เมื่อพูดเื่จะออกไป เื่ก็เยอะมากจริงๆ วันนั้นเฉินเนี้ยนหรานสั่งให้หวงเต๋ออันหาเรือนในเขต
ห้าวันต่อมา เฉินเนี้ยนหรานบอกลาน้องสาวทั้งน้ำตา
เพราะหนิวซื่อก็ตั้งครรภ์ อีกทั้งใกล้จะคลอดแล้ว ดังนั้นการไปเมืองในครั้งนี้จึงมีนางไปด้วยกัน
่ก่อนรุ่งสาง พวกนางนั่งรถม้าออกไป
ใน่กลางคืนวันนั้น พวกนางมาปรากฏตัวที่เรือนหลังหนึ่งในเขต
เนื่องจากเป็การเช่ากะทันหัน ดังนั้นเรือนจึงไม่ได้เช่าอยู่ในตัวเมือง แต่อยู่ในที่ห่างไกลจากในตัวเมืองมาเล็กน้อย
ที่นี่ค่าเช่าถูก แต่อย่างไรเช่าหนึ่งปีต้องจ่ายเงินถึงห้าตำลึง
สำหรับเงินค่าเช่าที่เกือบจะซื้อที่นาได้หนึ่งไร่นั้น หนิวซื่อปวดใจอยู่พอสมควร
“พี่สะใภ้ เงินนี้พวกเราจะต้องจ่าย อีกอย่างพวกเราจะต้องจ้างป้าสักคนมาด้วย เ้าใกล้จะคลอดแล้ว ข้าเองก็เช่นกัน ถึงตอนที่เ้าคลอดลูกแล้วข้าคงดูแลไม่ได้”
หลังจากย้ายมาอยู่ชานเมืองแล้ว เฉินเนี้ยนหรานจึงพูดถึงแผนที่วางไว้ แต่สำหรับเื่จะซื้อคนมา หนิวซื่อไม่เห็นด้วย
“ไม่เอา ข้ายังเหลือเวลาประมาณหนึ่งเดือนกว่าจะคลอด ถึงตอนนั้นคงใกล้ปีใหม่ ตอนนั้นที่หมู่บ้านไม่มีเื่ใดแล้ว แค่เรียกสามีข้ามาดูแลข้า นายหญิงไม่ต้องกังวลหรอก ข้าคลอดลูกมาได้เดือนหนึ่งเ้าก็ใกล้จะคลอดแล้ว ถึงตอนนั้นข้าจะได้ดูแลเ้า ไม่จำเป็ต้องไปซื้อคนมาเลย เงินน่ะ พวกเราประหยัดกันเสียหน่อย จะใช้เงินสิ้นเปลืองไม่ได้ เ้าไม่รู้ การเลี้ยงคนคนหนึ่งจะไม่พูดถึงเื่ค่าแรง นางยังต้องกินต้องใส่เสื้อผ้า จะเลี้ยงคนคนหนึ่งง่ายอย่างนั้นเสียที่ใด ฟังคำข้า อย่าซื้อคนมา”
หนิวซื่อเป็คนรั้น นางห้ามไม่ให้ซื้อคนมา ในตอนนั้นเฉินเนี้ยนหรานทำอะไรไม่ได้จริงๆ ย้ายมาอยู่ชานเมือง ทำให้นางทำงานได้สะดวกขึ้นมาก แต่เพื่อไม่ให้เกิดเื่ยุ่งยาก นางจึงพยายามออกมาเดินเล่นในตอนกลางคืน อีกทั้งสถานที่ที่ออกไปเดินเล่น ล้วนไปเดินในที่ที่มีคนน้อย แน่นอนว่าเป็ที่ใกล้ๆ นี้ พวกนางต่างบอกกับทุกคนว่าเป็สองพี่น้องที่ไปขอพึ่งพาญาติพี่น้องไม่สำเร็จ
โชคดีที่ชาวบ้านตรงชานเมืองเป็ชาวนากันจำนวนไม่น้อย คนชนบทนั้นเป็คนซื่อ จึงไม่มีคนคอยหาเื่
เพราะเหตุนี้ทั้งสองคนอยู่ที่นี่ จึงไม่เคยมีเื่ยุ่งยาก
หลังจากนางย้ายมาอยู่ได้ไม่นาน ร้านเนื้อตุ๋นของกวนซูเยวียนก็เปิด แน่นอน หนิวซื่อเป็คนไม่ชอบอยู่เฉยๆ ก่อนร้านเปิดนางกับเฉินเนี้ยนหรานจึงร่วมกันทำของตุ๋นจำนวนไม่น้อย
เมื่อรวมความคิดของตนเองแล้ว เฉินเนี้ยนหรานจึงเริ่มทำกับข้าวตุ๋นพะโล้ออกมาจำนวนมาก
