ในเมื่อชอบแล้วเหตุใดจึงต้องปิดบัง?
นางไม่เพียงแค่ชอบเท่านั้น แต่เรียกได้ว่าสรรเสริญจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเป็เทพบุตรและเทพผู้ปกป้องของนางเลย!
หากเป็ไปได้กูเฟยเยี่ยนก็ไม่ได้้าปิดบังเื่ราวหลายสิ่งหลายอย่าง รวมไปถึงอาการประชวรของเทียนอู่ฮ่องเต้ เพราะการปิดบังของนางทำให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยคิดว่านางจริงใจไม่พอ
กูเฟยเยี่ยนจะไปทราบได้อย่างไรว่าคนตรงหน้าของนางคือเทพบุตรตัวจริง หญิงสาวมองไปที่หน้ากากสีเงินของจวินจิ่วเฉินพลางคิดว่าหมอนี่เพียงแค่เยาะเย้ย “ความชอบ” ของนางที่มีต่อจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเท่านั้น
นางโกรธมากเพราะหมอนี่ก็เคยพูดเอาไว้ว่า “ชอบนางนิดหน่อย” แล้วเขาก็วางแผนร้ายใส่นาง หลอกลวงนาง และปิดบังตัวตนอีกไม่ใช่หรือ? เขาไม่คิดว่าตนเองสมควรโดนเยาะเย้ยมากกว่าหรือ?
การชอบใครสักคนหนึ่งแล้วจะต้องสารภาพทุกอย่างออกมาหรือ? บนโลกใบนี้ยังมีใครที่ไม่มีความลับของตนเองอีกหรือ?
กูเฟยเยี่ยนพูดด้วยความไม่พอใจ “นายก้อนน้ำแข็งเหม็น เื่ระหว่างข้ากับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่เกี่ยวกับเ้า! เ้าจะออกไปหรือไม่? หากเ้ายังไม่ไปอีก ข้าจะเรียกคนมาจริงๆแล้วนะ นอกจากนี้ก็จะยุติการค้าขายของเราด้วย! ”
ในที่สุดจวินจิ่วเฉินก็ไม่ถามต่อแล้วหายตัวออกไป หลังจากที่แน่ใจว่าเขาออกไปแล้ว กูเฟยเยี่ยนจึงโผล่ขึ้นมาจากน้ำพลางเอื้อมมือไปแตะที่ริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าเมื่อสักครู่นี้นางจะดุมาก แต่หากบอกว่าตนเองไม่กลัวเขาเลยสักนิด นางยังไม่เชื่อเลย
ในขณะนี้น้ำมีอุณหภูมิอบอุ่นมาก นางจึงได้ไม่ลุกขึ้นแล้วแต่กลับแช่ตัวไปพร้อมกับครุ่นคิด
จวินจิ่วเฉินที่เพิ่งจะออกมาก็ได้พบกับเซี่ยเสี่ยวหม่านที่นำซุปอุ่นกระเพาะอาหารมาให้กูเฟยเยี่ยน
เซี่ยเสี่ยวหม่านเกิดปฏิกิริยาที่คาดไม่ถึง เขากระซิบแ่เบา “เตี้ยนเซี่ย ท่าน…”
เห็นได้ชัดว่าจวินจิ่วเฉินอารมณ์ไม่ดี เขาไม่สนใจเซี่ยเสี่ยวหม่านแล้วเดินตรงออกไปอย่างเงียบ
เรียวคิ้วอ่อนวัยของเซี่ยเสี่ยวหม่านล้วนขมวดกันแน่น ความกังวลของเขาไม่แพ้ผู้สูงวัยที่มีอายุเจ็ดสิบแปดสิบเลย เขาคิดว่าการที่เตี้ยนเซี่ยปลอมตัวเข้ามาพบนังหนูในจิ้งหวางฝู่เป็เพราะจะทำให้นางเกิดความสงสัยว่าการรักษาการณ์ของจิ้งหวางฝู่อ่อนแอหรือ? หรือว่าเตี้ยเซี่ยจะตามหาความจริงของนังหนูคนนี้จริงๆ ? แต่ถ้าเป็แบบนี้ต่อไป ไม่ดีแน่!
