จี้หนิงเดินตามสิงเยี่ยไปยังบาร์เหล้าชั้นหนึ่งของเรือสำราญ แล้วเดินเข้าไปทางประตูข้างเคาน์เตอร์ ซึ่งจะมีห้องหลายห้องอยู่ด้านใน
สิงเยี่ยพาเธอตรงไปยังห้องในสุด หลังจากเปิดประตูเข้าไปจี้หนิงก็มองเห็นอย่างชัดเจนว่ามีโต๊ะและเตียงอยู่ข้างในห้องเหมือนห้องพักทั่วไป
ต่อมาเธอพบตะขอแขวนเสื้อผ้าที่ทำจากพลาสติกแข็งหลายอันห้อยอยู่บนผนังด้านหลังประตู อันที่อยู่ด้านในสุดมีร่องรอยหักออกจากกัน และจุดที่แตกหักก็แหลมคมมากอีกด้วย
ดวงตาของจี้หนิงสว่างวาบขึ้นมาทันที เธอเดินเข้าไปดูไม้แขวนเสื้อที่หักใกล้ๆ
หลังจากตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ในที่สุดเธอก็พบเืสีแดงเข้มติดอยู่ตรงบริเวณปลายของส่วนที่หัก
จี้หนิงหันกลับมามองสิงเยี่ย หายใจถี่อย่างตื่นเต้น “ที่นี่คือสถานที่เกิดฆาตกรรมครั้งแรก”
“ใช่แล้ว ยังมีร่องรอยของกระดาษทรายติดอยู่บนผนังด้วย” สิงเยี่ยพยักหน้า “ตอนนี้พวกเราต้องหาให้ได้ว่าใครกันที่อยู่ในห้องนี้กับนายน้อยฮุย”
“หยางอี๋!” จี้หนิงคว้าแขนของสิงเยี่ยโดยไม่ลังเล เล่ารายละเอียดหลักฐานและการคาดเดาทั้งหมดของเธอให้เขาฟัง
หลังจากฟังในสิ่งที่จี้หนิงพูดแล้ว สิงเยี่ยก็มีความคิดเหมือนกันกับเธอ “ไม่มีอะไรสมเหตุสมผลไปกว่าการที่ผู้หญิงคนนั้นกับนายน้อยฮุยเข้ามาในห้องนี้อีกแล้ว”
“ใช่! ฉันสงสัยว่าหยางอี๋ไม่ใช่สาวไซด์ไลน์ั้แ่แรก เธอคงถูกนายน้อยฮุยขู่บังคับให้ขึ้นเรือสำราญลำนี้ และนายน้อยฮุยอาจหวังฉวยโอกาสตอนแฟนสาวหลับในตอนกลางคืนหรือวางยานอนหลับแฟนสาว เพื่อให้เธอหมดสติไป จากนั้นก็บังคับหยางอี๋มาที่นี่เพื่อให้เธอนอนกับเขา! หยางอี๋เลยพยายามดิ้นรนและผลักนายน้อยฮุยไปกระแทกกับไม้แขวนเสื้อ ทำให้เขาเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ”
สิงเยี่ยพูดต่อจากคำอธิบายของเธอ “เป็ไปได้ว่าอาจมีความสัมพันธ์ลับซ่อนอยู่ระหว่างบอดี้การ์ดถนัดซ้ายอู๋ฮ่าวกับหยางอี๋ เลยเป็สาเหตุให้อู๋ฮ่าวจัดการกับสิ่งที่หยางอี๋ทำ ถึงขนาดปกป้องหยางอี๋จากการตกเป็ฆาตกร ด้วยการอำพรางศพ แล้วแสร้งทำตัวเองเป็ฆาตกร โดยใช้มีดแทงเพื่อเปิดปากแผลเพิ่มแทนที่าแเดิมจากหยางอี๋”
เมื่อใคร่ครวญจนมาถึงจุดนี้ รายละเอียดของคดีฆาตกรรมทั้งในและนอก ก็ถูกไขกระจ่างเกือบถึง 70-80% แล้ว
หัวใจของจี้หนิงเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ ถามอย่างกระตือรือร้นว่า “ถะ... ถ้าอย่างนั้น... พวกเราส่งคำตอบกันตอนนี้เลยดีไหม?”
