เมื่อนางทานยาเม็ดนั้นลงไปแล้ว มู่อวิ๋นจิ่นััได้ถึงิญญาดอกบัวดำพุ่งขึ้นลงในร่างกาย จนเหงื่อแตกพล่าน
จากนั้นนางได้เรอขึ้นมา หมอกควันดำในกายของนางแผ่ซ่านกลายเป็อากาศ หายวับไปกับตา
ิญญาดอกบัวดำออกจากร่างกายนางไปแล้ว มู่อวิ๋นจิ่นยกน้ำขึ้นดื่มหลายอึก จู่ๆ จิตใจของนางกลับโล่งอย่างบอกไม่ถูก สุดท้ายิญญาดอกบัวดำก็หลุดจากร่างของนางไป
ฉู่ลี่หันไปเอ่ยเสียงเรียบ “เ้าไปพักผ่อนได้แล้ว”
“อืม” มู่อวิ๋นจิ่นพยักหน้า ลุกเข้าห้องไป
ทันทีที่นางปิดประตูได้ถอนหายใจหลายเฮือก คำพูดของอาจารย์เฟิงเสวียนวนเวียนอยู่ในหัวของนางไม่หยุด จู่ๆ ความรู้สึกเหมือนมีหลุมพรางล้อมรอบตัวทุกย่างก้าวได้ปรากฏขึ้นมา
……
ในวันถัดมา มู่อวิ๋นจิ่นได้สติตื่นจากนิทรา จื่อเซียงได้รายงานว่าอาจารย์เฟิงเสวียนจากไปแล้ว
พอได้ยินเื่นี้ มู่อวิ๋นจิ่นไม่ได้รู้สึกแปลกใจมากนัก กลับรู้สึกว่าอาจารย์เฟิงเสวียนผู้นี้อิสระเสรีจนน่าอิจฉา
“คุณหนู ดูสองวันนี้อารมณ์ไม่สู้ดี มิทราบว่าคุณหนูมีเื่ในใจอะไรหรือเปล่าเ้าคะ?” จื่อเซียงพูดระหว่างที่ช่วยมู่อวิ๋นจิ่นเกล้าผม
มู่อวิ๋นจิ่นส่ายหน้าไปมา “ข้ารำคาญที่จะคิดเล็กคิดน้อย”
จื่อเซียงเอาแต่ยิ้ม และไม่ได้ถามสิ่งใดต่อ
เมื่อแต่งตัวเป็ที่เรียบร้อย นางก็เปิดประตูไปพบกับฉู่ลี่ที่เปิดเหมือนกันพอดิบพอดี จนต่างฝ่ายต่างต้องฉีกยิ้มให้กันตามมารยาท
ฉู่ลี่เดินตรงมา “มู่อวิ๋นจิ่น น้องเก้าให้คนมารายงาน ว่าอีกประเดี๋ยวจะมาหาเ้า”
“ห๊ะ? ชิงหยวน?” มู่อวิ๋นจิ่นรู้สึกไม่เจอนางมาเนิ่นนานแล้ว
ฉู่ลี่พยักหน้า พูดทิ้งท้าย “เปิ่นหวงจื่อต้องเข้าวังแล้ว”
“่นี้เสด็จพ่อเรียกเข้าเฝ้าบ่อยเป็พิเศษ ไม่รู้มีเื่อันใด้าปรึกษาหารือกับเ้า? มู่อวิ๋นจิ่นถามด้วยความใคร่รู้”
“อืม ่นี้ราชสำนักมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย มีหลายเื่ที่ต้องป้องกันไว้ล่วงหน้า” ฉู่ลี่อธิบาย
มู่อวิ๋นจิ่นฟังเข้าใจบางส่วน ไม่เข้าใจบางส่วน “หิวเหลือเกิน ไปทานข้าวเช้าด้วยกันเถอะ”
ฉู่ลี่มิได้ปฏิเสธแต่อย่างใด
ภายในห้องทานอาหาร ระหว่างที่ทั้งสองกำลังทานอย่างเงียบเชียบ ด้านนอกประตูมีเสียงพูดด้วยความดีใจ “พี่หก พี่สะใภ้หก พวกเ้าคิดถึงข้าบ้างไหม?”