เซี่ยเสี่ยวหม่านไม่กล้าตัดพ้อเ้านายของตนเอง ดังนั้นเขาจึงบ่นกูเฟยเยี่ยนด้วยความเคือง ทว่าเขาก็ยังยกซุปอุ่นกระเพาะที่ตั้งใจต้มมาให้พลางเดินไปเคาะประตู
“นี่ นังหนู นอนหรือยัง? ”
กูเฟยเยี่ยนแอบดีใจที่นายก้อนน้ำแข็งเหม็นออกไปอย่างรวดเร็วก่อนจะตอบกลับไปหนึ่งประโยค “แช่ตัวอยู่ กลางดึกกลางดื่นขนาดนี้มีเื่อะไร? ”
“เพล้ง…”
สิ่งที่ดังกลับไปคือเสียงดังของถ้วยซุปที่เซี่ยเสี่ยวหม่านใจนทำตกแตก
กูเฟยเยี่ยนยังแช่น้ำอยู่ แต่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยออกมาจากห้องนาง? พวกเขาสองคน…พวกเขาสองคนไปถึงขั้นไหนกันแล้ว? ขั้นไหนกัน! ขั้นไหนกันแน่! ?
ในหัวของเซี่ยเสี่ยวหม่านเต็มไปด้วยคำว่า “ขั้นไหน” เขาหันหลังวิ่งกลับไปด้วยความเร็วประดุจสายลมที่พัดผ่านแล้วไปซักถามหมางจ้ง!
"เซี่ยเสี่ยวหม่าน? เ้าทำอะไร? ”
“เกิดอะไรขึ้น? พูดอะไรหน่อยสิ! ”
กูเฟยเยี่ยนะโเรียกสองสามครั้งแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ นางจึงรีบลุกขึ้นมาสวมเสื้อผ้าแล้วออกไปดู ทันทีเปิดประตูก็เห็นถ้วยซุปแตกกระจายไปทั่วพื้น โดยที่ปราศจากเซี่ยเสี่ยวหม่าน
นางตั้งใจเดินออกมาจากิเย่วจวี หลังจากที่ไปสอบถามทหารคุ้มกันคนหนึ่งแล้ว จึงวางใจลงเพราะเซี่ยเสี่ยวหม่านไม่เป็อะไร นางี้เีสืบหาสาเหตุว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงได้วิ่งหนีไป หลังจากที่หาวออกมาก็กลับไปนอน
วันรุ่งขึ้น กูเฟยเยี่ยนที่ยังนอนไม่เต็มอิ่มก็ถูกเหมยกงกงมาเรียกให้เข้าไปในพระราชวังด้วยเหตุผลที่ว่าช่วยเหลือซูไท่อีในการคิดค้นใบสั่งยาสมุนไพรรักษาสุขภาพให้กับฝ่าา
ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนมาถึงห้องทรงพระอักษร เทียนอู่ฮ่องเต้ก็ซักถามอย่างตรงไปตรงมา “อีนังหนู เ้ากับเ้าแปดมีความสัมพันธ์กันอย่างไร? ”
กูเฟยเยี่ยนคิดไว้แต่แรกแล้วว่าเทียนอู่ฮ่องเต้จะข่มอารมณ์ไว้ไม่ได้ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเร็วขนาดนี้ นางแอบดีใจที่เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาตนเองได้แช่ยาสมุนไพรไป ไม่อย่างนั้นนางคงจะไม่มีเรี่ยวแรงมาต่อกรกับฮ่องเต้ที่มีความรู้สึกสงสัยอย่างถึงที่สุดท่านนี้!
