เย่ชิงหานมองเห็นสภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า รีบทำการข่มอารมณ์พลุ่งพล่านภายในใจที่อยากจะพุ่งออกไปเข่นฆ่านั้นไว้ กัดริมฝีปากของตนเองเพื่อเรียกสติกลับมา จากนั้นมองดูเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่ตกอยู่ในห้วงอารมณ์ของการฆ่าฟันที่ดุเดือดเืพล่านนั้น ในใจของเขาร้อนรนขึ้นมาทันที รู้สึกไม่ชอบภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าที่ราวกับขุมนรกอเวจีนี้เลย เป็การยากที่จะทำใจให้ยอมรับอีกต่อไปได้
“ทำไมรึนายน้อยหาน? มองเห็นทั้งสองเผ่าเข่นฆ่ากันเลยนึกใจอ่อนขึ้นมารึอย่างไร? เ้าจิตใจดีงามจนเกินไปแล้ว คิดดูตอนที่พวกมันไล่ล่าสังหารพวกเราในตอนนั้น ข้าอยากให้พวกมันตายไปทั้งหมดยิ่งดี!” เฟิงจื่อมองเห็นอาการแปลกๆ ของเย่ชิงหานจึงพูดอธิบายให้เหตุผลขึ้น
“ถูกต้อง ตายไปให้หมดยิ่งดี เรารอให้พวกมันฆ่ากันจนจะหมดแล้วพวกเราค่อยไปซ้ำอีกทีดีไหม?” ฮวาเฉ่าที่อยู่ข้างๆ พูดออกมาอย่างชั่วร้าย
“ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็เป็คนมีชีวิตเป็ๆ ทั้งนั้น...” เย่ชิงหานถอนหายใจยาวออกมา ทั้งเวทนาทั้งสับสน
ในเวลานี้เองหลงไซ้หนานเดินเข้ามาพร้อมกับพูดรับคำของเย่ชิงหาน “ถูกต้อง สภาพน่าเวทนาจนเกินไป! นายน้อยหาน เมื่อไหร่พวกเราจะลงมือโจมตี? หรือรอให้พวกมันฆ่ากันจนจะหมดก่อน?”
เย่ชิงหานไม่ได้พูดอะไรออกมา ทำเพียงส่ายหัวไปมาจากนั้นหลับตาลงไปเหมือนไม่อยากที่จะดูต่อ
ผ่านไปเนิ่นนาน!
เขาถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงทีหนึ่ง ลืมตาขึ้นพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว จากนั้นหันหน้าไปพูดขึ้นกับทั้งสามคน “แม่นางหลงท่านไปที่นั่นกับข้า เฟิงจื่อและฮวาเฉ่าพวกเ้าควบคุมกองทัพอยู่ที่นี่รอฟังคำสั่งจากพวกข้า!”
“อืม! ตกลง!” หลงไซ้หนานไม่พูดมาก พยักหน้าตอบรับมา
ฮวาเฉ่าและเฟิงจื่อรู้สึกประหลาดใจ แต่ในเมื่อเย่ชิงหานและหลงไซ้หนานพูดออกมาแล้วพวกเขาอย่างไรก็ต้องทำตาม
“ไปกันเถอะ!”
เย่ชิงหานและหลงไซ้หนานค่อยๆ เดินลงไปจากฐานที่มั่นเทพแห่งิญญา เดินบ่ายหน้าไปทางฐานที่มั่นเทพแห่งความตายสีแดงสดนั้น
.................................
“นายน้อยหานกับแม่นางหลงไปทำอะไรกัน?”
“นั่นสินะ? มันจะไม่อันตรายเกินไปรึ ยิ่งที่นั่นกำลังสู้รบกันอยู่?”
“ไอ้โง่ นายน้อยหานยิ่งไม่เคยกลัวการสู้รบแบบตะลุมบอนอยู่แล้ว คาดว่าดูอยู่ที่นี่ไม่สนุกเท่าไรคงอยากจะเข้าไปดูใกล้ๆ อีกหน่อยกระมัง...”
“…”
เย่ชิงอู่ เยว่ชิงเฉิง และพวกเย่สือซานต่างมองอย่างประหลาดใจรีบเดินมารวมกันอยู่ด้านหน้าในทันที จากนั้นเริ่มสังเกตการเคลื่อนไหวของเย่ชิงหานและหลงไซ้หนานอย่างใกล้ชิดพร้อมกับเตรียมตัวลงมือเมื่อจำเป็ แน่นอนว่าพวกเขาเชื่อมั่นในพลังฝีมือของทั้งสองคน คนหนึ่งระดับขั้นสูงสุดขอบเขตจ้าวนักรบ ส่วนอีกคนคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดบนเกาะแห่งความมืดมิดนี้ ยากที่ใครจะโอบล้อมพวกเขาไว้ได้
ฟิ้ว!