มู่อวิ๋นจิ่นหันมองไปตามเสียง เห็นฉู่ชิงหยวนเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
นางเข้ามานั่งด้านข้างมู่อวิ๋นจิ่น ในมือถือของว่างเข้ามาด้วย “อุ้ย พี่หก ฝีมือของว่างพ่อครัวท่านนี้เลิศรส มากกว่าของน้องเก้าหลายเท่า”
“ชิงหยวน ่นี้เ้าไปไหนมา?” มู่อวิ๋นจิ่นส่งยิ้มให้ฉู่ชิงหยวนที่ทำตัวเอะอะโวยวาย
“วันๆ อยู่แต่ในตำหนักไม่ได้ไปไหนทั้งนั้น ฮองเฮาบอกว่าถ้าอายุไม่น้อยแล้ว สั่งให้เรียนรู้การเย็บปักถักร้อยของสตรีอยู่ในตำหนัก ทำให้เดือนสองเดือนนี้ไปไหนไม่ได้ มือโดนเข็มจิ้มมานับมิถ้วนแล้ว” ฉู่ชิงหยวนเล่าไปพลางยื่นมือให้ดู
มู่อวิ๋นจิ่นมองดูนางที่ร่าเริงออกหน้าออกตา
“เปิ่นหวงจื่อไปก่อนล่ะ” ฉู่ลี่ปรายตาไปทางทั้งสองคน
“อืม รีบกลับมาล่ะ” มู่อวิ๋นจิ่นเผลอตอบตอนที่สบตากับฉู่ลี่โดยไม่ทันรู้ตัว
ฉู่ลี่ชะงักไปชั่วขณะ ฉับพลันรู้สึกว่าน้ำเสียงของมู่อวิ๋นจิ่นช่างน่าฟังเสียเหลือเกิน แววตาอบอุ่นจับใจ
หลังจากฉู่ลี่เดินออกไปแล้ว ฉู่ชิงหยวนขยับตัวเข้ามาใกล้และจับมือมู่อวิ๋นจิ่น “พี่สะใภ้หก น้องเก้ามาวันนี้มีเื่อยากสอบถามเสียหน่อย”
“ได้สิ เ้าถามมาได้เลย” พอเห็นท่าทางกระมิดกระเมี้ยนเบื้องหน้า มู่อวิ๋นจิ่นกลับหัวเราะชอบใจ
“พี่สะใภ้หกคิดว่าการชอบใครสักคนนั้น มันเป็ความรู้สึกแบบไหนกัน? พอแรกเห็นจิตใจเต้นรัวอย่างแรง ใบหน้าแดงก่ำใช่ไหม?” ฉู่ชิงหยวนถามอย่างตื่นตาตื่นใจ
มู่อวิ๋นจิ่นเห็นใบหน้าของฉู่ชิงหยวนแดงระเรื่อขึ้น “เ้าแอบไปถูกใจใครเข้าละ?”
เมื่อได้ยินมู่อวิ๋นจิ่นถามอย่างตรงไปตรงมา ฉู่ชิงหยวนพลันหน้าแดงยิ่งขึ้นไปอีก ยกมือของนางไปลูบฉู่ชิงหยวน “อั๊ยย่ะ เื่นี้น้องถามไปอย่างนั้นแหละ พี่วะใภ้หกพูดอะไรนั่น น้องเก้ายังเด็กอยู่เลย”
“ไม่เด็กแล้ว อีกสองปีก็จะเข้าพิธีวัยปักปิ่น ถึงตอนนั้นก็สามารถแต่งงานออกเรือนได้แล้ว” มู่อวิ๋นจิ่นตอบยิ้มๆ
ฉู่ชิงหยวนได้ยินแววตาเปล่งประกาย ด้วยความตื่นเต้น “พี่สะใภ้หกคิดว่าอย่างไร หากสองคนที่ชอบพลอกันอายุห่างกันเจ็ดแปดปี รู้สึกว่าห่างเยอะเกินไปไหม?”
