ตอนมาถึงบ้านตระกูลหวาง ครอบครัวป้าสองจ้าวก็มากันหมดแล้ว ทุกคนเห็นหลินหวั่นชิวก็ใกันหมด ปกตินางถักเปียเป็แนวทแยงแบบง่ายๆ หรือไม่ก็ม้วนผมไว้ด้านหลัง ใช้เชือกมัดไว้ง่ายๆ
แต่วันนี้นางทำผมเป็มวยหลวมๆ ไว้เหนือศีรษะ ปิ่นผีเสื้อที่ปักบนมวยขยับปีกไปมาตามจังหวะการเดินของนาง ลูกปักหมาเหน่าแกว่งไปมาเช่นกัน ขับดุนให้ใบหน้ารูปไข่ที่สวยอยู่แล้วยิ่งดูดีขึ้นไปอีก
ความสนใจของหวางกุ้ยเซียงถูกปิ่นบนผมหลินหวั่นชิวกับต่างหูดึงดูด “ว้าว ปิ่นนี้สวยมากเลย เข้าชุดกับต่างหู หวั่นชิว ท่านรู้จักเลือกเสียจริง!”
หลินหวั่นชิวมองเจียงหงหย่วนแวบหนึ่ง พูดอมยิ้มว่า “หย่วนเกอซื้อให้ข้า”
“คิดไม่ถึงว่าเจียงต้าเกอจะเลือกเครื่องประดับได้เก่งเพียงนี้!”
สายตาของหวางกุ้ยเซียงทำเอาเจียงหงหย่วนทำตัวไม่ถูก เขาไม่ตอบสิ่งใด สาวเท้ายาวๆ เข้าห้องโถง หวางทงเป่าเรียกเจียงหงหย่วนให้เข้าไปนั่ง
หลิวซื่อทำตาเขม็งใส่หวางกุ้ยเซียง “ไม่รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ แม้แต่เจียงต้าเกอเ้ายังกล้าล้อเล่น”พูดจบ นางกับป้าสองจ้าวก็เรียกหลินหวั่นชิวเข้าไปในห้องหวางกุ้ยเซียงด้วยกัน สมาชิกสตรีจัดโต๊ะเล็กๆ แยกไว้ในห้องกุ้ยเซียง ไม่นั่งทานร่วมกับบรรดาบุรุษในห้องโถง
เจียงหงหนิงอาศัยว่าตัวเองยังเด็ก เอนตัวมาพูดกับหวางกุ้ยเซียงหน้าประตูว่า “ใช่ขอรับ ต้าเกอเข้าไปในร้านเครื่องประดับแต่กลับไม่ถูกใจสิ่งใดทั้งนั้น จนกระทั่งเถ้าแก่ร้านเอาปิ่นกับต่างหูคู่นี้ออกมาถึงได้ซื้อ”
หลินหวั่นชิวมองเจียงหงหย่วนยิ้มๆ “ฮะฮะ ซื้อไปอย่างนั้นหรือ”
“คงแพงไม่น้อยใช่หรือไม่?” ป้าสองจ้าวรู้สึกว่าปิ่นปักผมกับต่างหูประณีตเช่นนี้ต้องมีสองตำลึงเป็อย่างน้อย
จ้าวหงฮวาตามมายืนอยู่ข้างแม่ตัวเอง สายตาถูกเครื่องประดับที่หลินหวั่นชิวใส่ดึงดูดเช่นกัน
“สิบตำลึงแหนะขอรับ!” เจียงหงหนิงรู้ว่าพี่ชายตัวเองขี้เก๊ก อยากช่วยเขาสร้างความประทับใจต่อพี่สะใภ้ แม้ในใจจะเสียดายเงินมากเพียงใดแต่กลับยืดอกพูดอย่างภูมิใจ
“เจียงหงหนิง เ้าเข้ามากินข้าวเดี๋ยวนี้!” เจียงหงหย่วนหน้าดำ น้องชายจอมยุ่งนี่ทำเขาเสียเื่อยู่เรื่อย!
พวกป้าสองจ้าวได้ยินราคาถึงกับอ้าปากค้าง ไอ๊หยา สิบตำลึงเงิน!
เพียงพอให้ครอบครัวพวกนางใช้จ่ายถึงครึ่งปี!
