เิหยูเยียนถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ว่าสีหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความรังเกียจ ไม่คิดเลยว่าิอวี่จะเป็คนแบบนี้
แต่ว่าหลังจากนั้นสีหน้าของเิหยูเยียนก็คลายลง นางไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเสียอารมณ์กับเื่แบบนี้ มันเสียเวลา
“ศิษย์พี่ อย่าไปเสียอารมณ์กับเขาเลย ไม่คุ้ม”
ถังเฉินเห็นหลิวฉี่หลิงด่าอย่างหัวเสียก็เลยกล่อม
หลิวฉี่หลิงพยักหน้าแล้วตบไปที่บ่าของถังเฉินก่อนจะพูดว่า “อือ ศิษย์พี่ถูกใจเ้า เ้าดีกว่าเ้าบ้าิอวี่ไม่รู้เท่าไร ทำตัวดีๆ ต่อไปมีเื่อะไรบอกชื่อศิษย์พี่ไป ศิษย์พี่ออกหน้าให้เ้าเอง”
ถังเฉินยิ้มมุมปาก ยกมือคำนับแล้วพูดว่า “ขอบคุณศิษย์พี่”
พูดจบ หลิวฉี่หลิงก็มองไปที่เิหยูเยียนแล้วพูดว่า “แล้วก็เ้าด้วยนะ เ้าเองก็พยายามเข้าล่ะ ศิษย์พี่หวังหว่าพวกเ้าจะกลายเป็คนที่ทำประโยชน์ได้ ถ้ามีปัญหาอะไรมาหาข้าได้นะ ข้าจะสอนเ้าแบบตัวต่อตัวให้เอง”
“ขอบคุณศิษย์พี่” เิหยูเยียนยิ้มหวาน หวานแบบมดขึ้นจนทำให้หลิวฉี่หลิงนั้นิญญาแทบออกจากร่าง
ถึงแม้เิหยูเยียนจะยังเป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่ง แต่ดวงตาของนางนั้นแข็งแกร่งมากต่อให้ไม่ได้ตั้งใจใช้ แค่ยิ้มก็มีความสง่างามมาก
ดวงตาที่แข็งแกร่งแบบนี้ เิหยูเยียนก็สามารถสู้กับผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สองระดับสูงสุดได้แล้ว!
เิหยูเยียนรู้ถึงพร์ของตัวเองดี ต่อให้หลิวฉี่หลิงจะมีพลังฝีมือเหนือกว่านาง แต่เวลาที่นางพูดจาก็ยังมีความสง่างามของคนที่สูงส่งกว่าอยู่
เพราะต่อไปอย่างไรนางก็จะต้องเหนือกว่าคนพวกนี้อยู่แล้ว และกลายเป็ศิษย์ที่ซ่งหยวนหยวนนั้นภาคภูมิใจด้วย
ิอวี่ คนที่เกาะผู้หญิงกิน แสงสว่างที่ส่องมาก็แค่ชั่วคราว สุดท้ายแล้วอย่างไรก็ต้องดับ และหายไปจากสายตาของทุกคน
“ศิษย์พี่ทุกคน ข้าขอตัวก่อนนะ”
เิหยูเยียนยิ้มให้กับศิษย์ชั้นยอดอีกสี่คนแล้วก็ขี่เ้ากระเรียนขาวจากไป ถังเฉินออกตามหลังนางไปไม่นาน ก่อนที่ศิษย์ชั้นยอดคนอื่นจะแยกย้ายกันไป
พริบตาเดียว นอกตำหนักเพลิงเมฆาก็ไม่เหลือใครอยู่เลย
ภายในตำหนักเพลิงเมฆา ตรงกลางรูปวงกลม
ิอวี่นั่งขัดสมาธิอยู่ในรูปวงกลมสีแดง ส่วนซ่งหยวนหยวนเองก็นั่งขัดสมาธิอยู่ด้านหลังของเขา นางเอามือทั้งสองข้างประทับไปที่แผ่นหลังของิอวี่และถ่ายพลังบริสุทธิ์ไปให้เพื่อรักษาอาการของเขา