“น้องเก้าไม่อยากเป็ที่ติฉินนินทาของใคร ว่าน้องเก้าแต่งกับคนแก่……”
มู่อวิ๋นจิ่นปะติดปะต่อเื่จนเข้าใจหมดแล้ว จึงปรายตามองไปทางฉู่ชิงหยวน “น้องเก้า สรุปแล้วไปถูกใจใครเข้าเล่า? อายุห่างกันเจ็ดแปดปีไม่ถือว่ามาก ถึงตอนนั้นเ้าอายุสิบสี่ อีกฝ่ายก็แค่ยี่สิบเอ็ดเท่านั้นเอง”
“ดูอย่างมู่หลิงจูยังแต่งกับบุรุษที่อายุห่างกันยี่สิบปีได้เลย”
“ใช่ๆๆๆ พี่วะใภ้หกพูดถูก น้องเก้าคิดเช่นนั้นเหมือนกัน” ฉู่ชิงหยวนเกือบะโโลดเต้นด้วยความดีใจ นางกุมมือมู่อวิ๋นจิ่นไว้แน่น รางกับได้พบคนที่รู้ใจนางอย่างไรอย่างนั้น
มู่อวิ๋นจิ่นได้แต่อมยิ้ม ขยับตัวเข้าไปกระซิบ “ไหนน้องเก้าแอบบอกพี่มาหน่อย ว่าแอบไปตกหลุมรักใครเข้าแล้ว เดี๋ยวพี่จะช่วยดูให้อีกแรง”
ฉู่ชิงหยวนหน้าแดงก่ำเป็ลูกตำลึง ก้มหน้าบิดตัวไปมาด้วยความเขินอาย “คนนั้นนั่นแหละ คนที่ชนะศึกมาได้ไม่นาน แม่ทัพฉินหรือพี่มู่หนาน!!!”
มู่อวิ๋นจิ่นใบหน้าตึงจนหุบยิ้มไม่ลง
“พี่สะใภ้หกเป็อะไร? พี่มู่หนานไม่ดีเหรอ?” ฉู่ชิงหยวนเห็นมู่อวิ๋นจิ่นชะงัก จึงเกิดลนลานขึ้นมา
มู่อวิ๋นจิ่นไม่นึกไม่ฝันว่าฉู่ชิงหยวนจะตกหลุมรักฉินมู่หนาน
เพียงแต่ว่าฉินมู่หนานนั้น……
เห้อ! ทำไมใต้หล้านี้มันช่างเล็กจิ๋วเสียเหลือเกิน!
“พี่สะใภ้หก?” ฉู่ชิงหยวนเขย่าตัวเรียกสติมู่อวิ๋นจิ่น
มู่อวิ๋นจิ่นได้สติกลับมา หันมองแววตาของฉู่ชิงหยวน “ปีนี้แม่ทัพฉินอายุยี่สิบเอ็ดแล้ว เกรงว่าในใจของเขาคงมีสตรีที่ชอบพลอแล้ว อีกอย่างเสด็จพ่อของน้องเก้า ได้ความสำคัญกับเขาไว้ยิ่งยวด ไม่แน่ว่าอาจพระราชทานงานอภิเษกสตรีให้สักคนก็เป็ได้”
ฉู่ชิงหยวนทำท่าทำทางจะอ้าปากร้องไห้ขึ้นมา “แต่ว่าน้องเก้าชอบพลอพี่มู่หนานจากใจจริง วันนั้นที่น้องปีนต้นไม้ไม่ทันระวังพลัดตกลงมา พี่มู่หนานได้ช่วยน้องเอาไว้ ยังช่วยปัดเศษกิ่งไม้บนหัวให้อีก ทั้งยังบอกว่าต่อไปให้ระวังมากกว่านี้”
“พี่มู่หนานช่างอบอุ่นและอ่อนโยนเหลือเกิน ไม่มีทีท่าจะใช้อารมณ์รุนแรง น้องเก้าชอบเขา อยากแต่งกับเขา!!!”
