากล้าต่อต้านข้างั้นหรือ?” หนิวซานจ้องมองด้วยสายตาเยี่ยงวัวกระทิงดุ
“ท่านพานคนนี้จะต่อต้านเ้าแล้วอย่างไร เ้าจะกัดข้าหรือ!” เ้าอ้วนพูดจายอกย้อนด้วยคำกล่าวของอีกฝ่ายอย่างชัดถ้อยชัดคำ!
“เ้าอ้วน ช่างกล้านักนะ!” หนิวซานชี้ไปที่เ้าอ้วนแล้วหันกลับมา "สิบแต้มสำนัก!"
“สิบเอ็ดแต้มสำนัก!”
“สิบสองแต้มสำนัก!”
...
“สิบห้าแต้มสำนัก!”
“สิบหกแต้มสำนัก!” หนิวซานกล่าวอย่างดุดัน
เ้าอ้วนผายมือออกแล้วพูดด้วยรอยยิ้มเบ่งบานราวกับสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ "คุณชายหนิวสุดยอดจริง จุ๊ จุ๊ ตั้งสิบหกแต้มสำนัก ราคาเพิ่มเป็สองเท่าเชียว ช่างร่ำรวยเสียจริงดาบนี้เป็ของท่านแล้ว!"
“พี่อวิ๋น พวกเราไปกันเถอะ!”
ทำได้ดีมากเ้าอ้วน! ฮ่าๆๆ! เซียวหลิงอวิ๋นหัวเราะออกมาเสียงดัง! ความโกรธที่สุมอยู่ในอกของเขาเมื่อครู่นี้ถูกปลดปล่อยออกมาจนหมดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขาเห็นสีหน้าโกรธจัดของพวกหนิวซาน จ้าวซานเต๋อ และไช่ิ บอกได้คำเดียวเลยว่า ‘สุดยอดมาก!’
เป็ความยอดเยี่ยมของวันนี้เลยจริงๆ!
หนิวซานกัดฟันกรอด มองไปยังจ้าวซานเต๋อและไช่ิ "เอาแต้มสำนักของพวกเ้าออกมาให้หมด!" จ้าวซานเต๋อและไช่ิรู้สึกหดหู่เป็อย่างยิ่ง หยิบป้ายประจำตัวของพวกเขาออกมาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง!
ทั้งสามคนรวมแต้มสำนักได้สิบหกแต้ม แลกดาบใหญ่เหล็กดำมาได้ในที่สุด!
“ศิษย์พี่ซาน พวกเราจะปล่อยผ่านไปง่ายๆ แบบนี้อย่างนั้นหรือ?” จ้าวซานเต๋อรู้สึกไม่พอใจเป็อย่างยิ่ง
“ตามพวกมันไป!” หนิวซานเดินออกจากที่นี่พร้อมกับดาบใหญ่ในมือ!
...
“เซียวหลิงอวิ๋น หากเ้ายอมขึ้นไปบนเวทีประลองและต่อสู้กับศิษย์พี่ซาน ไม่ว่าเ้าจะแพ้หรือชนะ ดาบใหญ่เหล็กดำเล่มนี้ก็จะเป็ของเ้า ว่าอย่างไรล่ะ?” แม้ว่าน้ำเสียงของจ้าวซานเต๋อจะดูเรียบเฉยก็ตามที แต่ความชั่วร้ายที่ปรากฏอยู่ในส่วนลึกดวงตา สื่อถึงสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่จริงๆ!
“หนิวซาน พวกเรามาสู้กันบนเวทีประลองกันเสียเองดีกว่า!” การเห็นเ้าอ้วนเป็มิตรแท้นั้นไม่แตกต่างไปจากความทรงจำที่อดีตเ้าของร่างมี ยิ่งการที่เ้าอ้วนออกหน้าปกป้องเขาอย่างจริงใจซ้ำแล้วซ้ำอีกเช่นนี้ ทำให้เซียวหลิงอวิ๋นมองเ้าอ้วนเป็เหมือนดั่งสหายรักในใจ!