กูเฟยเยึ่ยนแสร้งทำเป็ไม่เข้าใจ “ฝ่าาทรงหมายความว่าอย่างไรเพคะ? ”
ั้แ่เมื่อคืนที่ผ่านมาเทียนอู่ฮ่องเต้ก็นอนไม่หลับมาจนถึงปัจจุบันนี้ เขาเดือดดาลอย่างยิ่ง “เ้าทำเป็โง่ต่อเจิ้น! เ้าเคยให้ใบผีผาแก่เขา? เ้าพูดอะไรกับเขาไปบ้าง? ”
ใบหน้าของกูเฟยเยี่ยนเต็มไปด้วยความจริงจังก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความโกรธ “ฝ่าาทรงสงสัยนู๋ปี้หรือเพคะ? นู๋ปี้ก็ไม่ทราบว่าองค์ชายแปดไปได้ยินเื่ที่พระองค์ไอมาเป็เวลานานจากที่ใด องค์ชายแปดอยากทราบอาการประชวรของฝ่าาจึงสอบถามนู๋ปี้ถึงอาการประชวรของพระองค์ไม่หยุด นอกจากนี้ยังสอบถามว่าพระองค์เสวยโอสถอะไรอีกด้วย แต่นู๋ปี้ไม่ได้เปิดเผยเลยแม้แต่ประโยคเดียว สุดท้ายไม่มีทางเลี่ยงจึงทำได้เพียงเด็ดใบผีผามาเบี่ยงประเด็นเขา”
เทียนอู่ฮ่องเต้จ้องมองนางโดยไม่พูดอะไรออกมา
กูเฟยเยี่ยนทำเป็โง่แล้วเจตนาพูดแต่สิ่งที่ดี “ฝ่าาเพคะ ก่อนหน้านี้ที่พระองค์ประชวรหนัก ผู้คนภายในพระราชวังล้วนรับรู้ องค์ชายแปดเป็ห่วงสุขภาพของพระองค์จึงสอบถามอาการประชวรของพระองค์ เหตุใดฝ่าาจึงต้องคาดการณ์มากมายด้วยเพคะ? ”
ดวงตาของเทียนอู่ฮ่องเต้ทอประกายความซับซ้อนแล้วเจตนาหยั่งเชิง “มีข่าวลือว่าเ้าแปดทะเลาะเบาะแว้งกับเฉิงอี้เฟยเพราะเ้า เื่นี้เป็จริงหรือไม่? ”
“ฝ่าา ข่าวลือเชื่อถือได้อย่างไร? ”
น้ำเสียงโกรธเคืองของกูเฟยเยี่ยนทำให้เทียนอู่ฮ่องเต้เกิดความใ “บังอาจ! เ้าพูดกับเจิ้นแบบนี้ได้อย่างไร? ”
กูเฟยเยี่ยนพูดต่อไปโดยไม่เกรงกลัว “นู๋ปี้ได้ยินมาว่าทหารตระกูลเฉิงเคารพนับถือองค์ชายแปด เฉกเช่นเดียวกันท่านแม่ทัพเฉิง! มิตรภาพขององค์ชายแปดกับท่านแม่ทัพเฉิงแน่นแฟ้นมาก ดังนั้นนู๋ปี้ที่เป็เพียงแพทย์หญิงน้อยจะไปส่งผลกระทบได้อย่างไร? องค์ชายแปดแค่เป็ห่วงเป็ใยข้าเพียงเท่านั้น เกรงว่าคนที่ปลุกปั่นข่าวลือจะเจตนายั่วอารมณ์องค์ชายแปดกับท่านแม่ทัพเฉิง”
ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนเอ่ยคำพูดเหล่านี้ออกมา อย่าว่าแต่เทียนอู่ฮ่องเต้เลย แม้แต่เหมยกงกงที่อยู่ด้านข้างยังมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป องค์ชายแปดมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวขนาดไหนไม่สำคัญ ทว่าการที่เขาผูกมิตรกับเฉิงอี้เฟยจนเอาชนะใจทหารได้นั้นไม่ใช่เื่ธรรมดา
เดิมทีเทียนอู่ฮ่องเต้เพียงแค่ตรวจสอบ แต่วินาทีนี้เขาตัดสินใจที่จะจัดการจวินฮั่นหยิ่น!
พี่ชายของเขา ต้าหวงซูของเทียนเหยียนคือหัวหน้าตระกูลจวินที่แท้จริงและเป็ผู้ที่แสวงหาชีวิตอันเป็นิรันดร์ ส่วนตัวเขานั้นไม่เพียงแค่้าชีวิตอันเป็นิรันดร์ แต่ยัง้าอำนาจและอิทธิพลบนโลกใบนี้ด้วย หากเขาไม่สละราชบัลลังก์ด้วยตนเอง ไม่ว่าใครหน้าไหนก็อย่าหวังว่าจะแย่งชิงกับเขา! และหากว่าเขาจำเป็ต้องสละราชบัลลังก์ ผู้สืบทอดราชบัลลังก์ก็เป็ได้แค่ทายาทที่มีสายเืสูงศักดิ์ และไม่มีทางที่จะเป็บุตรที่เกิดจากสามัญชนคนรับใช้ชั้นต่ำอย่างแน่นอน!