เธอมองไปที่เวลานับถอยหลัง ก่อนพบว่ายังมีเวลาเหลืออยู่อีกไม่ถึงสองชั่วโมงก่อนที่การตอบคำถามรอบแรกจะผ่านไป
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สิงเยี่ยก็ส่ายหน้า “มันยังปลอดภัยไม่พอ เราไม่แน่ใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างอู๋ฮ่าวกับหยางอี๋ ที่บ่งบอกว่าเขายอมเป็ ‘แพะรับบาป’ เพื่อเธอ”
“แล้วควรทำไงกันดี? ฉันไม่พบข่าวคราวอื่นที่เกี่ยวข้องกับหยางอี๋เลย” จี้หนิงรู้สึกว่าสิงเยี่ยพูดถูก ทุกอย่างเป็แค่การคาดเดา และไม่สามารถตอบคำถามอย่างผลีผลามโดยอาศัยแค่การคาดเดาแบบนี้ได้ ถ้าพวกเขาเกิดตอบผิดขึ้นมาก็จะถูกลบทั้งคู่...
สิงเยี่ยจับมือจี้หนิงแล้ววางไว้บนฝ่ามือของเขา “ผมจะเข้าหาหยางอี๋เอง เพื่อบังคับให้อู๋ฮ่าวปรากฏตัว ถ้าอู๋ฮ่าวมีการตอบสนองอย่างรุนแรง ผมจะตอบคำถามนี้ทันที คุณคอยมองผมเอาไว้ ตัวผมหายไปเฉยๆ โดยไม่มีอาการอะไร คุณก็ค่อยตอบคำถามตามผม”
จี้หนิงถามเขากลับ “แล้วถ้าคุณได้รับาเ็หรือตายในเกมล่ะ? คุณจะเป็ยังไงต่อ?”
สิงเยี่ยมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอและพูดออกมาเบาๆ “ตัวตนของพวกเราที่ถูกใส่เข้ามาในเกมนี้คือเนื้อหนังจริงๆ ไม่ใช่ข้อมูล”
จี้หนิงเข้าใจทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร ถ้ามีคนตายในเกมขึ้นมาก็จะตายโดยสมบูรณ์ เธอตื่นตระหนกขึ้นมาทันที “ไม่ได้นะ! NPC พวกนั้นไม่ใช่คนปกติ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณขึ้นมาล่ะ?”
“ไม่เป็ไร ไม่ต้องเป็ห่วง” สิงเยี่ยตอบอย่างใจเย็น “ผมเห็นแล้วว่าบอดี้การ์ดพวกนี้ไม่มีปืน ยังพอมีเวลาให้ผมตอบโต้ได้”
จี้หนิงยังคงเป็กังวลอยู่ดี ภายใต้การรับรองซ้ำแล้วซ้ำอีกของสิงเยี่ย เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมเห็นด้วยกับเขาที่จะใช้ตัวเองเป็เหยื่อล่อผู้ต้องสงสัย เพื่อทดสอบความสัมพันธ์ลับระหว่างบอดี้การ์ดอู๋ฮ่าวกับหยางอี๋
ขณะเดียวกันเจียงซืออวี่ที่ตามหาสิงเยี่ยเป็เวลานาน แต่ก็ไม่พบเขาสักที ทำได้แค่ยอมแพ้ไปอย่างไม่เต็มใจ
เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วในการตอบคำถามรอบแรก เธอจึงไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป
เจียงซืออวี่หยิบขวดยาที่มีฉลากเป็ภาษาอังกฤษออกมาจากกระเป๋าถือแล้วมองมัน พลางนึกถึงขั้นตอนการไขคดีของเธอ
เธอพบขวดยานี้ในห้องของเหอจื้อฟาง และยังพบว่ามันเป็ยาที่ทำให้มีอาการประสาทชาอย่างรุนแรง