เย่ชิงหานไม่ได้พูดสิ่งใดออกมาทำเพียงแค่พยักหน้าให้หลงไซ้หนานแล้วทั้งสองคนก็ะโลอยขึ้นไปบนอากาศ จากนั้นเย่ชิงหานใช้พลังหลอนสั่นคลอนิญญาออกมาในทันทีแสงสีม่วงปกคลุมไปยังนักรบของทั้งสองเผ่าที่อยู่ละแวกใกล้เคียงทั้งหมด จากนั้นทั้งเขาและหลงไซ้หนานเคลื่อนตัวลงไปหยุดยืนอยู่บนศีรษะของนักรบเผ่าคนเถื่อนร่างสูงใหญ่สองคน
“หมันก้าน ปีศาจจิ้งจอก บอกคนของพวกเ้าให้หยุดการสู้รบกันได้แล้ว! มิฉะนั้นละก็ข้านายน้อยคนนี้จะเปิดฉากการสังหารล้างบางขึ้น...”
เย่ชิงหานโคจรพลังปราณรบร้องคำรามออกไปด้วยเสียงอันดัง ทำเอาเผ่าคนเถื่อนและเผ่าปีศาจที่กำลังสู้รบกันอย่างบ้างคลั่งอยู่นั้นตกตะลึงไปตามๆ กัน พวกมันต่างมองมาอย่างงุนงง เพียงแต่ว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้จักเย่ชิงหานและหลงไซ้หนาน มองเห็นเผ่ามนุษย์สองคนยืนอยู่บนศีรษะของนักรบเผ่าคนเถื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนที่อยู่รอบๆ กายของทั้งสองคนล้วนไม่ขยับเขยื้อนร่างกายเลยสักนิด ยิ่งทำให้พวกมันสับสนมึนงงมากยิ่งขึ้น
แต่แน่นอนว่าหมันก้านไม่งุนงงกับสิ่งที่ได้เห็น เหตุการณ์ที่ตีนเขายอดเขาขาด เย่ชิงหานก็ปรากฏกายออกมาในลักษณะยโสโอหังไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดเช่นนี้เหมือนกัน ตอนนี้เย่ชิงหานร้องคำรามออกมาทำให้เขาสะดุ้งใและตื่นตระหนกขึ้น มองเห็นสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังไม่น่ามองของเย่ชิงหานที่ยืนอยู่บนศีรษะนักรบคนเถื่อน หมันก้านรู้ได้ทันทีว่านายน้อยคนนี้เอาจริงแน่ๆ จึงรีบออกคำสั่งให้เผ่าคนเถื่อนทุกคนรีบหยุดการต่อสู้ลงในทันที
ปีศาจจิ้งจอกเยาอวี้ สำหรับนางแล้วเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่บนศีรษะของนักรบเผ่าคนเถื่อนนางก็ไม่รู้สึกแปลกหน้าเช่นเดียวกัน หรืออาจจะพูดได้ว่าทั้งชอบทั้งเกลียด เย่ชิงหานมีพลังฝีมือที่แข็งแกร่งแถมยังเป็เด็กหนุ่มหน้าใสที่เป็ของโปรดของนาง
แต่เย่ชิงหานสังหารเยาขาข่าอย่างไม่ลังเลที่ตีนเขายอดเขาขาดทำให้นางไม่รู้ว่าจะไปพูดอธิบายต่อเยาเสตาแก่โรคจิตนั้นอย่างไรดี แน่นอนว่าในเวลานี้นางเข้าใจดีในเมื่อเย่ชิงหานมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งลงมือแล้วด้วย คิดว่าศึกในครั้งนี้คงดำเนินต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นจึงได้สั่งการออกไปให้หยุดการสู้รบลงในทันทีเช่นเดียวกัน
“อืม!” เย่ชิงหานพยักหน้าเบาๆ สีหน้าอาการเริ่มดูดีขึ้นมา เขารู้สึกพอใจต่อการตอบสนองของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อน ซึ่งแน่นอนว่าความรู้สึกที่ได้ควบคุมชะตาชีวิตคนอื่นนั้นเป็อะไรที่น่ายินดีมีความสุข หลังจากผ่านการมุมานะฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในที่สุดตนเองก็มีพลังอำนาจพอที่จะควบคุมชะตาชีวิตของคนอื่นไว้ในมือได้สำเร็จ ความรู้สึกเช่นนี้มันทำให้รู้สึกปลื้มปีติยินดีและเบิกบานใจอย่างที่สุด