ทั้งถั่วต้มพะโล้ เป็ด ไก่ เนื้อหมู หูหมู เครื่องในตุ๋นพะโล้...สามารถกินแกล้มเหล้า ยำ ทุกอย่างต่างถูกนางคิดมาแล้วรอบหนึ่ง เพราะอยู่ใกล้กับเส้นทางน้ำ ในทุกๆ วันหลังจากตุ๋นอาหารแล้ว จะให้เฉินจื่อิขนไปขายที่ท่าเรือ
เนื้อที่เพิ่งตุ๋นเสร็จ ส่งกลิ่นลอยออกไปไกล หลายคนเมื่อได้กลิ่นหอมไม่เลว ทั้งยังถูกเฉินจื่อิเสนอว่าให้ลองชิมกันสักหน่อย ดังนั้นแต่ละคนจึงเริ่มพากันลงมือชิม
“โอ้ กลิ่นหอมมาจากที่ใดกัน หอมนัก” มีเรืออีกลำหนึ่งขับเข้ามาใกล้ฝั่ง ยังไม่ทันได้ลงจากเรือ หลายคนก็ได้กลิ่นอาหารตุ๋นหอมๆ ลอยมา
หลายคนต่างตามหาที่มาของกลิ่น ซึ่งในตอนนั้นเฉินจื่อิก็ะโร้องเรียกออกมาอย่างเคยชิน “เฮ้ เนื้อตุ๋น หูหมูตุ๋น ตีนไก่เพิ่งจะออกจากเตามาร้อนๆ รสชาติอร่อย ของสดใหม่ กลิ่นหอมละมุนอยู่ในปาก...เร่เข้ามา ลองชิมได้เลยไม่คิดเงิน เร่ผ่านมาชิม ไม่ซื้อไม่เป็ไร ลองชิมก่อนได้”
เมื่อร้องเรียกว่าลองชิมได้ จึงดึงดูดผู้คนที่อยู่ตรงนั้นให้เข้ามายืนล้อม
รสชาติของตุ๋นแบ่งออกเป็สองรส รสหนึ่งจะเข้มสักหน่อย อีกรสหนึ่งจะจืดสักหน่อย อย่างไรอาหารตุ๋นล้วนมีทั้งคนที่ชอบรสเข้ม เช่นคนที่ทำงานหนักเหงื่อกาฬออกมากมักจะชอบรสชาติที่เข้มข้น
แต่ผู้ดีมีเงินหลายคนมักดูแลร่างกาย ดังนั้นจึงชอบรสชาติที่ค่อนข้างจะอ่อนลงมา
แต่เมื่อคนได้ลองชิมแล้ว หลายคนไม่มากก็น้อยต่างซื้ออาหารตุ๋นกลับเรือนไป
ไม่ใช่ทุกคนจะมีเงิน แต่ของที่ขายนั้นมีหลายอย่าง
เนื้อตุ๋นขายไม่ออก เช่นนั้นก็ยังมีไข่ ถั่วต้มน้ำพะโล้ เต้าหู้สองอีแปะต่อหนึ่งชิ้น ที่นี่สองอีแปะของเ้าสามารถซื้อฟองเต้าหู้ตุ๋นเหลืองนวลกลิ่นหอมฉุยได้หนึ่งชิ้น แม้จะบางไม่หนาแต่รสชาติไม่เหมือนกับเต้าหู้ธรรมดา ดังนั้นแม้จะซื้อเนื้อไม่ได้ แต่ปกติแล้วหลังจากได้ชิมเข้าไป ก็ยังสามารถซื้อไข่ต้มพะโล้หรือถั่วต้มพะโล้ไปลองชิมของแปลกใหม่
“มาดูได้นะขอรับ ท่านป้า แม้จะไม่มีเงินสดก็สามารถใช้ไข่ไก่มาแลกของกินได้ ไข่ไก่สองฟองแลกไข่ต้มพะโล้ได้หนึ่งฟอง”
กิจการของเฉินจื่อิคึกคักมาก ในท่าเรือเช่นนี้ปกติแล้วมีคนผ่านไปมามากล้วนถูกเขาเรียกมาลองชิมและซื้อกลับไปเล็กน้อย ไม่มีเงินสดก็สามารถใช้ไข่หรือของจากการเกษตรมาแลกได้ ด้วยเหตุนี้ การมาขายอาหารตุ๋นที่ท่าเรือทุกวันจึงขายได้ดีกว่าในร้านอยู่ครึ่งหนึ่ง
“ข้ากลับมาแล้ว กลับมาแล้ว ฮ่าๆ วันนี้ขายดีอีกแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่ากิจการอาหารทานเล่นเล็กๆ ที่ข้าดูถูกจะสามารถหาเงินได้มาก” เฉินจื่อิตัวยังไม่เข้ามาในเรือน แต่เสียงก็ดังเข้ามาถึงข้างในแล้ว
