“ข้าไม่รู้ ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น! ฮือฮือฮือ...ท่านแม่ ทำไมท่านถึงทำแบบนี้!”
“เป็เพราะท่านแม่สั่งให้ข้าไปส่งใบชา ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น! ปล่อยข้า...อย่า! ฮือฮือ...”
“ท่านแม่ ทำไมท่านทำเช่นนี้ ทำไมกัน?”
…
หานรั่วเสวี่ยไม่กล้าตอบโต้กลับไป นางเอาแต่หลบและร้องไห้ราวกับเด็กน้อย
มู่หลิวเยวี่ยก็เป็ราวกับสตรีปากร้ายผู้หนึ่ง ดึงเสื้อผ้าของหานรั่วเสวี่ย ทั้งหยิกทั้งทุบตี ทุกคนที่อยู่รอบๆ ต่างถอยหนี แต่ใครจะรู้ว่าท่ามกลางความโกลาหลนี้ จู่ๆ หลี่ซื่อก็หลบหนีมู่ชิงอู่และฉู่ซีเฟิง ใช้กรงเล็บที่แหลมคมคว้าอี้ไท่เฟยเอาไว้
“อ๊าย…”
อี้ไท่เฟยกรีดร้องเสียงดัง มู่ชิงอู่และฉู่ซีเฟิงรีบพุ่งเข้าไป ทว่ามันก็สายเกินไปแล้ว หลี่ซื่ออยู่ห่างจากอี้ไท่เฟยเพียงก้าวเดียว แต่กรงเล็บแหลมคมของนางก็จ่ออยู่ที่คออี้ไท่เฟยเสียแล้ว หากเล็บที่แหลมคมแทงเข้าไป จะสามารถจบชีวิตของอี้ไท่เฟยเมื่อใดก็ได้
อี้ไท่เฟยใมากจนใบหน้าซีดเซียว ดวงตาเบิกกว้าง ร่างกายสั่นสะท้านและไม่กล้าขยับเขยื้อน
“ออกไปให้พ้น มิฉะนั้นข้าจะฆ่านางเดี๋ยวนี้!” หลี่ซื่อพูดอย่างเ็า แม้ว่าหานอวิ๋นซีจะรู้เกี่ยวกับนาง แต่การจับนางไม่ใช่เื่ง่ายขนาดนั้น
มู่ชิงอู่และฉู่ซีเฟิงยอมเสียที่ไหนกัน ทั้งสองกำกระบี่ยาวไว้แน่น ทว่าไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าแต่ก็ไม่ได้ถอยหลังเช่นกัน ในเวลาเดียวกัน องครักษ์ที่ซุ่มอยู่รอบๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นและล้อมรอบพวกเขา
“ทุกคนถอยไป!” หลี่ซื่อพูดอย่างเ็า แรงที่มือก็เพิ่มมากขึ้น
“ถอยไป! ถอยไป! ถอยออกไปให้หมด!” อี้ไท่เฟยะโด้วยความใ น่ากลัวเหลือเกิน หากไม่ระวังนางคงถูกฆ่าแน่ๆ!
ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ฉู่ซีเฟิงและมู่ชิงอู่เองก็ต้องล่าถอย ไม่เพียงแต่องครักษ์เท่านั้น แม้แต่หานอวิ๋นซีและฝูงชนทุกคนต่างก็ถอยออกไป
มีเพียงหานรั่วเสวี่ยคนเดียวเท่านั้นที่ยืนชะงักอยู่ตรงนั้น มองไปที่มารดาด้วยความไม่เชื่อ
กระบี่ยาวของมู่ชิงอู่พาดอยู่บนคอของนาง “หลี่ซื่อ ปล่อยอี้ไท่เฟยไป ไม่อย่างนั้นบุตรสาวของเ้า...”
ใครจะรู้ว่าก่อนที่มู่ชิงอู่จะขู่จบ หลี่ซื่อยิ้มอย่างเ็า “พวกเ้าอยากทำอะไรก็เชิญ!”