ถึงแม้เพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกจะดูแค่อุ่นๆ ไม่ได้ร้อน แต่ในความเป็จริงแล้ว เพราะมันมีประสิทธิภาพของเปลวเพลิงอยู่จึงถือเป็ธาตุไฟหยาง แม้จะไม่ได้ถึงขนาดบ้าคลั่ง แต่ก็มีพลังงานไฟที่หนาแน่นอยู่ มันเหมือนกับหนอนที่กัดกระดูกเผาไหม้ทั่วทั้งร่างกายของเขา
ดังนั้น ถึงแม้ิอวี่จะดูไม่เป็อะไรมาก แต่ในร่างกายกลับมีอาการาเ็ลับที่มองไม่เห็นเต็มไปหมด
หากประเมินจากระดับการฟื้นฟูอาการของิอวี่ เขาก็น่าจะใช้เวลาถึงสามวันจึงจะรักษาอาการให้หายได้หมด แต่ก็อาจจะมีอาการลับที่มองไม่เห็นหลงเหลืออยู่อีกได้
แต่พอซ่งหยวนหยวนถ่ายลมปราณให้กับิอวี่ เขาก็รู้สึกว่ามีพลังงานบริสุทธิ์พุ่งเข้าสู่แขนขาของเขาจนทั่ว
ทั้งๆ ที่มันก็เป็แค่ลมปราณ แต่ว่าลมปราณแบบนี้ไม่รู้ว่ามันบริสุทธิ์กว่าของิอวี่กี่เท่า และในลมปราณก็ยังเหมือนมีชีวิตมีจิติญญา มันทำให้ทั่วทั้งร่างกายของิอวี่นั้นสดชื่น
ร่างกายของิอวี่ในตอนนี้มีาแเต็มไปหมด มันเป็เวลาที่้าการฟื้นฟู เขาเหมือนฟองน้ำที่อ่อนนุ่มกำลังดูด “สารอาหาร” ที่ซ่งหยวนหยวนถ่ายมาให้อย่างบ้าคลั่ง แล้วพลังในร่างกายก็ค่อยๆ ฟื้นคืนกลับมา
ระหว่างการโอนถ่ายพลัง หยกบนหน้าอกของิอวี่ก็ซ่อนลมปราณของมันเอาไว้ สิ่งที่โชคดีก็คือ เหมือนว่าเมื่อหยกโบราณััการหยั่งเชิงพลังจากภายนอก เปลือกนอกอาจจะมีการเปล่งแสงออกมาอ่อนๆ แต่มันก็เก็บซ่อนลมปราณของตัวเองเอาไว้ ถึงแม้ซ่งหยวนหยวนจะอยู่ใกล้แค่ไหนก็ตาม ก็ไม่มีทางััถึงการมีอยู่ของหยกโบราณได้อย่างแน่นอน
เป็อยู่อย่างนี้ประมาณสิบนาที ซ่งหยวนหยวนถึงได้เอามือออกจากแผ่นหลังของิอวี่
“ฮู้ว ... ”
ิอวี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะลืมตาขึ้นมาและััได้ถึงอากาศที่สดชื่น
เขาลุกขึ้นทันที แล้วก็รู้สึกว่าร่างกายเหมือนจะหนักขึ้น
หลังจากนั้น ิอวี่ก็รู้สึกว่ากระดูกในร่างกายของเขานั้นเหมือนจะหนาขึ้นกว่าเดิมมาก
เขาถึงได้เข้าใจว่า เวลาสิบนาทีเมื่อครู่ที่ซ่งหยวนหยวนถ่ายลมปราณบริสุทธิ์ให้กับเขานั้น กระดูกที่ยังไม่ได้ฟื้นกลับมาก็ได้ดูดลมปราณบริสุทธิ์เ่าั้ และทำให้กระดูกมีความแข็งแกร่งมากขึ้น!
ร่างกายของิอวี่หนักขึ้น เพราะกระดูกของเขามันหนาขึ้น!