เฉินเนี้ยนหรานที่กำลังยุ่งอยู่กับการล้างไส้ หัวหมูและหางหมูอยู่เงยหน้าขึ้นมาทักทายเขา พอปรายตาไปมองตะกร้าว่างเปล่าที่เขาถืออยู่ก็ยิ้มดีใจออกมา “ดูเหมือนว่าอาหารทานเล่นจะขายได้ไม่เลวเลยจริงๆ ่นี้ที่ท่าเรือจะยุ่งอยู่กับการนำเข้าสินค้าปีใหม่ คนที่สัญจรไปมาจึงยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เป็เช่นนี้ดีนัก เราสามารถทำการค้าให้ดีได้”
เฉินจื่อิเดินก้าวยาวๆ มาตรงหน้าแล้วยกแก้วน้ำตรงหน้าดื่มเข้าไปอึกใหญ่ “แน่นอน ่นี้แต่ละคนต่างยุ่งกับการทำงานเพื่อจะข้ามปีใหม่ เช่นนั้นคนที่ท่าเรือจึงเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก่อนข้ายังไม่เข้าใจว่าเหตุใดเ้าจะต้องรอมาขายของใน่เวลานี้ ตอนนี้ถือว่าเข้าใจแล้ว รู้สึกว่าเ้าจะคำนวณแล้วว่าจำนวนคนจะมาก จึงทำการค้านี้ขึ้นมาให้ผู้คนบอกต่อกันไป ต่อจากนี้กิจการอาหารตุ๋นของพวกเราจะยิ่งขยายออกไป แม้ภายภาคหน้าจะมีคนทำตาม แต่เมื่อชื่อเสียงของพวกเราได้กระจายออกไปแล้ว แม้คนอื่นทำตามก็จะไม่มีชื่อเสียงเท่าพวกเรา”
เฉินเนี้ยนหรานพยักหน้า “อืม เป็เช่นนั้นจริงๆ เ้าค่ะหากท่านลุงทำไหว ยังสามารถทำร้านอาหารจานด่วนที่ท่าเรือได้ งานเช่นนี้แม้จะสามารถหาเงินได้ แต่คนจะยิ่งเหนื่อยนะเ้าคะ”
พูดไปเฉินเนี้ยนหรานก็พลิกไส้ในมือไปเพื่อล้างน้ำมันที่อยู่ด้านในให้สะอาด ก่อนจะใส่แป้งมาขยี้ให้สะอาด
เครื่องในพวกนี้แม้จะราคาไม่แพง เมื่อเทียบกันแล้วถือว่าถูกมาก หนึ่งร้อยอีแปะสามารถซื้อเครื่องในหมูมาได้ รวมถึงไส้หมู หัวใจหมู ตับหมู ปอดหมู แต่การล้างให้สะอาดกลับใช้เวลามาก หากทำความสะอาดไม่ดีจะทำให้เวลาทานมีกลิ่นง่าย เครื่องในสัตว์นั้นอร่อย แต่ความสะอาดถือเป็เื่ที่สำคัญมาก
โชคดีที่ตอนนี้เพิ่งจะตั้งครรภ์แค่ห้าเดือน ยังสามารถทำงานได้บ้าง คนที่ทำงานยุ่งมาตลอด เมื่อว่างขึ้นมากลับรู้สึกทรมาน ด้วยเหตุนี้เฉินเนี้ยนหรานจึงเสนอตัวมาล้างเครื่องใน
“อาหารจานด่วน? หมายความว่าอย่างไร แม่หนูรีบพูดให้ฟังสักหน่อย” เฉินจื่อิสนใจขึ้นมา วางแก้วน้ำลงแล้วเข้าไปหยิบหัวหมูตรงหน้านางมาพร้อมถามขึ้น
หัวหมูนี่อร่อย โดยเฉพาะเนื้อที่อยู่ในหัวจะยิ่งอร่อยมาก คนร่ำรวยชอบกินมากเป็พิเศษ น่าเสียดาย การทำหัวหมูต้องมีเคล็ดลับ เมื่อไม่มีกระดาษกาวดึงขนออกจะต้องเป็คนมานั่งดึงขนทีละเส้น
งานนี้ ส่วนมากจะเป็เฉินจื่อิกับหนิวซื่อเป็คนทำ