หานรั่วเสวี่ยเป็เพียงบุตรสาวที่นางรับเลี้ยงไว้เพื่อจัดการกับหานฉงอัน ไม่ใช่บุตรสาวแท้ๆ ของนาง นางซุ่มโจมตีเป็เวลาหลายปีในอาณาจักรเทียนหนิง แบกรับความรับผิดชอบอันหนักอึ้งที่เ้านายมอบหมายให้ สำหรับนาง ลูกๆ เป็เพียงภาระเท่านั้น
สำหรับนางแล้ว หานรั่วเสวี่ยเป็แค่เครื่องมือ ไม่ได้มีความสำคัญเลยแม้แต่น้อย
หานรั่วเสวี่ยแทบไม่เชื่อหูตัวเอง วินาทีนั้นนางน้ำตาไหลลงทันที หลี่ซื่อยังคงพูดอย่างเ็าว่า “ทุกคนถอยห่างจากข้าไปอีก!”
ทันทีที่พูดจบ อี้ไท่เฟยผู้กลัวความตายก็ร้องออกมาทันที “ถอยไป! ทำตามที่นางพูด ถอยออกไป!”
มู่ชิงอู่และฉู่ซีเฟิงชำเลืองมองซึ่งกันและกัน รู้สึกอึดอัดใจแทบตาย แต่ก็ทำได้เพียงถอยห่างออกไปเท่านั้น
เมื่อเห็นทุกคนค่อยๆ ถอยออกไป แววตาของหลี่ซื่อก็เป็ประกายด้วยความชั่วร้าย ยื่นมืออีกข้างออกไปเพื่อดึงอี้ไท่เฟยเข้ามาใกล้ ทันใดนั้นก็มีแสงกระบี่เล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในอากาศราวกับสายฟ้า และฟันลงมาระหว่างหลี่ซื่อกับอี้ไท่เฟยโดยไม่คาดคิด
ทุกคนไม่คาดคิด แม้แต่หลี่ซื่อเองก็ไม่คาดคิด นางชักมือออกด้วยสัญชาตญาณการป้องกันตัวโดยไม่รู้ตัว!
อย่างไรก็ตาม ในจังหวะที่แสงกระบี่ส่องประกาย หลงเฟยเยี่ยก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ เตะขายาวไปทางนางอย่างแรงจนนางลอยปลิวไป
หลี่ซื่อที่้าจะวางพิษ แต่กลับไม่มีโอกาส นางล้มลงกับพื้นอย่างแรง อวัยวะภายในของนางปั่นป่วน พร้อมกับกระอักเืออกมาเต็มปาก
ฉู่ซีเฟิงพาองครักษ์ไปล้อมนางไว้ทันที ประจันหน้ากันด้วยกระบี่ บังคับให้หลี่ซื่อเคลื่อนไหวไม่ได้ และมองหลงเฟยเยี่ยที่เอามือทั้งสองไพล่หลังไว้ ร่างสูงโปร่งที่สวมเสื้อคลุมสีดำพลิ้วไหวในสายลมราวกับเทพผู้ลงมาจากฟากฟ้า ค่อยๆ ลงสู่พื้นดิน
ทุกคนมองด้วยความไม่เชื่อ ในขณะนี้ ท้องฟ้าและโลกเงียบสงัด
นี่คือฉินอ๋อง!
ฉินอ๋องอยู่ที่นี่แล้ว!
ในฝูงชนมีสตรีไม่รู้กี่คนที่เป็ลมไป มู่หลิวเยวี่ยรู้สึกทึ่งกับภาพที่เห็นจนลืมทุกอย่าง นางหวังว่าเวลาจะหยุดลง ณ ่เวลานี้ตลอดไป เพียงได้เห็นฉินอ๋อง ชีวิตนี้ของนางก็พอใจแล้ว!