เื่ที่หาได้ยากที่สุดนั่นก็คือ ปกติแล้ว หากผู้กล้าอยากจะเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของร่างกาย ก็ล้วนแต่ต้องเพิ่มน้ำหนักกล้ามเนื้อ ถึงจะทำให้ร่างกายแข็งแกร่งและแ่า แต่ิอวี่กลับแข็งแกร่งมาจากกระดูกภายใน ซึ่งมันทำให้ร่างกายนั้นมีความแตกต่างออกไป
ิอวี่หันกลับมามองซ่งหยวนหยวนด้วยความซาบซึ้งใจ
“เมื่อครู่เพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกของเ้า ตอนนี้เ้าได้พลังงานจากข้าไปอีก พื้นฐานของเ้าก็จะแข็งแกร่งมั่นคงขึ้นมาก ต่อไปจะรับอะไรได้มากขึ้น สามารถฝึกหนักได้นานขึ้น”
“ขอบคุณอาจารย์มากขอรับ!”
ิอวี่ยกมือคำนับ ซ่งหยวนหยวนทำให้พื้นฐานร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้น เพื่อให้เขามีมิติในการพัฒนาที่มากขึ้นกว่าเดิม
“ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก มันเป็สิ่งที่ข้าควรทำ เ้าดื่มเพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกลงไปทั้งหมดทีเดียว แล้วยังไม่ร้องเลยแม้แต่คำเดียว ความใจเด็ดของเ้านั้นข้าชื่นชมมาก หากไม่ใช่เพราะกังวลว่าเ้าจะใช้กำลังมากเกินไปแล้วอาจทำให้ร่างกายได้รับาเ็ล่ะก็ ข้าเองก็คงไม่ช่วยเ้ารักษาหรอกนะ”
ซ่งหยวนหยวนเอามือไขว้หลังแล้วพูดว่า “รู้หรือไม่ทำไมข้าถึงให้เ้าอยู่ก่อน?”
“หือ?”
ิอวี่สะดุ้ง แล้วส่ายหน้าด้วยความระวังตัว
“วันนี้ ข้า้าจะชี้แนะความผิดพลาดใหญ่หลวงในการต่อสู้ของเ้า ชักกระบี่ออกมา ตอนนี้”
ซ่งหยวนหยวนกวักมือแล้วพูดว่า “ข้าจะใช้ลมปราณในระดับเดียวกับเ้า เ้าโจมตีเข้ามาเลย ลองดู”
ิอวี่ขมวดคิ้ว เมื่อวานในระหว่างการต่อสู้ ซ่งหยวนหยวนเห็นข้อบกพร่องในการต่อสู้ของเขา และตอนนี้นางกำลังจะชี้แนะเขาอย่างนั้นหรือ?
“น่าสนใจ”
ิอวี่พลิกข้อมือแล้วกระบี่ก็ปรากฏขึ้นมา ลมปราณกระบี่พุ่งขึ้นมาบนกระบี่และแผ่กระจายออกไปทั่วตำหนักเมฆาเพลิง
ิอวี่คิดว่าเพลงกระบี่ของเขาไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่ได้แย่ อย่างน้อยในคนระดับเดียวกับเขาก็ไม่มีใครสู้เขาได้! แต่ซ่งหยวนหยวนบอกว่า กระบวนท่าสังหารของเขานั้นมีข้อบกพร่อง ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะใช้สถานะสูงสุดออกมา เพื่อพิสูจน์ให้ซ่งหยวนหยวนได้เห็นว่าเขานั้นแข็งแกร่ง!
ิอวี่ตั้งท่าบุก โครงกระดูกั์โผล่ขึ้นมาด้านหลังของเขา มันเต็มไปด้วยลมปราณแห่งความตายที่น่ากลัว ความคมของกระบี่นั้นน่ากลัวอย่างมาก!
“กระบี่ยมโลกสังหาร!”