“อาหารจานด่วน เป็ชื่อที่ข้าคิดขึ้นมาง่ายๆ ที่ท่าเรือมีคนงานระยะสั้นเอาสินค้ามาลงอยู่ไม่น้อยไม่ใช่หรือพวกเขาทำงานล้วนต้องทานข้าวใช่หรือไม่ อีกอย่างที่ท่าเรือเมื่อถึงเวลาทานข้าว จะต้องมีพ่อค้ามากมายหรือคนที่เร่งรีบเดินทางทานข้าวเช่นกัน แต่อาหารพวกนี้ท่านไม่สามารถทำให้มันยุ่งยากได้”
“ทางที่ดีที่สุดคือทำแค่รถกับเตาและนำอาหารที่ผัดเสร็จแล้ววางไว้ในหม้อที่วางอยู่บนเตาก็พอ สามารถแบ่งอาหารออกไปตามราคา อย่างเช่น เ้าทานเจ็ดอีแปะต้องมีเนื้ออย่างผักอย่าง ข้าวต้องตักให้ทานอิ่ม”
“สิบอีแปะสามารถตักได้เนื้อสองอย่างผักสองอย่าง ข้าวตักให้อิ่ม สิบห้าอีแปะ สิบสองอีแปะก็เพิ่มเป็อื่นๆ สรุปคือ นำอาหารที่ทำเสร็จแล้วไปวางหน้าร้าน แล้วตั้งว่าราคาเท่าใดได้เท่าใด เรียกว่าอาหารจานด่วน”
“ข้าเคยเห็นมาแล้ว ที่ท่าเรือน่ะ แค่ขนมปังทานสองคำตั้งห้าอีแปะ แล้วยังจะพ่อค้าที่้าน้ำแกงเนื้อหนึ่งถ้วยต้องจ่ายหนึ่งอีแปะ คำนวณไปแล้ว หากท่านทำอาหารจานด่วน เจ็ดอีแปะเนื้อหนึ่งผักหนึ่งพออิ่ม การค้านี้จะมีลูกค้ามากเชียวนะ กำไรน้อยขายมากๆ กับข้าวหนึ่งอย่างดูเหมือนไม่ค่อยจะได้เงิน แต่หากจำนวนมากเข้า เช่นนั้นเงินคงได้ไม่น้อยเลย”
“เพียงแต่กิจการของกินเช่นนี้ ทำให้เราเหนื่อยมาก พวกเราทำอาหารตุ๋นแล้วยังทำอาหารจานด่วนอีกเราจะยิ่งเหนื่อย ที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้พวกเรายังไม่มีคนมาช่วยงานมาก ดังนั้นความคิดนี้ดีแต่หากจะทำนั้นยาก ประเด็นสำคัญ กำไรเช่นนี้ วันหนึ่งอาจจะหาได้หลายร้อยอีแปะ ทำงานเหนื่อยทั้งยังยุ่งยาก ตั้งร้านเองก็ลำบาก”
แต่เฉินจื่อิฟังแล้วกลับสนใจมาก เขาหัวเราะฮ่าๆ ออกมา “แม่หนู ข้าพบว่าเ้ามีหัวการค้านะ มากกลยุทธ์แล้วยิ่งมากขึ้นไปอีก อ้าปากพูดทีล้วนมีเส้นทางหาเงิน กิจการอาหารจานด่วนนี่ข้าไม่คิดจะทำ แต่ข้าจะให้คำแนะนำแทน ในหมู่บ้านของพวกเรามีครอบครัวหนึ่ง ข้าคิดว่าจะให้แม่หม้ายลูกติดไปทำกิจการอาหารจานด่วนนี่”
“อ้อ?” เฉินเนี้ยนหรานเงยหน้าขึ้นมองเขา เฉินจื่อิขมวดคิ้วแล้วพูดออกมา “เฮ้อ เ้าไม่รู้สินะ เื่นี้ข้าเองก็รำคาญใจ สกุลจ้าวที่อยู่ในครอบครัวเรานี่แหละ สามีของนางคือเพื่อนของข้า น่าเสียดายคนคนนี้ชีวิตไม่ยืนยาว ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าเขาขึ้นเขาไปขุดหินกลับถูกะเิจนตาย เฮ้อ ที่เรือนเหลือเพียงแม่หม้ายกับลูก ได้ยินมาว่าชีวิตยากลำบากมาก หวังว่าข้าจะช่วยเหลือ ตอนนี้ข้ากำลังหงุดหงิดอยู่ ที่ร้านของข้าไม่้ารับลูกชายเขาเข้ามาทำงาน พอดีที่มีกิจการอาหารจานด่วน อย่างมากข้าจะให้พวกเขานำของมาวางไว้ที่เรือนของเ้า เ้าคงไม่มีปัญหาใช่หรือไม่?”