“หมันก้านและผู้บัญชาการของเผ่าปีศาจ พวกเ้าจงสั่งให้คนของพวกเ้าทั้งหมดถอนกำลังออกไปจากฐานที่มั่นเทพแห่งความตายให้หมด จากนั้นพวกเ้าทั้งสองคนมาหาข้าที่นี่ ข้ารับรองว่าจะให้คำอธิบายที่น่าพอใจกับพวกเ้า! หาไม่แล้วละก็ข้าจะสั่งการให้กองทัพเขตปกครองเทพาทั้งหมดบดขยี้พวกเ้าในทันที”
เย่ชิงหานพูดขึ้นอีกครั้ง จากนั้นพยักหน้าให้หลงไซ้หนาน ทั้งสองคนะโลงไปหยุดยืนที่ด้านหน้าฐานที่มั่นเทพแห่งความตายรอคอยหมันก้านและผู้บัญชาการของเผ่าปีศาจให้มาหา
หมันก้านเอามือลูบหัวโล้นของตนเองแล้วมองดูมือข้างขวาที่ปราศจากนิ้วกลางนั้น การคุกคามของเย่ชิงหานสำหรับเขาแล้วไม่ต่างจากกระบี่แหลมคมที่ลอยอยู่เหนือศีรษะซึ่งสามารถฟันลงมาเพื่อเอาชีวิตของเขาได้ทุกเวลา สำหรับนายน้อยคนนี้เขาไม่กล้าที่จะปริปากโต้แย้งใดๆ อย่างน้อยบนเกาะแห่งความมืดมิดนี้เขาไม่กล้าอย่างแน่นอน
เยาอวี้ขยับจมูกที่เล็กๆ น่ารักของนาง หูแหลมเล็กทั้งสองข้างตั้งชูชันขึ้นเล็กน้อย นางไม่ได้ลังเลอะไรมากรีบออกคำสั่งให้ถอนทัพออกไปทันที สำหรับทหารใหม่เผ่าปีศาจรู้สึกงุนงงกับคำสั่งของผู้บัญชาการชั่วคราวคนนี้เป็อย่างมาก ทำไมเผ่ามนุษย์เพียงแค่คนเดียวพูดสั่งออกมาเพียงประโยคเดียวพวกเขาก็ต้องถอนทัพ? ทำไมพวกเขาต้องฟังคำสั่งของเ้าเผ่ามนุษย์คนนั้น? เพียงแต่ภายใต้การร้องสั่งการของนักรบเผ่าปีศาจระดับราชันย์ปีศาจทำให้พวกเขาจำต้องถอนทัพออกไปจากฐานที่มั่นเทพแห่งความตายอย่างงุนงงและจำใจ
เย่ชิงหานยืนอยู่ด้านหน้าฐานที่มั่นเทพแห่งความตาย มองดูหมันก้านพร้อมกับนักรบคนเถื่อนระดับขอบเขตราชันย์คนเถื่อนอีกสามคนกำลังรีบเร่งตรงเข้ามา ส่วนอีกทางคือเยาอวี้พร้อมด้วยนักรบปีศาจระดับขอบเขตราชันย์ปีศาจที่กำลังค่อยๆ เดินตรงเข้ามา เย่ชิงหานยิ้มออกมาพร้อมกับความรู้สึกยินดีภายในใจ
หนึ่งปีก่อนอยู่ภายในตระกูลเย่ถูกข่มเหงรังแกสารพัด แม้รู้สึกโกรธแค้นอัดอั้นในใจแต่ไม่กล้าพูดออกมา ที่เทือกเขารกร้างถูกพวกเสว่อีรุมสังหารเกือบเอาชีวิตไม่รอด ก่อนหน้านี้ไม่นานถูกเยาขาข่าและหมันก้านร่วมมือกันไล่ล่าสังหารเกือบเอาชีวิตไม่รอดหลายหนแต่ก็รอดมาได้ตอนนี้เขาคนเดียวสามารถเผชิญหน้ากับกองทัพนับหมื่นได้อย่างทระนงองอาจ สามารถออกคำสั่งให้กองทัพของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนหยุดสู้กันได้อย่างว่าง่าย สามารถออกคำสั่งเรียกผู้นำสูงสุดของกองทัพทั้งสองเผ่าให้เข้ามาพบตนเองได้อย่างว่าง่าย แถมยังมาพบตนเองด้วยรอยยิ้มประจบเอาใจอีกด้วย...
เื่ราวทุกสิ่งบนโลกล้วนอนิจจัง ไม่มีสิ่งใดยั่งยืนเที่ยงแท้แน่นอน วิถี์ที่ว่าเที่ยงแท้ก็ยังไม่สามารถที่จะคาดเดาได้ แล้วนับประสาอะไรกับเื่ราวบนโลกที่เกิดขึ้นมากมายและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเช่นนี้...