เหล่าต้าบ้านตระกูลเจียงช่างใช้จ่ายเกินตัวเสียแล้ว ถึงจะหาเงินได้มากเพียงใดก็ไม่น่าใช้เช่นนี้
นับว่าหลินหวั่นชิวมีความสุขในภายหลัง เห็นชัดว่าเหล่าต้าบ้านเจียงรักนางเพียงใด ได้เงินมากลับเก็บไว้ให้ภรรยาใช้
เฮ้อ เขาถึงได้บอกว่าบุรุษไม่ควรเลือกจากหน้าตา
ผู้ใดจะไปคิดว่าครอบครัวเจียงที่มีภาระ ต้องจ่ายค่ายาอย่างน้อยยี่สิบตำลึงทุกเดือนจะเอาเงินออกมาดูแลภรรยาได้
คงขึ้นอยู่กับโชคด้วยนั่นแหละ ความจริงไม่เกี่ยวกับว่าตาบอดหรือไม่
ดูเอาเถิด หวั่นชิวเพิ่งเข้าบ้านตระกูลเจียงได้ไม่นาน เจียงเหล่าเอ้อร์ก็ออกมาเดินข้างนอกได้เสียแล้ว!
ถึงจะยังต้องให้เหล่าซานช่วยประคองอยู่ แต่กระนั้นก็ถือว่าออกมาเดินได้แล้วไม่ใช่หรือ
หวั่นชิวนำโชคมาให้ตระกูลเจียงโดยแท้
ไม่แปลกที่เจียงหงหย่วนจะยินดีใช้จ่ายเงินให้กับนาง
สตรีเหล่านี้คิดสิ่งใดหลายอย่างภายในเวลาไม่กี่วินาที ทุกคนมองหลินหวั่นชิวด้วยความอิจฉา
แต่ที่พวกนางไม่รู้คือ สิ่งที่พวกนางต้องอิจฉายังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ
“หวั่นชิว เ้าช่างโชคดีจริงๆ” อาหารจัดวางบนโต๊ะแล้ว ทุกคนนั่งลงครบจึงเริ่มกิน
ป้าสองจ้าวพูดกับหลินหวั่นชิวว่า “นั่นน่ะสิ เ้าดูเถิดว่าเจียงเหล่าต้ารักเ้าเพียงใด ข้าคิดไม่ถึงมาก่อนเลย ไม่นึกเลยว่าบุรุษที่หยาบทื่อเช่นนั้นจะเลือกของเก่งได้ถึงเพียงนี้”
นางไม่ทำเป็เขินอาย “อื้ม ข้าเองย่อมรู้สึกว่าหย่วนเกอเป็คนดี ดีกับข้าเช่นกัน!”
นิสัยของนางถูกใจหวางฟู่กุ้ย แม้แต่หลิวซื่อกับป้าสองจ้าวก็ชอบนิสัยของหลินหวั่นชิวตอนนี้เช่นกัน
คนเช่นนี้ไม่ซับซ้อนเ้าเล่ห์ คุยด้วยแล้วไม่เหนื่อย
แต่จ้าวหงฮวากลับดูิ่ในใจ รู้สึกว่าหลินหวั่นชิวกำลังโอ้อวด มีสิ่งใดน่าอวดกัน เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านตระกูลหลินก็ถูกเหยียบย้ำจนน่าอนาถ
นางก้มหน้ามองเสื้อผ้าที่มีรอยปะของตัวเองแล้วยิ่งไม่พอใจไปใหญ่ โกรธเคืองว่าเหตุใดพ่อแม่ไม่แนะนำนางให้เจียงหงหย่วนบ้าง
ความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวดีถึงเพียงนี้ ขอเพียงที่บ้านยอมพูด เจียงหงหย่วนย่อมตกลงอยู่แล้ว
จ้าวหงฮวาลืมไปว่าเมื่อก่อนนางกลัวเจียงหงหย่วนเหมือนสตรีนางอื่นๆ ในหมู่บ้าน เขาทั้งจนทั้งหน้าโหด มิหนำซ้ำที่บ้านยังมีตัวขี้โรค ตอนนั้นนางไม่แม้แต่จะชำเลืองตามองเขาเสียด้วยซ้ำ
แต่พอตอนนี้อีกฝ่ายมีเงินและดีกับภรรยาเพียงนี้ นางกลับไม่พอใจเสียเอง
ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นความอึดอัดของนาง เพราะความสนใจของทุกคนอยู่ที่หลินหวั่นชิวกันหมด
“หวั่นชิว บ้านเ้าซื้อที่รกร้างตั้งมากไปทำไมหรือ ทั้งยังซื้อที่ป่าด้วย ในป่าทำการเกษตรใดไม่ได้ จะเป็การสิ้นเปลืองหรือไม่?”