ิอวี่ดีดปลายเท้าขึ้นราวกับลูกธนูที่พุ่งออกจากคันธนู กระบี่พุ่งตรงไปด้านหน้า โครงกระดูกด้านหลังเองก็โจมตีกรงเล็บมาอย่างบ้าคลั่ง อีกนิดเดียวก็จะโดนตัวของซ่งหยวนหยวนแล้ว
แต่ซ่งหยวนหยวนกลับยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับไปไหน มือซ้ายยังไขว้เอาไว้ด้านหลัง นางงอนิ้วชี้และนิ้วนาง และเดินลมปราณในแบบเดียวกันบนนิ้วทั้งสองข้าง จากนั้นก็ยืดนิ้วมือออกไปและเกิดแสงจางๆ ออกมา โดยที่ไม่มีพลังใดๆ อยู่ในนิ้วเลย
แสงจางๆ อันน้อยนิดนั้นปะทะเข้ากับกรงเล็บของโครงกระดูกเข้าอย่างจัง แสงนั้นมันดูเล็กน้อยมากแต่กลับทะลุทะลวงโครงกระดูกไปได้ และะเิออกเป็พลังที่รุนแรง กระบี่เรืองแสงจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาและแทงเข้าไปในโครงกระดูกจนเป็รูพรุน!
ิอวี่จำเป็ต้องดึงกระบี่กลับมาตั้งรับ และถูกคมกระบี่พวกนั้นบีบจนต้องล่าถอย สุดท้ายก็ถอยไปชนผนังตำหนักเมฆาเพลิงถึงได้หยุดลง
โชคยังดีที่ิอวี่หลอมกระดูกมาทั่วร่างกายแล้ว จึงไม่ได้รับาเ็จากพลังที่รุนแรงนั้น แต่สายตาที่ิอวี่มองไปที่ซ่งหยวนหยวนนั้นกลับเต็มไปด้วยความตะลึง!
เมื่อครู่เขาเหมือนััได้ว่าซ่งหยวนหยวนไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้อะไรเลย นางแค่ใช้ลมปราณในระดับเดียวกับเขาเท่านั้น แต่แรงะเิที่รุนแรงเมื่อครู่มันกลับทำลายกระบี่ยมโลกสังหารของเขาจนแตกกระเจิง!
พลังงานในร่างกายของซ่งหยวนหยวนนั้นเหนือกว่าเขาก็จริง ประสบการณ์ก็มากกว่าเขาเยอะมาก แต่ว่านางใช้ลมปราณแค่นิดเดียวเอง!
“นี่แหละจุดบอดของเ้า”
ซ่งหยวนหยวนยังยืนอยู่ที่เดิม ชุดกี่เพ้าของนางพลิ้วไหวเล็กน้อย ดวงตาอันสวยงามมองมาที่ิอวี่และพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า “ผู้กล้าที่แท้จริงจะต้องฝึกความกระชับรัดกุม ถึงแม้ทักษะการต่อสู้ของเ้าจะมีพลังที่น่ากลัว แต่กลับไม่มีความกระชับ เปลือกนอก เ้าอาจจะปล่อยพลังอานุภาพที่ดีที่สุดของทักษะการต่อสู้ออกมาแล้ว แต่ในความเป็จริง หลังจากฝึกทักษะการต่อสู้จนกระชับรวบรัดได้ อานุภาพของมันถึงจะไปสู่จุดสูงสุดได้จริงๆ !”
ิอวี่เริ่มคิดตาม เขาพูดว่า “แต่ข้ารู้สึกว่ามันก็กระชับมากแล้วนะ ทำไมมันถึงยังไม่พออีกล่ะ?”
“เหตุผลมันง่ายมาก”
ซ่งหยวนหยวนพูดอย่างเรียบง่ายว่า “เ้าคิดว่าเ้าทำได้แล้ว แต่ในความเป็จริงมันไม่ใช่ เ้าต้องพยายามย่อพลังงานของเ้าให้เล็กลง เริ่มแรก เ้าอาจจะยังไม่สามารถควบคุมพลังงานหลังจากทำให้มันกระชับรัดกุมได้ วิธีการแบบนี้ เ้าจะต้องอดทนไประยะเวลาหนึ่งถึงจะทำได้ มันไม่ใช่เื่ที่จะทำได้ทันทีในสองสามวัน”
ิอวี่ได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วหนักมาก เขาเหมือนจะคิดได้ว่า กระบวนท่าของซุนอี้เมื่อวานเหมือนจะรัดกุมมากจนเขาไม่อาจรับมือได้เลย ที่แท้ซุนอี้ก็เข้าใจว่าจะกระชับกระบวนท่าสังหารของตนเองอย่างไรและฝึกจนแข็งแกร่งระดับหนึ่งแล้ว บวกกับพลังฝีมือขอบเขตอมฤตขั้นที่สามและวิธีการต่อสู้ในรูปแบบต่างๆ อีก ไม่แข็งแกร่งกว่าสิแปลก!