เขาก็มาเช่นกัน
ในที่สุดความตึงเครียดของหานอวิ๋นซีก็ผ่อนคลายลงและยิ้มอย่างมีความสุขโดยไม่รู้ตัว นางรู้สึกโล่งใจเมื่อหลงเฟยเยี่ยมา
หลงเฟยเยี่ยชำเลืองมองหานอวิ๋นซี จากนั้นจึงเดินไปหาอี้ไท่เฟยและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ลูกมาช้าแล้ว ขอประทานอภัยเสด็จแม่ด้วย”
อี้ไท่เฟยที่กำลังหวาดกลัวรวบรวมสติและในที่สุดก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น นางน้ำตาคลอเบ้า กุมมือบุตรชายแน่น ตัวสั่นเทา พยายามซ่อนความกลัวไว้ในใจ แต่ก็ไม่สามารถซ่อนมันได้อยู่ดี
หลงเฟยเยี่ยตบไหล่ของนางเบาๆ “ไม่เป็ไร เสด็จแม่ไม่ต้องกลัว”
ในขณะนี้ มู่หรงหว่านหรูยังคงตื่นตระหนก รีบเข้าไปโอบอี้ไท่เฟยและปลอบโยนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “หมู่เฟย ไม่เป็ไรนะเพคะ ไม่เป็ไร ท่านอ๋องอยู่ที่นี่แล้วต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน ไม่มีอะไรต้องกลัว!”
ทันทีที่อี้ไท่เฟยถูกโอบ นางเอนตัวเข้าไปในอ้อมแขนของมู่หรงหว่านหรูทันที นาง้าอ้อมกอดอย่างมากด้วยเพราะไม่เคยพบเื่เลวร้ายเช่นนี้มาก่อนในชีวิต นางเกือบจะไม่มีชีวิตรอดแล้ว!
“หมู่เฟย ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัวนะเพคะ! ต่อไปเราอย่าสนใจเื่ของพี่สะใภ้กันอีกเลย เื่ของพี่สะใภ้นั้นอันตรายเกินไป” มู่หรงหว่านหรูถือโอกาสยั่วยุ
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้กลับไม่ได้ผล
อี้ไท่เฟยใมากจริงๆ นางจะไปสนใจหานอวิ๋นซีเสียที่ไหน ตอนนี้ในหัวของนางมีแต่เื่ความปลอดภัยของตัวเอง นางมองไปที่หลี่ซื่อจากระยะไกล ทั้งใทั้งตื่นตระหนก ทั้งอับอายทั้งโกรธเคือง
“ลูก นางเป็ผู้ร้ายตัวจริงในการวางยาพิษ ต้องถูกลงโทษอย่างหนัก! ไม่สิ ต้องฆ่านางเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต! อาณาจักรเทียนหนิงของข้าไม่สามารถไว้ชีวิตคนแบบนี้ได้!”
มู่ชิงอู่และฉู่ซีเฟิงจับหานรั่วเสวี่ยและหลี่ซื่อไปตามลำดับ หานรั่วเสวี่ยดูเหมือนศพที่เดินได้อย่างไรอย่างนั้น น้ำตายังคงไหลริน ไม่พูดไม่จา ทว่าหลี่ซื่อกลับมองหลงเฟยเยี่ยด้วยความโกรธ ดวงตาของนางดูเหมือนจะพ่นพิษออกมา
หลงเฟยเยี่ยอีกแล้ว ชายผู้นี้ฆ่าลูกน้องของนางไปมากมาย ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเข้ามายุ่ง นางคงทำภารกิจสำเร็จไปนานแล้ว นางเกลียดจนอยากจะฉีกเขาให้เป็ชิ้นๆ!
หลงเฟยเยี่ยมองลงไปที่หลี่ซื่ออย่างเ็า ความเกลียดชังของหลี่ซื่อนั้นไม่สำคัญสำหรับเขา วันนี้แม้ว่าหานอวิ๋นซีจะไม่พบพิษ เขาก็จะจัดการหลี่ซื่ออย่างรุนแรงอยู่แล้ว เขาจะไม่ยอมให้มีบุคคลอันตรายคนใดอยู่อย่างแน่นอน
แน่นอนว่าสิ่งที่หานอวิ๋นซีทำในวันนี้นั้นเหนือความคาดหมายอย่างสิ้นเชิงและนางทำมันได้อย่างสวยงาม เขาพอใจมาก
เขาที่ไม่อยากพูดเื่ไร้สาระกับหลี่ซื่อ ก็พูดอย่างเ็าว่า “ไหนๆ ก็มีหลักฐานน่าเชื่อถือแล้ว ทหารมาจับผู้ร้ายสองคนนี้ไปศาลต้าหลี่เพื่อพิจารณาคดี!"