บรรดาสตรีเริ่มทานอาหาร เจียงหงหย่วนซื้อเนื้อพะโล้ ไส้พะโล้ เนื้อหัวหมูและขาหมูต่างๆ กลับมาจากอำเภอจำนวนมาก ลำพังเพียงเนื้อพวกนี้ก็กินพื้นที่ไปครึ่งโต๊ะเสียแล้ว
ฝั่งพวกนางแบ่งเนื้อมาแค่ส่วนเล็กๆ ทางฝั่งผู้ชายมีเนื้อมากกว่า ทุกจานมีกองเนื้อสูงพะเนิน
เจียงหงหย่วนใจกว้างเช่นนี้ หลิวซื่อจะมามัวตระหนี่ไม่ได้ ผัดผักเพิ่มสองสามจาน ทั้งยังต้มไข่เป็ดเค็มเรียงลงบนจาน วางไว้ที่โต๊ะบรรดาบุรุษสองจาน โต๊ะสตรีหนึ่งจาน
หลินหวั่นชิวได้ยินดังนั้นก็วางเปลือกไข่เค็มในมือลง ตอบว่า “หย่วนเกอบอกว่าจะสร้างบ้านใหม่ และอีกอย่างสัตว์ที่ล่าได้แบบเป็ๆ ขายได้ราคามากกว่าจึงตัดสินใจซื้อที่ป่า ล้อมป่าให้เรียบร้อย หากล่าสัตว์เป็ๆ กลับมาได้จะเลี้ยงไว้ก่อนสองวันค่อยเอาไปขายในอำเภอ”
หลิวซื่อพูด “เช่นนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นก็ควรซื้อที่ป่านั่นแหละ”
หลินหวั่นชิว “ดังนั้นเลยต้องเชิญให้สุ่ยเซิงกับฟู่กุ้ยช่วยทำรั้วให้แ่า สัตว์ที่ล่ามาจะได้ไม่หลุดออกไป”
ป้าสองจ้าววางตะเกียบตบหน้าอก “เื่นี้พวกเ้าวางใจได้เลย ไม่ต้องพูดถึงขอบเขตที่ไกลกว่านี้ เพราะลำพังแค่ในหมู่บ้านพวกเรา สุ่ยเซิงกับฟู่กุ้ยก็ฝีมือดีเป็อันดับต้นๆ!”
“ข้ากับหย่วนเกอย่อมรู้อยู่แล้ว มิเช่นนั้นคงไม่เอ่ยปากให้พวกเขาช่วย ข้าปรึกษากับหย่วนเกอเื่สร้างบ้านแล้ว ถึงเวลาคงต้องรบกวนให้ท่านป้าทั้งสองช่วยทำอาหาร ไม่ทราบว่าท่านป้าทั้งสองพอจะมีเวลาหรือไม่เ้าคะ”
ทางฝั่งบุรุษย่อมมีเจียงหงหย่วนจัดการ หลินหวั่นชิวรับผิดชอบฝั่งสตรีก็พอ
“มี”
“ต้องมีอยู่แล้ว”
ท่านป้าทั้งสองตอบขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ช่วยทำอาหารเป็งานสบาย แค่รับผิดชอบเื่อาหารเท่านั้น!
ขอเพียงเจียงหงหย่วนมีเงินย่อมใจกว้างอยู่แล้ว ดูจากอาหารบนโต๊ะก็รู้
สำหรับคนสร้างบ้าน ไม่ต้องพูดว่าอาหารจะดีเพียงใดก็ย่อมได้ แต่ต้องรับประกันว่าจะอิ่มเป็แน่
“เช่นนั้นข้าขอขอบคุณท่านป้าทั้งสองมาก ไว้กำหนดวันแล้วจะมาคุยกับพวกท่าน สำหรับคนดูแลอาหาร ได้ค่าแรงวันละสิบห้าอีแปะ” เจียงหงหย่วนถามราคานี้มาจากในอำเภอ คนทำอาหารคิดค่าแรงวันละสิบห้าอีแปะ
“จะเอาค่าแรงได้อย่างไร หวั่นชิวพูดเช่นนี้เท่ากับเห็นเราเป็คนอื่นคนไกลนะ” หลิวซื่อรีบปฏิเสธ
แต่หลินหวั่นชิวพูดว่า “หากท่านป้าไม่รับเงิน เช่นนั้นข้าคงต้องไปถามผู้อื่น งานนี้ไม่ใช่แค่วันสองวัน หากกินเวลาแค่สั้นๆ ข้าย่อมเอาเปรียบท่านป้าอยู่แล้ว”