เหอจื้อฟางซึ่งติดหนี้นายน้อยฮุยเป็เงินจำนวนมากจะต้องหลอกให้นายน้อยฮุยทานยานี้ แล้วฆ่านายน้อยฮุยโดยที่เขาไม่รู้ตัวแน่นอน
ถ้าเ้าหนี้เสียชีวิต เหอจื้อฟางก็ไม่ต้องเซ็นเอกสารกู้ยืมเงิน และไม่มีใครมาบอกให้เธอคืนเงินนี้ได้
เจียงซืออวี่มั่นใจมากว่าเหอจื้อฟางคือคำตอบที่ถูกต้อง ซึ่งเธอไม่บอกใครเกี่ยวกับการค้นพบของเธอในครั้งนี้เลย แม้แต่คู่หูของเธออย่างเยี่ยเจียิ ในเกมนี้เธอจะต้องเป็ผู้ชนะแต่เพียงผู้เดียว
ความโเี้ส่องประกายในดวงตาของเจียงซืออวี่ เธอเปิดม่านจอระบบขึ้นมาพร้อมกับใช้ความคิดของเธอ ป้อนชื่อของเหอจื้อฟางลงในช่องคำตอบอย่างไม่ลังเล
หลังจากรออยู่สามวินาที [คำตอบถูกต้อง] ที่เธอคาดหวังเอาไว้ก็ไม่ปรากฏขึ้นมา จู่ๆ ม่านจอระบบตรงหน้าเธอเปลี่ยนจากสีเขียวอมฟ้ากลายเป็สีเทา ตัวหนังสือสีแดงเืคำว่า [คำตอบผิด] แจ้งเตือนขึ้นมาพร้อมกับกะพริบไม่หยุด
ร่างกายของเธอเ็ปราวกับถูกฉีกออกจากกันเป็ชิ้นๆ ความเ็ปอันรุนแรงมากพอที่จะลบสติสัมปชัญญะของเธอให้หายไปปรากฏขึ้นมา ั์ตาของเจียงซืออวี่แดงก่ำทันทีราวกับกำลังจะะเิ เธออ้าปากกว้างเพื่อจะะโออกมา แต่ก็ไม่สามารถส่งเสียงใดๆ ออกมาได้ จนกระทั่งตัวของเธอหายไปไม่เหลือแม้แต่ซากท่ามกลางความเ็ปนี้
[ผู้เล่นหมายเลข 2 ตอบคำถามผิด ดำเนินการลบผู้เล่น]
แผงระบบแจ้งเตือนอีกครั้ง
จี้หนิงไม่มีเวลามาห่วงดูใครในตอนนี้ เพราะเวลานี้เธอกำลังใจจดใจจ่ออย่างเต็มที่ ไม่กล้าละสายตาไปจากสิงเยี่ยที่อยู่ห่างออกไป
เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน ผู้คนบนเรือส่วนใหญ่มารวมตัวกันที่บาร์เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน
สิงเยี่ยเดินเข้าไปหาหยางอี๋ผู้ซึ่งยังนั่งอยู่คนเดียว ด้วยท่าทีราวกับสัตว์ร้ายกำลังจ้องจับเหยื่อ พร้อมปล่อยออร่าที่ทำให้บรรยากาศแฝงไปด้วยอันตรายออกมา
การเข้าไปหาเธอในครั้งนี้ บอดี้การ์ดอู๋ฮ่าวซึ่งกำลังรับประทานอาหารอยู่ด้วยเห็นฉากนี้เข้า แต่ก็ไม่ได้ตอบสนองอะไร
แต่ในขณะที่สิงเยี่ยจับข้อมือของหยางอี๋และพาตัวเธอไปยังชั้นสอง อู๋ฮ่าวรีบลุกขึ้นเดินตามไปทันที
จี้หนิงเดินตามหลังพวกเขาไปอย่างเงียบๆ
การกระทำของสิงเยี่ยกับจี้หนิง กลายเป็จุดสนใจของผู้เล่นคนอื่นๆ พวกเขาที่ยังไม่มีเบาะแสอะไร ก็ทำได้แค่จ้องมองสิงเยี่ยด้วยความหวัง เผื่อจะได้คำตอบที่ถูกต้องและตามเขาไปเพื่อหาคำตอบนั้น