การถูกพาไปที่ศาลต้าหลี่เป็แค่เบื้องต้นเท่านั้น ทั้งหลี่ซื่อและหานรั่วเสวี่ยจะถูกส่งไปยังกูหยวนเพื่อสอบปากคำอย่างลับๆ และเื่ที่หลงเฟยเยี่ย้าสอบปากคำก็คือสายลับ
ใครจะรู้ จู่ๆ หลี่ซื่อกลับยิ้มอย่างเ็าขึ้นมา “ฉินอ๋อง ข้าแนะนำให้ท่านรีบปล่อยข้า มิฉะนั้น…”
นางพูดพลางมองไปที่อี้ไท่เฟยอย่างมีความหมาย แล้วจึงจะพูดต่อว่า “มิฉะนั้น ข้ารับประกันได้เลยว่าเสด็จแม่ของท่านจะไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์ในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา สีหน้าของอี้ไท่เฟยก็เปลี่ยนเป็มืดมน นางหมายความว่าอย่างไร?
“เ้าทำไม่ได้หรอก!” หลงเฟยเยี่ยพูดอย่างเ็า
“นางถูกข้าวางพิษลับไปแล้ว!” หลี่ซื่อพูดและชำเลืองมองอี้ไท่เฟยอย่างเหยียดหยาม แล้วถามว่า “ไท่เฟย ท่านรู้สึกคันคอหรือไม่ อยากไอหรือไม่?”
อี้ไท่เฟยหวาดกลัวมากจนไม่แม้แต่จะสนใจเกี่ยวกับความผิดปกติของร่างกาย แต่เมื่อได้ยินหลี่ซื่อพูด นางก็รู้สึกได้ถึงมันจริงๆ และรู้สึกกระวนกระวาย “เฟยเยี่ย นี่...”
“ไปส่งข้าที่ประตูเมือง แล้วข้าจะเอายาแก้พิษให้ ไม่อย่างนั้น ฮ่าฮ่า...” หลี่ซื่อเรียกร้องอย่างเย่อหยิ่ง
สิ่งที่หลงเฟยเยี่ยเกลียดที่สุดในชีวิตคือการถูกข่มขู่ เขาเพิกเฉยต่อความเย่อหยิ่งของหลี่ซื่อและพูดอย่างเฉียบขาดว่า “ทหาร มาจับตัวไป!”
อี้ไท่เฟยตกตะลึง แม้ว่านางจะเป็กังวลแต่ก็ไม่กล้าพูดมากเกินไป
ฉู่ซีเฟิงจับหลี่ซื่อไว้ แต่ใครจะรู้ว่าในตอนที่เขาหันกลับมา มือของฉู่ซีเฟิงก็ชาทันทีและสูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมดไปทันที และเวลานี้หลี่ซื่อหยิบกริชออกมา พุ่งตรงไปหาหานอวิ๋นซีที่อยู่ใกล้นางมากที่สุด หานอวิ๋นซีจะไปคิดได้อย่างไรว่าหลี่ซื่อยังสามารถต่อสู้ได้ นางใมากจนลืมที่จะหลบ และเห็นเพียงกริชที่เข้ามาใกล้
“โอ๊ย…”
นางะโโดยไม่รู้ตัวและหลับตาลง แต่ใครจะคิดว่าทันทีที่นางหลับตา ก็มีเือุ่นกระเซ็นเป็สายลงบนใบหน้าของนาง
เืของนางอย่างนั้นหรือ?
แต่ดูเหมือนว่านางจะไม่รู้สึกเ็ปใดๆ
หานอวิ๋นซีค่อยๆ ลืมตาขึ้น เห็นหลี่ซื่อยืนอยู่ตรงหน้านาง พร้อมกับกระอักเืโดยไม่เคลื่อนไหวใดๆ กริชที่ในมืออยู่ห่างจากหัวใจไม่ถึงห้าชุ่น และทันใดนั้นมือของหลี่ซื่อก็ปล่อยกริชเล่มนั้นร่วงหล่นลงพื้น
สายตาของหานอวิ๋นซีเคลื่อนลงอย่างช้าๆ เห็นเพียงลูกธนูที่แหลมคมแทงเข้าที่ท้องของหลี่ซื่อจากด้านหลัง หลงเฟยเยี่ยยืนอยู่ข้างหลังนางพร้อมกับแววตาที่เ็าราวกับว่าไปแตะเกล็ดัของเขาจนเขาโกรธเกรี้ยว
หานอวิ๋นซีใอย่างมาก หลี่ซื่อเป็ผู้นำของสายลับเป่ยลี่ หากสอบสวนนางคงได้เบาะแสอีกไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าหลงเฟยเยี่ยจะฆ่าหลี่ซื่อ ทางเลือกเมื่อครู่เป็เพราะมันอันตรายเกินไปหรือเป็เพราะความโกรธของเขา? แต่ทำไมเขาถึงโกรธล่ะ?”