ดวงตาของเทียนอู่ฮ่องเต้ซ่อนประกายเพลิงโทสะเอาไว้ ทว่าไม่ได้เปิดเผยออกมา เขาได้ถามกูเฟยเยี่ยนถึงความคืบหน้าในการกลั่นยาแล้วถามสถานการณ์ภายในจิ้งหวางฝู่จากนั้นจึงให้กูเฟยเยี่ยนกลับไป
กูเฟยเยี่ยนอารมณ์ดีจนลืมเลือนความเหนื่อยล้า นางลงจากรถม้าที่ตลาดแล้วเดินเล่น ระหว่างทางก็มีการซื้ออาหารรสเลิศมาทานเป็การเลี้ยงฉลองตนเอง
นางคิดว่าเื่ของจวินฮั่นหยิ่นน่าจะไม่เกี่ยวข้องกับนางแล้ว หากเขายังมาพบนางถึงที่อีก นางก็จะไม่สนใจไยดีเขา ทันทีที่เทียนอู่ฮ่องเต้สร้างความลำบากใจให้เขา เขาจะต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นเฉิงอี้เฟยโง่เง่าก็จะรู้ว่าตนเองผูกมิตรโดยประมาท และเมื่อคิดไปถึงเื่นี้กูเฟยเยี่ยนก็เกิดความกังวลต่อกระเพาะอาหารของเขาโดยไม่รู้ตัว นางไม่ทราบว่าตอนนี้พิษสุราของเขาสลายไปหมดแล้วหรือยัง? สถานการณ์ของเขาเป็อย่างไรบ้าง?
นางอยากจะไปดูแต่เมื่อคิดให้ดีแล้วก็ตัดสินใจไม่ไป
กูเฟยเยี่ยนกลับไปถึงจิ้งหวางฝู่ เซี่ยเสี่ยวหม่านก็มาสอบถามสถานการณ์ กูเฟยเยี่ยนไม่ตอบแล้วยัดขนมไปให้เขาพร้อมกับถามถึงเื่เมื่อคืนนี้ ทว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านไม่ตอบเช่นกัน เขานั่งทานขนมคำโต เมื่อวานนี้เขาไปข่มขู่หมางจ้งนานมากแต่ก็ไม่ได้มูลเหตุอะไรกลับมาเลย ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงระทมทุกข์มาก!
ทั้งสองคนนั่งอยู่ในลานบ้านโดนไม่พูดไม่จา ทานอาหารด้วยความเพลิดเพลิน คนที่ไม่รู้อาจคิดว่าพวกเขาเป็พี่สาวกับน้องชายกันจริงๆ !
กูเฟยเยี่ยนทานไปทานมาแล้วจู่ๆ ก็ถามเซี่ยเสี่ยวหม่าน “นี่ เหตุใดเฉิงอี้เฟยจึงสนิทสนมกับองค์ชายแปด? ”
เซี่ยเสี่ยวหม่าน “ได้ยินมาว่าตอนที่เทียนเหยียนยังไม่ได้ก่อตั้งขึ้น พวกเขาก็รู้จักกันแล้ว เมื่อสามปีก่อนที่ท่านแม่ทัพใหญ่เฉิงผู้เฒ่าเสียชีวิตโดยตระกูลฉี นอกจากจิ้งหวางแล้วก็มีองค์ชายแปดที่กล้าพูดแทนตระกูลเฉิง ในตอนนั้นยังถูกฝ่าาลงโทษอย่างหนักอีกด้วย”
กูเฟยเยี่ยนพยักหน้าครุ่นคิด นางยังอยากจะถามต่อแต่ในเวลานี้ได้มีเด็กรับใช้ที่ติดสอยห้อยตามวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “หม่านกงกง แพทย์หญิงกู มีคนจากห้องยาสำนักหมอหลวงมาเชิญแพทย์หญิงกูไปที่ตระกูลเฉิงอย่างเร่งด่วน เช้าวันนี้อาการป่วยเรื้อรังของท่านแม่ทัพเฉิงกำเริบและกระอักเืออกมาไม่หยุด ซูไท่อีกับใต้เท้าหนานกงไปแล้วแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้!”
กูเฟยเยี่ยนเหงื่อไหลพลั่กไปทั่วร่างกาย นางไม่พูดไม่จาแล้วลุกขึ้นวิ่งทันที…