เมื่อเห็นสิงเยี่ยเข้าหา NPC ร่างอ่อนแอคนนี้แล้ว พวกเขาต่างรู้สึกงุนงงอย่างมาก แต่ก็ยังตามไปอยู่ดี
เมื่อจี้หนิงเห็นว่าสิงเยี่ยพาหยางอี๋เข้าไปในห้องอย่างที่เขาบอกกับเธอไว้ล่วงหน้า เธอจึงใช้ประโยชน์จากที่กำบังตรงมุมห้องและซ่อนตัวอยู่ข้างหน้าต่างเพื่อแอบดู
เพื่อยั่วยุให้อู๋ฮ่าวลงมือ สิงเยี่ยจึงต้องกระทำรุนแรงต่อหยางอี๋โดยไม่สนใจต่อการขัดขืนของเธอ เขาลากเธอไปแล้วโยนลงบนเตียงราวกับผู้ชายที่กำลังจะลวนลามทางเพศผู้หญิง
แน่นอนว่าอู๋ฮ่าวตกหลุมพรางนั้น รีบเข้ามาชกสิงเยี่ยทันที
ผู้ชายทั้งสองคนต่างมีร่างกายสูงใหญ่และยังเชี่ยวชาญศิลปะป้องกันตัว เมื่อทั้งคู่นัวเนียกันก็ยากที่จะจับแยกจากกัน
อู๋ฮ่าวใช้โอกาสนี้พลิกตัวกลับมาและปกป้องหยางอี๋ให้มาอยู่ข้างหลังเขา
ในขณะที่พลิกตัวกลับมาสิงเยี่ยก็มองไปทางหน้าต่างและพบว่าจี้หนิงกำลังจ้องมองเขาอยู่
จี้หนิงพบว่าเขาแสดงรอยยิ้มออกมา ดวงตาไม่มีความเ็าอีกต่อไป เหมือนกับตัวเขาซ่อนความพอใจเอาไว้ไม่อยู่
จากนั้นตัวของสิงเยี่ยก็โปร่งใสราวกับกำลังจะหายไปจากโลกนี้ จนกระทั่งตัวเขาได้หายไปอย่างสมบูรณ์
NPC อู๋ฮ่าวกับหยางอี๋ไม่ได้แสดงสีหน้าแปลกใจแต่อย่างใด สีหน้าและการเคลื่อนไหวของพวกเขากลับมาเป็ปกติ และออกจากห้องไปทีละคน
เนื่องจากคำอธิบายก่อนหน้าของสิงเยี่ย ทำให้จี้หนิงรู้ว่าเขาตอบถูก เธอจึงเปิดแผงระบบด้วยความโล่งอก และป้อนชื่อของหยางอี๋ลงในช่องคำตอบ
[คำตอบถูกต้อง]
หลังจากนั้นข้อความแจ้งเตือนสีฟ้าเขียวก็ปรากฏให้จี้หนิงเห็นแบบเดียวกันกับสิงเยี่ย แล้วออกจากโลกจำลองของเกมนี้ไป
ความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ ราวกับค่อยๆ ตื่นขึ้นมาจากโลกแห่งจินตนาการในความฝัน ตกอยู่ในอาการมึนงงแปลกๆ เมื่อตื่นขึ้นมาในโลกของความเป็จริง
จากไกลๆ ผู้เล่นคนอื่นๆ ต่างเห็นจี้หนิงที่ตอบคำถามถูกและหายไป ต่างมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง พวกเขารู้ว่าสิงเยี่ยเข้าไปในห้องพร้อมกับ NPC สองคน คน หนึ่งคือบอดี้การ์ดและอีกคนคือสาวไซด์ไลน์
แล้วใครคือคำตอบที่ถูกต้องระหว่าง NPC สองคนนี้กันแน่?
มีการระดมส่งข้อความบนเว็บถ่ายทอดสด
“เป็การไขคดีที่สุดยอดมาก การร่วมมือกันก็สุดยอดมากๆ ด้วย”
“หวังว่าสองคนนี้จะได้พบกันในโลกจำลองเดียวกันอีกในอนาคตนะ”
“ผู้เล่นหมายเลข 6 เป็ผู้เล่นใหม่ที่มีทั้งโชคและแข็งแกร่งจริงๆ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้