“นายท่าน หมันก้านมารอรับคำสั่งการจากท่านแล้ว” หมันก้านฝืนยิ้มออกมา หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่ยอดเขาขาดและเหตุการณ์ที่เย่ชิงหานไปขู่กรรโชกเขาจนถึงค่ายใหญ่ที่พักชั่วคราวจนเหลือแค่กางเกงในตัวเดียวนั้น ภายในใจของเขายอมรับอย่างแน่ชัดแล้วว่าบุคคลผู้นี้ไม่สามารถตอแยด้วยได้ ดังนั้นในตอนนี้จึงต้องพูดออกมาอย่างระมัดระวังเป็อย่างมาก
“เยาอวี้แห่งเผ่าปีศาจคารวะคุณชายหาน!” เยาอวี้ดูก็รู้ว่าสืบประวัติของเย่ชิงหานมาแล้ว ดวงตาดอกท้อของนางเต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน นางแอ่นูเาสูงตระหง่านสองลูกบริเวณหน้าอกสูงขึ้นมา ราวกับว่ากำลังทำการล่อลวงเย่ชิงหานอยู่อย่างเงียบๆ
“อืม!” แน่นอนว่าเย่ชิงหานไม่ใช่เด็กหนุ่มแรกแย้มที่ไม่เคยพบเจอหญิงสาว เขาปราดตามองผ่านไปที่เนินเขาที่ขาวเนียนราวกับหิมะของนาง ภายในใจลอบชื่นชมออกมา จากนั้นดึงอารมณ์กลับมาแล้วพูดขึ้น “พวกเ้าสังเกตหรือไม่ว่าสถานที่แห่งนี้มีความแปลกประหลาดอย่างหนึ่งอยู่ มันสามารถกระตุ้นให้คนเกิดความกระหายเือยากที่จะฆ่าคนขึ้นมา วันนี้หากพวกเ้าขืนยังสู้รบกันต่อไปเช่นนี้อยู่อีกข้ากลัวว่าพวกเ้าคงจะต้องตายกันไปทั้งหมด หรือที่ไม่ตายก็อาจต้องเป็บ้าไป!”
“อืม!” เมื่อได้ยินที่เย่ชิงหานพูดทั้งสองพลันนึกถึงความกระหายเืที่ควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ภายในใจต่างรู้สึกหวาดผวาขึ้นมา หมันก้านลูบหัวโล้นของตนเองแล้วพูดขึ้นก่อน “เป็เช่นนั้นจริงๆ เมื่อก่อนที่ผ่านมาอารมณ์ข้าไม่เคยพลุ่งพล่านเหมือนเช่นครั้งนี้มาก่อนเลย!”
“แปลกประหลาดเป็อย่างมาก! ข้าก็ถูกมันครอบงำด้วยเช่นกัน!” เยาอวี้เอามือตบลงไปที่หน้าอกของตนเอง ทำเอาูเาที่สูงตระหง่านทั้งสองลูกกระเพื่อมสั่นไหวไปมา แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเล็กๆ น่าฟัง
“คนตายไปมากพอแล้ว เดิมทีข้าไม่อยากลงมือ เพียงแต่์มองทุกชีวิตเท่าเทียมกัน ข้าจึงจำเป็ต้องลงมือเพื่อให้พวกเ้าหยุดการฆ่าฟันกัน!” เย่ชิงหานชายตามองพวกเขาทั้งสองปราดหนึ่งแล้วพูดขึ้นต่อ “พวกเ้าอย่าได้คิดที่จะไม่เชื่อ เผ่ามนุษย์ เผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อน แม้เผ่าพันธุ์จะแตกต่างกันแต่ก็เป็ลูกที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงเติบโตขึ้นมา คุณสมบัติภายในจริงๆ ล้วนเป็มนุษย์มีชีวิตเืเนื้อและิญญา คนตายมากเกินไปแล้วและสมควรยุติได้แล้ว ไม่ต้องสู้รบฆ่าฟันกันอีกแล้ว!”
“อืม คุณชายเย่มีเมตตาและคุณธรรมสูงส่ง!” เยาอวี้มองดูศพทหารที่นอนตายเกลื่อนกราดอยู่เต็มฐานที่มั่นเทพแห่งความตายจึงพยักหน้าออกมาอย่างราบเรียบ จากนั้นขยับริมฝีปากงามพูดขึ้นอีกครั้ง “ไม่สู้รบกันต่อก็ได้ แต่ว่าฐานที่มั่นนี้...”
“ถูกต้อง นายท่านแล้วฐานที่มั่นนี้เป็ของใคร?” หมันก้านก็รีบพูดขึ้นด้วยความร้อนใจ คำพูดประโยคเดียวของเย่ชิงหานสามารถตัดสินชีวิตของผู้ที่ตายไปกว่าแสนคนได้ว่าสุดท้ายแล้วฐานที่มั่นจะตกเป็ของใคร
“เป็ของข้า!” เย่ชิงหานยิ้มราบเรียบออกมาพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้