เขาเอื้อมมือไปตบไหล่หนาๆ ของเ้าอ้วน ในเมื่อมีโอกาสได้อาวุธที่้าโดยไม่ต้องเสียแต้มสำนักแม้แต่แต้มเดียวเช่นนี้แล้ว จะให้เขาปฏิเสธสิ่งที่มาเสนอให้ถึงหน้าประตูได้อย่างไร เซียวหลิงอวิ๋นยิ้มและตอบตกลงทันที "เอาสิ!"
“ศิษย์พี่อวิ๋น ท่าน…” เ้าอ้วนเกิดความกังวลขึ้นมา! หนิวซาน ไม่เหมือนจ้าวซานเต๋อและไช่ินะ!
“ศิษย์น้อง เ้าลืมพลังหมัดของข้าไปแล้วหรือ!” เซียวหลิงอวิ๋นคลี่ยิ้มบาง : "ไม่ต้องเป็ห่วง นั่นก็แค่วัวกระทิง ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีข้าก็เอาชนะเขาได้แล้ว!"
“เยี่ยมมาก คุณชายเซียว เห็นแก่ความกล้าหาญของเ้า นับแต่นี้ไปข้าจะไม่เรียกเ้าว่าไอ้ขยะอีก!” หนิวซานดีใจมากเมื่อเห็นว่าเซียวหลิงอวิ๋นยอมรับคำท้า ถึงแม้ว่าเขาจะเอ่ยปากกล่าวเช่นนั้นออกไป แต่แท้จริงแล้วเขามีความคิดที่จะตัดแขนตัดขาอีกฝ่ายบนเวทีประลองเสีย! ซึ่งแน่นอนว่าความคิดที่จะทำให้อีกฝ่ายพิการนั้นไม่ถูกกล่าวออกมา! “นัดหมายวันเวลามาได้เลย!”
“จะผัดวันประกันพรุ่งไปไย ตอนนี้เลยเป็อย่างไร?”
"ดี!"
และแล้วทั้งห้าคนก็มุ่งตรงไปยังเวทีลานประลอง ในลานฝึกวิชาแห่งหนึ่ง!
สำนักิญญาทั้งห้าเขต มีลูกศิษย์ทั้งหมดจำนวนเกือบเจ็ดหมื่นราย ทั้งหมดล้วนเป็คนหนุ่มสาวอายุระหว่างสิบถึงยี่สิบปี ล้วนแล้วแต่เป็นักยุทธ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง จึงเป็ไปไม่ได้ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการต่อสู้ในหมู่ศิษย์ด้วยกันอย่างเข้มงวด ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาเื่ความขัดแย้งในหมู่ศิษย์แล้ว แต่ละเขตของสำนักจึงได้ตั้งเวทีประลองสำหรับเหล่าศิษย์ เพื่อใช้ต่อสู้แก้ไขข้อพิพาท และสะสางความขัดแย้งโดยเฉพาะ!
เวทีลานประลองมีอยู่สองประเภท หนึ่งคือแบบปกติที่พบเห็นได้ทั่วไป ตัดสินแพ้ชนะด้วยสายตา และอีกประเภทคือการต่อสู้แบบถึงตาย! เมื่อขึ้นไปบนเวทีแล้ว จะต้องรับผิดชอบต่อการตายด้วยตัวเอง!
...
“เซียวหลิงอวิ๋นกับหนิวซานกำลังเผชิญหน้ากันที่เวทีประลองล่ะ!” ข่าวนี้ก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วทั่วทั้งเขตใต้ราวกับสายลม!
"ไปๆๆ รีบไปที่เวทีลานประลองกันเถอะ!" ศิษย์คนหนึ่งรีบพุ่งตัวไปที่เวทีประลองในทันที!