หลี่ซื่อหันกลับมาช้าๆ มองไปที่หลงเฟยเยี่ยด้วยความไม่เชื่อ “ท่าน...ท่าน...”
“ข้าไม่ให้โอกาสเ้าแม้แต่จะฆ่าตัวตาย” หลงเฟยเยี่ยตอบอย่างเย่อหยิ่ง จัดการหลี่ซื่อไปแล้ว สายลับคนอื่นๆ ก็จะแตกความสามัคคีกัน แล้วเขาจะจัดการไม่ได้ได้อย่างไร?
หลี่ซื่อกระอักเืออกมา พร้อมกับหัวเราะเสียงดัง “ดี ดีมาก! สมกับที่เป็ฉินอ๋องแห่งเทียนหนิง สมกับที่เป็ฉินหวังเฟยจริงๆ! ทุกคนรู้ว่ามีเทียนหนิงมีฉินอ๋อง แต่กลับไม่รู้ว่ามีฮ่องเต้เทียนฮุย ทุกคนรู้ว่าฉินหวังเฟยสามารถล้างพิษได้ แต่กลับไม่รู้ว่าคนที่ล้างพิษเก่งคือปรมาจารย์แห่งยาพิษต่างหาก ฮ่าฮ่าฮ่า…”
นางหัวเราะไปหัวเราะมา แล้วก็ล้มลงกับพื้น หายใจเฮือกสุดท้าย
และผู้ชมทั้งหมดต่างเงียบลง คำพูดของหลี่ซื่อยังคงก้องอยู่ในหูของทุกคน ใบหน้าของหลงเฟยเยี่ยเต็มไปด้วยความมืดมนและเ็า ผู้มีอำนาจหลายคนท่ามกลางฝูงชนล้วนแล้วแต่มีสีหน้าที่ไม่ดีนัก สีหน้าของหลงเทียนโม่ผู้เป็ไท่จื่อก็มืดมนเช่นกัน
คำพูดนั้นของหลี่ซื่อคือการยกย่องฉินอ๋องและเหยียบฮ่องเต้เทียนฮุยลงกับพื้น ถ้าคำพูดนี้ไปถึงหูของฮ่องเต้เทียนฮุย มันน่าฟังเสียที่ไหนกัน?
ในไม่ช้า อี้ไท่เฟยก็ทำลายความเงียบ “หญิงสาวปากร้ายผู้นี้ พูดเื่ไร้สาระ กล้าที่จะท้าทายฉินอ๋องและฮ่องเต้ นางสมควรตาย!”
แม้ว่าในใจของนางจะไม่พอใจไท่เฮากับฮ่องเต้เทียนฮุยอย่างมาก และนางเชื่อมาเสมอว่าตำแหน่งฮ่องเต้แห่งวังเสวียนหลงเป่าควรเป็ของบุตรชายของนาง แต่อย่างไรก็ตาม การแพ้เป็พระชนะเป็มาร ตอนนี้ทุกอย่างก็เป็เื่จริงที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
เดิมทีฮ่องเต้เทียนฮุยก็ระแวงฉินอ๋องอยู่แล้ว และการท้าทายแบบนี้เขาทนไม่ได้หรอก!
เื่นี้ร้ายแรงมากจนทำให้อี้ไท่เฟยถึงกับลืมพิษในร่างกายของตนเองไป
อย่างไรก็ตาม หลงเฟยเยี่ยดูเหมือนจะดูถูกคำพูดเช่นนี้ของอี้ไท่เฟยอย่างมาก มุมปากของเขายกด้วยความดูถูกเบาๆ ที่ไม่มีใครสังเกตได้ แล้วออกคำสั่งพาร่างของหลี่ซื่อและหานรั่วเสวี่ยออกไป