มู่อวิ๋นจิ่นได้แต่ถอนหายใจ เลือกไม่เล่าความสัมพันธ์ระหว่างนางกับฉินมู่หนานในอดีต หากยึดจากการกระทำที่ชั่วร้ายของคนตระกูลฉิน ย่อมไม่มีทางปล่อยให้น้องเก้า ได้แต่งกับฉินมู่หนานอย่างแน่แท้
“ตอนนี้น้องเก้าอายุยังน้อย การถูกใจแม่ทัพฉินอาจเป็เพียงความเคารพชื่นชมในตัวเขาเท่านั้น รอให้เ้าอายุถึงวัยก็จะเข้าใจได้เอง ความสำคัญของความรักต้องมาจากทั้งสองฝ่ายถึงจะดีที่สุด” มู่อวิ๋นจิ่นยกมือขึ้นลูบไหล่ออกฉู่ชิงหยวน
“ถ้าอย่างนั้นพี่สะใภ้หกกับพี่ชายหก ถือว่ามีความรักให้กันทั้งสองฝ่ายหรือเปล่า?”
“……”
……
“พวกเ้าช่วยผลักชิงช้าให้แรงหน่อย ยิ่งสูงยิ่งดี!”
ในสวนบุปผาด้านหลังจวนองค์ชายหก ฉู่ชิงหยวนนั่งอยู่บนชิงช้า โดยมีบ่าวใช้ช่วยกันผลัก สีหน้าในเวลานี้ของนาง มิอาจปกปิดความสุขใจภายในได้
ความรักเอ๋ยความรัก……
นางกับฉู่ลี่จะมีความรักให้กันและกันได้เช่นไร
ฉู่ชิงหยวนนั่งชิงช้าอยู่พักใหญ่ๆ จู่ๆ ฉู่ลี่ได้กลับมาถึงจวน เดินเข้ามาที่สวนบุปผา ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของฉู่ชิงหยวน จนอดที่จะส่ายหัวมิได้
“ห๊ะ? เ้ากลับมาแล้ว?” มู่อวิ๋นจิ่นลุกขึ้นยืนถามด้วยความแปลกใจ
ด้านฉู่ลี่พยักหน้ารับ จากนั้นเดินเข้ามายกมือขึ้นจับปิ่นที่เสียบอยู่หัวของนาง ให้กลับเข้าที่ดังเดิม
“เสร็จแล้ว” เสียงที่นุ่มนวลดังขึ้นเบื้องหน้า
มู่อวิ๋นจิ่นในเวลานี้ใบหน้าแดงระเรื่อ ยื่นมือขึ้นจับปิ่นบนหัวให้เข้าที่แล้วก้มหน้าก้มตาลง
“ฮ่าๆๆๆ ถูกน้องจับจุดได้แล้ว! ดูสิๆ พี่สะใภ้หกก็หน้าแดงอายต่อหน้าพี่หกเหมือนกัน นี่แหละเหมือนกับที่น้องเก้าเป็เลย นี่เรียกว่าความรักเหมือนที่พี่สะใภ้หกบอกมาใช่ไหม?”
มู่อวิ๋นจิ่นทั้งสะอึกทั้งสะดุ้งโหยง ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากฉู่ชิงหยวน ทำเอานางหน้าแดงจนอยากแทรกแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอดไป
ฉู่ลี่เหลือบมองไปทางมู่อวิ๋นจิ่นและฉู่ชิงหยวน ด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้
“เป็อย่างนี้พี่หก เมื่อครู่หลังจากพี่เข้าวังไปแล้ว พี่สะใภ้หกกับน้องเก้ากำลังวิเคราะห์ ความแตกต่างระหว่าง ‘ความชอบ’ กับ ‘ความรัก’ ระหว่างพี่สองคนอาจเรียกว่าความรัก แต่สำหรับน้องเก้าเรียกว่าความชอบ ไม่ใช่ความรัก!”