“เซียวหลิงอวิ๋น เ้าขยะชั้นสองชั้นสามนั่นเสียสติจนคลุ้มคลั่งไปแล้วรึอย่างไร? ถึงได้กล้าไปท้าประลองกับหนิวซานที่เวทีประลองเช่นนั้น!”
"หลังจากเป็ขยะมานานหลายปี ในที่สุดเขาก็เอาชนะจ้าวซานเต๋อกับไช่ิได้ กระนั้นก็ยังลำพองใจคิดจะเอาชนะหนิวซานด้วยอีกอย่างนั้นหรือ เ้าเซียวหลิงอวิ๋นคนนี้นี่..."
ณ ที่แห่งหนึ่งในเขตใต้ ใบหน้าที่งดงามของว่านฮวนมืดดำลงราวกับน้ำลึก: "เ้าโง่ หากเ้าไปสู้กับหนิวซานที่ลานประลองแล้ว ผลคงจบลงที่ตายไม่ก็พิการเป็แน่ รนหาที่ตายเช่นนี้เอง จะโทษใครไม่ได้ทั้งนั้น!”
ทั่วทั้งเขตใต้ นอกเหนือจากเ้าอ้วนพานเสี่ยวปิงที่เชื่อมั่นในตัวเซียวหลิงอวิ๋นแล้ว ก็ไม่มีศิษย์คนไหนที่มองเซียวหลิงอวิ๋นในแง่ดีเลย!
"ไปที่เวทีประลองงั้นรึ? จะประลองกันแบบเที่ยงธรรมหรือไม่?" ผู้ดูแลเวทีประลองมองไปที่หนิวซานและเซียวหลิงอวิ๋นแล้วถามขึ้น!
“สู้แบบถึงตาย!” หนิวซานกล่าวเสียงเย็นะเื!
สู้แบบถึงตายงั้นหรือ! หนิวซาน เ้าช่างโหดร้ายจริงๆ! เซียวหลิงอวิ๋นััได้ถึงจิตสังหารของอีกฝ่าย! ในเมื่อเ้าอยากสู้ให้ถึงตายนัก เช่นนั้นข้าก็จะสนองความ้านั้นให้เอง!
“ทั้งสองฝ่ายแน่ใจแล้วหรือ?”
“ใช่!” หนิวซานและเซียวหลิงอวิ๋นพยักหน้าพร้อมกัน!
จากนั้นต่างฝ่ายต่างก็ลงชื่อและประทับตรา!
...
“ข่าวด่วน ระหว่างพวกเขาจะเป็การประลองแบบถึงตาย!” มีคนรีบออกมาประกาศข่าวเสียงดัง!
สู้ถึงตายงั้นรึ! หลังจากได้ยินข่าวแล้ว ศิษย์หลายร้อยคนที่มากันั้แ่เช้าเพื่อฝึกวิชา ณ ลานฝึกต่างก็ตกตะลึง!
“ไม่ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็อย่างไร ในสายตาของข้า การที่กล้าประลองกันถึงตาย เ้าเซียวหลิงอวิ๋นคนนี้ไม่ใช่ขยะอีกต่อไปแล้ว!” บางคนเริ่มชื่นชมความกล้าหาญของเซียวหลิงอวิ๋น! ไม่ใช่ทุกคนที่จะกล้าสู้ถึงตายเช่นนี้!
“ฮ่าๆ ประลองกันแบบถึงตายอย่างนั้นหรือ เ้าเซียวหลิงอวิ๋นคนนี้ถึงกับยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อกำจัดฉายาขยะของมันเลยอย่างนั้นสินะ!” บางคนยังมิวายพูดประชดประชัน!