“ที่ข้าบอกเื่พวกนี้กับเ้า เพราะข้าเห็นว่าเ้าก็มีพร์อยู่บ้าง อีกอย่าง เ้านั้นมีความเด็ดเดี่ยวมากด้วย ขอแค่เ้าตั้งใจ ไม่เกินสามถึงห้าปี เ้าจะต้องก้าวหน้าไปเยอะมากๆ ”
พูดจบ ซ่งหยวนหยวนก็เปลี่ยนเื่ “เิหยูเยียน ศิษย์น้องของเ้า รู้จักกันแล้วใช่ไหม?”
“อือ” ิอวี่พยักหน้า
ซ่งหยวนหยวนพูดด้วยความจนใจว่า “บอกเ้าตามตรง ตอนนางมาที่นี่ยังมีอาณาจักรพลังขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งเท่านั้น แต่แค่เดือนเดียว นางก็ก้าวหน้าไปจนใกล้จะถึงขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งในระดับสูงสุดแล้ว”
“พร์ของนางถือว่าสูงมากในบรรดาศิษย์ที่ข้ารับมา ส่วนเ้า ก็เป็ศิษย์ที่มีความเด็ดเดี่ยวที่แข็งแกร่งมากของข้าคนหนึ่งเช่นกัน ข้าไม่อยากเห็นเ้าเสียความมั่นใจในการฝึกและการต่อสู้ไปเพียงเพราะเิหยูเยียนมีพร์เหนือกว่าหรือว่ามีความสามารถห่างจากเ้าไป เพราะเส้นทางในสายยุทธ์มันมีทั้งการฟาดฟันและการล่อลวงมากมาย อย่าลืมความตั้งใจเดิมของเ้า ไม่แน่ว่าต่อไปภายภาคหน้าเ้าอาจจะพัฒนามากกว่าก็เป็ได้”
ซ่งหยวนหยวนนั้นมีวิธีการให้กำลังใจศิษย์แต่ละคนที่ชัดเจน นางสอนอะไรหลายอย่างมากมายให้กับศิษย์ของนาง และยังใหความมั่นใจความเชื่อมั่นกับพวกเขาด้วย
ิอวี่คือศิษย์คนหนึ่งที่นางรู้สึกชื่นชมมาก ที่นางพูดแบบนี้ออกไปเพราะไม่อยากเห็นิอวี่เสียความมั่นใจไปเพราะเิหยูเยียน หรือคนที่มีระดับความเติบโตอย่างเิหยูเยียน
เพราะความเด็ดเดี่ยวของิอวี่เป็ของที่หาได้ยากมาก
ิอวี่รู้สึกตะลึง ก่อนหน้านี้สติของเขาอยู่ที่เพลิงสีม่วงกลั่นกระดูกเลยไม่ทันได้สังเกตลมปราณของเิหยูเยียนเลย คิดไม่ถึงเลยว่า เวลาแค่เดือนเดียวนางก็จะไปถึงขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งระดับสูงสุดแล้ว!
ิอวี่เคยเจอคนที่มีความสามารถเหนือกว่าเขาแข็งแกร่งกว่าเขา แต่ยังไม่เคยเจอคนที่มีระดับการต่อสู้และความเร็วในการฝึกที่เร็วและแข็งแกร่งกว่าเขามากก่อนเลย
และเิหยูเยียนก็เหมือนจะเป็หนึ่งคนที่เป็แบบนั้นซึ่งมีอยู่น้อยนิด?
“อาจารย์วางใจได้ ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง หนึ่งเดือนหลังจากนี้ ศึกหอคอยเลี่ยนถ่าข้าจะพยายามสู้อย่างเต็มที่”
ไม่รู้ว่าทำไมิอวี่ถึงได้รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา เวลาที่พูดเขาหนักแน่นมาก ตอนนี้เขาอยากจะรีบเข้าไปที่สระเลี่ยนเหยียน สร้างสัจธรรมเพลิงไร้เทียมทานออกมาให้เร็วที่สุดจนแทบรอไม่ไหวแล้ว!