“แต่น้องเก้า ดูจากท่าทางของพี่สะใภ้หกแล้ว เื่ของน้องเก้าน่าจะเรียกว่าความรัก ไม่ใช่ความชอบแล้ว!”
มู่อวิ๋นจิ่นแทบอยากจะคว้าเข็มกับด้ายเข้ามาเย็บปากน้องเก้าให้แนบสนิท เมื่อครู่ที่พูดคุยกัน นางแค่พูดไปเรื่อยเปื่อยไม่จริงจัง แต่น้องเก้ากลับถือเป็จริงเป็จัง มิหนำซ้ำยังเล่าให้ฉู่ลี่ฟังต่อหน้าโดยไม่ละอายปากอีก
ในเวลานี้ สายตาของฉู่ลี่หันมองไปทางอื่น มิกล้าสบตามู่อวิ๋นจิ่น ทว่าหูของนางแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ฉู่ลี่ดีใจ อิอาจกลั้นยิ้มออกมาได้
มู่อวิ๋นจิ่นเห็นฉู่ลี่ยิ้มเย้ย รีบยกมือขึ้นมาปิดหน้า เอ่ยอย่างรีบร้อน “น้องเก้าพูดเพ้อเจ้ออะไรเนี่ย! พี่ไม่อยากให้เ้ามีความรักก่อนถึงวัยสมควรต่างหาก!”
“พี่สะใภ้หก เมื่อครู่มิได้พูดเช่นนี้นี่หน่า พี่บอกว่าอีกฝ่ายอายุมากกว่าน้องเก้าเจ็ดปี ถือว่ายังได้อยู่มิใช่เหรอ” ฉู่ชิงหยวนยกมือขึ้นเกาหัว ด้วยสงสัยว่านี่เป็คำพูดที่มู่อวิ๋นจิ่นพูดกับนางเมื่อครู่ไม่ผิดเพี้ยนนี่หน่า
มู่อวิ๋นจิ่นตอนนี้อยากจะกระอักเืพ่นใส่หน้าฉู่ชิงหยวนให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
ฉู่ลี่พอจะควบคุมอารมณ์ได้บ้างแล้ว เขาจึงก้มหน้าลงไปใกล้มู่อวิ๋นจิ่น ด้วยแววตาที่อ่อนโยนน่าหลงใหล
“อวิ๋นจิ่น เปิ่นหวงจื่อไม่รู้มาก่อนจริงๆ ที่แท้เ้าก็ชอบพลอเปิ่นหวงจื่อ หากมีภรรยาที่เป็เช่นนี้ ตัวพี่มิหวังสิ่งอื่นใดแล้ว”
“อี๋ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
มู่อวิ๋นจิ่นกรีดร้องเสียงสูงขึ้นมา รีบยกมือขึ้นปิดหน้าปิดตา วิ่งกลับไปที่เรือนลี่เฉวียน
หลังจากนั้นฉู่ลี่ลุกขึ้นยืน ยกมือขึ้นลูบคางด้วยความพอใจ พร้อมกับหัวเราะชอบใจออกมา
ผ่านไปไม่นานนัก ฉู่ลี่เหมือนนึกขึ้นได้ จึงหุบยิ้มทันที หันมองฉู่ชิงหยวนด้วยแววตาเคร่งขรึม “น้องเก้า เ้าชอบใจเข้าแล้ว?”
ฉู่ชิงหยวนผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าว ที่เห็นแววตาน่ากลัวของพี่ชายหก
นึกไม่ถึงว่า ทุกคนเวลาเผชิญหน้าระหว่าง “ความรัก” และ “ความชอบ” นั้น มักมีปฏิกิริยาที่แตกต่างกัน จุดนี้พี่สะใภ้หกพูดได้ถูกต้องที่สุด!