“เ้าคิดว่าเซียวหลิงอวิ๋นจะอยู่รอดภายใต้น้ำมือของหนิวซานได้นานสักเพียงใด”
“มาๆ พนันกันดีกว่า หากเซียวหลิงอวิ๋นตาย ราคาสองต่อหนึ่ง าเ็สาหัส ราคาสามต่อหนึ่ง าเ็เล็กน้อย ราคาหนึ่งต่อสอง แต่หากเซียวหลิงอวิ๋นชนะ ราคาหนึ่งต่อสิบไปเลย รับพนันต่ำสุดหนึ่งเหรียญทอง มากที่สุดหนึ่งร้อย เหรียญทอง เชิญเข้ามาพนันกันได้เลย! จะสิ้นสุดการพนันเมื่อทั้งคู่เข้าสู่เวทีประลอง!” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากกลุ่มฝูงชน!
“ข้าขอพนันเซียวหลิงอวิ๋นได้รับาเ็สาหัส สิบเหรียญทอง!”
“ได้รับาเ็สาหัส ยี่สิบเหรียญทอง”
“าเ็สาหัส ห้าสิบเหรียญทอง”
“ตาย สิบเหรียญทอง”
“สามสิบเหรียญทองสำหรับาเ็สาหัส!”
...
ทันใดนั้นผู้คนหลายสิบคนต่างก็พากันวางเดิมพัน ส่วนใหญ่ต่างก็ลงาเ็สาหัสไม่ก็ตาย ไม่มีใครลงพนันแม้แต่าเ็เล็กน้อยเลย!
“ฮึ่ม ข้าขอพนันเซียวหลิงอวิ๋นชนะ สามสิบเจ็ดเหรียญทอง กับอีกยี่สิบแปดเหรียญเงิน!” เ้าอ้วนกัดฟัน ควักเงินทั้งหมดที่มีออกมาวางเดิมพัน!
มีคนโง่ที่กล้าพนันว่า 'เ้าขยะชั้นสองชั้นสาม' จะชนะจริงหรือนี่? ชายหนุ่มร่างสูงที่รับเป็เ้ามือเงยหน้าขึ้นมามอง โอ้ นึกว่าใคร ที่แท้ก็เ้าอ้วน ศิษย์น้องของเ้าขยะนี่เอง!
เซียวหลิงอวิ๋นและหนิวซานที่กำลังเดินออกมาหลังจากลงนามและประทับตราเสร็จสิ้น เมื่อได้ยินเสียงการเดิมพันที่บ้าคลั่งแล้ว หนิวซานก็ยิ้มกริ่ม แกว่งหมัดที่ใหญ่พอๆ กับครกชี้มาทางเซียวหลิงอวิ๋น กล่าวพึมพำออกมา "ข้าจะอัดเ้าให้ตายบนเวทีนี้เสีย!”
เซียวหลิงอวิ๋นไม่สนใจอีกฝ่าย ะโเรียกเ้าอ้วน "เสี่ยวปิง!"
“ศิษย์พี่อวิ๋น!”
"เอาเงินทั้งหมดที่ข้ามี ไปลงพนันว่าข้าชนะให้ด้วยนะ!"
"ได้ขอรับ!"
เ้าอ้วนวิ่งกลับไปอีกครั้ง แล้ววางถุงเงินในมือลงไป "พนันเซียวหลิงอวิ๋นชนะ หมดนี่เลย!"
แกร๊ง! กองเหรียญทองไหลทะลักออกมา!
“หกสิบสามเหรียญทอง พนันเซียวหลิงอวิ๋นชนะ เ้าแน่ใจแล้วหรือ?” ชายหนุ่มร่างสูงที่เป็เ้ามือก้มมองมา ราวกับมีตัวอักษรขนาดใหญ่สองตัวลอยอยู่เหนือศีรษะของเ้าอ้วนว่า ‘เ้าโง่’
"แน่นอน!"
การพนันขันต่ออันแสนกล้าหาญของเ้าอ้วนเป็จำนวนหลายร้อยเหรียญทองกับชัยชนะของเซียวหลิงอวิ๋น ถือเป็เื่ที่โง่เขลาอย่างยิ่งในสายตาของนักพนันหลายคน ณ ที่นั้น!
